ตอนที่ 1413 ตะเกียงเผากระดูก
ผู้แปล: Silavin และ PewPewLaserGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
ห่อหุ้มด้วยแรงกดดันของจักรพรรดิ ทุกคนรู้สึกหายใจลำบากเนื่องจากส่วนปลายของพวกเขารู้สึกเย็นยะเยือก
ในเวลานี้ ไม่ว่าการฝึกฝนของพวกเขาจะเป็นเช่นไรและโดยไม่คำนึงถึงอายุหรือสถานะของพวกเขา อาจารย์ทุกคนที่อยู่ในปัจจุบันรู้สึกเหมือนพวกเขากลายเป็นเด็กอายุสามขวบต่อหน้าแรงกดดันของจักรพรรดิ การค้นพบนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงและหวาดกลัวขณะที่พวกเขาตระหนักอย่างสุดซึ้งว่าการดำรงอยู่ของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แห่งดวงดาวบนท้องฟ้านั้นสูงเพียงใด
แรงกดดันของจักรพรรดิที่เหลืออยู่นี้เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะครอบงำพวกเขา หมายความว่าหากจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน มันอาจจะต้องใช้ความคิดง่ายๆ ในการบดขยี้พวกเขา
นี่คือพลังที่เกินระดับของราชาต้นกำเนิด!
โชคดีที่แรงกดดันของจักรพรรดิไม่คงอยู่เป็นเวลานาน มีเพียงก้านธูปที่คุ้มค่ากับเวลาก่อนที่จะค่อยๆ จางหายไปอย่างสมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม นี่ก็นานพอสำหรับทุกคนที่จะเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็นๆ เนื่องจากความกลัวปรากฏบนใบหน้าของพวกเขาเป็นเวลานานหลังจากนั้น
ก่อนที่ทุกคนจะตั้งตัวได้ก็เกิดการกลายพันธุ์อีกครั้ง!
ทันใดนั้นเสียงกัมปนาทอันน่าสยดสยองก็แผ่กระจายออกมาจากสวนจักรพรรดิ สั่นสะเทือนไปทั้งโลก
“อะไรตอนนี้?” บางคนอุทานด้วยความตื่นตระหนก อุบัติเหตุซ้ำแล้วซ้ำเล่าที่เกิดขึ้นในวันนี้ทำให้ทุกคนโกรธและกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับสวนจักรพรรดิ
เมื่อมองขึ้นไป ทุกคนก็เห็นว่าลำแสงปรากฏขึ้นจากสวนจักรพรรดิและค่อยๆตกลงไปที่พื้น ลำแสงนี้มีความหนาประมาณหนึ่งแขนเท่านั้น แต่ดูเหมือนจะมีพลังทำลายล้างสวรรค์และพลังทำลายล้างโลก ทำให้ยากต่อการมองนานๆ
ผิวของหยางไค่เปลี่ยนเป็นสีดำทันที
หลังจากนั้น ลำแสงประหลาดนี้ก็พุ่งตรงไปยังภูเขาถ้ำมังกรของเขา!
สวนจักรพรรดิถูกระงับโดยตรงเหนือภูเขาถ้ำมังกร ดังนั้นด้วยลำแสงที่ตกลงมาโดยตรง ภูเขาถ้ำมังกรจะรับผลกระทบที่รุนแรงโดยธรรมชาติและเห็นได้ชัดว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้
แม้ว่าแนวป้องกันภูเขาจะน่าทึ่งจริง ๆ และจำนวนของกำแพงกั้นภายในก็มาก หยางไค่ไม่มีความมั่นใจว่าพวกเขาจะสามารถต้านทานลำแสงแปลก ๆ นี้ได้ และเมื่อเห็นหยางหยานดูกังวลอย่างที่เขารู้สึก เขาก็เข้าใจในทันที ว่าสถานการณ์กลับเลวร้ายลง
ในชั่วพริบตา ลำแสงจากสวนจักรพรรดิได้สัมผัสกับแนวป้องกันภูเขาของภูเขาถ้ำมังกร และปราการอันยิ่งใหญ่ที่กักขังปรมาจารย์ Origin Returning Realm ไว้มากกว่า 30 ตัวที่อ่าวเป็นเวลาสองวันสองคืนโดยไม่แตกหักก็เริ่มละลายเหมือน เกล็ดหิมะภายใต้ดวงอาทิตย์ที่แผดเผา
แนวป้องกันภูเขาถูกทะลวงผ่านอย่างเงียบ ๆ และม่านแสงเองก็สว่างวาบอย่างรุนแรงในขณะที่มันสลัวลงอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้น ลำแสงตกกระทบที่ไหนสักแห่งในภูเขาถ้ำมังกรก่อนที่จะหายไป ทิ้งไว้เพียงความผันผวนของพลังงานเล็กน้อย
สายตาจำนวนนับไม่ถ้วนหันไปทางภูเขาถ้ำมังกรในทันที ใบหน้าที่พวกเขาแสดงสีหน้าต่าง ๆ เต็มไปด้วยความประหลาดใจ ความสับสน ความโลภ ความหวาดกลัว ฯลฯ ...
ไม่ว่าลำแสงนั้นจะเป็นอะไร ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันมาจากสวนจักรพรรดิ หลังจากที่ทุกคนได้เห็นมัน ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อมันหายไป มันได้ทิ้งบางสิ่งไว้เบื้องหลัง
ทุกคนอยากรู้ว่ามันคืออะไร!
มันเป็นสมบัติที่น่าทึ่งหรืออาจจะเป็นทางเข้าสู่ Emperor Garden? ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แค่นึกถึงมันก็เพียงพอแล้วที่จะดึงความโลภในตัวผู้คนออกมาและทำให้พวกเขาต้องการที่จะมองอย่างใกล้ชิด การปรากฏตัวของลำแสงนี้ทำให้ Dragon Cave Mountain กลายเป็นจุดสนใจอีกครั้ง
ตอนนี้เกราะป้องกันของภูเขาถ้ำมังกรถูกทำลายแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะผู้หญิงแซ่เย่ที่กวาดสายตามองฝูงชนอย่างเฉียบคม สถานการณ์น่าจะกลายเป็นการต่อสู้ที่วุ่นวายไปแล้ว ความสมดุลที่เปราะบางแทบไม่ได้รับการบำรุงรักษาเนื่องจากการขัดขวางการปรากฏตัวของผู้หญิงคนนี้
แต่ไม่มีใครรับประกันได้ว่าการป้องปรามนี้จะคงอยู่ได้นานแค่ไหน! ท้ายที่สุด เรื่องนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ ดังนั้นแม้ว่าผู้หญิงแซ่เย่จะแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ แต่เธอคนเดียวก็ไม่สามารถหยุดทุกคนที่นี่ได้
ผู้หญิงแซ่เย่ดูเหมือนจะรับรู้ถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในอากาศและเริ่มส่งแรงกดดันที่มองไม่เห็นออกจากร่างกายของเธอ โดยถือว่าท่าทาง 'ผู้หญิงคนหนึ่งทำหน้าที่เป็นภูเขา' ปิดกั้นผู้บุกรุกหนึ่งหมื่นคน
คิ้วของหยางไค่กระตุกขณะที่ปากของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น
ด้วยสิ่งต่าง ๆ ในตอนนี้ มีเพียงสองแนวทางปฏิบัติที่เขาสามารถทำได้: ยอมอ่อนข้อและปล่อยให้ปรมาจารย์ที่อยู่ที่ Dragon Cave Mountain เพื่อดูว่าลำแสงนั้นทิ้งอะไรไว้เบื้องหลังและสนองความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขา หรือแสดงท่าทางท้าทาย และห้ามมิให้ผู้ใดเข้าไปในภูเขาโดยยึดสมบัติที่เพิ่งปรากฏขึ้นสำหรับตัวเขาเอง
การปิดกั้นนั้นเป็นไปไม่ได้ เสือที่แข็งแกร่งไม่สามารถเอาชนะฝูงหมาป่าได้ ผู้หญิงแซ่เย่คนเดียวไม่สามารถหยุดปรมาจารย์ทุกคนที่มารุกรานได้
การหลีกทางให้กับความยากลำบากก็ไม่ใช่สไตล์ของหยางไค่เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ในขณะที่คนอื่นๆ สงสัยว่าสิ่งที่เหลืออยู่หลังจากลำแสงนั้นหายไป เขาก็เช่นกัน!
จากการสังเกตท่าทีของฝูงชนและเห็นว่าเจ้านายจากกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ต่าง ๆ กำลังใกล้จะเคลื่อนไหว หยางไค่รู้ว่าเขาต้องเลือก มิฉะนั้นเขาจะสูญเสียความคิดริเริ่ม
เมื่อคิดได้เช่นนั้น หยางไค่ก็ส่งข้อความสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปยังสตรีแซ่เย่ ผู้ซึ่งเลิกคิ้วขึ้นและแสดงท่าทางประหลาดใจก่อนจะพยักหน้าเบาๆ
ขณะที่ทั้งสองคนบรรลุความเห็นเป็นเอกฉันท์ ในที่สุดโม่เสี่ยวเซิงแห่งสมาพันธ์ต่อสู้สวรรค์ก็หมดความอยากรู้อยากเห็นของเขา และก้าวไปข้างหน้า กำหมัดด้วยท่าทางสง่างาม “พี่สาวอาวุโสเย่…”
ก่อนที่เขาจะพูดจบ ผู้หญิงแซ่เย่ก็เลิกคิ้วขึ้นและตะโกนว่า “อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้!”
ในขณะเดียวกัน ร่างของหยางไค่ก็สั่นไหว และเขาก็เริ่มจางหายไปอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันร่างกายของเขาก็พร่ามัว พื้นที่โดยรอบก็กระเพื่อมเล็กน้อย
“กองทัพอวกาศ?” ดวงตาของ Mo Xiao Sheng หดลงในขณะที่เขาจ้องไปที่ร่างของ Yang Kai ที่ค่อยๆ สลายไป ในฐานะผู้อาวุโสใหญ่ของสมาพันธ์ต่อสู้แห่งสวรรค์ โมเสี่ยวเซิงยังได้ฝึกฝนพลังอวกาศ ดังนั้นเขาจึงคุ้นเคยกับความผันผวนที่เหลืออยู่เหล่านี้มากกว่าใคร ๆ ในปัจจุบัน
เมื่อเห็นว่าหยางไค่ไม่ลังเลที่จะใช้ Space Force เพื่อถอนตัวออกจากสถานที่นี้ Mo Xiao Sheng ก็เข้าใจทันทีว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ และในขณะที่ซ่อนความตกใจของเขาต่อความเก่งกาจในการควบคุม Space Force ของ Yang Kai เขาก็คำรามว่า “ไอ้หนู! คุณกล้า!?”
เขากลัวผู้หญิงแซ่เย่อย่างแท้จริง แต่นอกเหนือจากผู้หญิงคนนี้แล้ว เขาไม่ได้เอาอะไรหรือใครก็ตามบนภูเขาถ้ำมังกรไปอยู่ในสายตาของเขา Saint King Realm Junior ที่ไม่สำคัญเช่น Yang Kai คิดว่าเขาสามารถก้าวแรกได้อย่างเต็มที่ท่ามกลางสายตาของปรมาจารย์มากมาย เขาจะทนต่อความเย่อหยิ่งเช่นนี้ได้อย่างไร?
ขณะที่เขาตะโกน โม่เสี่ยวเซิงก็ก้าวออกไป ร่างของเขาค่อยๆพร่ามัว
เช่นเดียวกับหยางไค่ เขาก็ใช้พลังอวกาศเช่นกัน
"กลับมาที่นี้!" ผู้หญิงแซ่เย่ตะโกนขณะที่เธอยื่นมือขาวหยกของเธอออกไปและคว้าไปยังพื้นที่โดยรอบ ทำให้พลังงานโลกหดตัวอย่างกะทันหันและส่งร่างที่ดูเหมือนจะปรากฏขึ้นจากอากาศที่เบาบางร่วงหล่นไปด้านหลัง โดยธรรมชาติแล้ว ร่างนี้คือผู้อาวุโสใหญ่ของ Heaven Battling Union ซึ่งตอนนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าวิธีการของสตรีแซ่เย่ผู้นี้จะลึกซึ้งถึงขนาดที่เธอสามารถลบล้างไพ่ตายของเขาได้อย่างง่ายดาย
ความสมดุลที่ละเอียดอ่อนของสถานการณ์ถูกทำลายโดยการกระทำของ Yang Kai และ Mo Xiao Sheng ในทันที ปรมาจารย์อื่น ๆ จำนวนมากกำลังจ้องมองที่ภูเขาถ้ำมังกรอยู่แล้ว ต้องการเข้าไปเพื่อดูว่าจักรพรรดิ์การ์เดนได้ฝากสมบัติชนิดใดไว้ที่นี่ ดังนั้นเมื่อมีโอกาสที่ดีเช่นนี้ปรากฏขึ้น พวกเขาจะลังเลได้อย่างไร พวกเขาเริ่มแสดงทักษะการเคลื่อนไหวของพวกเขาทีละคนๆ ขณะที่พวกเขาพุ่งไปยังจุดที่เสาแห่งแสงตกลงมา
“ไม่มีใครไปไหนทั้งนั้น!” ร่างกายอันอ่อนโยนของสตรีแซ่เย่สะบัดไหวเพื่อสกัดกั้นฝูงชนที่รุกคืบเข้ามา และด้วยแสงวาบ เรียกสิ่งประดิษฐ์ที่มีลักษณะคล้ายตะเกียงน้ำมันออกมาต่อหน้าเธอ ยื่นมือของเธอออกไปและวางไว้บนไส้ตะเกียง เธอควบแน่นเปลวไฟสีน้ำเงินที่ปลายนิ้วของเธอ และด้วยการสะบัดข้อมือของเธอ ก็ส่งคลื่นของเปลวไฟสีน้ำเงินออกมา
เปลวไฟสีน้ำเงินเหล่านี้รวมตัวและขยายตัวอย่างรวดเร็ว แปรสภาพเป็นนกไฟขนาดยักษ์ที่มีความยาวหลายสิบเมตรซึ่งปล่อยแรงดันออกมาอย่างน่าประหลาดใจ นกยักษ์ตัวนี้รีบอ้าปากและพ่นลูกไฟขนาดเท่าอ่างล้างจานออกมา บินเข้าหาฝูงเจ้านายที่ใกล้เข้ามา
“ตะเกียงเพลิงเผากระดูก!” อาจารย์ผู้รอบรู้คนหนึ่งในหมู่ฝูงชนร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนกเมื่อเขาเห็นตะเกียงน้ำมันนี้ ใบหน้าของเขาซีดเซียวในขณะที่เขารีบเรียกสิ่งประดิษฐ์ป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาเพื่อปกป้องตัวเอง
เมื่อตะโกนชื่อ Bone Incinerating Flame Lamp ทุกคนก็แสดงสีหน้าตื่นตระหนกเหมือนกันและก้าวถอยหลังอย่างรวดเร็ว ไม่มีใครกล้ารุกคืบอีก
ไม่อาจตำหนิปรมาจารย์เหล่านี้ได้เนื่องจากชื่อเสียงของตะเกียงเพลิงเผากระดูกนั้นช่างน่าประหลาดใจ ท้ายที่สุด มันเป็นหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์ระดับ King ของ Origin ใน Shadowed Star!
สิ่งประดิษฐ์ระดับนี้ไม่สามารถขัดเกลาได้โดย Artifact Refiners บน Shadowed Star ดังนั้นพวกมันทั้งหมดจึงเป็นโบราณวัตถุจากสมัยโบราณและมีพลังที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้ เราจะต้องหลีกเลี่ยงการปนเปื้อนจากเปลวไฟจากสิ่งประดิษฐ์นี้ด้วยค่าใช้จ่ายทั้งหมด เพราะเมื่อผู้ฝึกฝนถูกพวกมันปนเปื้อน พวกมันจะต้องพินาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าผู้หญิงคนนี้แซ่เย่อยู่คนเดียว แต่ด้วยสิ่งประดิษฐ์นี้ ความแข็งแกร่งของเธอก็ไม่ได้แย่ไปกว่าปรมาจารย์ Origin King ดังนั้นใครที่นี่จะกล้าท้าทายเธอคนเดียว?
ในช่วงเวลาหนึ่ง อาจารย์ที่มาชุมนุมกันหลายคนมีสีหน้าเศร้าหมองขณะที่พวกเขาลังเลว่าจะเดินหน้าหรือถอย ทำให้เกิดฉากที่มีชีวิตชีวาและตึงเครียดอย่างไม่น่าเชื่อ
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าผู้หญิงคนนี้แซ่เย่จะเป็นปรมาจารย์ที่น่าเหลือเชื่อ แต่เธอก็ยังไม่สามารถจัดการกับคู่ต่อสู้จำนวนมากได้ในคราวเดียว เนื่องจากมีศัตรูจำนวนมากในหมู่พวกเขาที่อยู่ในอาณาจักรเดียวกับเธอ ที่แย่กว่านั้น หลังจากปล่อยการโจมตีครั้งแรกจากตะเกียงเพลิงเผากระดูก ผิวของเธอซีดลงเล็กน้อย
ด้วยการบ่มเพาะของเธอ การใช้สิ่งประดิษฐ์ระดับ King ของ Origin สร้างภาระหนักให้กับร่างกายของเธอ
“ พี่สาวเย่ คุณต้องการสร้างศัตรูกับพวกเราหลายคนจริงๆหรือ” Cheng Peng Xuan จาก Thunder Typhoon Sect มองไปที่ผู้หญิงที่มีนามสกุล Ye ด้วยท่าทางที่น่าเกลียดและถามอย่างเคร่งขรึม
ผู้หญิงแซ่เย่เพียงแค่เหลือบมองเขาเบา ๆ และพูดขึ้นว่า “หากพวกเจ้าหยุดนิ่ง ราชินีองค์นี้จะไม่สร้างปัญหาให้แก่เจ้า แต่ถ้าเจ้ากล้าบุกเข้าไปในภูเขาลูกนี้ ราชินีองค์นี้จะเป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วย!”
“คำพูดที่กล้าหาญ! เป็นไปได้ไหมที่ซิสเตอร์เย่คิดว่าเราอ่อนแอที่สามารถถูกรังแกได้” Mo Xiao Sheng เรียกออกมาอย่างบูดบึ้ง ตอนนี้เขาต้องการไล่ตามหยางไค่ แต่ถูกผู้หญิงคนนี้ขวางไว้ ทำให้เขาเสียหน้าอย่างมาก ดังนั้นตอนนี้เขาจึงรู้สึกก้าวร้าวเป็นพิเศษ
“ราชินีองค์นี้ไม่ใช่ผู้อ่อนแอ ฉันจะไม่พูดซ้ำอีกเป็นครั้งที่สอง!” ผู้หญิงแซ่เย่มีทัศนคติที่แน่วแน่มาก
Mo Xiao Sheng และ Cheng Peng Xuan แลกเปลี่ยนรูปลักษณ์และพยักหน้าให้กันเบา ๆ
แม้ว่าโดยปกติแล้วพวกเขาสองคนจะไม่สามารถยืนหยัดต่อสู้กันเองได้และแข่งขันกันเองมานับไม่ถ้วน แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในเวลานี้ และเนื่องจากทั้งคู่ต่างคุ้นเคยกันอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งหมดที่ใช้ในการสื่อสารความตั้งใจนี้
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ชายชราคนนี้จะไม่ประพฤติตัวสุภาพ!” Mo Xiao Sheng ตะโกนก่อนที่จะเรียกไม้เท้าสั้นสีดำสนิทมาไว้ในมือของเขา ไม้เท้าสั้นนี้ดูเหมือนค่อนข้างธรรมดา แต่เมื่อ Mo Xiao Sheng เท Saint Qi ของเขาลงไป มันเริ่มแสดงพลังงานที่ผันผวนอย่างน่าตกใจและเปลี่ยนเป็นลำแสงที่พุ่งเข้าหาผู้หญิงแซ่เย่ในทันที
ขณะที่ Mo Xiao Sheng เริ่มการโจมตี Cheng Peng Xuan ก็ดำเนินการเช่นกัน
ความล่าช้าที่ยาวนานจะนำไปสู่ปัญหามากมาย และทั้งคู่ก็ไม่เต็มใจที่จะถูกขัดขวางโดยผู้หญิงคนนี้ ดังนั้นเพื่อที่จะบุกเข้าไปใน Dragon Cave Mountain ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และสืบหาว่าสมบัติชนิดใดถูกฝากไว้ที่นี่ พวกเขาทั้งสองจึงหันไปใช้ วิธีการที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขา
Cheng Peng Xuan เรียกสิ่งประดิษฐ์ประเภทแมวน้ำซึ่งขยายตัวอย่างรวดเร็วจนมีขนาดเท่าภูเขาก่อนที่จะกระแทกลงไปที่ผู้หญิงแซ่เย่
Jin Shi จาก Demon Blood Temple, หญิงชรา Feng จากภูเขาหมื่นอสูร และปรมาจารย์ Origin Returning Realm อีกหลายคนจากกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ต่าง ๆ ไม่เต็มใจที่จะยอมแพ้และเข้าร่วมในการโจมตีครั้งนี้อย่างรวดเร็ว