ตอนที่ 1464 คุณสามารถตายได้
ผู้แปล: Silavin และ PewPewLaserGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
จากทุกทิศทุกทาง Void Crack จำนวนนับไม่ถ้วนเข้ามาใกล้ ทำให้ Jin Shi หวาดกลัว เขาร้องขอความเมตตาเป็นผลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยปกติแล้ว เขาจะไม่กลัวรอยร้าวความว่างเปล่าที่ไม่เสถียรเหล่านี้ และเพียงแค่ต้องใช้พละกำลังบางส่วนเพื่อยุบพวกมันและหลบหนี แต่ตอนนี้เขาอ่อนแอมากหลังจากใช้การลอกคราบจักจั่นทองคำของเขา ตอนนี้ Jin Shi สามารถใช้ความแข็งแกร่งของเขาได้มากถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเขาจึงแข็งแกร่งในความตั้งใจแต่อ่อนแอในพละกำลัง
[ทำไมฉันต้องฟังเรื่องไร้สาระของคุณด้วย] หยางไค่ยึดมั่นในหลักการของการตีงูจนตายเพื่อหลีกเลี่ยงหายนะในอนาคต ดังนั้นวันนี้จินซีจึงโชคไม่ดี
รอยแตกแห่งความว่างเปล่าที่หนาแน่นในไม่ช้าก็กลืนจินชิและเสียงกรีดร้องโหยหวนอันน่าสยดสยองก็ดังขึ้น Jin Shi สามารถควบแน่น Saint Qi ที่เหลืออยู่เพื่อปกป้องร่างกายของเขา แต่สิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ของเขาดีขึ้นเลย Saint Qi Jin Shi ที่ถูกปลดปล่อยออกมาเพื่อปกป้องตัวเองถูกเนรเทศไปยัง The Void ในทันทีที่มันสัมผัสกับรอยแตกของ Void ตามด้วยผิวหนังของเขาอย่างรวดเร็ว จากนั้นตามด้วยเนื้อของเขา กระดูกของเขา…
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้อาวุโสใหญ่ของ Demon Blood Temple ก็ถูกแล่เป็นชิ้นเล็ก ๆ และศพของเขาอย่างน้อยครึ่งหนึ่งก็หายไปตลอดกาล
ผู้หญิงสองคนจาก Ice Heart Valley จ้องมองฉากนี้อย่างตกตะลึง
พวกเขาคิดว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะเป็นฝ่ายเดียว หยางไค่อาจจะถูกฆ่าตายในทันที และพวกเขาได้เตรียมการสำหรับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแล้ว
พวกเขาจะคาดคิดได้อย่างไรว่าหยางไค่ที่ดูธรรมดาจะมีวิธีการพิเศษเช่นนี้?
ดาบกระดูกเขียวที่แปลงร่างเป็นมังกรสีเขียวเข้มขนาดยักษ์ได้เข้าไปพัวพันกับหญิงสาวสวยทันที ทำให้เธอไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นใด ในขณะที่หยางไค่ ชิ คนเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้เขากดขี่เจ้านายศัตรูคนอื่นถึงตายได้
ชายหนุ่มผู้นี้มาจากดาวแห่งการเพาะปลูกใด? ทำไมพวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อเขามาก่อน? มีความแข็งแกร่งและ Shi แปลก ๆ อีกฝ่ายไม่ควรเป็นคนที่ไม่รู้จัก เกือบจะแน่ใจว่าเขาเป็นดาวรุ่งของกองกำลังที่ยิ่งใหญ่
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับชายหนุ่มคนนี้ใน Star Field
ในขณะที่พวกเขาเฉลิมฉลอง พวกเขาก็รู้สึกไม่สบายใจเช่นกัน ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาสองคนไม่มีพลังที่จะต่อสู้กลับในขณะนี้ และพวกเขาไม่ชัดเจนว่าธรรมชาติของหยางไค่เป็นอย่างไร หากหยางไค่ชนะการต่อสู้ครั้งนี้และตัดสินใจฆ่าพวกเขา มีแนวโน้มว่าพวกเขาจะไม่สามารถต้านทานได้
ผู้หญิงสองคนจาก Ice Heart Valley รู้สึกหดหู่อย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีอะไรดีไปกว่าปลาบนเขียงจริงๆ เป็นสถานการณ์ที่ไม่น่าพอใจ แต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะทำตามใจ เพราะกังวลว่าพวกเขาจะดึงความสนใจของหยางไค่มาที่ตัวเอง
ในอีกด้านหนึ่ง Temple Master ที่สวยงามของ Demon Blood Temple ก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอได้เห็นความตายอันน่าสลดใจของ Jin Shi และมันทำให้หัวใจของเธอตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายชั่วขณะหนึ่ง เธอไม่เคยคาดคิดว่าพลังต่อสู้ของหยางไค่จะน่าทึ่งขนาดนี้ แม้แต่ผู้อาวุโสใหญ่จากนิกายของเธอก็ไม่สามารถอยู่ต่อหน้าเขาได้นาน เด็กคนนี้เพิ่งทะลวงไปยังต้นกำเนิดที่หวนกลับไม่ได้หรือ? เขามีพลัง Shi ได้อย่างไร?
เป็นไปได้ไหมว่าข้อมูลของ Jin Shi ผิดและเด็กชายคนนี้เล่นหมูเพื่อกินเสือ?
เมื่อคิดเช่นนั้น Demon Blood Temple Master ที่สวยงามก็เริ่มสาปแช่ง Jin Shi ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ในขณะที่แอบเสียใจที่เธอได้ยั่วยุสัตว์ประหลาดเช่นนี้ ในขณะนี้ นางต้องใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อจัดการกับมังกรสีเขียวเข้มขนาดยักษ์ ดังนั้นนางจึงไม่มีเรี่ยวแรงเหลือที่จะจัดการกับหยางไค่
มังกรสีเขียวเข้มขนาดยักษ์เป็นผลผลิตจากชิ้นส่วนกระดูกจากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โบราณที่แท้จริง และยังรวมเศษวิญญาณมังกรที่แท้จริงและลูกปัดมังกรเข้าด้วยกัน ซึ่งทำให้ตระหนักรู้ในตนเองและความรู้สึกนึกคิดในระดับหนึ่ง ดังนั้น แม้ว่าจะไม่สามารถเทียบได้กับภูมิปัญญาของ Firebird Artifact Spirit แต่ไม่สามารถเข้าใจกลยุทธ์หรือกลยุทธ์ได้ แต่พลังของมันก็ไม่ต้องสงสัยเลย
เมื่อรวมกับคำแนะนำที่ได้รับจาก Yang Kai Divine Sense มันสามารถต่อสู้กับ Demon Blood Temple Master ตัวต่อตัวได้อย่างเต็มที่
อาจารย์วัด Demon Blood ที่สวยงามกำลังบ่นอยู่ในใจตลอดเวลา วิชาล่อลวงอันน่าภาคภูมิใจของเธอใช้ไม่ได้กับมังกรสีเขียวเข้มยักษ์ตัวนี้ และสิ่งประดิษฐ์ที่มีลักษณะคล้ายสร้อยข้อมือของเธอได้รับความเสียหายอย่างรุนแรงจากหมอกสีเขียวของมังกร หมอกสีเขียวเป็นพิษและมีฤทธิ์กัดกร่อนสูง ดังนั้นแม้ว่าระดับของสิ่งประดิษฐ์สร้อยข้อมือนี้จะไม่ต่ำ แต่ก็ไม่สามารถต้านทานการสัมผัสอย่างต่อเนื่องได้
ผู้หญิงคนนี้ไม่กล้าแม้แต่จะปล่อย Demon Blood Threads ของเธอ เกรงว่าพวกมันจะถูกมังกรสีเขียวเข้มกัดกร่อนเช่นกัน ในเวลาเดียวกัน เธอใช้ส่วนหนึ่งของพลังปราณศักดิ์สิทธิ์และพลังวิญญาณของเธอเพื่อต้านทานความหนาวเย็นอันน่าสยดสยองในสถานที่นี้ ทำให้สถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้วของเธอแย่ลงไปอีก
ตอนที่จินชิตาย เธอมีความคิดที่จะล่าถอยทันที
แต่หยางไค่ไม่เปิดโอกาสให้เธอถอนตัว ถือร่างที่ปวกเปียกของ Bi Luo เขาบินไปในขณะที่ควบคุมดาบกระดูกมังกรของเขาด้วยจิตใจของเขาเพื่อผูก Temple Master ที่สวยงามนี้ลงเพื่อที่เขาจะได้จมลงไปใน Shi ของเขา
ใบหน้าของ Temple Master ที่มีเสน่ห์ของ Demon Blood Temple ฉายแววสยดสยองขณะที่เธอแทบจะไม่สามารถหลบหมอกพิษได้ก่อนที่จะฝืนยิ้มและร้องออกมาว่า “น้องเล็ก ไม่จำเป็นต้องไปไกลเกินไปที่นี่? เราเพิ่งรู้จักกัน ทำไมต้องทำตัวเหี้ยมเกรียมขนาดนั้นด้วย? หากคุณสามารถทิ้งทางออกให้กับผู้หญิงคนนี้ได้ เธอจะตอบแทนคุณอย่างแน่นอนในครั้งต่อไปที่เราพบกัน”
เมื่อตระหนักว่าสถานการณ์ของเธอเลวร้ายเพียงใด เธอจึงเปลี่ยนวิธีการพูดทันที ไม่เรียกตัวเองว่า 'ราชินีองค์นี้' ต่อหน้าหยางไค่อีกต่อไป แต่ทำตัวอ่อนน้อมถ่อมตนและยอมจำนนแทน
“ข้าไม่จำเป็นต้องทิ้งเจ้าไว้” หยางไค่เย้ยหยัน “เพราะเราจะไม่ได้พบกันอีก”
สีหน้าของ Temple Master ของ Demon Blood Temple จมลงขณะที่ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความตื่นตระหนก แต่เธอยังคงบังคับตัวเองให้ยิ้มน่ารัก “อย่าพูดอย่างนั้น น้องชายคนเล็ก ถ้าคุณปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปได้ เธอก็เต็มใจที่จะเป็นทาสของคุณ เชื่อฟังทุกคำสั่งของคุณ และดูแลให้ทุกความปรารถนาของคุณเป็นจริง ใช่หรือไม่? โดยไม่คำนึงถึงสิ่งอื่นใด ฉันเป็นผู้บ่มเพาะพลังแห่งอาณาจักรที่หวนคืนสู่ต้นกำเนิดลำดับที่สาม ฉันจะมีประโยชน์มากสำหรับคุณ”
ขณะที่เธอพูดคำเหล่านี้ นัยน์ตาของเธอก็เปล่งประกายแวววาว และเธอก็เม้มริมฝีปากเย้ายวนอย่างน่าดึงดูดใจ
“อีตัว!” Bi Luo ขบฟันของเธอและสาปแช่ง รูปลักษณ์ของความดูถูกฉายแววบนใบหน้าของเธอ
“ขอโทษด้วย ฉันไม่สนใจคุณ” หยางไค่ส่ายหัวและพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย “คุณตายได้!”
ในขณะที่เขาพูด พื้นที่รอบๆ Temple Master ที่สวยงามของ Demon Blood Temple เต็มไปด้วยรอยแตกแห่งความว่างเปล่าจำนวนนับไม่ถ้วนที่รุมเข้าหาเธอตามความประสงค์ของ Yang Kai
“ถ้าอยากฆ่าฉัน อย่าคิดว่าจะรู้สึกดีขึ้น!” รูปลักษณ์บนใบหน้าของผู้หญิงคนนี้เปลี่ยนไปอย่างมาก รูปลักษณ์ที่เย้ายวนและจริงใจของเธอเพิ่งถูกแทนที่ด้วยความคลั่งไคล้ในขณะที่เธอส่งด้ายเลือดปีศาจสองเส้นของเธอออกมา และสร้างผนึกด้วยมือของเธอทันทีพร้อมกับตะโกนว่า “ระเบิด!”
พลังงานที่ผันผวนอย่างน่าประหลาดใจก็ฉายออกมาจากสายเลือดปีศาจทั้งสองเส้น และแสงสีแดงที่ส่องประกายเริ่มเอ่อล้นออกมาจากพวกมัน ราวกับดอกไม้ที่สวยงามที่สุดที่กำลังจะผลิบานเป็นครั้งสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความงามนี้แฝงไปด้วยจิตสังหารที่ไม่มีวันสิ้นสุด
สีหน้าของ Yang Kai เปลี่ยนไปอย่างมากและไม่ลังเลเลย เขาเรียกโล่สีม่วงออกมาและใช้ความสามารถของพายุทรายเพื่อปกป้องตัวเองและ Bi Luo
*หงษ์หง…*
เสียงระเบิดดังขึ้นสองครั้ง ทำให้ทุกคนในบริเวณใกล้เคียงหูหนวกชั่วครู่ ขณะที่ทำให้ถนนน้ำแข็งสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
ผลที่ตามมาของการระเบิดที่รุนแรงคู่นี้ได้ทำลายหยางไค่ชิของหยางไค่ในทันที และส่งมังกรสีเขียวเข้มขนาดยักษ์ที่รัดวิหารมาสเตอร์ผู้งดงามให้บินไป
สายเลือดปีศาจสองเส้นของ Temple Master ที่สวยงามของ Demon Blood Temple ได้รับการปลูกฝังและขัดเกลาโดยเธอเป็นเวลาหลายปี ดูดซับสาระสำคัญที่สำคัญในปริมาณที่ไม่อาจจินตนาการได้ ดังนั้นพลังของการระเบิดของพวกมันจึงมหาศาลโดยธรรมชาติ
ทุกอย่างในระยะหนึ่งพันเมตรถูกทำลายโดยพื้นฐานแล้ว
ในเวลาเดียวกัน Temple Master ที่สวยงามของ Demon Blood Temple ได้หายตัวไป เธอใช้ผลกระทบที่วุ่นวายจากการระเบิดครั้งนี้เพื่อหลบหนี
แสงสีทองส่องผ่านดวงตาซ้ายของหยางไค่ขณะที่เขากวาดสายตามองหมอกน้ำแข็งโดยรอบ มองเห็นร่างของหญิงสาวที่กำลังหลบหนีอย่างรวดเร็ว ความเร็วของเธอค่อนข้างน่าประหลาดใจ เนื่องจากในช่วงเวลาสั้น ๆ เธอสามารถหลบหนีได้ประมาณหนึ่งพันเมตร และยังคงหลบหนีอย่างสิ้นหวังจนถึงจุดสิ้นสุดของถนนน้ำแข็ง
เมื่อเห็นเช่นนี้ หยางไค่เพียงแค่ยิ้มและไม่ได้สนใจที่จะไล่ตามเธอ แทนที่จะยืนอยู่กับที่และเพลิดเพลินกับความโชคร้ายของเธอ รอคอยอย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าการแสดงที่ดีกำลังจะเริ่มขึ้น
เมื่อตระหนักว่าเธอไม่ได้ถูกไล่ตาม ผู้ดูแลวิหารผู้งดงามก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เธอคิดว่าหยางไค่ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดเมื่อครู่นี้ และไม่สามารถไล่ตามเธอได้ และแอบดีใจที่เธอได้ลงมืออย่างเด็ดเดี่ยวเพียงพอ มิฉะนั้นคงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะหลบหนี
ในขณะที่เธอกำลังคิดอยู่นั้น เธอก็มองเห็นร่างสีเทาปรากฏขึ้นในขอบเขตการมองเห็นของเธอ ร่างนี้ไม่ใหญ่มาก สูงประมาณหนึ่งเมตรเท่านั้น และมีลักษณะที่แปลกประหลาด ราวกับรูปปั้นหิน
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้เธอสงสัยก็คือรูปสลักหินนี้เหมือนจริงเกินไป นัยน์ตาของมันฉายแววความเฉลียวฉลาดอย่างชัดเจน และมันถือไม้เท้าสีดำประหลาดขณะที่ยืนนิ่งเฉยบนยอดเนินน้ำแข็งขนาดเล็กราวกับหินแกะสลักขนาดเล็ก
[นี่คืออะไร] อาจารย์วัด Demon Blood Temple จ้องมองอย่างสงสัยและสงสัย
ในขณะนั้น สิ่งที่เธอคิดว่าเป็นรูปสลักหินจริงๆ แล้วยืนขึ้นจากกองน้ำแข็งและจ้องมองมาที่เธอ ขณะที่ยกไม้เท้าสีดำขึ้นและดูเหมือนจะเหวี่ยงมันลงมาที่เธอเบาๆ
การกระทำนี้ดูตลกขบขันอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะท่านเจ้าวัดผู้งดงามไม่รู้สึกถึงภัยคุกคามจากการกระทำนี้
อย่างไรก็ตาม ในชั่วพริบตาถัดมา สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปอย่างดุเดือด
แท่งไม้สีดำขนาดเล็กที่เดิมเริ่มขยายออกและจู่ๆ ก็ได้รับแรงผลักดันที่ไม่อาจหยุดได้ ทำให้ Temple Master รู้สึกเหมือนภูเขากำลังทุบลงมาที่เธอ
เธอรู้สึกถึงวิกฤตอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน ทำให้ Temple Master ของ Demon Blood Temple หายใจลำบาก
ราวกับว่าต่อหน้าไม้นี้ แม้แต่สวรรค์และโลกก็ยังถูกบดขยี้ได้
อย่างไรก็ตาม เธอเป็นปรมาจารย์ผู้ผ่านมรสุมมามากมายและต่อสู้มานับครั้งไม่ถ้วนตลอดชีวิตของเธอ ทำให้เธอได้รับประสบการณ์การต่อสู้อันโชกโชน ดังนั้นเธอจึงสามารถเข้าใจได้ทันทีว่ามนุษย์หินคนนี้เป็นสิ่งที่เด็กหนุ่มเตรียมการไว้ที่นี่ล่วงหน้า
จากนั้นเธอก็จำได้ว่าจินชิเคยพูดถึงการปรากฏตัวของยักษ์หินขนาดใหญ่ในระหว่างการต่อสู้ที่ภูเขาถ้ำมังกร!
[นี่อาจจะเป็น…]
Temple Master ผู้มีเสน่ห์ดึงดูดใจของ Demon Blood Temple ไม่กล้าเสียเวลาคิดเรื่องนี้และกัดลิ้นของเธออย่างรวดเร็วเพื่อพ่นละอองเลือดออกมา หมอกเลือดนี้แปรเปลี่ยนราวกับว่ามันมีความคิดเป็นของตัวเองและสร้างเกราะป้องกันรอบตัวเธอในทันที ในชั่วพริบตาถัดมา ชุดเกราะอาร์ติแฟกต์สีแดงเลือดที่ดูเหมือนมีความแข็งแกร่งในการป้องกันสูงก็ปรากฏขึ้นบนร่างกายอันบอบบางของเธอ
เธอไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่นี้และเรียกวัตถุคล้ายกระจกออกมาอย่างรวดเร็วซึ่งเปลี่ยนเป็นบาเรียล่องหนตรงหน้าเธอ
หลังจากที่เธอทำการเคลื่อนไหวเหล่านี้เสร็จ แท่งสีดำก็ตกลงมา
ด้วยเสียงกระทบกัน สิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นแตกเป็นเสี่ยงๆ เหมือนกระจกทั่วไปทันทีที่มันสัมผัสกับแท่งไม้สีดำ ทำให้กลับคืนสู่รูปแบบเดิมและสูญเสียความสดใสทั้งหมดก่อนที่จะตกลงสู่พื้น เห็นได้ชัดว่าได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง
Temple Master ที่สวยงามของ Demon Blood Temple หน้าซีดไปหมด แต่ก่อนที่เธอจะได้ทันตอบสนอง แท่งไม้สีดำก็ฟาดลงมาบนหัวของเธอ
จู่ๆ โลกก็กลายเป็นสีดำ และความคิดของ Temple Master ที่สวยงามของ Demon Blood Temple ก็หยุดลงอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่าเธอจะเป็นปรมาจารย์แห่งอาณาจักรหวนคืนถิ่นกำเนิดลำดับที่สาม แต่หลังจากถูกโจมตีโดยตรงจากเสาสั่นสะเทือนสวรรค์ของหุ่นเชิดหิน ก็ไม่มีโอกาสรอดชีวิตของเธอ
ศีรษะของเธอแตกออกเป็นชิ้นๆ ส่วนที่เหลืออยู่ในร่างกายของเธอปลิวว่อนเหมือนดาวตกจากแรงอันน่าสะพรึงกลัว กระแทกกับน้ำแข็งที่แข็งกระด้างห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตรก่อนจะระเบิดเป็นดอกไม้สีเลือดที่งดงาม
เมื่อเห็นเช่นนี้ หยางไค่ก็โค้งริมฝีปากและยิ้มอย่างพึงพอใจ
หุ่นเชิดหินได้รับการปล่อยตัวออกมาโดยธรรมชาติล่วงหน้า แม้ว่าที่นี่จะหนาวเย็นอย่างไม่น่าเชื่อ แต่หุ่นเชิดหินก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ความตั้งใจเดิมของหยางไค่คือให้หุ่นหินหาโอกาสที่จะโจมตีแบบลับๆ ซึ่งจะทำให้เขาสามารถยุติการต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ตอนนี้กลับมีบทบาทที่คาดไม่ถึง
เกี่ยวกับเรื่องนี้ หยางไค่รู้สึกมีความสุขโดยธรรมชาติ หากไม่ใช่เพราะหุ่นเชิดหินที่ยืนอยู่ในทิศทางที่หัวหน้าวิหารแห่ง Demon Blood Temple เลือกที่จะหลบหนี หยางไค่คงต้องใช้ความพยายามมากขึ้นเพื่อฆ่าเธอ