บทที่ 2011 วิญญาณไม้
ผู้แปล: Silavin และ PewPewLaserGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนดื่มน้ำ สีแดงเหมือนเลือดสดเริ่มซึมเข้าไปในเถาองุ่น ในขณะที่ผู้ฝึกฝนที่ถูกเสียบและพันไว้ก็เงียบไป
ไม่เพียงเท่านั้น ร่างกายของชายคนนี้ก็เริ่มเหี่ยวเฉาอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าชีวิตกำลังจะหมดไปจากเขา
“มันกำลังดูดกลืนพลังชีวิตของเขา!” การแสดงออกของ Yang Kai เปลี่ยนไปอย่างมาก
โดยธรรมชาติแล้ว เขาสามารถเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับผู้ฝึกฝนคนนี้ เลือดและพลังชีวิตของเขาถูกเถาวัลย์ที่แทงเขาจนหมด ปล่อยให้เขาแห้งตายภายในเวลาเพียงสองลมหายใจ
ชายคนนี้เป็นราชาต้นกำเนิด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับเถาวัลย์ประหลาดเหล่านี้ เขาก็อ่อนแอราวกับเด็กอายุสามขวบ!
“วิญญาณไม้! มันคือวิญญาณไม้! คิดว่ามี Wood Spirit ถูกผนึกไว้ใต้ดิน!”
ในขณะนั้นเอง โม่เสี่ยวฉีก็กรีดร้อง เสียงของเธอฉายชัดถึงความหวาดกลัว นี่เป็นครั้งแรกที่หยางไค่เคยเห็นเธอตื่นตระหนกเช่นนี้ แม้ในขณะที่เธอเผชิญหน้ากับทารก Luan Feng บนภูเขาหยกใสในวันนั้น เธอยังคงสงบและสงบอย่างสมบูรณ์ แต่หลังจากเห็นเถาวัลย์แปลก ๆ เหล่านี้ เธอก็หน้าซีดไปทั้งตัว
“พี่ใหญ่หยาง เราต้องหนี เราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสิ่งนี้แน่นอน มันสามารถฟื้นฟูตัวเองได้อย่างรวดเร็วโดยการดูดซับเลือดและพลังของสิ่งมีชีวิตใด ๆ!” หลังจากที่ Mo Xiao Qi พูดจบ เธอก็โบกมือและรถม้าสีขาวหยกที่ไร้ที่ติก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ
ลากหยางไค่ไปด้วย ทั้งสองขึ้นรถม้าพร้อมกัน
ทันใดนั้น โม่เสี่ยวฉีก็เทพลังของเธอไปที่ Spirit Array บนรถม้า และกำแพงแสงที่หนาและทรงพลังหลายอันก็ก่อตัวขึ้นรอบๆ พร้อมกับเสียงครวญเพลง
โดยไม่ลังเล รถม้าเริ่มสั่นสะเทือนและเริ่มเร่งความเร็วออกไปอย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่มันจะเร่งความเร็วได้ เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งเข้าหามันจากรอยแตกด้านล่าง ฟาดรถม้าอย่างบ้าคลั่งด้วยหนามของมัน
โล่แสงรอบรถม้าสว่างวาบอย่างบ้าคลั่ง แต่โชคดีที่สิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ดูเหมือนจะเป็นเกรดที่สูงมาก ดังนั้นเกราะป้องกันของมันก็ค่อนข้างแข็งแกร่งเช่นกัน เถาวัลย์ที่สามารถฆ่าราชาต้นกำเนิดได้ในทันทีไม่สามารถทำลายโล่เหล่านี้ได้ในทันที
อย่างไรก็ตามภายใต้การทิ้งระเบิดอย่างป่าเถื่อน รถม้าไม่สามารถออกจากพื้นที่นี้ได้
หลังจากรอเพียงครู่เดียว รถรบก็ถูกเถาวัลย์พันไว้อย่างแน่นหนา
ใบหน้าของ Mo Xiao Qi ซีดยิ่งกว่าเดิม
“มูนเบลด!” หยางไค่ตะคอกและเหวี่ยงมือของเขา ส่งดาบพระจันทร์ยักษ์ออกไปเพื่อตัดเถาวัลย์ที่พันรถม้าศึก
แม้ว่าการโจมตีของเขาจะมีผลอยู่บ้าง แต่การแสดงออกของหยางไค่ยังคงเคร่งขรึมอย่างยิ่ง เพราะเขาพบว่าเขาได้ประเมินพลังป้องกันของเถาวัลย์เหล่านี้ต่ำไป Moon Blade ขนาดมหึมาของเขาสามารถตัดผ่านเถาวัลย์สี่ต้นเท่านั้น ก่อนที่มันจะหมดเรี่ยวแรงและสลายไป
สำหรับเถาวัลย์ที่ถูกตัดออกจากกัน เพียงชั่วพริบตาพวกมันก็งอกขึ้นใหม่และพันรอบรถรบแน่นกว่าเดิม
“พี่ใหญ่หยาง เราต้องใช้ธาตุไฟ การโจมตีอื่นไม่สามารถทำลายเถาวัลย์เหล่านี้ได้” โม่เสี่ยวฉีตะโกน ในขณะเดียวกันเธอก็แตะถุงผ้าใบหนึ่งที่เอวของเธอ จากถุงผ้านี้ สิ่งมีชีวิตที่คล้ายกับ Fire Qilin ปรากฏขึ้น ปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีแดงเข้มและเปล่งรัศมีของสัตว์อสูรระดับสูงสุดลำดับที่ 10 กิเลนไฟตัวนี้เปิดปากของมันอย่างรวดเร็วและพ่นเปลวไฟที่รุนแรงออกมา
ไม่ว่าที่ใดที่เปลวไฟเหล่านี้ผ่านไป เถาวัลย์ก็จะหดกลับ ราวกับว่าพวกมันถูกระเบิดอย่างรุนแรง
เมื่อหยางไค่เห็นสิ่งนี้ เขาก็ปรับตัวอย่างรวดเร็วและผลักปราณดาบไฟห้าธาตุที่ทำลายไม่ได้ของเขา ควบแน่นดาบเพลิงยาวในมือของเขาในขณะที่เขาฟันไปยังเถาวัลย์ที่อยู่รอบๆ
ครั้งนี้ เถาวัลย์ที่ถูกตัดออกไม่ได้งอกใหม่ในทันที ดูเหมือนว่าการโจมตีด้วยธาตุไฟจะมีประสิทธิภาพอย่างมากต่อเถาองุ่นนี้
Mo Xiao Qi ก็ไม่ได้เกียจคร้านเช่นกัน หลังจากปล่อยสัตว์ร้ายที่มีรูปร่างคล้าย Qilin เธอเรียกริบบิ้นสีแดงและเท Source Qi ของเธอลงไป ทำให้มันกลายเป็นกลุ่มเมฆแห่งเปลวเพลิง
คนสองคนและสัตว์ร้ายหนึ่งตัวสามารถผลักเถาวัลย์ออกจากรถม้าศึกได้
โดยไม่รอให้เถาวัลย์เหล่านั้นรวมกลุ่มใหม่และล้อมรอบพวกเขาอีกครั้ง โม่เสี่ยวฉีกระทืบเท้าของเธออย่างแรง ส่งรถรบพุ่งออกไปราวกับลูกธนูจากเชือก
ข้างหลังพวกเขา เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนสะบัดและเฆี่ยนขณะที่พวกเขาไล่ตาม แต่ไม่นานรถม้าก็ทิ้งพวกเขาไว้เบื้องหลัง
หลังจากสิบลมหายใจ ในที่สุดรถม้าก็รอดพ้นจากเขตอันตราย และเถาองุ่นก็หยุดไล่ตาม
ตอนนี้ Mo Xiao Qi ได้ปล่อยลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เมื่อมองย้อนกลับไป เถาวัลย์จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังโบยบินไปรอบๆ ราวกับหนวดในระยะหลายสิบกิโลเมตร เป็นภาพที่น่าอึดอัดใจเมื่อได้เห็น
“เสี่ยวฉี วิญญาณไม้คืออะไร” หยางไค่มีเวลาถามในที่สุด
“มันเป็นพืชชนิดหนึ่งที่ได้รับความรู้สึก มีเจตจำนงและสติปัญญาเป็นของตัวเอง และเป็นคู่ต่อสู้ที่ยากอย่างยิ่งที่จะเผชิญหน้า ขึ้นอยู่กับชนิดของพืชที่วิวัฒนาการมาจาก Wood Spirits มีความสามารถโดยธรรมชาติที่แตกต่างกัน เป็นการยากที่จะบอกว่าความสามารถของ Wood Spirit นี้เป็นอย่างไร แต่ไม่ว่า Wood Spirits ทั้งหมดจะฆ่าได้ยากมากเพราะมี Wood Attribute Strength ที่แข็งแกร่งมาก ทำให้พวกเขามีพลังมหาศาลและความสามารถในการฟื้นฟู แม้ว่า Wood Spirit จะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง ตราบใดที่มันได้รับเวลาและสารอาหารเพียงพอ มันก็สามารถฟื้นฟูตัวเองได้ ไม่ใช่ว่า Wood Spirits ทุกตัวจะเลวร้าย บางตัวก็ใช้งานได้อย่างน่าอัศจรรย์ แต่ Wood Spirit นั้นเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง ฉันไม่รู้ว่ามันถูกผนึกมานานแค่ไหนแล้ว แต่ความแข็งแกร่งของมันต้องลดลงอย่างมาก มิฉะนั้น มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบหนีด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเรา”
“Wood Spirits น่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ?” หยางไค่รู้สึกประหลาดใจ
"แน่นอน! พี่ใหญ่หยางต้องไม่ประมาท มีบันทึกมากมายที่แม้กระทั่งจักรพรรดิก็ถูกสังหารโดย Wood Spirits ตอนนี้ Wood Spirit เพิ่งถูกปล่อยออกมา ดังนั้นสิ่งสำคัญอันดับแรกคือการฟื้นฟูความแข็งแกร่งของมัน วิธีที่ดีที่สุดในการทำเช่นนั้นคือการกลืนพลังของผู้บ่มเพาะอย่างเรา… ไม่นะ ชั้นที่สองทั้งหมดอาจไม่ปลอดภัยอีกต่อไป…” โม่เสี่ยวฉีพูดหลังจากตระหนักถึงบางสิ่งในทันที
"อะไร? มันเป็นไปไม่ได้เหรอ? ชั้นที่สองนั้นกว้างใหญ่มาก เราควรจะหาที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรือ”
“แล้วถ้าเกิดเจอเราล่ะ” Mo Xiao Qi มองไปที่ Yang Kai ด้วยความกังวล
“แล้วเราควรทำอย่างไร? กลับไปที่ชั้นแรก?” หยางไค่ขมวดคิ้ว
“เมื่อเข้าไปในเจดีย์ห้าสีสมบัติแล้ว ขึ้นได้อย่างเดียว ลงไม่ได้ เรากลับไปที่ชั้นแรกไม่ได้…” โม่เสี่ยวฉีขมวดคิ้วก่อนที่ดวงตาของเธอจะเป็นประกาย “เอา… ไปชั้นที่สามกันเถอะ”
หยางไค่ตกตะลึง “ยังไง? ไม่ใช่แค่ชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สองของเจดีย์ห้าสีเท่านั้นที่เปิดอยู่ตอนนี้?”
"มันคุ้มค่าที่จะลอง. ถ้าเราไม่สามารถไปถึงชั้นที่สามได้จริงๆ เราก็ต้องทำ หวังว่าเราจะโชคดี” โม่เสี่ยวฉีหัวเราะอย่างมีความสุขก่อนที่จะนึกถึงสัตว์ร้ายที่มีรูปร่างเหมือนกิเลนและปล่อยค้างคาวหนีสวรรค์อีกครั้ง สั่งให้มันค้นหาทางเข้าสู่ชั้นที่สาม
…
สามวันต่อมา ทั้งคู่ยืนอยู่หน้าเสาไฟห้าสี
เสาแสงห้าสีนี้เหมือนกับเสาที่หยางไค่เคยเห็นมาก่อนทุกประการ เห็นได้ชัดว่ามันเป็นทางเข้าสู่ชั้นที่สาม แต่เมื่อหยางไค่พยายามเข้าไปในตอนนี้ เขาก็ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆ สิ่งนี้แตกต่างอย่างมากจากประสบการณ์ครั้งก่อนของเขาที่เพียงแค่ก้าวเข้าไปในเสาไฟก็ย้ายเขาไปยังชั้นที่สอง
เขามองไปที่โม่เสี่ยวฉีอย่างช่วยไม่ได้ แต่คนหลังเพียงแค่ยิ้มอย่างมีเลศนัยขณะที่เธอหยิบสิ่งประดิษฐ์ที่มีรูปร่างยาวคล้ายกระสวยอวกาศออกมาจากวงแหวนอวกาศของเธอ
ทันทีที่สิ่งประดิษฐ์นี้ปรากฏขึ้น ผิวของหยางไค่ก็เปลี่ยนไป
เพราะเขารู้สึกถึงออร่าที่โดดเด่นจากสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้ ซึ่งไม่มีสิ่งประดิษฐ์ระดับ King ต้นกำเนิดหรือแม้แต่ระดับ Dao Source ที่สามารถครอบครองได้
[สิ่งประดิษฐ์จักรพรรดิ!]
สิ่งประดิษฐ์ที่ยาวเหมือนกระสวยนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ของจักรพรรดิอย่างแน่นอน!
สิ่งประดิษฐ์ของจักรพรรดินั้นเต็มไปด้วยความแข็งแกร่งของหลักการ ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่หยางไค่คุ้นเคยเพราะเขามีสิ่งประดิษฐ์จักรพรรดิหลายชิ้นเป็นของตัวเอง ด้วยเหตุนี้สิ่งประดิษฐ์ของจักรพรรดิจึงสามารถแสดงพลังมหาศาลได้ สิ่งที่ Mo Xiao Qi ครอบครองนั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์ของจักรพรรดิ
แม้ว่าหยางไค่จะตกใจ แต่หลังจากคิดอย่างรอบคอบแล้ว เขาก็ตระหนักได้ว่านี่เป็นผลลัพธ์ที่คาดหวังไว้ และไม่ได้พยายามถามอีกต่อไป
“กระสือทำลายผนึกเก้าดาวนี้เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่น้าเฟิงมอบให้ฉัน มันเชี่ยวชาญในการทะลวงอุปสรรคทุกรูปแบบ แม้ว่าข้าจะไม่สามารถใช้กำลังทั้งหมดที่มีอยู่ได้ แต่ด้วยความช่วยเหลือจากพี่ใหญ่หยาง เราน่าจะสามารถเปิดผนึกที่นี่และเข้าสู่ชั้นที่สามได้” โม่เสี่ยวฉีเริ่มอธิบาย
“ฉันต้องทำอย่างไร” หยางไค่ถาม
“ง่าย” Mo Xiao Qi อธิบายสั้น ๆ กับ Yang Kai
หยางไค่จดบันทึกคำแนะนำทั้งหมดของโม่เสี่ยวฉีอย่างระมัดระวัง และหลังจากคิดทบทวนสองสามครั้ง เขาก็พยักหน้าให้เธอ
โม่ เสี่ยว ฉี ยื่นมือออกไปแตะกระสวยผู้ทำลายผนึกเก้าดาว ในช่วงเวลาถัดมา สิ่งประดิษฐ์ก็ขยายขนาดและยาวขึ้นเป็นสิบเมตร
หลังจากกระโดดขึ้นยาน Nine Stars Seal Breaker แล้ว โมเสี่ยวฉีก็โบกมือให้หยางไค่
หลังจากที่ทั้งคู่เข้าไปในกระสวยจักรแล้ว โมเสี่ยวฉีก็ปิดประตูกระสวยจักรผนึกเก้าดาวก่อนจะหันไปหาหยางไค่และพยักหน้า จากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เริ่มสร้างชุดผนึกที่เฉพาะเจาะจง
เมื่อเวลาผ่านไป ทั้งคู่ยังคงทุ่มเทแรงกายแรงใจไปที่ยาน Nine Stars Seal Breaker ซึ่งทำให้ลวดลายรูปดาวบนพื้นผิวของมันสั่นไหว
ทันใดนั้น บนพื้นผิวของกระสวยเบรกเกอร์ซีลเก้าดาว ลวดลายดาวก็สว่างขึ้น
หลังจากนั้นไม่นาน ลวดลายดาวอีกดวงก็สว่างขึ้น
จากนั้นหนึ่งในสาม
มาถึงตอนนี้ ทั้งหยางไค่และโม่เสี่ยวฉีถึงขีดจำกัดแล้ว และความแข็งแกร่งของพวกเขาก็ผันผวนอย่างโกลาหลเมื่อการแสดงออกของพวกเขากลายเป็นเรื่องยากมาก
ในท้ายที่สุด นี่ก็ยังคงเป็นสิ่งประดิษฐ์ของจักรพรรดิ ดังนั้นแม้แต่การนำพลังออกมาครึ่งหนึ่งก็เป็นไปไม่ได้สำหรับพวกเขาสองคน
การแสดงออกของ Mo Xiao Qi กลายเป็นเคร่งขรึมขณะที่เธอเปลี่ยนตราประทับมือและตะโกนว่า "ทำลาย!"
วินาทีต่อมา กระสวยเบรกเกอร์ผนึกเก้าดาวสั่นเล็กน้อยและยิงเข้าที่เสาแสงห้าสีก่อนที่จะหายไป
ทั้งคู่บนกระสวยรู้สึกไร้น้ำหนักในเวลาเดียวกัน และทั้งคู่ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตาม ทั้งคู่ยังผ่อนคลายในขณะที่พวกเขายังคงทุ่มเทกำลังของพวกเขาไปยังกระสวยเบรกเกอร์ผนึกเก้าดาวเพื่อรักษาการทำงาน
หลังจากนั้นไม่นานความรู้สึกไม่สบายที่พวกเขารู้สึกก็หายไป
ทั้งสองมองหน้ากันและ Mo Xiao Qi ก็เปิดกระสวยยาน Nine Stars Seal Breaker ก่อนจะกระโดดออกไปก่อน เสียงเชียร์ของเธอดังขึ้นในชั่วครู่ต่อมา “พี่ใหญ่หยาง เรามาถึงชั้นที่สามแล้ว!”
หยางไค่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อเขาออกมา เขาพบว่าแม้ว่าสถานที่นี้จะดูคล้ายกับชั้นที่สอง แต่ก็มีความแตกต่างที่เห็นได้ชัดเจนบางอย่าง ที่ใหญ่ที่สุดคือความหนาแน่นของหลักการแตกกระจายที่ลอยอยู่
“นั่นไม่ใช่เรื่องยาก” Mo Xiao Qi ยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“สิ่งสำคัญคือเราต้องฟื้นฟูตัวเองก่อน ชั้นที่สามน่าจะอันตรายกว่าชั้นที่สองมาก” หยางไค่เตือนเธอก่อนที่จะปล่อยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อม
หลังจากยืนยันว่าไม่มีอันตรายในบริเวณใกล้เคียง เขานั่งลงไขว่ห้างและหยิบขวดยาสปิริตออกมาจากวงแหวนอวกาศของเขา ป้อนขวดหนึ่งเข้าไปในปากของเขา จากนั้นจึงเริ่มปรับลมหายใจ
โมเสี่ยวฉีทำแบบเดียวกัน แต่ก่อนที่เธอจะทำ เธอได้ปล่อยตัวเสือโคร่งขนเงิน ค้างคาวหนีสวรรค์ และสัตว์อสูรไฟกิเลนเพื่อให้พวกมันคอยคุ้มกัน