ผู้แปล: ศิลาวินและจอน
ตัวตรวจสอบการแปล: PewPewLazerGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
โดยธรรมชาติแล้ว Wu Kuang ไม่มีสามหัวและหกแขน ในทำนองเดียวกัน ออร่าปัจจุบันที่เขาเปล่งออกมาก็ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น ถ้าพวกเขาไม่รู้จักตัวตนของเขา พวกเขาคงไม่เชื่อมโยงเขากับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่กลืนกินสวรรค์ หากพวกเขาบังเอิญเจอเขา
ไม่เพียงแต่เขาดูเหมือนไม่มีอะไรพิเศษเท่านั้น แต่รูปร่างของเขายังดูเหนือจริงต่อหน้าสุสานมังกรอีกด้วย ยากที่จะบอกได้ว่านี่คือตัวตนที่แท้จริงของเขาหรือเป็นเพียงภาพลวงตา
ด้วยท่าทางที่มืดมน Zhu Yan หยุดอยู่กับที่
“ให้ตายเถอะ! มันคือเงาวิญญาณมายา!” Mo Huang ตะโกนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ร่างที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาคือหวู่กวงจริง ๆ แต่มันไม่ใช่ร่างจริงของเขา มันเป็นเพียงภาพลวงตาที่เขาสร้างขึ้นโดยใช้เทคนิคลับ ภาพลวงตาได้จำลองรัศมีและรูปลักษณ์ของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
“เราถูกหลอก!” Fu Zhun พูดผ่านฟันที่กำแน่น
ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคลับที่เธอใช้ในการแกะรอยหวู่กวง หรือเบาะแสที่ได้รับจากสัตว์ร้ายตัวน้อยของ Mo Huang พวกเขาล้วนชี้ไปที่สุสานมังกร เมื่อรวมกับการคาดเดาที่สมเหตุสมผลของ Yang Kai พวกเขาทั้งหมดคิดว่าเหตุผลที่ Wu Kuang มาที่เกาะมังกรก็เพื่อจะกินแหล่งมังกรทั้งหมดในสุสานมังกร
อย่างไรก็ตาม เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่แห่งนี้ พวกเขารู้ว่าพวกเขาคิดผิด
Wu Kuang ประสบความสำเร็จในการดึงดูดพวกเขาทั้งหมดมายังสถานที่แห่งนี้โดยใช้ Illusionary Soul Shadow ในขณะที่เขากำลังดำเนินแผนการลับของเขาอยู่ที่อื่น
พวกเขาทั้งหมดถูกเขาหลอก!
มีเพียงจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่เท่านั้นที่สามารถหลอกลวงจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่องค์อื่นได้ แม้ว่าพลังของ Wu Kuang จะไม่ได้รับการฟื้นฟู แต่เขาซุ่มซ่อนอยู่ในความมืดในขณะที่พวกเขากำลังค้นหาแสงสว่าง ซึ่งเป็นวิธีที่เขาสามารถเล่นกลกับพวกเขาทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย
เขาหน้าด้าน แต่ในขณะเดียวกันเขาก็มีวิธีที่จะสนับสนุนความมั่นใจของเขา
เมื่อทุกคนอยู่ในอาการสับสน ภาพลวงตาของหวู่กวงก็ส่งยิ้มมาที่พวกเขา “เฮ้ ไม่เจอกันนาน สบายดีไหมทุกคน”
พวกเขาทั้งหมดไม่สนใจเพราะมันเป็นเพียงเงาวิญญาณลวงตา มันไม่มีประโยชน์ที่จะสื่อสารกับมัน และถ้าพวกเขาทำ พวกเขาอาจตกหลุมพรางของ Wu Kuang โดยไม่ตั้งใจ
ในเมื่อ Dragon Grave ไม่ใช่เป้าหมายของ Wu Kuang เขาต้องการอะไรกันแน่?
ทันใดนั้น หยางไค่และหลี่หวู่ยี่ก็หันศีรษะและมองไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งพร้อมกัน เมื่อมองดูการแลกเปลี่ยน พวกเขาเห็นได้ว่าทั้งคู่ตกใจพอๆ กัน “ความผันผวนของหลักการอวกาศ!”
ในสถานที่นั้น มีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่เป็นจ้าวแห่ง Dao of Space ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นคนแรกที่รู้สึกถึงพลังประเภทนี้เมื่อมันกระจายไปทั่วบริเวณ
หลังจากนั้น Zhu Yan, Fu Zhun และแม้แต่ Mo Huang ก็สามารถรู้สึกได้เช่นกัน
หลังจากกระทืบเท้าของเธอ Fu Zhun ก็เปลี่ยนเป็นลำแสงสีขาวและมุ่งหน้าไปยังสถานที่นั้น ตามด้วย Zhu Yan ทั้งคู่รวดเร็วราวกับอุกกาบาต
ด้วยสีหน้าสดใส โมฮวงตะโกนว่า “มันคือวิหารมังกร!”
ในที่สุดพวกเขาทั้งหมดก็เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อได้ยินเช่นนั้น
เป้าหมายที่แท้จริงของ Wu Kuang คือวัดมังกร เขาใช้เงาวิญญาณลวงตาเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขา แต่ตัวตนที่แท้จริงของเขาแอบเข้าไปในวิหารมังกร ไม่แน่ใจว่าเจตนาของเขาคืออะไร
“ให้ตายเถอะ! เขากำลังพยายามหนี!” โม ฮวงคำรามในขณะที่เขาคิดอะไรบางอย่างได้ ซึ่งเขาก็รีบไปที่วิหารมังกรด้วย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาดูวิตกกังวลมากซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของเรื่อง
ขณะที่พวกเขากำลังเร่งรีบไปยังสถานที่แห่งนั้น ทันใดนั้นแสงพร่างพราวก็ระเบิดขึ้นในระยะไกล ลำแสงพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและทะลุทะลวงความว่างเปล่า ราวกับว่ามีหลุมขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นบนท้องฟ้า
ในขณะเดียวกัน หลักการอวกาศที่เป็นลูกคลื่นก็มีพลังและเด่นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ Yang Kai จับมือ Zhu Qing และบินเคียงข้างเธอด้วยท่าทางเคร่งขรึม
ในฐานะปรมาจารย์ Dao of Space หยางไค่เข้าใจว่าคลื่นลักษณะนี้หมายถึงอะไร อย่างไรก็ตาม เขาไม่เข้าใจว่า Wu Kuang สามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร แม้ว่าเขาจะเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่กลืนกินสวรรค์ แต่ก็ไม่มีประวัติว่าเขามีความเชี่ยวชาญใน Dao of Space
หยางไค่แอบถอนหายใจ โดยคิดว่าอาจารย์ทุกคนบนเกาะมังกรถูกหวู่กวงหลอก เห็นได้ชัดว่ามันไม่มีประโยชน์สำหรับพวกเขาที่จะเร่งรีบในตอนนี้
Wu Kuang ใช้เวลาและพลังงานไปมากในการเล่นอุบายดังกล่าวกับพวกเขา ดังนั้นเขาจึงต้องเตรียมพร้อมอย่างดีกับแผนที่ครอบคลุม หากหวู่กวงหนีไปได้ หยางไค่และโมฮวงจะต้องเผชิญกับความโกรธแค้นของตระกูลมังกร
โมฮวงเป็นจักรพรรดิ์แห่งการต่อสู้สัตว์อสูร ดังนั้นเขาอาจไม่กลัวเผ่ามังกร อย่างไรก็ตาม หยางไค่เป็นคนละกรณีกัน เขายังคงรู้สึกอึดอัดใจเมื่อเผชิญหน้ากับ Dragon Clan ผู้ทรงอำนาจ
หลังจากคิดแล้ว หยางไค่ก็บอกให้หลี่เจียว หลิวเหยียน และร่างทรงของเขาเข้ามาใกล้เขา เมื่อคนอื่นๆ ไม่สนใจ เขาก็ส่งพวกเขาไปยัง Small Sealed World เพื่อเตรียมพร้อมที่จะหลบหนีหากจำเป็น
ลำแสงที่ยิงขึ้นจากวิหารมังกรสว่างขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่มันสามารถส่องสว่างทั่วทั้งเกาะมังกร แต่ครู่ต่อมา แสงก็อ่อนลงและค่อยๆ มืดลง
เมื่อทุกคนมาถึงวัดมังกรแสงก็ดับลงแล้ว อย่างไรก็ตาม ความผันผวนของหลักการอวกาศที่ยังคงอยู่ซึ่งมาจากส่วนที่ลึกที่สุดของวิหารมังกรยังคงรู้สึกได้อย่างชัดเจน
วัดมังกรเป็นอาคารที่น่าประทับใจซึ่งมีกลิ่นอายของบรรพบุรุษของเผ่ามังกรอาศัยอยู่ชั่วนิรันดร์ ผ่านช่วงขึ้นและลงอย่างยุติธรรมเป็นเวลาหลายแสนปี มันเป็นหนึ่งในรากฐานที่สำคัญที่สุดสำหรับกลุ่มมังกร
เฉพาะผู้ที่มีสายเลือดของ Dragon Clan เท่านั้นที่มีสิทธิ์ก้าวเข้าไปในวิหาร และสายเลือดจะต้องบริสุทธิ์อย่างแน่นอน Dragonborn อย่าง Li Jiao ไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเข้าใกล้สถานที่แห่งนี้ และถ้าเขาพยายามบุกเข้าไปอย่างแรง เขาจะถูกบดขยี้ด้วยแรงกดดันจากมังกรที่มาจากวิหาร
หยางไค่เป็นคนสุดท้ายที่มาถึงสถานที่นี้ แต่มีเพียงหลี่หวู่ยี่และจิ่วเฟิงเท่านั้นที่รออยู่นอกวัดมังกร ขณะที่คนอื่น ๆ มองไม่เห็น เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเข้าไปในพระวิหารแล้ว
เมื่อเห็นหยางไค่ หลี่หวู่ยี่ก็ยิ้มให้เขา ขณะที่จิ่วเฟิงอุทานด้วยความตกใจ นั่นเป็นเพราะเธอตระหนักว่า Liu Yan และผู้ที่เกี่ยวข้องกับ Yang Kai หายตัวไป ในขณะนั้น เธอเหลือบมองหยางไค่อย่างมีความหมาย แต่เธอไม่ได้ชี้ให้เห็น
“ข้าจะเข้าไปดู” เมื่อพูดจบ Yang Kai ก็ก้าวเข้าไปในวัดพร้อมกับ Zhu Qing แทนที่จะไปดูการแสดง เขาต้องการที่จะรู้ว่า Duan Hong Chen อยู่ในสถานการณ์ใด
ภายในวัดมังกรกว้างขวาง มีเสารูปมังกรตั้งอยู่ทุกแห่ง ห้องโถงใหญ่ดูไม่มีอะไรพิเศษจากภายนอก แต่ข้างในมีเรื่องราวที่แตกต่างออกไป
ภายในห้องโถง แรงกดดันของมังกรหนาแผ่ซ่านไปทั่วสถานที่ ทำให้รู้สึกไม่เป็นระเบียบ Zhu Qing ขมวดคิ้วทันทีที่เธอก้าวเข้าไป
แน่นอนว่าเธอเคยเข้าไปในวัดมังกรมาก่อน แต่สถานที่นี้ไม่เป็นเช่นนั้นในอดีต แรงกดดันจากมังกรที่ไม่เป็นระเบียบบ่งบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับวิหาร
หลังจากเดินไปมาเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าในระยะไกล ครู่ต่อมา ลำแสงส่องเข้าตาพวกเขา ตามแสงนั้น พวกเขาเดินหน้าต่อไปและในที่สุดก็เห็นจ้าวแห่งเผ่ามังกร
มหากาพย์การต่อสู้ที่หยางไค่จินตนาการไว้ไม่ได้เกิดขึ้น พวกเขาทั้งหมดล้อมรอบแสงและเฝ้าดูมันอย่างเงียบงัน เมื่อหยางไค่สังเกตการแสดงออกของพวกเขา หน้าอกของเขาแน่นขึ้นในทันที ทันใดนั้นเขาก็มีลางสังหรณ์ หลังจากที่เขาเข้าใกล้แสงและมองเข้าไปใกล้ๆ เขาก็เบิกตากว้างขณะที่เขาตกตะลึงกับภาพที่เห็น
นั่นเป็นเพราะแหล่งกำเนิดของแสงแท้จริงแล้วคือ Void Corridor ที่ปลายอีกด้านของทางเดิน มองเห็นดวงดาวระยิบระยับในความมืด ราวกับว่ามีใครบางคนฉีกพื้นที่เล็กๆ ออกจากท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาว หดมันนับครั้งไม่ถ้วนแล้ววางลงตรงนั้น
ในขณะที่สีหน้าของ Zhu Yan สดใส การแสดงออกของ Fu Zhun ก็ดูมืดมนเหมือนเมฆดำ ราวกับว่าน้ำแข็งจะหยดลงมาจากใบหน้าที่สวยงามแต่ดูเคร่งขรึมของเธอ
โมฮวงส่ายหัวซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลังจากถอนหายใจ “มันสายเกินไปแล้ว”
หลังจากที่ Wu Kuang สามารถหนีออกจากเกาะมังกรได้ในวันนี้ เขาจะฆ่าผู้คนมากกว่านี้อย่างแน่นอน และทำให้ Star Fields พังทลายลงอีกในอนาคต จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ที่กลืนกินสวรรค์เคยทำสิ่งเหล่านี้มาก่อน โลกที่พวกเขาอาศัยอยู่นั้นกว้างใหญ่มาก ดังนั้นจึงไม่มีใครรู้ว่า Wu Kuang ไปที่ใด และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะติดตามเขา
หยางไค่มองดูทั้งสองฝ่าย ไม่สามารถระงับความอยากรู้ได้อีกต่อไป เขาเข้าไปหาโมฮวงและถามด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ท่านครับ Wu Kuang หนีไปได้สำเร็จหรือไม่?”
Mo Huang พยักหน้าเล็กน้อย
หยางไค่กล่าวว่า “เขาทำลายอวกาศได้อย่างไร? ยิ่งไปกว่านั้น ฉันบอกได้เลยว่านี่ไม่ใช่ Void Corridor ธรรมดา”
แม้แต่ Space Array ข้ามอาณาเขตที่เขาจัดไว้ก็ไม่สามารถทำให้เกิดความผันผวนของหลักการอวกาศที่ปั่นป่วนได้เมื่อเปิดใช้งาน ยิ่งกว่านั้น หยางไค่ยังรู้สึกได้ว่าทางเดินแห่งความว่างเปล่านี้กำลังนำไปสู่สถานที่ที่ห่างไกลมาก
ในขณะที่ Mo Huang ยังคงเงียบ Fu Xuan ตอบว่า “เขาใช้ประโยชน์จากพลังของ Dragon Temple”
หยางไค่เลิกคิ้ว “เขาใช้ประโยชน์จากพลังของวิหารมังกร? เขาสามารถทำอย่างนั้นได้อย่างไร”
วิหารมังกรเป็นรากฐานของตระกูลมังกร ดังนั้นเป็นไปได้อย่างไรที่จะอนุญาตให้คนนอกใช้พลังของมันได้? ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อหยางไค่ก้าวเข้ามายังสถานที่นี้ก่อนหน้านี้ เขารู้สึกได้ว่ามีออร่าที่ทรงพลังบางอย่างซ่อนอยู่ในห้องโถงนี้ รัศมีบางส่วนเหล่านี้ดูน่าเกรงขามพอๆ กับจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสามที่อยู่ต่อหน้าเขา
หยางไค่เดาว่าออร่าเหล่านั้นต้องมาจากบรรพบุรุษของตระกูลมังกร
Fu Xuan อธิบายอย่างอดทน “เหตุผลที่เขาฆ่า Fu Chi และนำ Dragon Source ของเขาไปก็เพื่อเข้าสู่ Dragon Temple สำหรับวิธีที่เขาจัดการเพื่อใช้ประโยชน์จากพลังของวิหารและพื้นที่ที่แตกเป็นเสี่ยงๆ ฉันไม่แน่ใจ” เธอหันไปมองโมฮวงและพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณรู้ไหมว่าเขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร”
ในขณะที่เธอถามคำถามนี้โดยพื้นฐานแล้วในนามของหยางไค่ ก็เป็นความจริงเช่นกันที่เธอค่อนข้างสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยตัวเธอเอง
Mo Huang ตอบว่า “Wu Kuang แก่กว่าพวกเราที่นี่มาก เป็นเพียงคำบอกเล่า แต่ฉันได้ยินมาว่า Wu Kuang มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อาวุโสสองสามรุ่นแรกของ Dragon Clan”
หากมีใครพูดคำเช่นนี้ พวกเขาก็ไม่น่าเชื่อถือ อาจกล่าวได้ว่าเป็นเพียงข่าวลือที่ไม่มีมูลความจริง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเป็น Mo Huang ที่เป็นคนพูด มันแนะนำว่าไม่ใช่แค่คำบอกเล่า
Wu Kuang อาจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับ Dragon Clan Elders สองสามรุ่นแรก
เนื่องจากเป็นกรณีนี้ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่เขารู้ข้อมูลเกี่ยวกับเทคนิคลับของเผ่ามังกร เขาอาจได้เรียนรู้วิธีการที่ลึกซึ้งบางอย่างจากผู้อาวุโสเหล่านั้น โดยพื้นฐานแล้ว แผนของเขาคือการสื่อสารกับ Dragon Temple ผ่าน Fu Chi's Dragon Source และใช้พลังของวิหารเพื่อทะลวงผ่านอวกาศ
เมื่อทำตามแผน เขาไม่ได้ทำผิดพลาดแม้แต่น้อย และเขาก็ทำสำเร็จในที่สุด แม้ว่า Yang Kai จะไม่ชอบ Wu Kuang แต่เขาต้องยอมรับว่าแผนของหลังนั้นยอดเยี่ยม ความเฉลียวฉลาดและกลยุทธ์ของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นั้นยอดเยี่ยมมาก
“ในเมื่อทางเดินแห่งความว่างเปล่ายังอยู่ที่นี่ ทำไมเราไม่ไล่ตามเขาล่ะ” หยางไค่ถาม
“ตามเขามาเหรอ” โมฮวงมองเขาอย่างรวดเร็วและเย้ยหยัน
หยางไค่ขมวดคิ้ว “เกิดอะไรขึ้น?”
“คุณรู้ไหมว่าทางเดินแห่งความว่างเปล่านี้นำไปสู่ที่ใด”
“นายท่านโปรดเข้าใจข้าด้วย” หยางไค่ถามอย่างนอบน้อม
แม้ว่าเขาจะคิดว่าทางเดินแห่งความว่างเปล่านี้นำไปสู่สถานที่ที่ห่างไกลมาก แต่เขาก็ไม่รู้ตำแหน่งที่แน่นอน
“ถึงเขตดาวล่างแล้ว!” Mo Huang ทำลายข่าวที่น่าตกใจ
หยางไค่ตกตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนที่จะรู้สึกตัว จากนั้นเขาก็อุทานว่า “ทุ่งดาวล่าง?”
เสียงดังของเขาดึงดูดความสนใจของทุกคน สายตาของ Fu Zhun เย็นชาเป็นพิเศษ
หยางไค่ลูบจมูกด้วยท่าทางเขินอาย จากนั้น เขาถามอย่างกระวนกระวายว่า “มันจะเป็นทุ่งดาวล่างได้อย่างไร? ไม่มีกองกำลังที่ยิ่งใหญ่ที่เรียกว่า Star Court ที่ปกป้องทางเดินทั้งหมดจาก Star Boundary ไปยัง Lower Star Fields เหรอ? เขาเปิดทางเข้านี้ได้อย่างไร”
แน่นอน หยางไค่รู้สึกหงุดหงิดที่หวู่กวงไปที่ทุ่งดาวล่าง แม้ว่าจะมีทุ่งดาวล่างหลายแห่ง แต่ก็ไม่มีใครแน่ใจได้ว่าหวู่กวงไม่ได้ไปที่ทุ่งดาวเหิงลั่ว หากเขาบังเอิญเข้าสู่สนามเหิงลั่วสตาร์ สนามดาราทั้งหมดก็ถึงวาระ นอกจากนี้ รากของหยางไค่ยังอยู่ที่นั่น