บทที่ 25 | บังสุกุล (5)
ผู้แปล/บรรณาธิการ: astralmech | บรรณาธิการ: ผี
.
* * *
[รีแอนน์] “อะไรนะ?”
เขาต้องการให้เธอชะลอการแต่งงาน?
เขารู้ด้วยซ้ำว่าเขาพูดอะไร? เขาคิดว่าเรื่องแบบนี้เป็นไปได้ยังไง?
[มหาปุโรหิต] “การแต่งงานไม่ได้รับอนุญาตจนกว่าผู้หญิงของ Nauk จะยกโทษบาปของเธอเอง หากคุณเพิกเฉยต่อพระประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า โศกนาฏกรรมครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างไม่ต้องสงสัย”
[Rienne] “คุณรู้ไหมว่าคุณกำลังถามอะไรฉันอยู่”
Rienne กำหมัดแน่นแล้วกัดกลับ การกระทำของเธอไม่รอดพ้นคำบอกกล่าวของมหาปุโรหิต แต่เขายังคงเดินหน้าต่อไป
[มหาปุโรหิต] “น้ำพระทัยของพระเจ้านั้นผ่านไม่ได้ เจ้าหญิง คุณต้องรู้เรื่องนี้”
[Rienne] “และคุณ มหาปุโรหิตมิลร็อด ต้องรู้ว่าคุณกำลังทำให้ราชวงศ์เสื่อมเสียโดยอ้างว่ารู้พระประสงค์ของพระเจ้า”
มหาปุโรหิตปล่อยลมหายใจออกมาเมื่อได้ยินคำพูดที่เยือกเย็นแต่ประชดประชันของ Rienne
[มหาปุโรหิต] “ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ดังนั้นฉันจึงเป็นตัวแทนของอุดมคติของพระเจ้าลูกสาวของ Arsak”
[Rienne] “แล้วพระเจ้าพูดอะไรกับคุณกันแน่? บางทีคุณอาจได้รับนิมิตในความฝันที่บอกให้คุณขัดขวางการแต่งงาน?”
[มหาปุโรหิต] “คุณ…… ทำไมคุณถึงเพิกเฉยต่อพระเจ้าได้ขนาดนี้? ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าการพิจารณาคดีที่เกิดขึ้นต่อหน้าชาว Nauk คือการลงโทษคุณ ลูกสาวของ Arsak!”
นักบวชชั้นสูงคงไม่กล้าพูดอะไรเช่นนี้กับเธอในอดีต
นี้รู้สึกออก มันเหมือนกับว่าเขาพยายามต้อน Rienne เข้ามุม
แม้ว่าเธอจะไม่รู้แน่ชัด แต่ Rienne ก็เกิดความสงสัยว่า High Priest ถูกส่งมาที่นี่โดย Kleinfelders เพื่อพยายามหยุดงานแต่งงานด้วยทุกวิถีทางที่จำเป็น
สิ่งนี้ไม่เคยเกี่ยวกับการซ่อมบันได มันมักจะเกี่ยวกับงานแต่งงาน
[Rienne] “ระวังตัวด้วย มหาปุโรหิต นี่ไม่ใช่วัด ตอนนี้คุณอยู่ในปราสาทของฉันแล้ว”
Rienne ทำได้ดีในการรักษาใบหน้าที่สงบ แม้ว่าเธอจะระงับความโกรธของเธอด้วยกำปั้นที่กำแน่น แต่คราวนี้เธอไม่สามารถรั้งมันไว้ได้อีกต่อไป
[Rienne] “ปราสาทของราชวงศ์ไม่ได้ถูกผูกมัดด้วยกฎหมายศาสนา ฉันมีสิทธิ์ลงโทษคนที่กล้าใช้ลิ้นดูหมิ่นราชวงศ์”
[มหาปุโรหิต] “โชคไม่ดีที่คุณไม่สามารถแต่งงานได้หากไม่ได้รับอนุญาตจากพระเจ้า—“
ขณะที่มหาปุโรหิตเริ่มพูด—
[สีดำ] “ฉันมาสาย”
บูม!
เสียงประตูห้องรับรองดังขึ้นในอากาศขณะที่แบล็กผลักพวกเขาให้เปิดออกด้วยมือทั้งสองข้าง
* * *
.
[มหาปุโรหิต] “ท..ท..นั่น…..”
ใบหน้าของมหาปุโรหิตเปลี่ยนเป็นสีเหลืองซีดอย่างรวดเร็ว
[มหาปุโรหิต] “ทะ…ทำไม….ทำไมทหารรับจ้าง….มาอยู่ที่นี่………”
ทันใดนั้น Rienne แทบจะถอนหายใจ
เมื่อคิดดูแล้ว มหาปุโรหิตคงไม่เห็นอะไรแบบนี้เกิดขึ้น เขาน่าจะแค่เดินตาม Kleinfelders ปล่อยให้พวกเขาดันหลังเขาไปที่ปราสาท—ยืนยันว่าชายคนนี้จะไม่สามารถขัดจังหวะการประชุมได้
[Rienne] “ยินดีต้อนรับท่านลอร์ด Tiwakan กรุณานั่งลง”
แต่แทนที่จะแก้ไขนักบวชชั้นสูง Rienne เชิญ Black มาอยู่เคียงข้างเธอ
การกระทำดังกล่าวทำให้ตำแหน่งของเขาอย่างเป็นทางการในฐานะคู่หมั้นของเจ้าหญิงและเป็นผู้นำอัศวินผู้พิทักษ์ของตระกูล Arsak
Black ตระหนักถึงความตั้งใจของ Rienne อย่างรวดเร็ว
โดยไม่พูดอะไรสักคำ เขานั่งลงข้างๆ Rienne เขาเงียบมากเมื่อทำแบบนั้น มันให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติที่สุดในโลก ราวกับว่ามันถูกต้องเท่านั้น
[Rienne] “ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน? อ่าใช่ คุณกำลังบอกว่าพระเจ้าต้องการให้คุณทำลายงานแต่งงาน เขาบังเอิญบอกคุณว่าเราต้องเลื่อนออกไปนานแค่ไหน”
[มหาปุโรหิต] “ข้าพเจ้า…..”
มหาปุโรหิตหยุดและหลบสายตา เขาไม่สามารถเริ่มมองไปยังทิศทางของ Black ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ Rienne
…..มันใช้งานได้
แม้ว่าเธอจะไม่รู้ตัว แต่ Rienne ก็ยิ้มอย่างขมขื่น
เธอมีความสุขที่ได้เห็นมหาปุโรหิตลุกลี้ลุกลนและเลื่อนลอย แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะพบว่าท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและชัดเจนของเขานั้นน่ารำคาญเล็กน้อย
มันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามหาปุโรหิตคิดถึงเธอเพียงน้อยนิด—ว่าเขาเห็นเธอเป็นคนที่ถูกกดขี่ได้ง่าย
[มหาปุโรหิต] “งานแต่งงานจะเกิดขึ้น….เมื่อพระเจ้าอนุญาต…..”
[Rienne] “แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อไหร่?”
[มหาปุโรหิต] “A-ในฐานะผู้รับใช้ของพระเจ้า คำพูดของพวกเขาจะพูดผ่านฉัน……”
[ดำ] “สรุปแล้วคุณคือตัวปัญหา” (1)
[มหาปุโรหิต] “หือ…ห?”
มหาปุโรหิตกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก
แบล็กใช้นิ้วเคาะที่เท้าแขนของเก้าอี้ เสียงนั้นทำให้มหาปุโรหิตเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างสั่นเทา
ทันทีที่เขาพบกับสายตาเย็นชา ร่างกายของเขาก็กลายเป็นเหมือนรูปปั้น
[สีดำ] “ฉันจะให้คุณเลือก ไม่ว่าคุณจะใช้ปากของคุณเพื่ออนุญาตให้เราหรือฉันจะบังคับให้คุณออกไป”
[มหาปุโรหิต] “. . ”
กรามของมหาปุโรหิตแข็งทื่อ ไม่ชัดเจนในทันทีว่าเขาเข้าใจความหมายของคำเหล่านั้นหรือเพียงแค่ประหลาดใจที่เขาในฐานะมหาปุโรหิตไม่ได้รับความเคารพ
[ดำ] “ฉันคงใช้ถ้อยคำที่สุภาพเกินไป แล้วฉันจะพูดอีกครั้ง เปิดปากของคุณด้วยตัวคุณเองมิฉะนั้นฉันจะแยกคุณออกจากกัน”
[มหาปุโรหิต] “อะ-อะไรนะ….. แกกล้าดียังไง!”
ในที่สุดมหาปุโรหิตก็พบเสียงของเขา ซึ่งดังพอที่จะทำให้ทั้งห้องรับแขกสั่นไหว
แต่สุดท้ายก็เป็นเพียงคำพูด
แบล็คมองลงมาที่เขา นิ้วของเขายังคงแตะที่เท้าแขน
[สีดำ] “เงียบ”
[มหาปุโรหิต] “……?”
[สีดำ] “อย่าขึ้นเสียงต่อหน้าราชวงศ์”
[มหาปุโรหิต] “. . ”
[สีดำ] “เลือกเลย เจตจำนงของคุณเองหรือถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ "
[มหาปุโรหิต] “. . ”
ไม่ใช่ว่าขากรรไกรของมหาปุโรหิตแข็งทื่อ เขาไม่สามารถพูดได้ เขากลัวว่าเสียงของเขาจะดังก้องในห้องอีกครั้ง
[ดำ] “ถ้าเธอไม่เลือก ฉันจะเลือก”
แตะ.
ดำตีที่วางแขนเป็นจังหวะ
แตะ.
แตะ.
แตะ.
ทันทีที่เขาได้ยินเสียงที่สาม มหาปุโรหิตก็บีบเสียงของเขา
[มหาปุโรหิต] “คุณทำแบบนี้ไม่ได้! คุณไม่สามารถทำสิ่งนี้กับผู้รับใช้ของพระเจ้า……!”
แต่นั่นคือทั้งหมดที่เขาสามารถจัดการได้
ราวกับว่าเสียงจังหวะเหล่านั้นเป็นสัญญาณ ประตูห้องโถงต้อนรับก็ปิดลงดังปัง
[มหาปุโรหิต] “เดี๋ยวก่อน!”
ทันที มหาปุโรหิตและปุโรหิตที่เขาพามาด้วยหันหลังกลับ แต่ประตูที่ปิดสนิทยังคงปิดอยู่
[มหาปุโรหิต] “องค์หญิง เปิดประตู!”
ท่ามกลางสิ่งเหล่านี้ Rienne เป็นคนเดียวที่มหาปุโรหิตสามารถเกาะติดได้ คนป่าเถื่อนอาจไม่สามารถสื่อสารได้ตามปกติ แต่ Rienne ไม่ใช่
แม้แต่ราชวงศ์ Nauk ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำให้ผู้รับใช้ของพระเจ้าโง่เขลาเช่นนี้
[มหาปุโรหิต] “เจ้าหญิง!”
[Black] “ถ้าเธออยากให้ฉันเปิด ฉันจะเปิด”
แบล็คพูดช้าๆ ด้วยน้ำเสียงไร้ความรู้สึกตามปกติของเขา มันทำให้เขายากที่จะเข้าใจ แต่ถึงกระนั้น สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนอย่างมาก
Rienne เป็นคนเดียวที่สามารถควบคุมผู้นำของ Tiwakan ได้
[Rienne] “…….ขอบคุณสำหรับข้อเสนอ แต่เรายังอยู่ระหว่างการสนทนา คงจะดีที่สุดหากเราปิดมันไว้จนกว่าเราจะคิดออก”
Rienne ก็รู้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เธอทราบดีว่าแบล็กกำลังพยายามชี้แจงอะไรให้นักบวชชั้นสูงเข้าใจ
ตราบเท่าที่ Tiwakan ยังอยู่ High Priest ไม่สามารถพูดจาดูหมิ่น Rienne อย่างที่เคยทำมาก่อน
ไม่ ไม่ใช่แค่นั้น
ถ้าเขาต้องการจากไปอย่างปลอดภัย เขาก็ต้องการให้ Rienne ช่วย เพราะผู้นำของ Tiwakan จะไม่มีวันเปิดประตูเหล่านั้นเว้นแต่เธอจะขอให้เขาเปิด
[Rienne] “เอาล่ะ มาพูดกันให้ถูกเถอะ ทำไมเราต้องเลื่อนงานแต่งงานออกไป”
[มหาปุโรหิต] “. . ”
ใบหน้าของมหาปุโรหิตแข็งกระด้างเหมือนเหล็ก
เขาจะไม่พูดอีกต่อไปว่าการแต่งงานจำเป็นต้องเลื่อนออกไปเพราะพระเจ้าไม่สามารถทนต่อการดำรงอยู่ที่แปดเปื้อนของ Tiwakan
.
* * *
.
หลังจากนั้นการสนทนาก็จบลงโดยไม่มีข้อกังวลใดๆ
เมื่อจบการสนทนา มหาปุโรหิตก็กลายเป็นคนละคน เขาได้แต่พยักหน้าอย่างเชื่อฟังก่อนจะจากไปอย่างรวดเร็ว
แน่นอนว่ามีราคา
ดำยอมจ่ายค่าซ่อมขั้นบันไดให้วัดเต็มจำนวน ต่อจากนั้นมหาปุโรหิตจะทำคำปฏิญาณตามหน้าที่ที่ได้รับตำแหน่ง
งานศพที่ถูกขัดจังหวะถูกกำหนดให้เสร็จสิ้นในเย็นวันนั้นในโบสถ์ของ Castle Nauk โดยมีกลุ่มทหารรับจ้างของ Tiwakan ที่ได้รับมอบหมายให้เคลื่อนย้ายโลงศพ
บางอย่างทำให้เป็นไปไม่ได้สำหรับใครก็ตาม แม้แต่มหาปุโรหิตที่จะอ้างว่าพระเจ้าทรงทนไม่ได้กับ Tiwakan ที่ 'สกปรก' หาก ‘โสโครก’ ไม่หามโลงศพ ศพก็จะถูกปล่อยให้เน่าเปื่อยในวัดจนกว่าบันไดจะซ่อมเสร็จ
Rienne รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกับผลลัพธ์ที่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเคยเจรจาเรื่องต่างๆ เพียงฝ่ายเดียว โดยไม่ยอมลดข้อแม้แม้แต่ข้อเดียว
[Rienne] “นี่เป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงเล็กน้อย”
เมื่อมหาปุโรหิตและผู้ติดตามของเขาวิ่งหนีโดยมีหางอยู่ระหว่างขา มีเพียง Rienne และ Black เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในโถงต้อนรับ
[Rienne] “ฉันไม่นึกเลยว่านักบวชชั้นสูงจะขี้ขลาดขนาดนี้”
รอยยิ้มอันขมขื่นบนใบหน้าของ Rienne เผยให้เห็นถึงสิ่งที่เธอเคยผ่านมามากมาย
[ดำ] “ฉันดีใจที่คุณพอใจกับผลลัพธ์”
'ยินดี' ดูเหมือนจะไม่ใช่คำที่ถูกต้อง มันเป็นการแสดงออกที่อ่อนแอเกินไปที่จะอธิบายว่า Rienne รู้สึกอย่างไรในตอนนี้
[Rienne] “แต่ฉันคิดว่าคุณตกลงที่จะรับภาระทางการเงินมากเกินไป”
Rienne กล่าวเสริม เงยหน้าขึ้นมอง Black มันเป็นสิ่งที่อยู่ในใจของเธอตลอดเวลา
[Rienne] “คุณไม่ควรต้องจ่ายทั้งหมด แม้ว่ามหาปุโรหิตจะยืนกรานให้เลื่อนการแต่งงานออกไป”
[สีดำ] “ไม่เป็นไร ฉันมีมากพอที่จะใช้จ่ายในสิ่งที่ฉันต้องการ”
[Rienne] “แต่ก็ยัง…..”
มันแพงเกินไปที่จะพูดถึงมันอย่างไม่เป็นทางการ
[ดำ] “ฉันจะหยาบคายไปไหมถ้าจะบอกว่าไม่ต้องกังวลเรื่องเงินในอนาคต”
ริแอนน์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับ
[รีแอนน์] “……ไม่”
ความยากลำบากทางการเงินของ Nauk นั้นยืนยาวเกินกว่าจะภูมิใจได้เมื่อมาถึงจุดนี้ Rienne ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าพวกเขาจะอยู่ได้นานแค่ไหน
ในปีที่ผ่านมา สิ่งที่เธอทำได้คือพยายามผ่านพ้นไปวันแล้ววันเล่า—ภาวนาให้ฝนตกมากขึ้น
[Rienne] “ฉันไม่คิดว่ามันใช่”
[สีดำ] “งั้นก็ไม่ต้องห่วง”
มันวิเศษมากที่ได้ยินเขาพูดง่ายๆ
นั่นอาจเป็นสาเหตุที่ Rienne เริ่มเข้าใจเขาผิด เธอเริ่มคิดว่าเขาเป็นคนดีจริงๆ ว่าเขาอยู่เคียงข้างเธออย่างแท้จริงและกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเธอ
แต่เขาจะได้อะไรจากการเสี่ยงมากมายเพื่อให้แน่ใจว่างานแต่งงานนี้จะเกิดขึ้น?
[ดำ] “……ถ้าคุณทำได้ นั่นคือ”
Rienne กดความรู้สึกของเธอลงและพยักหน้า
ถ้าเวรอซกลับมา อะไรก็ตามที่แบล็คพยายามปกปิดก็จะถูกเปิดเผยอยู่ดี
จากนั้น….จนกระทั่งมันเกิดขึ้น…..ฉันคิดว่าไม่เป็นไรที่จะคอยปลอบใจเขา
อย่างน้อยอีกสักหน่อย
[Rienne] “ขอบคุณท่านลอร์ด Tiwakan เป็นเพราะคุณเองที่ทำให้ทุกอย่างเกี่ยวกับงานศพและงานแต่งงานเป็นไปอย่างราบรื่น”
[สีดำ] ". . ”
ขอบคุณ Rienne ที่มีต่อ Black ด้วยความจริงใจ เธอมีความหมายทุกคำ แต่แทนที่จะพูดกับเธออย่างใจดี เขากลับเงียบและจ้องไปที่ Rienne อย่างตั้งใจ
[Rienne] “คือ…..ทุกอย่างเรียบร้อยดี?”
[สีดำ] “น่าสนใจ” (2)
[Rienne] “คุณหมายความว่ายังไง”
[ดำ] “ฉันอยากได้ยินคุณพูดอีกครั้ง ฉันอยากรู้ว่าคุณจริงจังหรือเปล่า”
….คำขอบคุณของฉันไม่เพียงพอหรือ?
[Rienne] “ขอบคุณอย่างจริงใจ ฉันหมายความตามตรงและแท้จริง”
[สีดำ] “ไม่ใช่อย่างนั้น ฉันกำลังเกี่ยวกับงานแต่งงาน”
[Rienne] “มีอะไรผิดปกติหรือเปล่า?”
[สีดำ] “จริงหรือที่คุณไม่อยากรอช้า?”
[Rienne] “แน่นอน ฉัน……. อา."
สายเกินไปเพียงวินาทีเดียว Rienne ก็ตระหนักถึงความหมายเบื้องหลังคำพูดของเขา เมื่อถึงจุดหนึ่ง เธอเริ่มมองว่างานแต่งงานเป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
เมื่อคำพูดของ Rienne หยุดลง ริมฝีปากของเธอก็แยกออกเล็กน้อย ดวงตาของ Black กวาดสายตาไปทั่วใบหน้าของเธอ ราวกับว่าเขากำลังมองหาสัญญาณของการโกหกที่ซ่อนอยู่บนใบหน้าของเธอ
[สีดำ] “แน่นอน?”
[Rienne] “แน่นอน…..ฉันไม่อยากรอช้า”
[สีดำ] ". . ”
จากคำตอบของ Rienne แบล็คคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่ปากของเขาจะเริ่มขยับไปข้างใดข้างหนึ่ง
โอ้….
ตอนนี้ Rienne เป็นคนที่จ้องมอง
เขายิ้ม
มันเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ความแตกต่างนั้นมากเกินไปสำหรับ Rienne
ฉันไม่เคยเห็นเขาทำหน้าแบบนั้นมาก่อน
[ดำ] “ถ้าอย่างนั้นก็ไม่เสียเงิน
แบล็คพูดขณะที่ยิ้มค้างอยู่
ผู้ชายคนนี้สามารถพูดอะไรแบบนั้นได้… ด้วยใบหน้าแบบนั้น มันทำให้ดูเหมือนว่าเขามีความสุขจริงๆ ที่ได้แต่งงานกับเธอ ความคิดนี้ทำให้เธอรู้สึก… แปลก
ในอัตรานี้ Rienne จะเริ่มเข้าใจเขาผิดจริงๆ
คิดว่าเป็นคนดีก็เรื่องหนึ่ง….
..แต่ไปคิดว่าเค้าอาจจะชอบเราจริงมั้ย?
.
ตอนนี้งานแต่งงานเหลืออีกไม่กี่วัน
.
* * *
.
[ลินเด็น] “ไอ้งี่เง่านั่น!”
สแลม!
ลินเด็นไม่สามารถระงับความโกรธของเขาและทุบกำปั้นลงบนโต๊ะ เขย่าขวดหมึกและทำหมึกหกไปทั่ว ราฟิทเหลือบมองลงไปที่โต๊ะสกปรกแต่ยังคงเงียบ
ในที่สุดลินเด็นก็กัดฟันและดึงขวดหมึกที่ตกลงมาให้ตรง
[ลินเด็น] “เขาแก้ปัญหาเรื่องเลื่อนการแต่งงานธรรมดาๆ แบบนี้ไม่ได้เหรอ? เรื่องแบบนี้น่าจะง่ายสำหรับมหาปุโรหิต!”
ขั้นตอนที่
ลินเด็นลุกขึ้น หมุนโต๊ะที่เปื้อนหมึกแล้วเดินไปรอบๆ ห้อง
[ลินเดน] “มันช่วยไม่ได้ เราจำเป็นต้องหาคนอื่นที่สามารถทำสิ่งนี้ได้อย่างเหมาะสม”
เขาเสนอความคิดไร้สาระที่จะเปลี่ยนตำแหน่งมหาปุโรหิตอย่างลวกๆ จนราฟิตขมวดคิ้วและรีบเงยหน้าขึ้นมองเขา
[Rafit] “นั่นอะไรน่ะลุง?”
[ลินเดน] “ธุระของฉันกับเขาจบลงแล้ว เขาไม่มีประโยชน์อะไรกับฉันอีกแล้ว”
[Rafit] “แล้วคุณมีแผนจะเปลี่ยน High Priest อย่างไร”
[ลินเด็น] “คุณเป็นอะไรหรือเปล่า? สิ่งนั้นเป็นเรื่องง่ายสำหรับครอบครัวของเรา”
มหาปุโรหิตแห่ง Nauk เป็นตำแหน่งถาวร
เฉพาะเมื่อมหาปุโรหิตคนปัจจุบันสิ้นชีวิตเท่านั้นที่จะสามารถเลือกได้อีกคนหนึ่ง
สิ่งที่ลินเด็น ไคลน์เฟลเดอร์พยายามจะพูดคือเขาต้องการฆ่ามหาปุโรหิตคนปัจจุบัน… และเขาก็เคยทำเช่นนั้นในอดีตเช่นกัน
เท่านั้น
* * *
T/N: (1) ในหัวข้อนี้ ท่านกล่าวถึงมหาปุโรหิตว่าเป็น 'ปาก' เช่นเดียวกับในปากของพระเจ้า ด้วยเหตุนี้ ภัยคุกคามส่วนใหญ่จึงมีรากฐานมาจากการ “เปิดปาก” หรือการบังคับให้เปิดแทน ไม่มีสิ่งใดที่สมเหตุสมผลหรือฟังดูดีในภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องอธิบาย ดังนั้นส่วนใหญ่จึงต้องเขียนใหม่ แต่พลังงานยังคงอยู่
(2) เขาใช้คำที่มีความหมายถึงบางสิ่งที่ทั้งไม่น่าเชื่อเล็กน้อยแต่ก็น่าทึ่งเช่นกัน
ความคิดเห็นเกี่ยวกับดาว: สิ่งนี้นับเป็นแฟนฟิคชั่นของ Rienne ที่เป็นตัวเอียงหรือไม่?
ghost comment: ชอบคุยกับศิลปินเรื่องไม่ทำ CG ภาคนี้ ;_;