ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
อาเบลไม่ได้อยู่ในวิหารเทพธิดานานเกินไปเพราะเขามีเทพอัญเชิญ 5 อันดับติดตัวไปด้วย แต่ก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้พบกับลอร์แรนเป็นการส่วนตัว
“ลอร์เรน มีความตึงเครียดอย่างมากในทวีปตอนกลาง ฉันต้องรีบเสริมความสามารถให้เร็วขึ้น ดังนั้น เราอาจต้องเลื่อนการแต่งงานออกไป!” อาเบลพูดอย่างอ่อนโยน
“บราเดอร์อาเบล ฉันเข้าใจ” ลอร์เรนพยักหน้าเบาๆ
เธอกับอาเบลยังเด็ก ดังนั้นการแต่งงานจึงไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องทำทันที ถึงกระนั้น เธอรู้ว่า Abel ไม่มีทางเลือกนอกจากเพิ่มพลัง
เนื่องจากเธอได้รับเลือกให้เป็นนักบุญจากเอลฟ์ทั้งหมด เธอจึงไม่โง่
หากอาเบลยังคงกังวลหลังจากอัญเชิญระดับเทพ 5 ครั้ง ศัตรูของเขาจะต้องแข็งแกร่งมาก
เธอไม่ต้องการเข้าไปขวางทางอาเบล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออาเบลห่างเหินไปอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
“ถ้าคุณตกอยู่ในอันตราย โทรหาฉันได้ทุกเมื่อ แล้วฉันจะส่งความช่วยเหลือ!” อาเบลยังคงอยู่
“บราเดอร์อาเบล คุณต้องระวังด้วย ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นศัตรูของคุณ แต่ฉันรู้ว่าคุณจะต้องชนะ คุณมีพลังมากที่สุดเสมอ!” ลอร์เรนกระซิบ
โดยพื้นฐานแล้วเธอบอกว่าอาเบลมีพลังมากกว่าเทพีแห่งดวงจันทร์ ซึ่งอาจสร้างปัญหาได้หากเอลฟ์คนอื่นได้ยินเธอ
“อย่ากังวลเกี่ยวกับฉัน หากคุณคิดถึงบ้าน คุณสามารถมาใช้วงเวียนซุปเปอร์เทเลพอร์ตของฉันได้ทุกเมื่อ ฉันเพิ่งสร้างใหม่ในปราสาทแฮร์รี่!” อาเบลลดเสียงลงและยิ้ม
"จริงหรือ?" ลอร์เรนอ้าปากค้าง
แม้จะเป็นนักบุญเอลฟ์ มันไม่ง่ายสำหรับเธอที่จะใช้วงซุปเปอร์เทเลพอร์ต เมื่อพิจารณาถึงค่าใช้จ่ายแล้ว
เป็นเวลานานแล้วที่ลอร์เรนมาถึงทวีปกลาง และเธอไม่เคยกลับมาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
เธอมีความสุขมากอยู่แล้วที่น้องสาวของเธอมาด้วย และข่าวของอาเบลก็ทำให้เธอตื่นเต้นมากยิ่งขึ้น
“ภารกิจของคุณในตอนนี้คือฝึกฝนวัตถุศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ให้เชี่ยวชาญและทำให้พวกเขารู้ว่าคุณเป็นเจ้าของ!” อาเบลตบหน้าผากลอร์เรนเบา ๆ แล้วพูดต่อ
เนื่องจากเหล่าทวยเทพให้พวกมันออกมาเพราะอาเบล พวกมันจึงใช้พลังแห่งเจตจำนงจากวัตถุเหล่านั้น หากลอร์เรนไม่เชี่ยวชาญพวกมันอย่างรวดเร็ว พวกมันอาจถูกขโมยได้ง่าย
ท้ายที่สุดพวกเขาสามารถปกป้องเธอได้
“บราเดอร์อาเบล อยากเจอพี่สาวฉันไหม” จากนั้น Lorraine ก็นึกถึงพี่สาวของเธอขณะที่เธอลูบหน้าผากของเธอในขณะที่ Abel เคาะเธอ
“ฉันอยู่ที่นี่ไม่ได้นานเกินไป แต่ฉันจะเตรียมทรัพยากรให้พวกเขาหลังจากที่ฉันกลับมา!” อาเบลส่ายหัว
“ฉันจะขอบคุณแทนน้องสาวของฉัน!” ลอร์เรนยิ้ม
เธอรู้ว่ามีแหล่งข้อมูลการฝึกอบรมหลายประเภท สิ่งที่เธอเข้าถึงได้นั้นไม่มีอะไรเทียบได้กับยาของอาเบล
ด้วยการสนับสนุนของอาเบล น้องสาวของเธอจะเลื่อนระดับได้อย่างแน่นอน
หลังจากนั้น Abel ก็เทเลพอร์ตกลับไปยังที่ราบสูง Battlecry พร้อมหมายเรียกของเขาและปราสาททองคำ
ความปั่นป่วนที่เขาก่อขึ้นนั้นยิ่งใหญ่กว่าที่เขาคาดไว้มาก ในตอนแรก มีเพียงมังกรและสมาคมพ่อมดเท่านั้นที่รู้ว่าเขาได้รับหมายเรียกระดับเทพ ตอนนี้มันเป็นที่รู้กันทั่วไป
ถึงกระนั้น เขาก็ไม่มีเวลาสนใจมันทั้งหมด ในไม่ช้าเขาก็เข้าสู่การล่าถอย และการฝึกอีกรอบก็เริ่มขึ้น
วันต่อมาเป็นเรื่องธรรมดา แต่แน่นอนว่าผู้มีอำนาจทุกคนรู้ว่าความตึงเครียดกำลังก่อตัวขึ้นมากเพียงใด
ในเวลาเพียง 5 เดือน สหภาพพ่อมดได้เรียกพ่อมดระดับเทพขึ้นมาอีก 2 คน และมีจำนวนถึง 10 คน
สำหรับมังกร จำนวนเทพของพวกมันยังคงอยู่ที่ 4 แต่พลังของพวกมันยังคงเป็นแบบคอต่อคอเมื่อพิจารณาจากระดับเทพที่อยู่ข้างอาเบล
ถึงกระนั้นกับ 10 พ่อมดระดับเทพ สันติภาพทั้งหมดเป็นไปไม่ได้
หลังจากสงครามใหญ่สองสามครั้ง แนวหน้าแทบไม่มีใครรู้จัก ไม่มีอัญมณีให้ขุดอีกต่อไป และชีวิตทั้งหมดที่มีก็จางหายไปกลายเป็นตัวอ่อนจากขุมนรก
อย่างไรก็ตาม วันนี้มีบางสิ่งที่แตกต่างออกไป ทีมงานของคนแคระ 5,000 คนและพ่อมดสร้างวงกลมเวทมนตร์ 500 คนก้าวเท้าเข้าสู่แนวหน้าและเริ่มเดินทางไปยังอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์
เหนือพวกเขาคือพ่อมดระดับพระเจ้า 8 คน
ภารกิจของพวกเขาคือการสร้างปราสาท Howling ขึ้นใหม่ และใช้เวลาหลายเดือนในการเตรียมการ แม้ว่าคนแคระเหล่านั้นจะไม่รู้ว่าเหตุใดจึงเป็นคำสั่งโดยตรง
พวกเขาส่วนใหญ่รู้สึกปลอดภัยที่มีพ่อมดระดับเทพทั้ง 8 คอยปกป้อง แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่เห็นความจริงจังบนใบหน้าของพ่อมดเหล่านั้น
“สมิธ ถ้าอาณาจักรชั่วร้ายส่งอัศวินระดับเทพออกมาจริง ๆ เราอาจปกป้องคนแคระและพ่อมดคนงานพวกนั้นไม่ได้!” พ่อมดแมคฟีลดเสียงลง
เขารู้ดีว่าการต่อสู้ระหว่างระดับเทพจะคร่าชีวิตทุกคนที่อยู่รอบๆ
“มันเป็นคำสั่งโดยตรงจากประธานาธิบดีให้สร้างปราสาท Howling ขึ้นใหม่ หากปราศจากการทำให้ศรัทธาของ Evil Kingdom หมดไป พวกเขาก็จะมีแต่ได้รับพลังมากขึ้นเท่านั้น!” พ่อมดสมิธพูดอย่างช่วยไม่ได้
มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกของเขา แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้รับการติดต่อจากประธานาธิบดีเป็นเวลานาน แต่ภารกิจที่เขาส่งต่อยังคงต้องปฏิบัติตาม
หากย้อนกลับไปในสมัยที่ประธานสมาพันธ์พ่อมดไม่ยืนกรานที่จะสร้างปราสาทข้างปีกผู้พิทักษ์แม้ว่าจะต้องเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ตาม ไม่มีทางที่พวกเขาจะมีชื่อเสียงยาวนานนับพันปี
นับตั้งแต่ที่ปราสาท Howling Castle ถูกทำลาย สหภาพพ่อมดได้เริ่มแผนการที่จะสร้างมันขึ้นมาใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทคโนโลยีของคนแคระเพิ่งก้าวหน้าไปในช่วงไม่กี่ปีมานี้
เนื่องจากคนแคระได้สร้างชิ้นส่วนทั้งหมดที่พวกเขาต้องการแล้วในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา พวกเขาจึงต้องการเวลาเพียง 4 ชั่วโมงในการประกอบชิ้นส่วนอย่างปลอดภัย
ปราสาท Howling แห่งใหม่นี้สร้างขึ้นเพื่อให้พ่อมดระดับเทพเป็นผู้ควบคุม สิ่งนี้ทำให้พวกเขามีอำนาจที่จะรั้งอัศวินระดับเทพไว้สองสามตัว ซึ่งสามารถซื้อเวลาได้เพียงพอสำหรับพ่อมดระดับเทพคนอื่นๆ ที่จะมาสนับสนุน
แน่นอนว่าด้วยปราสาท Howling Castle แห่งใหม่นี้ พ่อมดระดับพระเจ้าในกำแพงป้องกันแห่ง Doomsday ก็สามารถกลับไปที่สำนักงานใหญ่ของสหภาพได้เช่นกัน
“หวังว่าพวกเราทั้ง 8 คนจะสามารถข่มขู่อัศวินระดับเทพได้มากพอที่จะไม่โจมตีพวกเขา!” พ่อมดมอสลีย์ลดเสียงลง
“ไม่ว่ายังไงก็ตาม เราไม่สามารถปล่อยให้อัศวินพวกนั้นเอาส่วนประกอบของปราสาท Howling ไปได้ แม้ว่าคนงานคนแคระและพ่อมดจะตายทั้งหมดก็ตาม!” พ่อมดสมิธเตือน
ส่วนประกอบเหล่านั้นทั้งหมดทำด้วยวัสดุที่มีค่ามาก เพียงพอที่จะสร้างหอคอยเวทมนตร์ระดับพระเจ้าได้สองสามแห่ง แน่นอนว่าพวกมันมีค่ามากกว่า
ยิ่งไปกว่านั้น พ่อมดระดับพระเจ้าที่มีชีวิตอยู่นับพันปีไม่ได้สนใจชีวิตและความตายของผู้อื่นมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสิ่งมีชีวิตระดับต่ำ
พ่อมดระดับพระเจ้าพยักหน้าด้วยใบหน้าที่ว่างเปล่า เช่นเดียวกับหุ่นเชิดคนแคระเหล่านั้น
ในขณะเดียวกัน นักบุญนั่งอยู่ในวิหารกลางของอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ แต่ไม่เหมือนเมื่อก่อน มี 6 ที่นั่งเหมือนกันอยู่ข้างละเขา
พวกเขาได้เรียกอัศวินระดับเทพขึ้นมาอีกตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา และตอนนี้พวกเขามีอัศวินระดับเทพทั้งหมด 6 คน
นอกจากผู้จัดการคนใหม่ของแผนกสืบสวนแล้ว อัศวินบ้าคลั่ง ไอแซค นักบุญ และอัศวินระดับเทพทั้ง 6 คนก็เป็นเพียงคนเดียวในวิหาร
เนื่องจากพ่อมดระดับเทพปรากฏตัวขึ้นมากมาย สงครามระดับเทพจึงเป็นสิ่งจำเป็น
“นักบุญของฉัน มาโจมตีกันเถอะ! เราปล่อยให้พวกเขาสร้างปราสาทหอนขึ้นใหม่ไม่ได้!” พระเจ้ายศอัศวินที่คริสเตียนเสนอ
“อัศวินคริสเตียน เรายังไม่ทราบว่าอัศวินเคนส์ถูกจับหรือถูกฆ่าได้อย่างไร ดังนั้นการเริ่มต้นสงครามตอนนี้จึงไม่ใช่เวลาที่ดี!” นักบุญล้มเหลวหลายครั้ง และเขาไม่ต้องการทำอะไรที่ไร้เหตุผล
อีกครั้ง.
ท้ายที่สุด อัศวินระดับเทพ 2 คนก็หายไปจากมือของเขา
วิหารกลางเคยเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด แต่ถึงกระนั้น อัศวินระดับเทพก็ถูกสังหารภายในนั้น
“นักบุญของฉัน เราเหลือคริสตัลศักดิ์สิทธิ์ไม่มากนัก เมื่อปราสาท Howling ถูกสร้างขึ้นใหม่และเริ่มสูญเสียศรัทธาของเรา การผลิตคริสตัลศักดิ์สิทธิ์ของเราจะลดลงอีก เราไม่สามารถปล่อยให้มันเกิดขึ้น เราต้องมีเพียงพอ
คริสตัลศักดิ์สิทธิ์สำหรับลอร์ดเพื่อใช้เมื่อเขาฟื้นคืนชีพ!” อัศวินบัลแม็งระดับพระเจ้ายืนขึ้นและโค้งคำนับ
“นักบุญของฉัน พวกเขากำลังสร้างปราสาท Howling ไม่ไกลจาก Guardian Wings เราได้เปรียบมากแม้จะมีพ่อมดระดับพระเจ้า 8 คน ดังนั้นโปรดอนุญาตให้เราโจมตี!” ฮัคส์อัศวินระดับพระเจ้าเพิ่มเข้ามาด้วย
นักบุญมองไปรอบๆ ดูเหมือนอัศวินทุกคนต้องการต่อสู้
เขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ แม้ว่าเขาจะยังมีอำนาจอยู่บนกระดาษ แต่ความเคารพที่อัศวินระดับเทพเหล่านั้นมีต่อเขาลดลงอย่างมากเนื่องจากอัศวินระดับเทพ 2 คนเสียชีวิต แม้ว่าอัศวินเหล่านั้นจะเสียชีวิตไปแล้วก็ตาม
เพราะความผิดของพวกเขาเอง นักบุญยังคงต้องรับผิดชอบบางอย่าง
ถ้ามันยากนักที่จะเลือกฑูตแห่งทวยเทพอีกคนเพื่อบ่มเพาะ อัศวินเหล่านั้นอาจทำไปแล้ว
“ตกลง ภารกิจคือหยุดการสร้างปราสาท Howling ขึ้นใหม่ อย่าต่อสู้กับพ่อมดระดับเทพนานเกินไป และระวังพวกมันจะโต้กลับ!' นักบุญมองไปรอบ ๆ อีกครั้งและพยักหน้า
“ใช่นักบุญของฉัน!” การจ้องมองที่สังหารเป็นประกายในดวงตาของอัศวินขณะที่พวกเขาเรียก
แน่นอน การต่อสู้คืออาชีพของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร
ส่วนพระอรหันต์ก็หน้าตาไม่ดี ถ้าเขาเลือกได้ เขาจะเลือกที่จะไม่โจมตีอย่างแน่นอน
“ฮ่าฮ่า มันควรจะเป็นเช่นนี้ตั้งแต่แรก นักบุญผู้ไร้ประโยชน์ผู้นี้ไม่มีเรี่ยวแรง!” อัศวินบัลแม็งหัวเราะเมื่อเขาก้าวออกจากวิหาร
“เงียบ Balmain เขายังคงเป็นทูตของพระเจ้า คุณต้องเคารพ!” อัศวินระดับพระเจ้า เดมินสเตอร์ลดเสียงลง
แต่น้ำเสียงของเขายังคงแสดงอาการประชดประชันเล็กน้อย
ท้ายที่สุดแล้ว อัศวินศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากเกินไปจากระดับตำนานไปจนถึงระดับเทพได้เสียชีวิตภายใต้คำสั่งของนักบุญ
หากเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวหรือสองครั้ง คุณอาจเรียกมันว่าอุบัติเหตุ แต่มันก็เกิดขึ้นหลายครั้งเกินไป ไม่ต้องพูดถึง คริสตัลศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากถูกขโมยไป และแม้แต่อุปกรณ์ของปีศาจจากแดนไกลก็ถูกขโมยไป บาปของเขาสามารถ
ไม่ได้รับการให้อภัย
ถึงกระนั้นอัศวินระดับเทพก็ต้องเชื่อฟังตราบเท่าที่นักบุญยังคงอยู่ในตำแหน่ง
“วันนี้เรามาต่อสู้กันให้ดีแล้วแสดงให้นักบุญเห็นว่าเขาผิด!” อัศวินระดับพระเจ้าเฟลิกซ์ยิ้ม
"ถูกตัอง!" อัศวินระดับเทพทั้ง 6 สบตากันแล้วร้องเรียก
จากนั้นพวกเขาก็เร่งความเร็วไปที่วงกลมเทเลพอร์ตและปรากฏตัวข้างนอก พวกเขามองไปที่ตำแหน่งที่ตั้งของปราสาท Howling การก่อสร้างได้เริ่มขึ้นแล้ว
“ฉันรู้สึกได้ว่าเลือดของฉันลุกโชน มันคือสงครามระดับเทพ!” อัศวินบัลแม็งหยิบดาบและโล่ออกมา ขณะที่เขาเสกโล่ศักดิ์สิทธิ์ให้กับตัวเอง เขาตะโกน..