บทที่ 1410 วินเทอร์โฮฟ
แปลโดยจิม
แก้ไขโดย RED
ทันทีที่อาเบลกลับมายังอาณาจักรของดอฟฟ์ เขาก็เข้าไปในห้องฝึกฝนและเข้าสู่โลกมืดเพื่อฝึกฝนทุกวัน
เขากลับมาในเช้าวันรุ่งขึ้นและเห็นเทพเจ้าแห่งหมอกดำยังคงเรียนรู้จากดอฟฟ์ ทันใดนั้นเขาก็นึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรไป
ผ้าคลุมหมอกดำ! เนื่องจากมันเป็นวัตถุโบราณของเทพเจ้าแห่งหมอกดำ มันสามารถช่วยให้เขาเลื่อนระดับได้!
อาเบลเชื่อมต่อกับเทพเจ้าแห่งหมอกดำและสั่งเขาว่า “จำไว้!”
เหนือ Crazy Heart Valley…
เทพแห่งความตายกำลังเสริมความแข็งแกร่งให้กับอาณาจักรของเขาด้วยตำราศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งที่พระเจ้าต้องทำหากพวกเขาต้องการเสริมความแข็งแกร่งให้กับตนเองและอาณาจักรของพวกเขา มันก็จริงสำหรับเทพแห่งความตายเช่นกัน และเขาก็รู้สึกชากับภารกิจทางโลกเหล่านี้แล้ว
ความสบายจะมอบให้กับคนที่ไม่มีความทะเยอทะยานเท่านั้น ดังนั้นอย่าคิดว่าการเป็นพระเจ้านั้นสบาย เช่นเดียวกับดอฟฟ์ เขาไม่ได้พักเลยแม้แต่วินาทีเดียวหลังจากที่เขากลายเป็นเทพเจ้า
ทันใดนั้น เทพแห่งความตายหยุดชั่วคราว มีบางอย่างแปลกเกิดขึ้นกับเสื้อคลุมสีดำที่เขาสวมอยู่
แท้จริงแล้วเสื้อคลุมสีดำบนตัวเขาเป็นของที่ระลึก แต่ไม่ใช่ของเขาเอง มันคือผ้าคลุมหมอกดำของเทพเจ้าแห่งหมอกดำ!
เสื้อคลุมอยู่กับเขามานับพันปี เขาแลกเปลี่ยนกับสมาคมพ่อมดเพราะเขาต้องการเข้าใจความลึกลับของมัน
ย้อนกลับไปเมื่อเทพเจ้าแห่งหมอกดำถูกจับเมื่อนานมาแล้ว เสื้อคลุมหมอกดำนี้ถูกวางไว้ในจอแสดงผลของสำนักงานใหญ่สหพันธ์พ่อมด
ห้อง.
เนื่องจากเขากลัวว่าเสื้อคลุมหมอกดำจะหายไปโดยปราศจากการควบคุมของเทพเจ้าแห่งหมอกดำ เทพแห่งความตายจึงไม่เคยตั้งตนเป็นเจ้าของมัน
แน่นอน เทพแห่งความตายไม่เคยเชื่อว่าเทพแห่งหมอกดำจะหนีไปได้ในวันหนึ่ง ดังนั้นเสื้อคลุมจึงเป็นของเขา!
ความคิดหนึ่งเกิดขึ้นกับเทพแห่งความตาย “เทพเจ้าแห่งหมอกดำฟื้นคืนชีพแล้ว!”
เขาตกตะลึง แต่เขาไม่สามารถหยุดการระลึกถึงเสื้อคลุมได้
เขารู้ว่าพระเจ้าแห่งหมอกดำน่ากลัวเพียงใดในสมัยนั้น ถ้าเขาไม่ปล่อยเสื้อคลุม เทพเจ้าแห่งหมอกดำอาจฆ่าออร์คทุกตัวในดินแดนที่ซื่อสัตย์ของเขา! เทพอื่นอาจไม่ทำแบบนั้น แต่เทพแห่งหมอกดำไม่มีศีลธรรม
ในไม่ช้า Black Fog Cloak ก็หายไปจากหลังของเขา เทพแห่งความตายยืนเปลือยกายอยู่ในอาณาจักรของเขา แต่เขาไม่สนใจ
เขารู้สึกอยากจะไปที่สมาคมพ่อมดเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่จู่ๆ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าอาเบลขโมยของบางอย่างจากสำนักงานใหญ่ของสมาคมพ่อมดเมื่อหลายวันก่อน “เป็นไปได้ไหม..?”
ในขณะที่เทพแห่งความตายยังคงคิดอยู่ ประชากรของอาณาจักรกีบฤดูหนาวก็เริ่มโห่ร้อง
เช้าวันนั้น เมื่อทูเรนคนแรกก้าวออกจากเต็นท์ เขาเห็นผืนสีเขียวและความชื้นเริ่มกลับมาตามสายลม
มันเกือบจะเหมือนกับโลกของพวกเขาได้รับการชำระล้างในชั่วข้ามคืน
ในวิหารซอมซ่อของอาณาจักรกีบฤดูหนาว ทูเรนชราผู้หนึ่งเห็นแสงระยิบระยับปรากฏขึ้นบนรูปปั้นเก่าแก่
มันเป็นวิหารสุดท้ายของเทพเจ้าแห่งหมอกดำ ถ้ามันดูหรูหรากว่านี้สักหน่อย สมาคมพ่อมดคงไม่ยอมให้มันไปไหนมาไหน
วัดนี้ยังคงได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวนักบวชอยู่เสมอ
ทันใดนั้นผู้เฒ่าเทาเรนก็คุกเข่าลงและเริ่มหัวเราะและร้องไห้ในเวลาเดียวกัน….
ในพระราชวังกีบฤดูหนาว สมเด็จโมบี้ก็ได้ทราบข่าวเช่นกัน เขารวบรวมเจ้านายของเขาและนักบวชเพียงสองคนของอาณาจักรกีบฤดูหนาว
“ข้าสัมผัสได้ว่าเทพแห่งหมอกดำผู้ยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว แต่ในขณะนี้อาจนำการเปลี่ยนแปลงที่คาดไม่ถึงมาสู่อาณาจักร โปรดปรึกษากันว่าเราควรทำอย่างไร!” คิงโมบี้พูดอย่างเคร่งขรึม
เนื่องจากความเชื่อของพวกเขาสูญเสียไปนานแล้ว มีเพียงไม่กี่คนที่เชื่อในเทพเจ้าแห่งหมอกดำ
มันเป็นกรณีของ King Moby เช่นกัน; เขาสนใจเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของอาณาจักรของเขามากขึ้น
“คิงโมบี้ เวลาของเรามาถึงแล้ว เทพเจ้าแห่งหมอกดำผู้ยิ่งใหญ่ได้นำโชคลาภกลับมาสู่ทุ่งหญ้าของเรา และอนาคตของเราจะสดใสเหมือนกับอาณาจักร Crazy Heart!” ลอร์ดทูเรนโค้งคำนับ
“ไม่ ถ้าตอนนี้เราเชื่อมั่นในเทพเจ้าแห่งหมอกดำ สมาคมพ่อมดจะมุ่งเป้าโจมตีเราและทำให้วันเวลาของเราแย่ลงไปอีก!” ทอเร็นอีกตัวส่งเสียงเข้ามา
การสนทนาก็เริ่มขึ้นและเสียงจากทั้งสองฝ่ายก็ดังขึ้น
ในแง่หนึ่งพวกเขาต้องการที่จะยอมรับเทพเจ้าแห่งหมอกดำอีกครั้ง แต่อีกด้านพวกเขาไม่สามารถรับประกันได้ว่าสมาคมพ่อมดจะทำอะไรได้บ้าง
เมื่อการสนทนาเริ่มเข้มข้นขึ้น คิงโมบี้ก็คำราม “หุบปาก คุณคิดว่าคุณอยู่ที่ไหน” และพระราชวังก็กลับสู่ความเงียบ หลังจากนั้น เขาหันไปหานักบวชอาวุโสสองคนที่ไม่ได้พูดอะไรและถามพวกเขาว่า “คุณคิดอย่างไร”
“ราชาโมบี้ เจ้าคิดว่าพวกเราผู้ไม่มีนัยสำคัญสามารถแทรกแซงการตัดสินใจของเทพเจ้าได้หรือ?” นักบวชชื่อโดซงถามอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็ยิ้มให้ลอร์ดที่กำลังโต้เถียงกัน ราวกับว่าพวกเขาเป็นตัวตลก
“เทพแห่งหมอกทมิฬผู้ยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว และการเปลี่ยนแปลงที่เขานำมาสู่สภาพอากาศก็สังเกตเห็นได้ชัดเจน เราทุกคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ซื่อสัตย์ของเขา และคุณยังคงสงสัยว่าคุณควรศรัทธาในตัวเขาหรือไม่” เขาพูดต่อ
เมื่อพิจารณาว่าวิหารแห่งเดียวนั้นโทรมเพียงใด ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าเทพเจ้าแห่งหมอกดำจะปฏิบัติต่อพวกเขาอย่างดีหลังจากที่เขาฟื้นคืนชีพได้ไม่นาน
เทพเจ้าแห่งหมอกทมิฬสามารถควบคุมความซื่อตรงของเขาได้อย่างเต็มที่ และเขาสามารถสังหารคนที่ไม่ซื่อสัตย์ได้อย่างง่ายดาย!
“ถ้าทุกอย่างเป็นไปอย่างนั้น เราจะโทรหาสมาคมพ่อมดเพื่อขอความช่วยเหลือ!” ลอร์ดทูเรนแนะนำ
ความเกลียดชังต่อเทพเจ้าแห่งหมอกดำเป็นส่วนหนึ่งของเขา และเทพเจ้าแห่งหมอกดำในอาณาจักรของดอฟฟ์ก็รับรู้ได้ทันที
ความไม่พอใจต่อพระเจ้าในดินแดนที่ซื่อสัตย์ของพวกเขาเป็นเหมือนแสงเทียนในความมืด และเทพเจ้าแห่งหมอกดำก็ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากดอฟฟ์แล้ว เขารู้ว่าต้องทำอะไร
ทันทีที่เจ้านายคนนั้นพูดจบ หมอกสีดำก็ปรากฏขึ้นบนตัวเขา และเขาก็ทรุดตัวลงคุกเข่าร้องขอชีวิตทันที!
อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ได้หยุดอะไรไว้ และหมอกไร้น้ำหนักก็กดทับเขาราวกับภูเขา บดขยี้เขาให้ราบเรียบ
หลังจากนั้นไม่มีใครพูดอะไรสักคำ และลอร์ดทุกคนที่คิดจะต่อต้านเทพเจ้าแห่งหมอกทมิฬก็ตัวสั่น
“ในพื้นที่ที่ซื่อสัตย์ของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ที่กบฏคือผู้ที่ตาย!” Priest Doson กล่าวอย่างเย็นชา
เขาไม่สนใจแม้แต่น้อยว่าเทพเจ้าแห่งหมอกดำจะกลับมาหรือไม่ ในฐานะนักบวชที่อยู่จุดสูงสุด แม้แต่พระเจ้าก็ไม่อาจช่วยให้เขาเลื่อนระดับได้อีก แต่เขาก็ยังต้องการให้สาวกของเขามีชีวิตที่ดี ดังนั้นเขาจะไม่ต่อต้านพระเจ้าของ
หมอกดำ.
“ประกาศ! เทพเจ้าแห่งหมอกดำผู้ยิ่งใหญ่กลับมาแล้ว และผู้ติดตามทั้งหมดของเขาจะมีชีวิตอยู่ตลอดไป!” King Moby ออกคำสั่งทันที
หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้ว่าพวกเขาไม่มีทางเลือก!
เทพแห่งความตายได้ทำพิธีจากสวรรค์และบินไปยังทุ่งหญ้ากีบฤดูหนาว
แค่มองจากระยะไกล เขาก็รู้ว่าเทพเจ้าแห่งหมอกดำฟื้นคืนชีพแล้ว และทุ่งหญ้ากีบฤดูหนาวก็ถือกำเนิดขึ้นใหม่
ในอีกสองวันต่อมา อาณาจักรเครซี่ฮาร์ทได้เปลี่ยนนโยบายหลายอย่างเกี่ยวกับอาณาจักรกีบฤดูหนาว
สิ่งสำคัญที่สุดในบรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรสำหรับนักบวช อาณาจักร Winter Hoof ถูกบังคับให้ส่งออกทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมากไปยังอาณาจักร Crazy Heart แต่ตอนนี้พวกเขาจะทำอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น
เทพแห่งความตายตอบสนองโดยสัญชาตญาณ เขากลัว กลัวหมอกสีดำเก่าที่คลุ้มคลั่งเมื่อนานมาแล้ว…
สหภาพพ่อมดก็ได้รับข่าวเช่นกัน แม้ว่าฝ่ายสืบสวนของพวกเขาจะได้รับผลกระทบอย่างมากก็ตาม
แต่พวกเขาลังเลเพราะเวลาไม่ตรงกัน
พวกเขารู้ดีว่าใครจับเทพเจ้าแห่งหมอกดำได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเขาเซ็นสัญญากับอาเบลแบบไหน แต่การเคลื่อนไหวในตอนนี้อาจยั่วยุอาเบลได้
ประการที่สอง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจำกัดความสามารถของสมาคมพ่อมดในการเริ่มสงครามระดับพระเจ้าภายในทวีปตอนกลาง ปราสาทหอนถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่จำนวนอัศวินระดับพระเจ้าในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นเป็นเจ็ดคน ซึ่งเป็นภัยคุกคามอย่างมาก!
ประการที่สาม ดินแดนที่ซื่อสัตย์ของเทพเจ้าแห่งหมอกดำนั้นไม่มีอะไรใหม่ มันอยู่ที่นั่นเสมอ และสิ่งที่เทพเจ้าแห่งหมอกดำทำก็แค่เปลี่ยนมันเล็กน้อย
พวกเขาไม่สามารถให้อาเบลสร้างปัญหาให้กับบางสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายพันปีก่อนได้ แต่ถึงกระนั้น พวกเขารู้ว่าตอนนี้อาเบลได้รับเทพนักรบอีกสององค์ที่อยู่ข้างกายเขา
พวกเขาน่ากลัวแค่ไหน? แค่ดูที่ดอฟฟ์ เทพแห่งสงคราม เขาไม่ใช่สิ่งที่พ่อมดระดับเทพคนเดียวจะต่อกรได้!
แม้ว่าพวกเขาจะไม่คำนึงถึงมังกร แต่อาเบลคนเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้พวกเขาคิดใหม่ ถ้าพวกเขาไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าจะสามารถฆ่าอาเบลได้ พวกเขาก็อยากรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับเขาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เป็นศัตรูกันอย่างไร พวกเขาปลดปล่อยการต่อสู้ระดับพระเจ้าเกือบทุกสองสามวัน และแม้แต่พ่อมดระดับพระเจ้าก็ยังเหนื่อยล้าจากมัน
หากพวกเขาเริ่มทำสงครามกับอาเบลด้วย พวกเขาจะต้องเจอปัญหาใหญ่แน่ๆ!
ขณะที่ทั้งหมดนี้กำลังเกิดขึ้น อาเบลไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเพิ่งรู้ว่าเขาได้รับผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากมายจากทุ่งหญ้ากีบฤดูหนาว
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ซื่อสัตย์มากนัก แต่เขาก็ยังมีความสุขเพราะเขาได้รับผู้ติดตาม tauren ใหม่นับแสนเกือบทุกวัน!
ท้ายที่สุดแล้ว อาณาจักรกีบฤดูหนาวก็ยิ่งใหญ่มาก ผู้ติดตามของ God of Black Fog อาจมีจำนวนถึงพันล้านคน เทพโจรมิลตันสามารถพาผู้ติดตามใหม่มาได้ถึงยี่สิบล้านคนแม้ว่าจะสังหารในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์เป็นเวลานานก็ตาม!