ตอนที่ 755: เจ้าชายถูกโจมตี
ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
อาณาจักรลาร์วิดตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอาณาจักรเซนต์เอลลิส มันอยู่ติดกับอาณาจักรเซนต์เอลลิส เนื่องจากทำเลที่ตั้ง ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมสำหรับขุนนางหลายคน
หุบเขาบาหูเป็นหนึ่งในสถานที่ที่สวยงามที่สุดในขุนนางแห่งลาร์วิด ค่าสิทธิของอาณาจักรเซนต์เอลลิสใช้เวลาอยู่ที่นั่นในช่วงวันหยุด และเป็นที่ที่พวกเขาสร้างปราสาทของตัวเองเพื่อใช้ในวันหยุด
เจ้าชายฮอเรซเป็นพระโอรสองค์โปรดของกษัตริย์แอมโบรส เขามีสุขภาพไม่แข็งแรงเท่าเดเร็กน้องชายของเขา แต่ความอ่อนแอของเขาทำให้เจ้าชายคนอื่นๆ ชอบเขา ในฐานะคนที่รับประกันว่าจะไม่สืบทอดบัลลังก์ คนอื่นๆ ไม่คิดว่าเขาเป็นภัยคุกคามหรือศัตรูด้วย แน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับดีเร็ก เขาเป็นเจ้าชายคนโตและเขาก็รักน้องชายคนเล็กของเขามาก
ตอนนี้ เจ้าชายฮอเรซอยู่ในปราสาทที่หุบเขาบาฮู ฤดูหนาวกำลังจะมาถึง ตามที่คาดไว้ เขาต้องนอนบนเตียงเนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอ แม้แต่พ่อมดก็ไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก ยาโพชั่นมีราคาแพงมากสำหรับเจ้าชาย แต่ผลข้างเคียงนั้นรุนแรงเกินกว่าจะรับได้
ยาส่วนใหญ่ที่ต้มในทวีปศักดิ์สิทธิ์ถูกปรุงโดยอัศวินและพ่อมด ยาโพชั่นมักจะมีขาย แต่มีหลายครั้งที่พวกเขาใช้เพื่อป้องกันตัวเอง พ่อมดที่ไม่มีร่างกายแข็งแรงจะใช้ยาที่ทำให้พลังแห่งเจตจำนงของพวกเขาแข็งแกร่งกว่าคนปกติทั่วไปหลายเท่า
อย่างไรก็ตาม เจ้าชายฮอเรซถูกส่งมายังสถานที่นี้เพื่อรักษาอาการป่วยของเขา มันเงียบ มุมมองที่ดี สิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ที่มีอยู่ทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีหัวหน้าอัศวินที่คอยดูแลความปลอดภัยของเขาอยู่เสมอ ชื่อของเขาคือดันมอร์ หัวหน้าอัศวินผู้ทรงพลังที่ใช้ธาตุน้ำแข็ง
เฉพาะเจ้าชายอันเป็นที่รักที่สุดเท่านั้นที่จะมีหัวหน้าอัศวินเป็นองครักษ์ส่วนตัวในทั้งสามอาณาจักรที่มีอยู่ โดยปกติแล้วจะมีเพียงสองประเภทเท่านั้นที่เหมาะกับเกณฑ์ดังกล่าว จะมีเจ้าชายที่จะสืบทอดบัลลังก์หรือผู้ที่พิสูจน์ตัวเองว่าสามารถเป็นพ่อมดได้ เจ้าชายฮอเรซเป็นกรณีพิเศษ เขาเป็นคนที่ได้รับความรักจากคนรอบข้าง และหัวหน้าผู้บัญชาการดันมอร์ก็อยู่กับเขามานานหลายปี
หัวหน้าผู้บัญชาการดันมอร์พูดขึ้น “ขออภัยด้วย แต่อุณหภูมิที่นี่ต่ำเกินไป มันอุ่นกว่ามากในห้องของคุณ”
เจ้าชายฮอเรซวิงวอนว่า “ได้โปรด ดันมอร์ ฉันจะไม่ป่วย! สิ่งที่แย่ที่สุดที่ฉันสามารถทำได้คือหิวมากขึ้นเล็กน้อย”
หัวหน้าผู้บัญชาการดันมอร์อดไม่ได้ที่จะส่ายหัวเมื่อได้ยินคำพูดนั้น เจ้าชายฮอเรซเพิ่งเริ่มดีขึ้น เขาถูกขังอยู่ในห้องนานเกินไป ดังนั้นเขาจึงหมดหวังที่จะออกไปข้างนอก
หัวหน้าผู้บัญชาการดันมอร์พยายามสุภาพ “ตกลง ฝ่าบาท อีกหน่อยแล้ว. อีกนิดเดียวเท่านั้น”
เจ้าชายฮอเรซตอบด้วยรอยยิ้มอันอบอุ่น เขาชอบอากาศที่มาจากภายนอก มันอบอุ่นในปราสาท แต่มันเป็นความอบอุ่นที่ทำให้เขารู้สึกเหมือนตาย เขาชอบความหนาวเย็น เขาไม่สามารถอยู่รอดได้หากต้องอยู่ในที่หนาวเย็นนานเกินไป แต่ความหนาวเย็นทำให้เขารู้สึกมีชีวิตชีวา
“แล้วเขาล่ะ”
เสียงมาจากเบื้องบน มันเป็นนักบวชออร์คขั้นกลาง เขากำลังคุยกับนักบวชออร์คขั้นกลางอีกตนหนึ่ง และทั้งคู่ก็ขี่นกกระจอกฟ้าของพวกเขาเอง
จริงๆแล้วไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีคนหามอีกสี่คนที่มีขวานคู่อยู่ในมือ พวกเขาขี่หมียักษ์ซึ่งเพียงพอที่จะจัดว่าเป็นกองทัพขนาดเล็ก ทักษะของพวกเขายังไม่เหมือนกับนักรบระดับสูง อย่างไรก็ตาม หากคนที่ส่งพวกเขาตัดสินใจที่จะส่งคนที่ดีกว่า นั่นจะดึงความสนใจไปที่ฉากมากเกินไป
ใส่แบบนี้ หากนักรบออร์คระดับสูงปรากฏตัวในดินแดนของมนุษย์ เห็นได้ชัดว่ามันจะทำให้เกิดความตื่นตระหนกอย่างมาก นั่นคือเวลาที่หัวหน้าอัศวินต้องเข้าแทรกแซง มันจะง่ายมากสำหรับพวกเขาที่จะตรวจจับการปรากฏตัวของนักรบออร์คที่เข้ามา ดังนั้นสำหรับออร์คแล้ว พวกมันจะไม่ข้ามพรมแดนเป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม มันแตกต่างออกไปสำหรับมนุษย์หมี พวกเขาไม่มีความสามารถในการสร้างพลังชี่ต่อสู้ แต่ร่างกายของพวกเขาจะมีความทนทานและทรงพลังอย่างมากเมื่อพวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ ด้วยวิธีนี้ พวกเขามีศักยภาพที่จะเป็นนักรบระดับสูงที่ไม่สามารถผลิตพลังฉีต่อสู้ใดๆ ได้ สำหรับการบุกรุกเข้าสู่โลกมนุษย์ลักษณะดังกล่าวได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสะดวกมาก
สำหรับพ่อมดระดับกลางที่อยู่บนท้องฟ้า การตรวจสอบการปรากฏตัวของพวกเขาคงไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน การเป็นพ่อมดที่ทรงพลังเป็นเรื่องหนึ่ง แต่การอยู่ในระดับกลางก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง อย่างที่กล่าวไปแล้ว พ่อมดขั้นสูงที่มนุษย์เตรียมไว้จะไม่สามารถตรวจจับผู้ที่ไม่ตรงกับระดับพลังของพวกเขาได้
นักบวชระดับกลางพูดอย่างเย็นชา “พร้อมดำเนินการ”
“ใช่” คนหามทั้งสี่ตอบ
"ดี. จำไว้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร ถ้าพวกเจ้าคนใดควบคุมความกระหายเลือดไม่ได้เมื่อเราอยู่ที่นั่น นายของเราก็จะโกรธมาก”
“เข้าใจแล้ว” คนแบกหมีตอบอีกครั้ง
นักบวชขั้นกลางชูป้ายคำสั่ง “นกกระจอกฟ้า! ฉันต้องการให้คุณลดระดับความสูงของเรา”
ด้วยคำสั่งนั้น นกกระจอกฟ้าก็หมุนถังขึ้นไปบนท้องฟ้าและพุ่งตรงไปยังปราสาทเบื้องล่าง
“การโจมตีของศัตรู!”
เสียงตะโกนมาจากหัวหน้าผู้บัญชาการดันมอร์ เขาต้องการบอกเจ้าชายฮอเรซให้กลับไปที่ห้องของเขา และเมื่อเขามองขึ้นไปบนท้องฟ้า ภาพสะท้อนของเขาบอกให้เขาโทรหาคนของเขา
ภายในชั่วพริบตา หัวหน้าผู้บัญชาการ Dunmore เปิดใช้งานการต่อสู้ Qi รอบตัวเขา ราวกับเสียงฟ้าร้องดังลั่นไปทั้งปราสาท ทุกคนที่อยู่ใกล้เคียงตกใจกับปรากฏการณ์นี้ จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งจับร่างของเจ้าชายฮอเรซ เขาอุ้มเจ้าชายฮอเรซด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
หัวหน้าผู้บัญชาการดันมอร์พุ่งถอยหลัง แต่ "กำแพงกระดูก" ขวางไม่ให้เขาไปไกลเกินไป เขาไม่สามารถไปถึงอาวุธของเขาได้ เขาไม่สามารถไปที่ม้าศึกของเขาได้เช่นกัน เมื่อเจ้าชายฮอเรซอยู่ในอ้อมแขนข้างหนึ่ง เขาสามารถต่อสู้ได้ด้วยมือข้างเดียว
เมื่อปราณชี่สีขาวพุ่งผ่านดาบใหญ่ของอัศวินในมือ เขาก็ฟันเข้าที่กำแพงกระดูกที่ขวางทางเขาอย่างแรง ในเวลาเดียวกัน เมฆคำสาปก็ปรากฏขึ้นบนศีรษะของเขา ฝนคำสาปสีแดงเริ่มโปรยปรายลงมาบนตัวเขา ซึ่งทำให้แสงคำสาปปรากฏบนศีรษะของเขาและเจ้าชายฮอเรซ
หัวหน้าผู้บัญชาการดันมอร์หรี่ตาด้วยความเจ็บปวด “ไอ้พวกนักบวชและคำสาปของพวกมัน!”
เขาเป็นนักสู้ที่มีประสบการณ์ เขาต่อสู้กับออร์คนักบวชหลายครั้ง เขาเข้าใจวิธีการทำงานของคำสาป และเนื่องจากเขาเป็นอัศวินฝ่ายป้องกัน เขาจึงต้องแน่ใจว่ามีเวลาให้เขาโต้กลับเสมอ มันเป็นเหตุผลที่เขาไม่ได้รับผลกระทบจากคำสาปที่ร่ายใส่เขา แต่ถ้าเขาไม่สามารถโจมตี "กำแพงกระดูก" ได้ นั่นหมายถึงเขาไม่สามารถเข้าไปในป้อมและรับความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ได้
หัวหน้าผู้บัญชาการดันมอร์ผลักเจ้าชายฮอเรซไปด้านหลัง “ฝ่าบาท! โปรดยืนข้างหลังฉัน ด้วยวิธีนี้ ตราบใดที่ฉันไม่ตาย คุณจะไม่ได้รับความเสียหายใดๆ”
หลังจากพูดอย่างนั้น เขาก็เอาโล่ที่วางอยู่บนหลังของเขาลง ตอนนี้เขาและเจ้าชายฮอเรซเอาหลังพิงกำแพงป้อม ในเวลานี้เองที่นกกระจอกฟ้ายักษ์ปรากฏตัวขึ้น
คนแรกที่กระโดดลงมาคือคนแบกหาม พวกเขาทั้งหมดขี่หมียักษ์ของพวกเขาลงไป และทันทีที่พวกเขาลงจอด พวกเขาก็เริ่มพุ่งตรงไปที่หัวหน้าผู้บัญชาการดันมอร์ เพื่อป้องกันสิ่งนี้ หัวหน้าผู้บัญชาการ Dunmore ได้สร้างน้ำแข็งบนโล่ที่เขาถืออยู่ด้านหน้า ยิ่งเขาขยายออกไปมากเท่าไหร่ เขาและเจ้าชายฮอเรซก็ยิ่งซ่อนอยู่หลังกำแพงน้ำแข็งมากขึ้นเท่านั้น
แตกต่างจากคนหามทั่วไป คนหามที่มีแกนคู่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก แทนที่จะอาศัยเทคนิคการต่อสู้ พวกเขาใช้กำลังดุร้ายเพื่อทะลวงผ่านการป้องกันใดๆ ที่ศัตรูสร้างขึ้น
คราวนี้พวกเขาใช้ขวานฟันไปที่กำแพงน้ำแข็ง อย่างไรก็ตามมันไม่ได้ผลมากนัก ทุกครั้งที่พวกมันบิ่นออกไปเล็กน้อย หัวหน้าผู้บัญชาการ Dunmore ก็จะเกิดน้ำแข็งมากขึ้นในจุดเดิม