ตอนที่ 764: เพื่อรับรางวัล
ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
สำหรับนักบวชออร์คขั้นสูงของอาณาจักรออร์ค ไม่สำคัญว่าอาเบลจะสังหารออร์คกี่ตัวในสนามรบออร์ค เขาสามารถยับยั้งแผนการบุกรุกของอาณาจักรออร์คได้ด้วยวิธีที่เขาต้องการ และมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาในทางตรง
นักบวชออร์คขั้นสูงสามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน พวกเขามีเวลาอีกมากที่จะรอให้ Orc Empire ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง ในความเป็นจริง การมีออร์คตายจำนวนมากอาจช่วยลดปัญหาการขาดแคลนผลผลิตได้ แม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะไม่เสียชีวิตทันที ความอดอยากจำนวนมากก็ยังพรากชีวิตพวกเขาไป
ถึงกระนั้น อาเบลก็ทำลายโบราณวัตถุศักดิ์สิทธิ์ นั่นคือสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถทนได้ มันเป็นการกระทำที่คุกคามผลประโยชน์หลักของพวกเขา และพวกเขาก็เต็มใจที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อล่อให้เขามาที่อาณาจักรออร์ค มันเป็นมาตรการที่สิ้นหวัง พูดตรงๆ เนื่องจากภูเขาบูดาเปสต์เป็นข้อยกเว้น นักบวชขั้นสูงจะถูกตรวจจับได้เสมอหากพวกเขาพยายามเหยียบดินแดนมนุษย์
อีกครั้ง ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับการต่อสู้เต็มรูปแบบระหว่างนักบวชออร์คระดับกลางถึงระดับสูงและพ่อมดขั้นสูง นอกเหนือจากนั้น ปราสาทแฮร์รี่ของอาเบลเคยฆ่าพ่อมดขั้นสูงสามคนมาก่อน ดังนั้นพวกออร์คจึงไม่ค่อยมั่นใจในการโจมตีโดยตรงอยู่ดี
เมื่อนักบวชขั้นสูงรู้ว่าอาเบลมีอัศวินกริฟฟินสี่ตัวได้อย่างไร พวกเขาก็เริ่มวิเคราะห์บุคลิกของเขาอย่างจริงจัง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พวกเขาก็วางแผนโดยใช้กริฟฟินเป็นเหยื่อล่อ
ตอนนี้ ในแวดวงสันโดษของมนุษย์สองวง มีนักบวชออร์คขั้นสูงทั้งหมดหกคน ถ้าอาเบลกล้าพอที่จะพุ่งเข้าใส่ทันที นั่นคงเป็นนักบวชออร์คขั้นสูงหกตัวที่จะรุมล้อมเขา เขาไม่มีทางรู้เรื่องนั้นเลยจริงๆ เขาสงสัยว่ามีกองกำลังพิเศษซ่อนอยู่ในกับดักนี้ แต่เขาก็ไม่ได้คิดมากเรื่องนี้
ถึงกระนั้นก็เพื่อความปลอดภัย Abel สวมเสื้อคลุมล่องหนด้วยตัวเอง ด้วยแถบคาดศีรษะที่ติดกับฮู้ดของเขา พลังแห่งเจตจำนงของเขาถูกบัฟจาก 300 เป็น 600
“ต่ำลงมา เมฆขาว!” อาเบลออกคำสั่ง ในไม่ช้าพวกเขาก็อยู่ห่างจากพื้นประมาณหนึ่งร้อยเมตร แรงดันลมแรงพอที่จะพัดฝุ่นจากด้านล่าง
“นี่คืออะไร?” บาทหลวงไซรัสถามว่า “ทำไมจู่ๆ ถึงมีลมแรง”
บาทหลวงดาเนียลส่ายศีรษะ “มันค่อนข้างแปลกสำหรับฉัน เราควรไปตรวจสอบด้วยกัน”
นักบวชขั้นสูงสามารถลองทุกอย่างที่พวกเขาต้องการ แต่เมฆขาวมองไม่เห็น แม้ว่าจะไม่สามารถซ่อนแรงดันลมที่มาจากปีกยักษ์ที่กระพือได้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นร่างของมันหรือตรวจจับการปรากฏตัวของมันได้ มันไม่ใช่สัตว์วิญญาณที่เก่งกาจในการต่อสู้ แต่มันมีข้อดีอื่น ๆ ที่จะทำให้มันถูกจัดประเภทเป็นสัตว์ร้ายในตำนาน
Abel อยู่บนหลังของ Balck Wind แล้ว เป้าหมายของเขาคือกริฟฟินส์ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องต่อสู้กับออร์ค มันจะประสบความสำเร็จตราบเท่าที่เขาสามารถพากริฟฟินกลับไปกับเขาได้
“ลมดำ!” อาเบลตะโกน “เคลื่อนไหวทันที!”
หลังจากเปิดใช้งานความสามารถพื้นฐาน Black Wind ก็หายตัวไปจากหลังของ White Cloud พร้อมกับ Abel จากนั้นพวกเขาก็ปรากฏตัวที่สนามที่กริฟฟินถูกจับ เนื่องจาก Abel อยู่ในชุดคลุมล่องหนอยู่แล้ว เขาและ Black Wind จึงล่องหนก่อนที่คาถาการเคลื่อนไหวทันทีจะทำงาน
ถึงกระนั้น ทันทีที่เขาปรากฏตัวในสนาม พวกกริฟฟินก็เริ่มสังเกตเห็นบางสิ่ง อย่างไรก็ตามพวกเขาอดอยาก โดยปกติแล้ว พวกเขาจะตื่นตระหนกมากกับการปรากฏตัวแบบนี้ แต่พวกเขาอ่อนแอเกินไปที่จะแสดงปฏิกิริยามากมาย
หัวหน้ากัปตันทีมหมาป่าร้องโหยหวน “อย่าขยับ เจ้าแมลงบิน!”
หัวหน้ากัปตันทีมหมาป่าคนนี้อารมณ์ไม่ดีในช่วงนี้ เขาไม่เคยต้องการมัน แต่เขาได้รับคำสั่งให้นำทีมของเขาไปดูแลกริฟฟินทั้งสิบตัวนี้ ตอนนี้สัตว์ร้ายเหล่านี้กำลังจะตายเพราะความอดอยาก เขาเริ่มกังวลมากขึ้นทุกวัน
อาเบลนิ่งสนิทเมื่อเขาสังเกตหัวหน้ากัปตันทีมหมาป่า จากสิ่งที่เขาเห็น ทหารประจำการ 5 นายกำลังผสมเนื้อดิบอยู่ข้างหลังเขา ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังพยายามเตรียมอาหาร
"ค่าใช้จ่าย."
การโจมตีนี้เป็นเทคนิคเฉพาะของหัวหน้าอัศวินผู้บังคับการทั่วไปที่อาเบลเคยเชี่ยวชาญ เนื่องจากบัฟความเร็วที่ Black Wind มอบให้เขา มันทำให้การโจมตีเร็วกว่าที่ควรเป็นหลายเท่า
โหมดล่องหนหายไปเมื่อหัวหน้ากัปตันทีมหมาป่าสังเกตเห็นบางสิ่งที่แปลกประหลาด แม้ว่ามันจะสายเกินไป Black Wind ได้ผ่านทหาร Wolfrider ทั้งห้าไปแล้ว อาเบลกำลังฟันคอพวกเขาทั้งหมดด้วยดาบใหญ่ของอัศวินของเขา เมื่อเขาปรากฏตัวต่อหน้าหัวหน้ากัปตันทีมหมาป่า ดูเหมือนว่าทหารยังคงผสมเนื้ออยู่ในเลือด
กัปตันหัวหน้านักขี่หมาป่าพยายามกรีดร้อง แต่เสียงของเขาช้ากว่าใบมีดที่เหวี่ยงมาที่เขา “ชาร์จ” เป็นเทคนิคที่ทรงพลังมากและทหารทั้งห้าไม่ใช่เป้าหมายเลย พวกเขาเพิ่งบังเอิญไปขวางทางใบมีด เป้าหมายที่แท้จริงคือตัวผู้นำเอง ก่อนที่เขาจะอ้าปาก หัวของเขาก็ขาดออกจากร่างกายไปแล้ว เขาเสียชีวิตอย่างเงียบ ๆ
เมื่อกัปตันหัวหน้าหมาป่ากำลังจะหมดสติ เขาเห็นมนุษย์ที่ฆ่าเขา มันคือเป้าหมายที่พวกเขารอคอย มันเป็นพ่อมดของมนุษย์ ถ้าเขายังพูดได้ เขาคงพูดไปแล้วว่าเขาประหลาดใจแค่ไหน ข้อมูลที่เขาได้รับคือปรมาจารย์อาเบลเป็นพ่อมด แต่วิธีที่เขาตายคือผ่านเทคนิคในตำนานของหัวหน้าผู้บัญชาการอัศวิน
เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว ในไม่ช้า ควันชี่จากการต่อสู้ก็จะเริ่มลอยขึ้นจากหัวของกัปตันหมาป่าที่ตายแล้ว อาเบลพยายามให้เร็วขึ้น ด้วยการชี้ด้วยพลังแห่งเจตจำนงของเขา แบล็ควินด์กลายเป็นเงาที่มองไม่เห็นซึ่งวิ่งไปหากริฟฟินทั้งสิบตัวเท่านั้น
ด้วยการแกว่งดาบของเขา Abel ตัดโซ่ที่ล็อคกริฟฟินตัวแรก มันง่ายกว่าที่คิดไว้มาก ออร์คมีโลหะไม่มากนัก และพวกเขาไม่รู้เกี่ยวกับการปลอมแปลงเลย โซ่ทำด้วยเหล็กธรรมดา การตัดมันด้วยใบมีดเหล็กอย่างดีก็เหมือนกับการตัดกระดาษหนังแผ่นบางๆ
ไม่ทันได้ตอบสนอง กริฟฟินที่ได้รับการช่วยเหลือก็ถูกหลุมดำว่างเปล่ากลืนกิน อาเบลเพิ่งเปิดใช้งานแหวนอสูรพอร์ทัลของเขา สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับกริฟฟินตัวที่สองและสาม ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที กริฟฟินทั้งสิบตัวก็ถูกใส่เข้าไปในวงแหวนพอร์ทัลอสูรของเขา
ถึงตอนนี้ วงกลมสันโดษของมนุษย์ทั้งสองได้หายไปแล้ว นักบวชออร์คขั้นสูงทั้งหกกำลังมาที่อาเบลบนหลังม้าของพวกเขา พวกเขาสังเกตเห็นเขาแล้วเมื่อเขาใช้เทคนิคการพุ่งเข้าใส่ แต่เขาเร็วเกินกว่าที่พวกเขาจะโจมตีได้ เมื่อพวกเขาออกจากวงกลมอันเงียบสงบ กริฟฟินทั้งหมดก็ถูกใส่เข้าไปในวงแหวนของพอร์ทัลบีสต์แล้ว
มีอย่างอื่นที่เร็วกว่านักบวชออร์คขั้นสูง โครงกระดูกประมาณสี่สิบแปดตัวกำลังวิ่งเข้าหาอาเบล และไม่ พวกมันไม่ใช่โครงกระดูกในระดับกลาง-ล่าง ในแง่ของความสามารถในการรุกและรับ พวกเขาทั้งหมดแข็งแกร่งกว่าหัวหน้ากัปตันทีมหมาป่า
“ปรมาจารย์อาเบล! เราได้เขาแล้ว!”
ในฐานะที่เป็นผู้ที่คิดกับดักขึ้นมาเอง นักบวชดาเนียลคงจะมีความสุขมากที่ได้เห็นอาแบลที่นี่ เขาได้รับการสนับสนุนส่วนใหญ่เมื่อเขาเสนอแผน แต่ก็มีการต่อต้านบ้างเมื่อพูดถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะพวกวอร์เกนที่อาศัยอยู่ในสวนหมาป่า พวกเขาต้องเสียสละอย่างมากเพื่อให้ได้อาเบลมา
ตอนที่อาเบลอยู่ที่นี่ การผ่าตัดค่อนข้างประสบความสำเร็จ จริงๆ แล้วการฆ่าอาเบลเป็นเรื่องหนึ่ง แต่บาทหลวงดาเนียลได้พิสูจน์ความฉลาดของเขาแล้วด้วยการให้เขามาที่นี่ เขาได้พิสูจน์คุณค่าของตัวเองมามากแล้ว