ตอนที่ 793: ปืนใหญ่มานา
ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
อาเบลเอาแต่คิดถึงวิธีการทำวัตถุดิบต่างๆ เขาตรวจสอบแต่ละขั้นตอนอย่างระมัดระวัง พยายามคิดว่าเขาลงเอยด้วยวัสดุสีทองระดับสูงนี้ได้อย่างไร มีเพียงปรมาจารย์นักเล่นแร่แปรธาตุเท่านั้นที่สามารถสร้างวัสดุระดับปรมาจารย์ระดับทองได้ และไม่มีนักเล่นแร่แปรธาตุปรมาจารย์แม้แต่คนเดียวในทวีปศักดิ์สิทธิ์
มีนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปรมาจารย์เพียงคนเดียว และนั่นคืออาเบล ดังนั้นปรมาจารย์จึงเป็นไปไม่ได้
หลังจากการเปรียบเทียบหลายรอบ เขาแน่ใจว่าไม่มีอะไรแปลกเกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการ ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือผลพวงของการพึมพำคาถา 'เพิ่มคุณภาพ' บางทีความรู้สึกราวกับพระเจ้าที่เขารู้สึกใน Rogue Encampment อาจทำให้คุณภาพที่เพิ่มขึ้นของเขาเปลี่ยนไป
น่าเสียดายที่ Abel ไม่มีวัสดุสำหรับการทดลองทางโลหะวิทยาอีกแล้ว
สิ่งนี้ทำให้เขาตระหนักถึงปัญหา แม้ว่าเขาจะเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุระดับปรมาจารย์ในวิชาโลหะวิทยา แต่วัสดุทั้งหมดสำหรับวิชาโลหะล้วนถูกควบคุมโดยคนแคระ ถ้าเขาไม่ได้ทำงานกับคนแคระ เขาอาจจะทำอะไรไม่ได้เลย
โชคดีที่ความสัมพันธ์ของเขากับคนแคระค่อนข้างดี ถ้าเขาต้องการอะไร เขาสามารถถามได้
วัสดุโลหะยาว 3 เมตรทำให้เสถียรกลางอากาศด้วยแรงควบคุมของเขา และค่อยๆ อ่อนลงด้วยไฟบนพื้นดิน เขาค่อยๆ ใช้แรงควบคุมของเขาอีกครั้งเพื่อทำให้มันมีรูปร่างเป็นปืนใหญ่มานา
หลังจากทุกอย่างเสร็จสิ้น พลังแห่งเจตจำนงของอาเบลก็หมดลงเล็กน้อย เขาได้รับความช่วยเหลือจากหินแห่งโลกและความรู้สึกที่เหมือนพระเจ้าใน Rogue Encampment แต่เขาก็ยังต้องใช้พลังของตัวเองเพื่อรักษาความสามารถที่เหมือนพระเจ้านั้นไว้
เขาไม่เหลือพลังของความตั้งใจมากนักหลังจากที่เขาสร้างร่างของปืนใหญ่มานา
อาเบลวางร่างของปืนใหญ่ลงบนพื้นแล้วหยิบเต็นท์โฮราดริกออกมา หลังจากนั้นเขานอนหลับไปหนึ่งคืนเต็มเพื่อฟื้นพลังแห่งเจตจำนง
ภารกิจต่อไปนี้คือการสลักอักษรรูนเวทมนตร์บนปืนใหญ่มานา อาเบลไม่ใช่ช่างทำวงเวทย์ แต่เขาเชี่ยวชาญในการแกะสลัก เขามั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเขาสามารถสลักอักษรรูนได้อย่างสมบูรณ์แบบ
เมื่อเขาหยิบมีดแกะสลักออกมา เขาก็รู้ว่าทำไมวัสดุระดับทองถึงไม่สามารถใช้ในอาวุธได้ แม้ว่าจะสามารถวาดรูนได้ แต่พื้นผิวของมันก็บอบบางมาก
อาเบลซื้อมีดแกะสลักนี้กลับมาตอนที่เขายังเป็นพ่อมดฝึกหัด ทำจากเหล็กผสมธรรมชาติ มันคมมาก แต่ไม่สามารถกัดอะไรที่แข็งกว่านี้ได้ เช่น เหล็ก
เขาสามารถแกะสลักปืนใหญ่ยาว 3 เมตรนี้ได้อย่างง่ายดาย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าวัสดุของมันอ่อนเพียงใด หากวัสดุนี้ถูกสร้างเป็นอาวุธ มันจะแตกสลายในการโจมตีครั้งเดียว
อาเบลยังเข้าใจว่าทำไมปืนใหญ่มานาถึงเสียหายหลังจากใช้งานเพียงครั้งเดียว จุดประสงค์ของวัสดุล้ำค่านี้คือการรวบรวมพลังงานทั้งหมดของอัญมณีมานาและระเบิดมันออกมาทันที
หลังจากนั้น วัตถุประสงค์ของการสร้างปืนใหญ่ก็สำเร็จ มันอาจจะกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในการระเบิด
เหตุผลในการออกแบบนี้ก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ชิ้นส่วนของลำตัวปืนใหญ่ปลิวว่อนไปทุกที่ในการระเบิด เนื่องจากธรรมชาติที่อ่อนนุ่มอาจถูกดูดซับโดยแรง
กระบวนการแกะสลักเป็นเรื่องง่ายสำหรับอาเบล ด้วยพลังแห่งเจตจำนงที่ฟื้นคืนมา เขาสามารถทำให้ลำตัวปืนใหญ่มั่นคงในกลางอากาศได้อย่างง่ายดาย อักษรรูนมีชีวิตขึ้นมาบนตัวปืนใหญ่ทีละตัว
แม้ว่าจะไม่มีพลังงานบนอักษรรูนที่ฝังอยู่บนตัวปืนใหญ่ แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยของพลังงานในสภาพแวดล้อมมานาของ Rogue Encampment
การเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนี้ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของอาเบลหลุดพ้นจากพลังแห่งเจตจำนงของเขา เขาถอนหายใจยาว เขาไม่ใช่ผู้สร้างวงกลมเวทมนตร์ จากทุกขั้นตอนของการสร้างปืนใหญ่มานา เขามีความมั่นใจน้อยที่สุดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาจะทำ
โชคดีที่ทักษะการแกะสลักและสายตาและความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลของเขาทำให้เขาบรรลุความสมบูรณ์แบบในการแกะสลักแต่ละครั้ง
ในไม่ช้า กระสุนและแท่นวางของปืนใหญ่มานาก็ถูกสร้างขึ้น หลังจากที่อาเบลรวบรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน เขาก็มองไปที่อาวุธที่น่ากลัวที่อยู่ตรงหน้าเขา
แม้ว่าจะไม่มีอัญมณีมานาอยู่ข้างใน แต่เขาก็สามารถสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวที่ออกมาจากมัน
อาเบลไม่รู้ แต่มีวงกลมขนาดยักษ์ที่ส่งกลิ่นอันทรงพลังบนตัวปืนใหญ่ ปืนใหญ่มานานั้นหายากมาก แม้แต่ในสมัยโบราณ ตราบใดที่ได้กลิ่นของปืนใหญ่มานาให้ศัตรูเห็น พวกเขาจะพิจารณาการกระทำอีกครั้ง
อย่างไรก็ตาม อาเบลรู้ว่านี่ไม่ใช่เรื่องดีมากเกินไป ด้วยกลิ่นที่รุนแรงเช่นนี้ ศัตรูของเขาจะมองเห็นเขาได้จากที่ไกลๆ
“น่าเสียดายที่ฉันใช้มันได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น!” อาเบลวางปืนใหญ่มานาไว้ในกระเป๋าพอร์ทัลวิญญาณกงกงและคิดกับตัวเอง
การเสียสละวัสดุระดับปรมาจารย์ทองคำจำนวนมากเพื่ออาวุธหนึ่งชิ้นก็เหมือนกับฆ่าศัตรูของคุณให้ตายด้วยเหรียญทอง สิ่งเดียวคือวัสดุนี้มีค่ามากกว่าเหรียญทองทั้งหมดในโลก
1
อาเบลมีวัตถุดิบเพียงส่วนเดียว ถ้าเขามีมากกว่านี้ เขาต้องการทดสอบพลังของปืนใหญ่มานาจริงๆ
ตามคำอธิบายบนหินสีเทาเข้ม ปืนใหญ่มานามีพลังที่ไม่อาจหยุดยั้งได้ แต่มันทรงพลังแค่ไหน? วิญญาณผู้บัญชาการก็ไม่สามารถช่วยเขาได้ มันมีคำอธิบายง่ายๆ ของปืนใหญ่เท่านั้น
มันต้องค่อนข้างน่ากลัวเพราะมันถูกห้ามในสมัยโบราณ
การใช้ปืนใหญ่มานานี้ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่อาเบลสร้างปืนใหญ่มานาต่อไป เขายังต้องการที่จะทดสอบทักษะโลหะวิทยาของเขาด้วย
เมื่อเขาประสบความสำเร็จ ความมั่นใจของเขาในการสร้างวัสดุโลหะวิทยาขนาดใหญ่ก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก
อาเบลอาศัยอยู่ใน Rogue Encampment เพียง 2 วัน แต่เขารู้สึกถึงภาพลวงตาว่าเขาเป็นเทพเจ้าที่มีอยู่จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาออกจาก Rogue Encampment และกลับมาใช้ชีวิตเป็นมนุษย์ธรรมดา ความแตกต่างที่เขารู้สึกก็เหมือนกับกลางวันและกลางคืน
นี่คือเหตุผลที่เขาควบคุมเวลาของเขาอย่างระมัดระวังใน Rogue Encampment ความรู้สึกราวกับพระเจ้านั้นเป็นความรู้สึกตื่นเต้น แต่มันไม่ใช่ของเขา มันอาจสร้างปัญหาทางจิตใจให้กับเขา
จากนั้นเขาก็มาถึงโรงแรมของเขาที่ Lut Gholein และพักผ่อนเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มเพื่อฟื้นฟูตัวเอง จะดีที่สุดถ้าเขาอยู่ในค่าย Rogue น้อยกว่าหนึ่งวัน เกินกว่านั้นจะส่งผลต่อจิตวิญญาณของเขา
ในวันที่สี่ เขาเทเลพอร์ตไปยังเมืองที่สาบสูญผ่านวงกลมเทเลพอร์ตเล็กๆ หลังจากนั้น เขาเพียงแค่ต้องเคลื่อนไหวในพริบตา และเขาก็อยู่ที่วิหารกรงเล็บอสรพิษ
วิหารกรงเล็บอสรพิษถูกเรียกว่าวิหาร แต่ดูเหมือนสุสานมากกว่า สิ่งทั้งหมดอยู่ใต้ดิน
ก่อนเข้าไปในวิหาร อาเบลเรียกอัศวินผู้พิทักษ์วิญญาณทั้ง 8 อสูรโคลน และเพิ่มชุดเกราะน้ำแข็งที่แตกแล้วและชุดเกราะต่อสู้พลังชี่ให้กับตัวเขาเอง
หลังจากเกือบตายครั้งที่แล้ว อาเบลก็ระวังตัวมากขึ้น เนื่องจากเขาสามารถอัญเชิญสัตว์ร้ายที่ทรงพลังอย่างจอห์นสันและฟลายอิ้งเฟลมในอุโมงค์ใต้ดินเหล่านี้ได้ เขาจึงทำได้เพียงฆ่าสัตว์นรกเหล่านั้นด้วยความสามารถของเขาเอง
สัตว์นรกทั้งหมดมีลักษณะการโจมตีของตนเอง ดังนั้นอันตรายจึงค่อนข้างร้ายแรง
ทันทีที่พวกเขาเข้าไปในวิหาร Claw Viper เขาสังเกตเห็นเงาของกระดูกนักรบจำนวนมากที่ริบหรี่ภายใต้เปลวเพลิงแห่งนรกนิรันดร์ อาเบลรู้ทันทีว่ามีผู้พิทักษ์อยู่ที่นี่ ประเภทของนรกที่สร้างขึ้นซึ่งสามารถชุบชีวิตนักรบกระดูกได้ไม่รู้จบ
นักรบกระดูกเหล่านี้เป็นผู้อัญเชิญของผู้พิทักษ์คนนั้น อาเบลขยายพลังแห่งเจตจำนงและเห็นผู้พิทักษ์ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด อัศวินผู้พิทักษ์วิญญาณแวบเข้ามาข้างๆ
เมื่ออัศวินผู้พิทักษ์วิญญาณกำลังจะโจมตี กรงเล็บอสรพิษก็พุ่งออกมาจากความมืดตรงไปยังอัศวินผู้พิทักษ์วิญญาณราวกับอัศวินที่พุ่งเข้าใส่
งูพิษกรงเล็บนั้นเร็วเกินไป มันพุ่งเข้าใส่อัศวินผู้พิทักษ์วิญญาณก่อนที่มันจะทันได้ตอบโต้ กระแทกมันถอยหลังไป 5 ก้าว
“Knockback” เป็นความสามารถพิเศษของอสรพิษกรงเล็บ มันจะมีผลทันทีที่คุณสัมผัสมัน
โชคดีที่กรงเล็บอสรพิษไม่สามารถใช้การโจมตีธาตุได้ พวกมันทำได้เพียงโจมตีด้วยร่างเมฆา ดังนั้นอาเบลจึงสามารถยืนอยู่ข้างหลังอัศวินผู้พิทักษ์วิญญาณและสัตว์ประหลาดโคลนในขณะที่ปลดปล่อย 'ไฟร์วอลล์' ของเขาโดยไม่ต้องกังวลมากเกินไป