Abe the Wizard
ตอนที่ 810 : อาคารหลักของ Assassin Union (สามในหนึ่งเดียว)

update at: 2023-03-15

ตอนที่ 811: อาคารหลักของ Assassin Union (สามในหนึ่งเดียว)

ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales

“สแกนต่อไป” อาเบลพูดกับวิญญาณบัญชาการรบ

หลังจากที่เมฆขาวได้รับความสามารถ "เทเลพอร์ต" ก็ใช้เวลาครึ่งวันในการเดินทางจากดัชชีแห่งคาร์เมลไปยังอาณาจักรเซนต์อันวอลล์ ความสามารถนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เมฆขาวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงป้อมการรบ 03 ด้วย เมื่อพิจารณาถึงพลังงานที่จำเป็นในการทำงานนี้ อาเบลคิดว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เขาสามารถเคลื่อนย้ายทุกอย่างเข้าด้วยกันโดยใช้เวลาอันน้อยนิด

วิญญาณบัญชาการรบพูดว่า “การสแกนได้เริ่มขึ้นแล้ว”

ในขณะเดียวกัน เมฆขาวก็กลับสู่โหมดการบิน ป้อมปราการการต่อสู้ 03 ถูกดึงออกในขณะที่มันเปลี่ยนเป็นโหมดล่องหน จิตวิญญาณแห่งการบัญชาการรบทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อค้นหาสำนักงานใหญ่ของ Assassin Union แต่ Abel จะไม่ปล่อยให้มันทำทุกอย่างเพียงลำพัง ขณะที่ยืนอยู่บนยอดหอคอยเวทมนตร์ เขาตัดสินใจค้นหาเป้าหมายด้วยขอบเขตธรรมดาที่เขานำติดตัวไปด้วย

ด้านบนของหอคอยเวทมนตร์เปิดออกจนสุด ไม่มีด้านบนหรือกำแพงกั้นไม่ให้อาเบลมองเห็นโลกภายนอก อย่างที่เขาเห็น หุบเขาปกคลุมพื้นที่ทั้งหมดของพื้นที่ที่เขาเข้าไป มีต้นไม้มากมายอยู่รอบๆ สีเดียวที่เขามองเห็นได้คือสีเขียว

หลังจากค้นหาอยู่ครึ่งวันท้องฟ้าก็เริ่มมืดลง ทั้งวิญญาณบัญชาการรบและอาเบลไม่พบอะไรเลย

อาเบลพูดกับตัวเองว่า “มันยากที่จะเชื่อ แต่สมาพันธ์นักฆ่าอาจซ่อนทุกอย่างไว้ภายใต้วงล้อมอันเงียบสงบขนาดมหึมา”

มีสองคำอธิบายที่เป็นไปได้สำหรับสถานการณ์นี้ หนึ่ง อาคารสมาคมนักฆ่าอยู่ที่อื่น สอง มีวงกลมสันโดษขนาดใหญ่ที่ปกคลุมทั่วทั้งอาคาร โดยปกติแล้วสิ่งหลังจะเป็นไปไม่ได้ แต่นี่เป็นสมาคมที่รู้กันดีว่าร่ำรวยมาก แม้แต่อาเบลก็ไม่มีวงกลมขนาดใหญ่ของตัวเอง เขามีคะแนนมากมายที่เขาได้รับจาก Liante City แต่มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถซื้อได้เว้นแต่จะมีการจัดการพิเศษกับช่างฝีมือที่เหมาะสม

อาเบลเกาหัวขณะที่เขาคิดถึงการเคลื่อนไหวต่อไปของเขา อาจมีวงกลมขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ เขาเชื่อถือข้อมูลที่พ่อมดอัลเลนบีมอบให้เขา ท้ายที่สุด เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะเสี่ยงมากในการให้ข้อมูลเท็จ

แม้จะทรงพลังเท่ากับความสามารถในการสแกนของวิญญาณบัญชาการรบ ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทะลวงผ่านพลังของวงกลมอันเงียบสงบ ซึ่งสามารถสร้างมิติที่แยกจากโลกภายนอกได้อย่างสมบูรณ์

ดวงตาของอาเบลเป็นประกายเมื่อเขาเห็นต้นไม้ที่อยู่รอบๆ “ฉันลงไปได้ใช่ไหม ต้นไม้เหล่านี้สามารถช่วยฉันได้มาก”

หลังจากที่เขาพูดอย่างนั้น เขาก็เทเลพอร์ตไปยังต้นไม้ยักษ์ที่อยู่บนพื้นดิน งูพิษสีดำพุ่งเข้ามากัดเขาทันที แต่เขาไวพอที่จะจับหัวมันแล้วโยนไปไกลๆ

“นั่นเป็นเรื่องที่ไม่ชัดเจน ครั้งสุดท้ายที่ฉันถูกโจมตีทันทีที่ฉันลงมาถึงคือเมื่อไหร่”

เพื่อหาคำตอบว่าเกิดอะไรขึ้น Abels ได้สำรวจสภาพแวดล้อมของเขาด้วยพลังแห่งเจตจำนงของเขา เขาสัมผัสได้ถึงงูพิษที่แตกต่างกันหลายสิบตัวในรัศมีหลายร้อยเมตร มันยากที่จะคิดว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นตามธรรมชาติเมื่อพวกมันอยู่รวมกันอย่างหนาแน่น ต้องมีคนตั้งค่านี้เป็นกับดัก

อาเบลมุ่งพลังแห่งเจตจำนงของเขาไปที่สร้อยคอแปลงร่างที่เขาสวม เขาปล่อยร่องรอยของแก่นแท้มังกรของเขาออกมาซึ่งทำให้งูทุกตัวสั่นออกจากเขาด้วยความกลัว เขารีบเก็บสร้อยคอของเขาหลังจากนั้น เพราะถ้าเขาปล่อยแก่นแท้มังกรของเขาออกไปมากกว่านี้ เขาจะทำให้เกิดเสียงดังมากเกินไปในบริเวณนี้

โดยปราศจากการขัดขวางของงูพิษ เขาเริ่มโดยวางมือซ้ายไว้บนเปลือกไม้ยักษ์ เมื่อเขาเปิดใช้ความสามารถของผู้พูดวิญญาณ เขาเชื่อมโยงจิตใจของเขากับต้นไม้ยักษ์ จากจุดนั้น เขาใช้ต้นไม้เพื่อส่งข้อความไปยังต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียง และเมื่อต้นไม้เหล่านั้นสั่นด้วยใบไม้ เขาก็เริ่มรับข้อมูลที่เข้าสู่สมองของเขาโดยตรง มีรูปสัตว์บ้าง คนอื่นเป็นมนุษย์

ด้วยการรวบรวมข้อมูลภาพจากต้นไม้ในรัศมีหลายร้อยเมตร แผนที่เริ่มก่อตัวขึ้นในใจของอาเบล เมื่อตรวจสอบอย่างใกล้ชิด เขาจะเห็นว่ามีหุบเขาที่แตกต่างจากที่อื่นอย่างชัดเจน มันว่างเปล่าที่นั่นอย่างน่าประหลาด มีบางอย่างโดดเด่นชัดเจน

อาเบลยิ้ม “นั่นสินะ”

การมีความสามารถของผู้บรรยายวิญญาณในสถานที่ที่มีต้นไม้ค่อนข้างโกง ต้นไม้ทุกต้นที่นี่ทำหน้าที่เป็นหูและตาของอาเบล เขาสามารถเรียนรู้ทุกอย่างที่เคยเกิดขึ้นที่นี่ นอกจากนี้ วงกลมสันโดษอาจเป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบในการต่อต้านเทคนิคการสืบสวนทุกประเภท แต่พืชก็มีพลังในการรับรู้สิ่งต่างๆ เหมือนเดิม ไม่มีอะไรสามารถซ่อนจากพวกเขาได้หากอยู่ใกล้พอ

หลังจากกล่าวคำขอบคุณต่อต้นไม้ อาเบลได้เปลี่ยนพลังงานไร้สีภายในวิญญาณดรูอิดของเขาให้กลายเป็นพลังชีวิตสีเขียว จากนั้นเขาก็ฉีดมันเข้าไปในต้นไม้ยักษ์ที่เขากำลังสัมผัส ซึ่งทำให้มันเติบโตด้วยความเร็วที่ตาเปล่าสังเกตได้ ต้นไม้มีอายุประมาณสิบปีในเวลาเพียงไม่กี่นาที มีพลังชีวิตมากกว่าที่เคยมีมา หลังจากนั้น อาเบลก็เคลื่อนย้ายตัวเองกลับไปที่ป้อมต่อสู้ 03

ตอนนี้เขามีเป้าหมายแล้ว ท่าต่อไปของเขาก็เรียบง่าย เขาบอกให้เมฆขาวดึงป้อมการต่อสู้ 03 ขึ้นไปบนยอดหุบเขา และจากตรงนั้น เขามองตรงไปยังพื้นดินที่อยู่ด้านล่างเขา ตามที่คาดไว้ ไม่มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้หากเขาแค่มองโดยตรง ด้วยวงกลมที่เงียบสงบหุบเขาก็ดูปกติ แม้แต่การสแกนวงกลมก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ

ถึงกระนั้น สมาคมนักฆ่าต้องทำทุกอย่างสุดความสามารถเพื่อหาสถานที่เช่นนี้ อย่างแรก หากไม่หาทางข้ามหน้าผา ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะเข้าไปในหุบเขาเช่นนี้ นอกจากนี้ ด้วยจำนวนงูที่ถูกเลี้ยงไว้ที่นี่ คนส่วนใหญ่คงไม่คิดที่จะมาดูที่นี่ด้วยซ้ำ ไม่ แม้แต่พวกเอลฟ์ที่มีผู้พูดวิญญาณ เพราะไม่มีผู้พูดวิญญาณคนใดที่รู้จักดีเท่ากับอาเบล โดยปกติแล้ว การค้นหาพื้นที่ขนาดใหญ่ขนาดนี้จะต้องใช้พลังงานมหาศาล สำหรับคนส่วนใหญ่ มันไม่มีประโยชน์เลยที่จะไปไกลถึงขนาดนี้เพื่อค้นหาอาคารหลักขององค์กรอันตรายที่ฉาวโฉ่เช่นนี้

“พร้อมสำหรับการต่อสู้” อาเบลพูดกับสัตว์อัญเชิญของเขา “อันที่จริง พวกเจ้าดูตื่นเต้นเกินไปสำหรับเรื่องนี้ โดยเฉพาะคุณ Flying Flame ทำใจให้สงบก่อนที่ฉันจะเรียกหาคุณ”

Flying Flame เป็นมังกรที่แท้จริงแล้ว มันสามารถสังหารเมืองออร์คที่อาเบลชี้ไป ถึงกระนั้นก็เป็นโลกมนุษย์ ถ้ามีคนเห็นเขาพร้อมกับมังกรภายใต้คำสั่งของเขา เขาคงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปิดปากใครก็ตามที่เป็นพยาน

หลังจากคำรามด้วยความผิดหวังเล็กน้อย Flying Flame ก็คลานกลับเข้าไปในถ้ำของมัน

อาเบลพูดกับเมฆขาวว่า “เทเลพอร์ตข้างในนั้น”

ก่อนหน้านี้ White Cloud จะไม่พยายามเข้าใกล้แนวหน้า แต่ด้วยความสามารถ "เทเลพอร์ต" มันสามารถส่งยูนิตต่อสู้ทั้งหมดไปยังจุดที่พวกเขาต้องการมากที่สุดได้ นอกจากนี้ ด้วยความสามารถในการล่องหนของป้อมรบ เมฆขาวจึงกลายเป็นเครื่องสอดแนมที่น่าสะพรึงกลัวที่สามารถส่งกองทหารขึ้นไปเหนือหัวศัตรูได้

เมฆขาวเข้าใจความหมายของคำสั่งของอาเบล ด้วยการคว้า battle fort 03 ติดตัวไปด้วย มันทำให้ทุกคนและทุกสิ่งเคลื่อนย้ายเข้าสู่วงล้อมอันเงียบสงบ อาเบลพูดถูก หลังจากเทเลพอร์ตมาที่นี่ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือหอคอยเวทมนตร์ระดับสิบเจ็ดและอาคารที่อยู่ห่างออกไปประมาณสองไมล์

“ใช่ ในที่สุด!” อาเบลคิดกับตัวเอง เช่นเดียวกับที่เขาอ่านจากรายงานข่าวกรอง คนที่สนับสนุน Assassin Union คือพ่อมดที่มีชื่อว่า Kilmer หอคอยควรเป็นหอคอย Kilmer Magic ในขณะที่อาคารที่อยู่ห่างออกไปควรเป็นอาคารหลักของ Assassin Union ถ้าเขาเริ่มทำงานที่นี่ คงอีกนานก่อนที่สมาคมนักฆ่าจะกลายเป็นอดีต

เมื่ออาเบลกำลังจะทำอย่างนั้น วิญญาณบัญชาการรบก็ส่งข้อความมาหาเขาทันที

“ท่านผู้อาวุโส มีการค้นพบวิญญาณ มันไม่มีความสามารถในการป้องกันใดๆ ฉันควรจะบังคับให้เชื่อมต่อกับมันหรือไม่”

“ที่นี่มีวิญญาณไหม”

อันที่จริง ทั้งหมดนี้ไม่น่าแปลกใจเลย องค์กรนี้มีหน้าที่รับผิดชอบในการจัดการงานลอบสังหารเกือบทั้งหมดในทวีปศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นจึงเป็นการยากที่จะไม่มีจิตวิญญาณในการเก็บข้อมูล

อาเบลดีใจมากที่ได้ยินเช่นนี้ “เดี๋ยวก่อน ฉันจะได้ดูรายการฮิตตอนนี้ คุณสามารถเชื่อมต่อกับวิญญาณนี้ได้หรือไม่”

“ผู้อาวุโส ฉันควรทำการเชื่อมต่อแบบบังคับหรือไม่” วิญญาณบัญชาการรบถามอีกครั้ง

“ใช่ ทำเลย!” อาเบลตบหัวของเขาในขณะที่เขาตระหนักว่าการถามคำถามซ้ำไปซ้ำมานั้นไร้ประโยชน์เพียงใด

“การเชื่อมต่อได้เริ่มขึ้นแล้ว… การเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว! ท่านผู้อาวุโส คุณจะอ้างสิทธิ์ความเป็นเจ้าของวิญญาณนี้หรือไม่? หากคุณทำเช่นนี้ คุณจะมีตัวเลือกในการลบความเป็นเจ้าของของผู้ใช้รายอื่นที่มีอยู่ทั้งหมด”

อาเบลตบมืออย่างเมามัน “ใช่แล้ว! ทำอย่างนั้น วิญญาณบัญชาการรบ! ทำให้ฉันเป็นเจ้าของจิตวิญญาณนั้นแต่เพียงผู้เดียว! ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใครเข้าถึงได้”

“เข้าใจแล้ว ฉันได้ยกเลิกการเป็นเจ้าของของผู้ใช้รายอื่นทั้งหมด ตอนนี้คุณเป็นเจ้าของจิตวิญญาณนี้แต่เพียงผู้เดียว หากคุณต้องการเข้าถึงข้อมูลใด ๆ ที่อยู่ในนั้น คุณสามารถทำได้ผ่านฉันหรือเข้าถึงวิญญาณโดยสั่งโดยตรง”

“ก่อนหน้านั้น” อาเบลตอบ เท่าที่เขาเห็น มันน่าจะดีกว่าถ้าเขาฆ่าทุกคนที่นี่ก่อนที่จะเอาวิญญาณออกไป

จริงๆ แล้ว ถ้าเขาต้องการเอาวิญญาณกลับคืนมา ตัวเลือกในการใช้ลูกบอลระเบิดสุดขีดก็จะไม่สามารถใช้ได้

อาเบลขอคำแนะนำ “ถ้าเช่นนั้น วิญญาณบัญชาการรบ เจ้าสามารถเจาะเข้าไปในวิญญาณทั้งหมดได้หรือไม่”

วิญญาณบัญชาการรบอธิบายว่า “มีเพียงผู้ไม่มีการป้องกันเท่านั้น ท่านผู้อาวุโส หากวิญญาณได้รับการคุ้มครอง ฉันจะไม่สามารถเชื่อมต่อจากระยะไกลได้ อย่างไรก็ตาม หากคุณใช้ฉันเพื่อเชื่อมต่อโดยตรงกับวิญญาณที่อยู่ด้านล่างฉัน ฉันรับประกันได้ว่าการเชื่อมต่อแบบบังคับจะเกิดขึ้นได้”

อาเบลถามในขณะที่เขาไม่รู้อะไรมากนักเกี่ยวกับรายละเอียดเฉพาะ “คุณช่วยบังคับให้คุณเชื่อมต่อกับวิญญาณหอคอยได้ไหม? คุณรู้เกี่ยวกับหอคอยเวทมนตร์”

วิญญาณบัญชาการรบตอบว่า “ท่านผู้อาวุโส วิญญาณนั้นได้รับการปกป้องมากเกินไป”

ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะเจาะระบบ Kilmer Magic Tower ซึ่งแตกต่างจากจิตวิญญาณของอาคารสมาคมนักฆ่า ไม่เพียงแต่หอคอยเวทมนตร์ได้รับการปกป้องด้วยวงกลมป้องกัน แต่มานายังเต็มไปทั่วทั้งสถานที่อีกด้วย

อาเบลถามอีกครั้งว่า “หาของให้หน่อยไหม? มองหาวงเทเลพอร์ตที่อยู่ใกล้ที่สุด”

“ครับ ท่านผู้อาวุโส” วิญญาณบัญชาการรบตอบ “ผมพบวงเทเลพอร์ตใกล้ๆ แต่ตอนนี้มันปิดอยู่”

“มีวิธีเปิดไหม”

วิญญาณบัญชาการรบให้คำตอบที่น่าประหลาดใจ “ทางเดียวคือผ่านวิญญาณ ท่านผู้อาวุโส และคุณเป็นคนเดียวที่เป็นเจ้าของมัน”

นั่นทำให้นึกถึงอาเบล “โอ้ ใช่แล้ว นี่คือป้อมการต่อสู้ 03 ทำซ้ำ นี่คือป้อมต่อสู้ 03 เตรียมโจมตีหอคอยเวทมนตร์”

เท่าที่เขากังวล ภัยคุกคามเดียวที่ปกป้องหุบเขานี้คือพ่อมดคิลเมอร์ เมื่อเขาจากไปแล้ว ไม่มีใครใน Assassin Union จะเป็นภัยคุกคามต่อเขา

ทันใดนั้น หน่วยรบสองร้อยหน่วยเตรียมพร้อมที่ป้อมรบ 03 หุ่นรบขนาดเล็ก 200 ตัวถูกบรรจุโดยอัตโนมัติและเตรียมพร้อมสำหรับการโจมตีที่กำลังจะมาถึง

ป้อมต่อสู้ 03 ส่งข้อความ “พร้อมโจมตีมาสเตอร์ โปรดให้สัญญาณของคุณ”

อาเบลพูดกับไวท์สโนว์ “ไปสำรวจอาคารสมาคมนักฆ่า ถ้าใครพยายามจะหนีจากที่นั่น ให้ยิงพวกเขาทันทีที่เห็น”

มันไม่ใช่สภาพอากาศที่ดีที่สุดสำหรับ White Snow แต่ความแข็งแกร่งของมันในฐานะสัตว์ร้ายทางวิญญาณระดับสูงยังคงทำให้มันมีพลังเทียบเท่ากับพ่อมดขั้นสูง ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว มันไม่มีปัญหาในการล็อคตึกนักฆ่าทั้งตึกที่ต้องพึ่งวิซาร์ดขั้นสูงเพื่อความอยู่รอด

ป้อมต่อสู้ 03 ย้ายอีกครั้งถัดจากหอคอยเวทมนตร์ระดับสิบเจ็ด เนื่องจากมันยังไม่ได้ปรากฏตัว การสแกนวงกลมภายในหอคอยเวทมนตร์จึงไม่พบสิ่งใด แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ เท่านั้น ในไม่ช้า พ่อมดคิลเมอร์ก็ได้ยินเสียงไซเรนดังขึ้น จากนั้น เขาก็เห็นสัตว์ประหลาดโลหะขนาดมหึมาจากหน้าต่างภายในหอคอยของเขา

ในบรรดาสัตว์อัญเชิญทั้งหมดของอาเบล จอห์นสันเป็นเพียงคนเดียวที่สามารถเทียบเคียงกับฟลายอิ้งเฟลมในแง่ของพลังป้องกันได้ ด้วยความสามารถในการต้านทานเวทย์มนต์ 75% และรูนป้องกันประเภทอื่น ๆ ทำให้มองไม่เห็นการโจมตีด้วยเวทย์มนตร์ส่วนใหญ่ ไม่ใช่แค่การโจมตีด้วยเวทมนตร์เท่านั้น เนื่องจากชั้นนอกของมันทำจากเหล็กกล้าชั้นดีบริสุทธิ์ ความทนทานทางกายภาพอันยิ่งใหญ่ทำให้มันเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบในการโจมตีแนวหน้าต่อหอคอยเวทมนตร์

หลังจากกระโดดลงมาจากป้อมการต่อสู้ที่ซ่อนอยู่ 03 จอห์นสันหยิบดาบใหญ่ของซูเปอร์อัศวินออกมาจากฝัก มันยกใบมีดขนาดใหญ่ขึ้น และด้วยพลังทั้งหมดของมัน มันฟันไปที่หอคอยเวทมนตร์ระดับสิบเจ็ด

“การโจมตีของศัตรู!”

ทันทีที่พ่อมดคิลเมอร์ได้ยินคำเตือน เขาก็เชื่อมต่อพลังแห่งเจตจำนงเข้ากับวงกลมสแกนของหอคอยเวทมนตร์ทันที เมื่อเปิดวงกลมสแกน สิ่งแรกที่เขาเห็นคือหอคอยของเขาถูกฟันด้วยดาบที่ใหญ่กว่าที่เขาเคยเห็น ไม่จำเป็นต้องพูด สิ่งแรกที่เขาพยายามทำเพื่อตอบโต้คือเปิดใช้งานวงป้องกันของหอคอย

จอห์นสันมีน้ำหนักมาก ดังนั้นมันจึงค่อนข้างถึงจุดสุดยอดของการโจมตีทางกายภาพ ตอนนี้ วงป้องกันของหอคอยเวทมนตร์ไม่ได้ไร้ขีดจำกัด เนื่องจากจอห์นสันมาจากที่ไหนเลยจริงๆ จึงไม่สามารถเปิดสวิตช์พลังงานที่แท้จริงได้ทันเวลาแม้แต่หนึ่งในห้า ไม่มีใครเห็นว่ามันเกิดขึ้นเพราะไม่มีใครรู้ว่าเป็นไปได้ที่จะเปิดการโจมตีเช่นนี้กับหอคอยเวทมนตร์ทั้งหมด

พ่อมดคิลเมอร์รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนขนาดยักษ์ที่ทำให้ทั้งหอคอยสั่นสะเทือน ขาของเขามีปัญหาในการเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง

วิญญาณของหอคอยประกาศว่า “อาจารย์ ร่างกายของหอคอยเวทมนตร์ได้รับความเสียหาย วงป้องกันได้รับความเสียหาย 10%”

นั่นคือ 10% ด้วยการเฉือนเพียงครั้งเดียว พ่อมดคนอื่นๆ คงไม่เชื่อถ้าพวกเขาได้ยินเรื่องนี้ แม้แต่ผู้บัญชาการของหัวหน้าอัศวินก็ไม่สามารถสร้างความเสียหายที่ไร้สาระนี้ได้ พ่อมดคิลเมอร์ถูกบังคับให้กลับมามีสติสัมปชัญญะจากความตกใจ ในที่สุดเขาก็เริ่มตระหนักได้ว่าใครกำลังโจมตีเขา

ถูกตัอง. มันคืออาเบลในตำนาน ปรมาจารย์อาเบลมีชื่อเสียงในการเป็นเจ้าของสัตว์ประหลาดโลหะขนาดมหึมาเช่นนี้ แท้จริงแล้ว มันคือสัตว์ประหลาดโลหะที่มีข่าวลือว่าได้ฆ่าพ่อมดขั้นสูงระดับสิบเจ็ดด้วยตัวมันเอง

พ่อมดคิลเมอร์หันไปหาผู้พูด “มาพูดเรื่องนี้กันเถอะ ปรมาจารย์อาเบล! ได้โปรดออกมาไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”

เขาพูดให้ดังขึ้นเพื่อตอบโต้ “ปรมาจารย์อาเบล ฉันรู้ว่าคุณได้ยินฉัน! ฉันสามารถให้รายชื่อลูกค้าของฉันแก่คุณได้หากเป็นสิ่งที่คุณกำลังมองหา ขอจบไว้แต่เพียงเท่านี้! หากยังไม่เพียงพอ สมาคมนักฆ่าจะคืนเงินให้กับคุณสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นกับคุณ”

อาเบลไม่ตอบ จอห์นสันยังคงโจมตีหอคอยเวทมนตร์อย่างดุเดือดด้วยดาบขนาดใหญ่ ไม่สามารถเจรจาต่อรองได้ สิ่งต่าง ๆ ตึงเครียดเกินไปสำหรับข้อตกลงสร้างสันติภาพทุกประเภท ศัตรูตายได้ดีที่สุด เป็นวิธีที่เขายึดถือตั้งแต่มายังโลกนี้ และไม่ เขาจะไม่เปลี่ยนเส้นทางเป็นพ่อมดระดับสิบเจ็ดที่สามารถสำรององค์กรนักฆ่าทั้งหมดได้ด้วยตัวเขาเอง”

พ่อมดคิลเมอร์จำต้องตอบโต้ “โกเล็มนี่ ยังไงก็ช่าง! “พายุหิมะ!”

เมื่อความเสียหายได้เกิดขึ้นแล้ว พ่อมดคิลเมอร์ตัดสินใจว่าเขายอมทุ่มสุดตัวดีกว่ากังวลเรื่องค่าบำรุงรักษาหอคอย เขากรีดร้อง และเมฆดำก็เริ่มก่อตัวขึ้นเหนือจอห์นสัน เกล็ดหิมะเริ่มไหล แต่ละอันมีพลังเยือกเย็นมหาศาลซึ่งเทียบเท่ากับอักษรรูนเวทมนตร์หลายตัว

เพื่อตอบสนองต่อสิ่งนี้ จอห์นสันเปลี่ยนไปใช้ด้านสีน้ำเงินของทรงกลมโลหะหลายมิติ ซึ่งเป็นด้านที่ควรจะขับไล่เวทมนตร์ธาตุน้ำแข็ง พ่อมดคิลเมอร์ไม่รู้ เขาแค่คิดว่าสิ่งที่เป็นโลหะอยู่ข้างหน้าเขาจะช้าลงและได้รับความเสียหายจาก "พายุหิมะ" ต่อไปก่อนที่มันจะพังทลายลงอย่างสมบูรณ์

หลังจากแสงสีน้ำเงินส่องไปที่ร่างของจอห์นสันเป็นเวลาสองวินาที มันก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นความเร็วของมันก็เป็นปกติ และสามารถแกว่งดาบได้มากขึ้นห้าหกครั้ง “พายุหิมะ” ยังคงชะลอตัวลง แต่ก็ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะหยุดไม่ให้ฟื้นตัว

แน่นอนว่าไม่ใช่ว่าจอห์นสันไม่โดนยิง อาเบลต้องการรักษามันด้วยยา แต่มันได้รับอนุญาตให้รักษาด้วยยาจากโลกมืดเท่านั้น ด้วยวิธีนี้ อาเบลจะต้องจัดหา "ยารักษาแสง" ด้วยจิตวิญญาณดรูอิดของมัน เพื่อไม่ให้มันได้รับความเสียหายจากธาตุน้ำแข็งมากเกินไป

พ่อมดคิลเมอร์รู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็นว่ากองกำลังป้องกันของจอห์นสันทรงพลังเพียงใด การโจมตีด้วยคาถาของเขาค่อนข้างจะเหมือนกับการโจมตีจากพ่อมดระดับสิบเจ็ด ซึ่งควรจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในทวีปศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด สิ่งที่ไร้สาระกว่านั้นคือสัตว์ประหลาดโลหะยังคงโจมตีหอคอยเวทมนตร์ของเขาโดยไม่มีการต่อต้าน

มันคงจะจบถ้ายังเป็นแบบนี้ พ่อมดคิลเมอร์มีของในหอคอยเวทมนตร์มากเกินไป เขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาเก็บไว้ เนื่องจากมีจำนวนมากเกินไป เขาจึงต้องใส่ไว้ในหอคอยเวทมนตร์แทนกระเป๋าพอร์ทัลที่เขาเก็บไว้

ตอนนี้พ่อมดคิลเมอร์ยอมจำนนอย่างเห็นได้ชัด “หยุด ได้โปรด ปรมาจารย์! เรามาคุยกันเรื่องนี้อย่างใจเย็น ใช่ไหม? ฉันยินดีส่งหัวหน้าผู้บัญชาการแอคตันและพ่อมดเอลเลียตให้คุณ พวกเขาคือผู้ที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ของ Assassin Union ฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พวกเขาวางแผนไว้ ได้โปรด!”

อาเบลไม่ได้พูด สิ่งเดียวที่เขารู้ก็คือจอห์นสันต้องโจมตีหอคอยเวทมนตร์ต่อไป เขาไม่รู้ว่าภายในวงกลมเวทมนตร์จะมีรูปแบบใด ดังนั้นแผนที่ปลอดภัยที่สุดคือทำให้แน่ใจว่าวงกลมป้องกันเป็นสิ่งเดียวที่ยังคงเปิดอยู่ แนวคิดนั้นง่ายมาก: ปล่อยให้หอคอยใช้พลังงานทั้งหมดในการป้องกัน หลังจากนั้น จอห์นสันจะต้องเผชิญกับการโจมตีทั้งจากระบบรักษาความปลอดภัยของหอคอยและพ่อมดคิลเมอร์โดยตรง แต่เขามียาวิเศษที่เขาสามารถใช้รักษามันได้

ไม่ว่าในกรณีใด การต่อสู้ที่แท้จริงเกิดขึ้นเมื่อพ่อมดคิลเมอร์ปรากฏตัว ตอนนี้เขาอาจดูอ่อนแอมาก แต่พ่อมดขั้นสูงมีวิธีมากมายในการพลิกสถานการณ์ สิ่งต่าง ๆ ต้องทำอย่างเป็นระบบ และตอนนี้ขั้นตอนสำคัญคือต้องแน่ใจว่าชายคนนั้นแสดงตัว

เมื่อเวลาผ่านไป พ่อมดคิลเมอร์ตระหนักว่าหอคอยอันเป็นที่รักของเขาไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เขาเสียใจมากที่ต้องบอกลาคอลเลกชั่นที่เขารัก แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหาทางออกฉุกเฉิน