ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
อาเบลไม่ได้พูดอะไรกับ Barbarian Ruin มากกว่านี้ แต่เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษอีกชั้นหนึ่ง
“เราไม่สามารถไปทางนี้ได้ เราต้องอ้อม!” อาเบลชี้ไปข้างหน้าและพูดว่า
“ข้างหน้ามีอันตรายไหม? นักบวชถามด้วยความลังเลใจ
หากพวกเขาใช้ทางอ้อม จะมีโอกาสสูงที่พวกเขาจะหลงทาง
“ฉันไม่แน่ใจ แต่ฉันไม่คิดว่าเราควรเดินหน้าต่อไป!” อาเบลส่ายหัว
จากข้อมูล เขาสัมผัสได้ว่าเขาเห็นมดแดงกลุ่มใหญ่มีปีก และพวกมันล้วนเป็นสัตว์อสูรระดับจิตวิญญาณ
นี่เป็นครั้งแรกที่ Abel เห็นแมลงตัวใหญ่ขนาดนั้น และเขาไม่เคยคิดว่ามดจะมีความสามารถแบบสัตว์ร้ายฝ่ายวิญญาณได้
แน่นอน อาเบลไม่ได้บอกว่าเขาเห็นพวกมัน แม้ว่าความสามารถของผู้พูดวิญญาณจะไม่ได้เป็นความลับ แต่เป็นการดีกว่าที่จะไม่บอกให้ Barbarian Ruin รู้
“ฉันเชื่อพ่อมดอาเบล หันกันเถอะ!” ครึ่งเอลฟ์ลีออนพูดทันที
“บิ๊กฮอร์น นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราใช้เส้นทางนี้ ถ้าไม่ได้ผล ฉันจะเปิดเส้นทางให้ ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรหยุดเราได้!” Barbarian Ruin จ้องมองที่ Abel แม้ว่าเขาจะไม่ได้แสดงเจตนาร้ายใดๆ แต่เขาก็ยังปฏิเสธคำแนะนำของอาเบล
บาทหลวงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่การแสดงที่อาเบลแสดงในป่านั้นน่าประทับใจเกินไป ดังนั้นเขาจึงพูดว่า “ทำลาย ถ้านั่นคือสิ่งที่พ่อมดอาเบลพูด เราไปเส้นทางอื่นกันเถอะ!”
“บิ๊กฮอร์น ดูเวลาสิ ถ้าเราเปลี่ยนเส้นทาง ไม่ทันฟ้ามืด เมื่อนั้นเราจะออกจากป่าไม่ได้ นั่นอันตรายยิ่งกว่า!” Barbarian Ruin หันไปหาคนอื่นๆ แล้วพูดว่า ถ้ากลัวก็รออยู่ตรงนี้ ฉันจะเปิดทางให้!”
"ทำลาย…." นักบวชต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง แต่คนเถื่อนทำลายพุ่งไปข้างหน้าก่อนที่เขาจะทันได้พูดออกไป
Barbarian Ruin ไม่ได้โง่ เขามีความคิดว่าข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เขาก็มั่นใจ เขาต้องการที่จะกำจัดอันตรายและบอกอาเบลออกไปหลังจากที่เขากลับมา
เขาขี่หมาป่าบ้าของเขา และเติมเสียงคำรามและโหมดการต่อสู้ของเขาให้เต็มประสิทธิภาพ
หลังจากผ่านไป 100 เมตร 200 เมตร 300 เมตร จนถึง 500 เมตร Barbarian Ruin ก็เริ่มผ่อนคลาย 500 เมตรนั้นเกินขีดจำกัดของพลังแห่งความตั้งใจของพ่อมดชั้นยอดทั่วไป ดังนั้นนั่นหมายความว่าอาเบลคิดผิด
เขาคิดไปเรื่อย ๆ ในขณะที่เขาเร่งความเร็ว อย่างไรก็ตาม เขาต้องตกตะลึงเมื่อเขาไปถึง 1,000 เมตร
เขาตบไปที่คอของหมาป่าบ้าของเขาทันที และมันก็หยุดลงอย่างโหดเหี้ยม
โดยปกติแล้ว เป็นเรื่องยากมากที่จะให้หมาป่าคลั่งหยุดเมื่อมันบ้าคลั่ง แม้ว่าผู้ขับขี่จะร้องขอก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หมาป่าบ้าก็ตกใจกับทะเลสีแดงข้างหน้าเช่นกัน มันประกอบด้วยมดยักษ์สีแดงกลุ่มใหญ่ที่เรืองแสงในป่าอันมืดมิดแห่งนี้
เมื่อ Barbarian Ruin ต้องการจะกลับ ยักษ์แดงก็สังเกตเห็นเขา
มันกระพือปีกยักษ์ และมดตัวอื่นๆ ก็ได้รับข้อความ ในไม่ช้า มดจำนวนนับไม่ถ้วนก็เคลื่อนไหว เช่นเดียวกับไฟป่า มดยักษ์สีแดงขนาดใหญ่บินขึ้นเป็นหย่อมๆ
พวกมันไม่ได้บินสูงมากนัก แค่ประมาณ 2 เมตรเท่านั้น แต่พวกเขาเป็นคนขี้ขลาด พวกมันเกือบจะเหมือนลูกธนูขณะที่พวกมันพุ่งเข้าหา Barbarian Ruin
"ไป! มันคือมดพิษเพลิง!” Barbarian Ruin ไม่มีความมั่นใจอีกต่อไปเมื่อเขาเผชิญหน้ากับ Abel เขาตะโกนขณะที่เขาเร่งความเร็วกลับ
เขาไม่ต้องการนำมดเหล่านั้นกลับไปที่ทีมของเขา แต่เขาไม่สามารถหนีออกจากป่าแห่งนี้ได้หากขาดทิศทาง และเส้นทางอื่นๆ ก็มักจะถูกมดขวางไว้เช่นกัน
เสียงที่ดังก้องของ Barbarian มีประโยชน์อีกครั้ง แม้ว่าจะมีต้นไม้นับไม่ถ้วน ทีมของเขาก็ยังได้ยินเสียงของเขาจากระยะ 1,000 เมตร
“มดพิษเพลิง เป็นไปได้อย่างไร” ท่าทางหวาดกลัวปรากฏขึ้นบนใบหน้าของนักบวช มันคงเป็นเรื่องหายนะถ้าพวกมันเจอแมลงพิษระดับอสูรวิญญาณในสภาพแวดล้อมนี้
“ไปเร็วเข้า!” ใบหน้าของครึ่งเอลฟ์ลีออนก็เปลี่ยนไปเมื่อเขาเพิ่มอย่างรวดเร็ว
พวกเขามีพลังขนาดนั้นจริงหรือ? นอกจากนี้เขายังหันไปทาง Black Wind และมาถึงข้างๆ ครึ่งเอลฟ์ Leon
“มดพิษเพลิงมีฟันที่สามารถเจาะเกราะได้ และพวกมันมีธาตุพิษไฟที่ทรงพลังอยู่ในตัว หากคุณถูกกัด องค์ประกอบเหล่านั้นจะถูกฉีดเข้าไปในร่างกายของคุณและกัดกร่อนมัน!” ลีออนครึ่งเอลฟ์ปลอบหมาป่าบ้าของเขาขณะที่เขาอธิบาย
จากคำพูดของเขา Abel เข้าใจถึงพลังของพวกเขา
พวกเขามีการป้องกันในระดับพื้นผิวเท่านั้น หากฉีดธาตุไฟเข้าไปในร่างกาย ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะมีความสำคัญมากกว่าคาถาไฟ
ในทางกลับกัน ธาตุพิษกลับยากที่สุด เมื่อองค์ประกอบทั้งสองรวมกันมดเหล่านั้นจะได้เปรียบอย่างมาก พวกเขาจะมีปัญหาใหญ่อย่างแน่นอนหากถูกล้อม
แน่นอนว่าอีก 3 คนอยู่ในตำแหน่งที่แย่กว่ามาก ในฐานะพ่อมดชั้นยอด อาเบลสามารถหลบหนีในสถานการณ์ที่อันตรายที่สุดได้
เมื่อพวกเขาเริ่มเร่งความเร็ว เสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดของซากปรักหักพังแห่งอนารยชนก็ร้องลั่น ทันใดนั้น ครึ่งเอลฟ์ลีออนก็หยุดลง
“ฉันต้องช่วยเขา!” จากนั้นเขาก็หันกลับหมาป่าบ้าของเขาและมุ่งหน้ากลับไปยังที่ที่เสียงตะโกนนั้นดังมาจาก
ปุโรหิตจ้องมองอาเบลอย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็หันกลับไปหาหมาป่าบ้าของเขาเช่นกัน
ปุโรหิตไม่มีทางเลือก เขาคงตายในป่าหากมีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นกับลูกครึ่งเอลฟ์ลีออน หมาป่าบ้าของเขาคือลูกครึ่งเอลฟ์ลีออน เมื่อลูกครึ่งเอลฟ์ลีออนตาย หมาป่าผู้บ้าคลั่งก็จะตายไปด้วย
นักบวชอาจใช้สัตว์ประหลาดโคลนของเขาได้ แต่มันยังเร็วไม่พอสำหรับป่านี้ โดยเฉพาะกับมดพวกนั้น
ดังนั้น การช่วยเหลือพวกเขาจึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
อาเบลส่ายหัว เขาเป็นคนที่สงบที่สุด มันจะง่ายถ้าเขาต้องการที่จะหลบหนี
หากมดเหล่านั้นเป็นพลังแห่งจิตวิญญาณจริงๆ เขาเพียงแค่ต้องปลดปล่อยพลังมังกรของเขา และพวกมันจะต้องตะลึง แต่สิ่งเหล่านั้นคือแมลง พวกมันมีภูมิคุ้มกันโดยธรรมชาติต่อพลังงานของมังกร
หรือบางทีพลังงานของมังกรอาจทรงพลังเกินกว่าจะสนใจแม้แต่แมลง แต่ไม่ว่ายังไง พลังมังกรของอาเบลก็ไม่ได้ทำอะไรพวกเขามากนัก
Black Wind รวดเร็ว และในไม่ช้าเขาก็ตามทันนักบวช จากนั้นไม่นานพวกเขาก็พบกับครึ่งหนึ่งของลีออนซึ่งกำลังสร้างเฮอริเคนน้อยอย่างโหดเหี้ยม
คาถามีข้อเสียอย่างมากในป่า แม้ว่าพายุเฮอริเคนลูกเล็กๆ เหล่านั้นจะเคลื่อนที่ได้เอง แต่พวกมันทั้งหมดก็อยู่ได้ไม่นานก่อนที่จะชนต้นไม้และหายไป
พายุเฮอริเคนเล็ก ๆ เหล่านั้นถูกเหวี่ยงไปทางมดแดงที่พยายามโจมตี Barbarian Ruin พวกเขาหยิบริกขึ้นมาจากพื้นและทำลายมดตัวแรกออกไป
มีหลายสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อร่ายเวทมนตร์ในป่า ตัวอย่างเช่น เป็นการดีที่สุดที่จะหลีกเลี่ยงคาถาไฟเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ป่าสว่างขึ้นหรือทำให้สัตว์วิญญาณโกรธมากขึ้น
สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการทำให้เกิดการเคลื่อนไหวจำนวนมากของสิ่งมีชีวิตและสัตว์วิญญาณซึ่งพลังเกือบจะสามารถกวาดล้างทุกสิ่งได้
Barbarian Ruin ระงับความเจ็บปวดของเขาด้วยความช่วยเหลือจากพายุเฮอริเคนเล็กน้อย เขาฟาดมดพิษเพลิงสองสามตัวที่กัดเขาอย่างโหดเหี้ยม อย่างไรก็ตาม หมาป่าขี่ของเขาไม่แข็งแกร่งเท่า มันโดนโจมตีครั้งใหญ่ และถอยกลับไปที่กระเป๋ามอนสเตอร์ของลีออน
Barbarian Ruin ไม่เร็วเมื่อเทียบกับมดเหล่านั้นในตอนแรก และเขาช้ากว่าหลังจากได้รับบาดเจ็บ มดพิษเพลิงส่วนใหญ่ตามทัน เกือบจะเหมือนเมฆที่ปกคลุมท้องฟ้า
อีกา 5 ตัวของ Leon มาถึง แต่พวกมันก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้มากนักเมื่อต้องเผชิญหน้ากับมดพิษเพลิงจำนวนมาก พวกเขาสามารถเบี่ยงเบนความสนใจได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ไม้เลื้อยพิษด้านล่างก็อยู่ในสถานการณ์เดียวกันเช่นกัน
โครงกระดูกของนักบวชมาถึงด้านข้างของ Barbarian Ruin แม้ว่าการโจมตีเหล่านี้อาจโดนมดพิษเพลิงจำนวนเล็กน้อย แต่ก็ยังมีจำนวนมากเกินไป มันแทบจะไร้ประโยชน์
“สายตามืดมน!” เขาตะโกนเตือนคนอื่นๆ ทันใดนั้นก็มีเมฆคำสาปปรากฏขึ้นจากท้องฟ้าและหยาดฝนก็โปรยปรายลงมา มดสูญเสียการมองเห็น อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านั้นทำหน้าที่เป็นส่วนรวม ถึงกระนั้นบางคนก็สามารถกำหนดทิศทางได้
Half-elf Leon ไม่สามารถสนใจเรื่อง Barbarian Ruin ได้อีกต่อไป พายุเฮอริเคนลูกเล็กที่เขาโยนได้ทำให้มดพิษเพลิงส่วนหนึ่งโกรธเคือง และพวกมันก็เริ่มโจมตีเขา
นักบวชยังอยู่อีกไกล ดังนั้นเขาจึงมีเวลาที่จะล่าถอย
"อา!" Barbarian Ruin ตะโกน เขาปล่อย 'เสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง' และทำให้มดพิษเพลิงนับสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาหวาดกลัว
อย่างไรก็ตาม มดพิษเพลิงเริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ ความสิ้นหวังปรากฏขึ้นจากภายใน
รูปแบบการต่อสู้ของ Barbarian มักจะยิ่งใหญ่และโหดร้าย แต่ก็แทบไม่มีประโยชน์เลยกับเป้าหมายเล็กๆ จำนวนมาก
เขาน่าจะทำได้ดีกว่านี้ในการต่อสู้กับสัตว์วิญญาณกลุ่มเล็กๆ
เขารู้ว่าเขาเหลือมานาไม่มาก เมื่อกินจนหมดก็จะถูกมดเหล่านั้นกินทั้งเป็น
ในวินาทีสุดท้าย จู่ๆ ก็มีเงาวูบวาบอยู่ข้างหน้าเขา มันคืออาเบลใน Black Wind
อาเบลคว้าคอของเขาเหวี่ยงไปทางปุโรหิต ในเวลาเดียวกัน เขาก็คว้าขวานของเขา
เขาไม่มีเจตนาที่จะช่วย Barbarian Ruin เขาทำเพื่อลูกครึ่งเอลฟ์ลีออน เขาค่อนข้างเป็นมิตรกับอาเบล
อาเบลวางไม้เท้าเวทมนตร์ใบไม้และถือขวานของรูอินไว้คนละข้าง Black Wind ได้รับข้อความทันที
Black Wind เริ่มหันกลับมา และ Abel ก็เดินตามไป ขวานฟาดลงบนมดพิษที่ลุกเป็นไฟสองสามตัว แต่การโจมตีแต่ละครั้งทำให้เขามีแรงผลักดันบางอย่าง
คนซ้ายโจมตีก่อน และคนขวาตามมา ขณะที่เขาหมุน โมเมนตัมก็เพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม มดเหล่านั้นมีขนาดเล็กเกินไป และแกนก็ใหญ่เกินไป โมเมนตัมการรีบาวด์ที่นำมานั้นอ่อนแอเกินไป พายุเฮอริเคนของเขา (เสียหาย) ช้ากว่าปกติมากในตอนแรก
แต่ในไม่ช้า Black Wind ก็ชดเชยความเร็วของมันได้ ด้วยมนต์เสน่ห์จากนรกที่รวดเร็วเป็นพิเศษ พายุเฮอริเคนถึงพลังสูงสุดแล้ว
“ผู้ชายคนนี้เป็นพ่อมดด้วยเหรอ?” ปุโรหิตพึมพำเมื่อเห็นอาเบลหมุนขวาน
กรามของ Barbarian Ruin หลุด เขาคุ้นเคยกับทักษะนี้มากกว่าใครในทีม
เขาไม่สนใจอาการบาดเจ็บอีกต่อไป สายตาของเขาจับจ้องไปที่อาเบล แต่เขาไม่สามารถบอกรายละเอียดได้
อาเบลถูกล้อมด้วยมดพิษเพลิงจำนวนมาก และความเร็วของลมดำเกือบทำให้ขวานของเขากลายเป็นแผ่นสะท้อนแสงสีเทา
เสียงเสียดหูดังมาจากป่า และอาเบลก็จุดประกายสายตาและความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลของเขา เขาไม่ต้องการทำร้ายต้นไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเป็นผู้พูดวิญญาณ
ต้นไม้ปฏิบัติต่อเขาราวกับเป็นสมาชิกของป่าและแบ่งปันข้อมูลทุกอย่างกับเขา
การหมุนด้วยความเร็วขนาดนี้ด้วยขวานขนาดนี้ในป่าเป็นสิ่งที่น่าทึ่งในตัวมันเอง และ Abel ก็ไม่ทิ้งร่องรอยไว้บนต้นไม้เลยแม้แต่นิดเดียว
มดพิษเพลิงรู้ว่าพวกมันเจอศัตรูตัวฉกาจ ดังนั้นพวกมันจึงเร่งปีกของมันและรวมตัวกันรอบตัวอาเบล
อาเบลยังคงหมุนเร็วขึ้นและเร็วขึ้น ในที่สุดเขาก็กลายเป็นพายุเฮอริเคน