ตอนที่ 2877 ประกายสีดำที่ทำลายล้างโลก
ผู้แปล: Silavin และ Danny
ตัวตรวจสอบการแปล: PewPewLazerGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
คนในตระกูลไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงต้องหยุด และทั้งหมดก็หันไปหาหยางไค่ก่อนที่จะมองไปยังทิศทางที่เขาจ้องมอง
คนในตระกูลจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ หันมามองท้องฟ้าในระยะไกลและรู้สึกว่าหัวใจของพวกเขาเริ่มสั่น
ทันใดนั้น มีจุดสีดำปรากฏขึ้นเหนือขอบฟ้า แม้ว่าจุดสีดำจะเล็ก แต่ก็เด่นชัดเป็นพิเศษ
ในตอนแรก จุดสีดำเล็กๆ ลอยอยู่อย่างเงียบๆ บนท้องฟ้า ปล่อยออร่าที่น่าสะพรึงกลัว แต่หลังจากผ่านไปเพียงสามอึดใจ จุดสีดำเล็กๆ ก็ดิ่งลงทันที
เมื่อมันตกลงมา จุดสีดำเล็กๆ ก็ขยายตัวอย่างรวดเร็ว เหมือนกับหลุมดำที่กลืนกินทุกสิ่ง ทำให้ทุกสิ่งที่อยู่ภายในนั้นกลายเป็นความว่างเปล่า
“ประกายสีดำ!” ดวงตาของ Bao Qi เบิกกว้างในขณะที่เขาอุทาน ในขณะที่ใบหน้าของ Sha Ya เปลี่ยนเป็นสีเลือดขณะที่เธอจ้องมองไปที่หลุมดำที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วด้วยความกลัวและตื่นตระหนก เธอไม่สามารถแม้แต่จะพูดอะไรสักคำ และถ้าไม่ใช่เพราะหยางไค่อยู่ข้างๆ เธอ บางทีเธออาจจะหันหลังกลับและวิ่งหนีไปในทันที
หัวใจของหยางไค่จมดิ่งลง
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เรียกว่า Black Brilliance Bao Qi ที่กล่าวถึงคืออะไร แต่เขาก็ยังรู้สึกได้ถึงกลิ่นอายแห่งการทำลายล้างโลกที่แผ่ออกมาจากที่ห่างไกล ตำแหน่งของ Black Brilliance เห็นได้ชัดว่าเป็นเขตแดนของแม่น้ำคู่ซึ่งเป็นจุดรวมพลของ South Barbarian Clan!
นี่คือการสมรู้ร่วมคิด การสมรู้ร่วมคิดที่จะทำลายกองกำลังของ South Barbarian Clan!
Shaman Kings ของ South Barbarian Clan ไม่มีความคิด และ Shaman Grandmasters ของ South Barbarian Clan ก็ไม่รู้เช่นกัน หยางไค่รู้แล้ว แต่มันก็สายเกินไป
"เป็นไปได้อย่างไร? เป็นไปได้อย่างไร…” เป่าฉียังคงพึมพำด้วยความตกใจ ราวกับว่าทุกสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้าไม่สามารถเข้าใจได้
"มันคืออะไร?" หยางไค่หันไปหาเขา
Bao Qi หายใจเข้าลึก ๆ และอธิบายว่า “มันเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติใน Demon Realm ซึ่งประกอบด้วยแรงกัดกร่อนที่รุนแรงที่สามารถทำลายแผ่นดินได้ เมื่อมันปรากฏขึ้น ปีศาจธรรมดาก็ไม่มีโอกาสที่จะต้านทานมันได้ และแม้แต่ราชาปีศาจก็ยังถูกบังคับให้ล่าถอย แต่… เป็นไปได้อย่างไรที่ Black Brilliance จะมาปรากฏที่นี่?”
Demon Realm เป็นดินแดนที่มีมลทิน เมื่อเทียบกับโลกนี้ สภาพแวดล้อมของ Demon Realm นั้นเลวร้ายอย่างมาก และภัยพิบัติทางธรรมชาติก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
Black Brilliance เป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมายของ Demon Realm ไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไรหรือทำไมมันถึงเกิดขึ้น แต่มันจะพรากชีวิตของปีศาจไปเป็นจำนวนมากทุกครั้งที่มันปรากฏตัวพร้อมกับทำลายพื้นที่กว้างใหญ่ในอาณาจักรปีศาจ
นั่นเป็นเหตุผลที่ Demon Race จำเป็นต้องต่อสู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุดเพื่อสำรวจและพิชิต Great Worlds ใหม่ แน่นอนว่าการต่อสู้เป็นธรรมชาติโดยธรรมชาติของพวกเขา แต่พวกเขาก็ทำเพื่อความอยู่รอดเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม มหาพิภพทุกแห่งที่พวกเขายึดครองจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ภายในเวลาหลายหมื่นปี และจากนั้นพวกเขาจะต้องหันไปหามหาพิภพใหม่อีกใบหนึ่ง ทำให้เกิดวัฏจักรซ้ำแล้วซ้ำเล่า
Bao Qi ไม่เข้าใจว่าทำไม Black Brilliance ซึ่งเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติของ Demon Realm จึงปรากฏขึ้นบนดินแดนแห่งนี้ แต่นั่นไม่ได้เปลี่ยนความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าเขา เขากลัวว่าจะไม่มีใครรอดชีวิตในดินแดนที่ปกคลุมด้วย Black Brilliance
ในขณะที่พูด Black Brilliance ได้ขยายตัวและครอบคลุมเกือบครึ่งหนึ่งของท้องฟ้า ดูเหมือนอุกกาบาตขนาดยักษ์พุ่งลงมายังโลกอย่างหนักจากสวรรค์เบื้องบน
ไม่มีเสียงผิดปกติใด ๆ แต่แผ่นดินก็ถูกปกคลุมด้วยความมืดในทันที ความมืดค่อยๆ แผ่กระจายไปรอบๆ และสัตว์อสูรใน Shaman Niu Clan ก็กระวนกระวายมากขึ้น สั่นกีบอย่างหงุดหงิด พวกเขาปฏิเสธที่จะก้าวไปข้างหน้าไม่ว่านักรบที่อยู่บนหลังจะกระตุ้นพวกเขาอย่างไร
“เทีย!” หยางไค่ตะโกน
เตี่ยมองเขา
หยางไค่สั่งอย่างใจเย็น “หากข้าไม่กลับมาภายในหนึ่งชั่วโมง จงพาทุกคนออกไปจากที่นี่”
เตี่ยพยักหน้าเบาๆ
“นายจะทำอะไร” Bao Qi มองไปที่ Yang Kai ด้วยความประหลาดใจ แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใด ๆ
ชั่วพริบตา หยางไค่ซึ่งนั่งอยู่บนหลังสัตว์อสูรของเขาก็หายตัวไป
“เขา…” Sha Ya หันไปยังพื้นที่ที่ล้อมรอบด้วย Black Brilliance ด้วยความรู้สึกไม่สบายใจ และเห็นร่องรอยของร่างที่กำลังมุ่งหน้าไปยังทิศทางนั้นด้วยความเร็วสูงอย่างคลุมเครือ หายไปจากสายตาของเธอในพริบตา
ใบหน้าของ Bao Qi เปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด “เขากำลังทำอะไร!?”
คนป่าเถื่อนรวมตัวกันภายใต้ Black Brilliance ที่ระเบิดตายอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้แผนการที่ดีที่สุดคือการล่าถอยในทันที แต่ในฐานะผู้บัญชาการของกองทัพนี้ Sir Shaman Niu ทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ซึ่งทำให้ Bao Qi สับสน
“มันจบแล้ว มันจบแล้ว” Sha Ya ดูเหมือนจะสูญเสียจิตวิญญาณของเธอในขณะที่ดวงตาของเธอมืดมัวไปหมด
ถ้าเธอไม่ได้ถูกประทับตราวิญญาณของหยางไค่ เธอจะเชียร์ให้หยางไค่ตายโดยเร็วที่สุด แต่ตอนนี้เธอได้แบ่งปันการเชื่อมต่อวิญญาณกับเขาแล้ว เธออดไม่ได้ที่จะกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของหยางไค่
เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่การเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด หยางไค่ไม่รู้เรื่องความน่ากลัวของ Black Brilliance แต่เผ่าพันธุ์ปีศาจรู้ดีกว่าใคร
ถ้าแม้แต่ราชาปีศาจยังต้องล่าถอยภายใต้สถานการณ์นี้ เซอร์ชามานหนิว ผู้ซึ่งถูกคาดคะเนว่าแข็งแกร่งพอๆ กับแม่ทัพใหญ่ปีศาจจะจบลงด้วยดีได้อย่างไรโดยไปที่นั่น?
ราชาปิศาจทั้งสองสบตากันอย่างช่วยไม่ได้ เพราะพวกเขาได้แต่ภาวนาว่าเมื่อหยางไค่ไปถึงที่นั่น ประกายแสงสีดำจะหยุดลง
ไม่แน่ใจว่าคำอธิษฐานของพวกเขาได้ผลจริงหรือไม่ แต่ความมืดในระยะไกลนั้นกินเวลาน้อยกว่าก้านธูปก่อนที่จะค่อยๆ สลายไป สิ่งนี้ทำให้ทั้ง Bao Qi และ Sha Ya ประหลาดใจ เพราะใน Demon Realm เมื่อ Black Brilliance ปะทุขึ้น มันต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองสามวันถึงหลายเดือนกว่าจะสิ้นสุด ในช่วงเวลานี้ ผืนดินอันกว้างใหญ่จะหายไปและกลายเป็นความว่างเปล่า และแม้แต่หลักการของโลกในท้องถิ่นก็จะถูกทำลาย อาจกล่าวได้ว่าความทรุดโทรมของ Demon Realm มีความสัมพันธ์ที่ดีกับการมีอยู่ของ Black Brilliance
นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็น Black Brilliance ที่มีอายุสั้นเช่นนี้ ซึ่งคงอยู่ได้เพียงชั่วเวลาหนึ่งก้านธูป ในความเป็นจริงพวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับปรากฏการณ์เช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม เป็นเรื่องแปลกที่ Black Brilliance ปรากฏขึ้นในโลกนี้ตั้งแต่แรก ดังนั้นทั้งสองจึงสันนิษฐานว่าอาจเป็นเพราะ Demon Saint Mo Duo หรือความสามารถบางอย่างของ Great Demon God ซึ่งถ่ายโอน Black Brilliance ที่มีอยู่ใน Demon Realm ไปยังสถานที่นี้ แน่นอน ไม่ว่าความสามารถดังกล่าวจะน่าทึ่งเพียงใด มันก็มีข้อจำกัดต่างๆ อยู่เสมอ ซึ่งน่าจะเป็นเหตุผลหลักว่าทำไมระยะเวลาของ Black Brilliance จึงสั้นนัก
ในเวลาเดียวกัน หยางไค่ก็สังเกตเห็นสิ่งนี้และก้าวไปสู่จุดหมายอย่างไม่เกรงกลัว แม้จะรู้ว่ามีนักบุญปีศาจอยู่ก็ตาม เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมเขาถึงต้องการรีบไปเพราะไม่น่าจะมีผู้รอดชีวิต แต่มีแรงกระตุ้นในตัวเขาที่บังคับให้เขาก้าวไปข้างหน้า
ด้วยความประหลาดใจ จู่ๆ เขาก็สงสัยว่าเขาได้ปรับตัวให้เข้ากับตัวตนปัจจุบันของเขาในฐานะสมาชิกของเผ่าคนเถื่อนโบราณและบทบาทของเขาในฐานะ Shaman Grandmaster อย่างสมบูรณ์หรือไม่
หลังจากที่สลัดความคิดของเขาออกไปแล้ว หยางไค่ก็โฟกัสไปที่ดวงตาของเขาในขณะที่เขาสแกนพื้นที่ข้างหน้าเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลุมยักษ์ที่อยู่ข้างหน้าซึ่งดูเหมือนล้อมรอบไปด้วยตัวเลขที่คลุมเครือ
มันไกลเกินไป ดังนั้นแม้หยางไค่จะมองเห็นด้วยสายตา เขาก็ไม่สามารถเห็นสถานการณ์ที่นั่นได้อย่างชัดเจน
แต่เขารู้ว่าคนในเผ่าของ South Barbarian Clans ยังไม่ตายทั้งหมด และจะต้องมีผู้รอดชีวิตอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่าปีศาจคาดหวังสิ่งนี้มานานแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงอยู่รอบๆ หลุมขนาดใหญ่และกำลังรอที่จะกำจัดพวกคนเถื่อนที่ไม่ได้ตายในการระเบิดครั้งแรก!
ด้วยความผันผวนของหลักการอวกาศ หยางไค่กระโจนไปข้างหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า
ปีศาจที่อยู่รอบๆ หลุมขนาดใหญ่เริ่มพุ่งลงมาทันทีที่ Black Brilliance จางหายไป และด้วยความได้เปรียบของการลงมาจากที่สูง พวกมันเป็นเหมือนสัตว์ป่าที่พยายามจะกินคนเถื่อนทั้งหมด
ผู้รอดชีวิตจากอนารยชนรวมตัวกันภายใต้ผู้นำของตนและต่อสู้กลับด้วยกำลังทั้งหมดที่มี
เสียงคำรามที่ไม่ยอมใครเริ่มดังก้องและเสียงการต่อสู้และการฆ่าฟันดังก้องไปทั่ว
หลุมขนาดใหญ่ที่ถูก Black Brilliance กัดกร่อนกลายเป็นการต่อสู้นองเลือดในทันใด ปีศาจเข้าหาคนป่าเถื่อนจากทุกทิศทุกทาง และผู้รอดชีวิตจากกลุ่มคนเถื่อนทางใต้ลดแนวป้องกันลงทีละเล็กละน้อยโดยไม่แสดงทีท่าว่าจะยอมจำนน
อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างอย่างมากของจำนวนและความเสียหายเริ่มต้นที่เกิดจาก Black Brilliance ต่อ South Barbarian Clan ทำให้ Demon Race ได้เปรียบอย่างแน่นอน
มันเป็นเพียงเรื่องของเวลาก่อนที่เผ่าอนารยชนใต้จะพินาศ
ในเวลานี้ หยางไค่มาถึงสนามรบแล้ว
เขารีบวิ่งลงมาจากขอบหลุมขนาดใหญ่ โบกดาบมากมายมหาศาลอย่างบ้าคลั่ง ทุกที่ที่แสงดาบส่องประกายเลือดและเนื้อจะกระเซ็นออกมา หยางไค่เป็นเหมือนผู้พิชิตที่ไร้เทียมทาน ไถพรวนผ่านห้วงแห่งความตาย ปีศาจนับไม่ถ้วนที่น่ากลัวขวางทางเขา
ปีศาจจำนวนมากสังเกตเห็นการมีอยู่ของเขา และเจ้านายของเผ่าต่าง ๆ ก็พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างไม่เกรงกลัว แต่ทุกคนก็หยุดฝีเท้าของเขาไม่ได้และจบลงด้วยการสังหารด้วยดาบ แม้แต่นายพลผู้ยิ่งใหญ่แห่งปีศาจที่ทรงพลังเหล่านั้นก็ไม่สามารถต้านทานการโจมตีเพียงครั้งเดียวจากหยางไค่ได้ ด้วยพลังที่เหลืออยู่ของดาบหมื่นดาบทำให้หลายเล่มกลายเป็นเมฆหมอกโลหิต
ห่างออกไปสามสิบกิโลเมตร ดวงตาที่เข้าใจยากคู่หนึ่งสังเกตเห็นฉากนี้ เจ้าของดวงตาคือชายหนุ่มผิวขาว รูปร่างสูงยาว รูปลักษณ์ของหยางไค่ดูเหมือนจะเพิ่มแรงกระเพื่อมในน้ำนิ่งของสงคราม และกระตุ้นความสนใจของชายคนนี้
ราชาปีศาจหลายคนมารวมตัวกันรอบตัวเขาด้วยความเคารพ และบางครั้งก็ตรวจสอบสีหน้าของเขาด้วยความกลัว
ชายหนุ่มที่สามารถทำให้ Demon Kings ต่ำต้อยได้จะต้องเป็น...
ปีศาจแซงโมดูโอ้!
ก่อนที่จะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเขา อาจไม่มีใครคิดว่าฆาตกรที่นำ Black Brilliance มาสู่โลกนี้และสังหารสมาชิกของ South Barbarian Clan สองถึงสามแสนคนด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว แท้จริงแล้วเป็นคนผิวขาวที่ดูไม่เป็นอันตราย ผู้ชาย.
ไม่มีร่องรอยของ Demon Qi บนตัวเขา ราวกับว่าเขาเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดามาก
แต่ราชาปีศาจที่คุ้นเคยกับเขาต่างก็รู้ความจริงอันน่าสะพรึงกลัวของนักบุญปีศาจผู้นี้ ความอบอุ่นบนใบหน้าของเขาเป็นเพียงสิ่งอำพรางที่ไร้ความหมาย
ราชาปีศาจองค์หนึ่งสังเกตเห็นการแสดงออกที่เปลี่ยนไปของ Mo Duo และถามอย่างระมัดระวังว่า “ท่านครับ ท่านต้องการให้ข้าสอนบทเรียนแก่เขาหรือไม่?”
นี่คือการต่อสู้เพื่อสร้างศักดิ์ศรีของ Demon Race และเผ่าพันธุ์ต่างชาติส่วนใหญ่ก็ตายแทบเท้าแล้ว การต่อสู้ครั้งนี้ใช้เพื่อทำลายขวัญกำลังใจของเผ่าพันธุ์ต่างชาติ เพื่อแสดงให้พวกเขาเห็นถึงผลที่ตามมาของการต่อต้านเผ่าพันธุ์ปีศาจ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถปล่อยให้คนต่างชาติเหล่านั้นมีความเกรงใจแม้แต่น้อย เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มต่างชาติที่กวาดล้างสนามรบไปไกลเกินไปซึ่งทำให้ราชาปีศาจต้องการฆ่าเขา
Mo Duo ส่ายหัวและตอบด้วยรอยยิ้มจาง ๆ “ทุกอย่างเป็นไปตามที่ควรจะเป็น”
ราชาปีศาจหยุดพูดทันที และจ้องมองไปที่สนามรบอย่างเย็นชา ราวกับรอคอยที่จะได้เห็นว่าหยางไค่กำลังจะตายอย่างไร
หลุมนั้นใหญ่มาก มีรัศมีอย่างน้อยหนึ่งร้อยกิโลเมตร
และพื้นที่ทั้งหมดร้อยกิโลเมตรนี้คือสนามรบหนึ่งแห่ง!
เผ่าอนารยชนใต้เกือบทั้งหมดมารวมตัวกันที่นี่ภายใต้คำสั่งของราชาชาแมน เมื่อ Black Brilliance ระเบิดขึ้น มากกว่าสองในสามของจำนวนพวกเขาได้ยอมจำนนต่ออ้อมกอดแห่งความตายในทันที ในขณะที่ไม่มีใครที่รอดชีวิตไม่ได้รับบาดเจ็บ
กองกำลังของ Demon Race ก็ค่อนข้างน่าประทับใจเช่นกัน โดยเป็นตัวแทนของกองทหารรวมกันมากกว่าหนึ่งโหล Demon Kings ซึ่งมีความแข็งแกร่งรวมกันหลายแสนคน
ในปัจจุบัน มีผู้คนประมาณสองแสนคนมารวมตัวกันที่นี่ ซึ่งเกือบจะเป็นการต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เกิดสงครามระหว่างสองเผ่าพันธุ์ แต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยอย่างยิ่งต่อเผ่าอนารยชน