ผู้แปล: ศิลาวินและจอน
ตัวตรวจสอบการแปล: PewPewLazerGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
ยานเอ็นเตอร์ไพรส์จอดอยู่ที่ไหนสักแห่งบนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว พวกเขายังต้องใช้เวลาครึ่งวันกว่าจะไปถึง Taiyi Star หลังจากที่ประตูห้องโดยสารเปิดออก หยางไค่ก็กำหมัดและพูดกับหลู่ห้วยซวงว่า “คุณหลู่ ลาก่อน”
“ท่านครับ ลาก่อน ขอให้อยู่อย่างปลอดภัย” หลู่ห้วยซวงแสดงความเคารพต่อเขาอย่างสง่างาม ผู้ฝึกฝนระดับสูงจากตระกูลหลูที่อยู่ข้างหลังเธอกำหมัดเพื่ออำลาหยางไค่เช่นกัน เธอไม่ได้ให้เขาอยู่หรือบอกว่าพวกเขาจะพบกันอีก เพราะเธอรู้ว่าเหตุผลที่เขาเลือกแยกทางกับเธอที่นี่คือเขาไม่ต้องการลากตระกูลหลูเข้ามายุ่งเหยิงนี้
Taiyi Star เป็นฐานของตระกูล Yan ดังนั้นกองกำลังที่พวกเขาสั่งการบน Star จึงมีจำนวนมหาศาลพร้อมกับผู้ให้ข้อมูลนับไม่ถ้วนที่ซุ่มซ่อนอยู่ทุกซอกทุกมุม การมาเยือนของหยางไค่ในครั้งนี้จะกลายเป็นความขัดแย้งกับพวกเขาอย่างแน่นอน และถ้าตระกูลหยานตรวจสอบเรื่องนี้ พวกเขาจะพบว่าเขามาที่ดาวดวงนี้พร้อมกับตระกูลหลู เมื่อถึงตอนนั้น ตระกูลหลูจะมีส่วนเกี่ยวข้อง
ทั้ง Lu Huai Shuang และ Yang Kai เข้าใจเรื่องนี้ ด้วยความคิดนี้ เธอก็ถอนหายใจอย่างลับๆ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอต้องปกป้องครอบครัวของเธอ เธอเต็มใจมากกว่าที่จะส่งเขาไปยังสถานที่นั้นโดยตรง ปลายทางของพวกเขาก็ยังเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม เธอมีครอบครัวใหญ่อยู่เบื้องหลัง ดังนั้นเธอจึงต้องระมัดระวังในทุกสิ่งที่เธอทำ ดังนั้นเธอจึงรู้สึกขอบคุณที่เขามีความละเอียดอ่อนและมีน้ำใจ หากเขายืนกรานที่จะไปถึงที่หมายพร้อมกับคนของตระกูลหลู เธอก็ไม่อาจปฏิเสธเขาได้
เขาตัดสินใจหยุดยานอวกาศเมื่อพวกเขายังอยู่ห่างจาก Taiyi Star อยู่พอสมควรเพื่อหยุดพักกับพวกเขา หลังจากการจากไปอาจไม่ได้พบกันอีกในอนาคต
แน่นอน เธอหวังว่าจะได้พบเขาอีกในอนาคต เมื่อถึงตอนนั้น นางจะยืนอยู่ต่อหน้าเขาด้วยขอบเขตการบ่มเพาะที่สูงขึ้น
หยางไค่หันศีรษะและบอกเป็นนัยถึงเหอ หยุนเซียง ผู้ซึ่งเรียกกระสวยดาวของเธอออกมาทันที หลังจากที่พวกเขาเหยียบมันพร้อมกัน กระสวยก็เปลี่ยนเป็นลำแสงและพุ่งไปยัง Star Field
Star Shuttles เป็นสิ่งประดิษฐ์ประเภทการบินที่ใช้กันทั่วไปใน Star Field หยางไค่เคยใช้ตัวเองเมื่อตอนที่เขาอยู่ในทุ่งเหิงลั่วสตาร์ อย่างไรก็ตาม พวกมันไม่มีประโยชน์อีกต่อไปหลังจากที่เขาเข้าสู่ขอบเขตดารา
กระสวยดาราของเหอหยุนเซียงเป็นสิ่งประดิษฐ์ระดับคิงต้นกำเนิด แต่แม้ว่าความเร็วของมันจะค่อนข้างเร็ว แต่ก็ยังต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งวันในการไปถึงขอบของไท่อี้สตาร์
มันเป็นทรงกลมสีฟ้าขนาดใหญ่ที่ดูเหมือนดวงตาขนาดยักษ์ใน Star Field อันไร้ขอบเขตนี้ มันเปล่งแสงอันน่าหลงใหลและถูกล้อมรอบด้วยชั้นของหมอกออร่าจางๆ
หยางไค่รู้ว่ามันคือพลังงานโลกของไท่อี้สตาร์
ฐานของตระกูล Yan นี้เป็นไปตามชื่อของมันจริงๆ Taiyi Star เป็นหนึ่งใน Cultivation Stars ที่ดีที่สุดที่ Yang Kai เคยเห็นมา ในทุ่งเหิงลั่วสตาร์ทั้งหมด มีเพียงดาวแห่งเหิงหลัวแห่งหอการค้าเหิงหลัวเท่านั้น วอเตอร์มูนสตาร์เทียบได้กับมัน
“ท่านครับ เราควรไปที่ Yan Residence โดยตรงหรือไม่?” He Yun Xiang ถามขณะที่เธอควบคุมกระสวยดาวของเธอ
หยางไค่ยืนอยู่ข้างหลังเธอ และแม้ว่าเขาจะไม่ได้ใช้พลังงานใดๆ แต่รูปร่างของเขาก็มั่นคงราวกับภูเขา ไม่ว่ากระสวยจะเร็วแค่ไหน เขาก็ยังคงไม่ขยับเขยื้อน ราวกับว่ามีรากงอกอยู่ใต้เท้าของเขา
“ใช่ ไปที่นั่นโดยตรง”
"ดี." He Yun Xiang พยักหน้าขณะที่เธอรู้สึกประทับใจกับความมั่นใจของเขา
หยางไค่เป็นคนในอาณาจักรที่อยู่เหนืออาณาจักรราชาต้นกำเนิด ดังนั้นเขาจึงไม่มีใครเทียบได้ในสนามดาราแห่งนี้ ดังนั้นตระกูล Yan จึงไม่เหมาะกับเขาอย่างแน่นอน หากคนของตระกูลหยานยอมจำนนต่อเขาและบอกวิธีการเข้าสู่โดเมนบรรพบุรุษให้เขา นั่นก็เป็นเรื่องดีทั้งหมด อย่างไรก็ตาม หากพวกเขาดื้อรั้น เหอหยุนเซียงสามารถจินตนาการถึงหายนะที่ครอบครัวอันยิ่งใหญ่นี้ใน Unending Star Field จะต้องประสบ
พวกเขาเพิ่งพบกันได้ไม่นาน ดังนั้นเธอจึงยังไม่เข้าใจนิสัยใจคอหรือบุคลิกของหยางไค่ดีนัก อย่างไรก็ตาม เธอรู้สึกได้ว่าอาจารย์ที่เธอเข้าข้างเป็นคนที่เข้ากับคนง่าย เขาไม่ใช่คนที่จะกดขี่ผู้อ่อนแอด้วยพลังของเขา
นี่คือลักษณะนิสัยที่อาจารย์ควรมี ผู้ที่รักการกดขี่และทำให้ผู้อื่นยอมจำนนต่อพวกเขามักจะไม่มั่นใจในตนเอง
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดในการสื่อสารกับคนอย่างหยางไค่คือต้องซื่อสัตย์กับเขา บางคนอาจได้รับรางวัลตอบแทน
[หวังว่าตระกูลหยานจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร]
He Yun Xiang เคยไปที่ Taiyi Star หลายครั้งก่อนหน้านี้ ท้ายที่สุดนี่คือ Cultivation Star ที่ดีที่สุดใน Star Field นี้ แม้ว่าเธอจะเป็นหัวหน้าผู้จัดการของ Fierce Gale Pirates ที่ทุกคนดูถูก แต่ไม่มีใครเคยเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอมาก่อน ดังนั้นเพื่อเข้าสู่ Taiyi Star อย่างปลอดภัย เธอเพียงแค่ต้องเปลี่ยนกลับเป็นรูปลักษณ์ดั้งเดิมของเธอ
ดังนั้นเธอจึงคุ้นเคยกับเส้นทางที่จะเข้าสู่ Taiyi Star อยู่แล้ว หลังจากวนรอบดวงดาวในทิศทางตรงกันข้ามครู่หนึ่ง เธอก็บินกระสวยขึ้นสู่ผิวน้ำ
หลังจากที่พวกเขาผ่านชั้นเมฆ ทิวทัศน์ของพื้นดินก็ปรากฏให้เห็น
“ดูเหมือนว่าเราจะมาถึงพื้นที่ห่างไกลแล้ว” He Yun Xiang ดูเขินอายเล็กน้อยขณะที่เธอสังเกตสภาพแวดล้อม
"ไม่เป็นไร."
หลังจากที่พวกเขาบินต่อไปในอากาศเป็นเวลาสี่ชั่วโมง ในที่สุดเมืองขนาดใหญ่ก็ปรากฏให้เห็น
“นั่นคือฐานของตระกูลหยาน”
เมื่อจวนจะถึงเมืองก็ร่อนลงบนพื้นแล้วเดินไปข้างหน้า เมืองขนาดใหญ่ใด ๆ จะไม่อนุญาตให้ผู้ฝึกฝนคนใดบินเข้าไปโดยตรง เพราะจะทำให้ยากต่อการจัดการเมือง มีเพียงบางคนที่มีสถานะพิเศษเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้ทำเช่นนั้น
หยางไค่คุ้นเคยกับธรรมเนียมดังกล่าวอยู่แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่เป็นไร
กำแพงเมืองสูงกว่าร้อยเมตรและประตูเมืองเปิดกว้าง หัวที่น่ากลัวซึ่งดูเหมือนผีดุร้ายแขวนอยู่ใต้ประตู ดวงตาของมันเปล่งประกายด้วยแสงสีแดงเข้ม ปากของมันซึ่งเปิดกว้างเป็นทางเข้าเมือง ผู้ฝึกฝนทุกคนที่เข้ามาในเมืองดูเหมือนจะถูกวิญญาณดุร้ายนี้กลืนกินขณะที่พวกเขาหายเข้าไปในปากของมัน
เมื่อใดก็ตามที่ผู้ฝึกฝนเดินผ่าน ดวงตาสีแดงเข้มของภูตผีปีศาจจะส่องประกาย ราวกับว่ามันกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่าง
ผู้ฝึกฝนหลายคนกำลังรออยู่ที่ประตู เหอ หยุนเซียงขอความเห็นจากหยางไค่ จากนั้นเข้าแถวที่หลังแถวพร้อมกับเขา
ก้านธูปก็ถึงตาของพวกเขาที่จะเข้าไปในเมือง ทันใดนั้น หยางไค่ก็รู้สึกถึงกระแสพลังงานที่ไหลไปทั่วร่างกายของเขา ซึ่งรู้สึกเหมือนว่าเขาได้รับการตรวจสอบโดยสัมผัสแห่งสวรรค์ แต่เขารู้ว่ามันเป็นสิ่งที่แตกต่างออกไป ในขณะนั้น เขาตระหนักว่านั่นคือเทคนิคลับที่ฝังอยู่ในดวงตาของรูปปั้นผี มันไม่ได้มีเจตนาร้ายเพราะมันแค่ทำบันทึกเท่านั้น
เป็นเวลากลางดึกแล้ว แต่เมืองยังคงเร่งรีบและคึกคักราวกับว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิต ทุกครัวเรือนในเมืองยังคงเปิดไฟอยู่ แม้แต่ตรอกที่แคบที่สุดก็ยังสว่างไสวด้วยแสงไฟรอบๆ
ผู้ฝึกฝนจำนวนนับไม่ถ้วนหลั่งไหลไปตามถนนและถูไหล่ซึ่งกันและกัน
ถนนได้รับการออกแบบในลักษณะที่ซับซ้อน และทุกถนนมีร้านค้าสองแถวเรียงราย ดังนั้นเมืองจึงดูมีชีวิตชีวามาก ร้านค้าทั้งหมดมีรูปร่างที่แตกต่างกันเช่นกัน บางส่วนของพวกเขาดูแปลกใหม่และเจริญตา นอกจากนี้ยังมีหอคอยสูงหลายสิบชั้นที่ดูเหมือนเสาขนาดใหญ่ในเมืองที่พลุกพล่านแห่งนี้
กลางเมืองมีภูเขาสองยอด สูงจนเกือบถึงเมฆ ยอดเขาทั้งสองมีความสมมาตรอย่างสมบูรณ์แบบราวกับว่าสร้างจากแม่พิมพ์เดียวกัน หยางไค่เงยศีรษะขึ้นและเห็นว่าอาคารหลายหลังถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ด้านล่างจนถึงยอดเขาเหมือนบันได ไฟตรงนั้นสว่างเป็นพิเศษ แถวของพระราชวังดูโอ่อ่าและงดงาม
“นั่นคือที่ซึ่งคนในตระกูลหยานอาศัยอยู่ นอกจากปรมาจารย์ที่ประจำการอยู่ที่อื่นแล้ว สมาชิกตระกูลหยานทุกคนอาศัยอยู่ที่นั่น” เหอหยุนเซียงชี้ไปที่ภูเขาและอธิบาย ครู่ต่อมา เธอถามว่า “ท่านครับ คุณจะไปที่นั่นตอนนี้หรือ…”
“ฉันแค่มองไปรอบๆ ไปที่นั่นกันเถอะ” หยางไค่ตอบกลับ
“ท่านครับ โปรดมาทางนี้” เหอหยุนเซียงพูดและนำทางไป
แม้ว่าเมืองจะมีขนาดใหญ่ แต่เหอหยุนเซียงสามารถเดินรอบ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากเธออยู่ในอาณาจักรกษัตริย์ต้นกำเนิดลำดับที่สาม ในทางกลับกัน หยางไค่ไม่ได้เปล่งออร่าออกมา แต่การเคลื่อนไหวของเขายังคงรวดเร็วอย่างน่าทึ่ง
สองชั่วโมงต่อมา พวกเขามาถึงจุดต่ำสุดของยอดเขาสองครั้ง
“ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกผ่านจุดนี้ นี่คือที่ซึ่งมาจากตระกูล Yan อาศัยอยู่”
มียามที่ทำหน้าที่กั้นคนนอกไม่ให้เข้าไปในบริเวณนั้น ผู้พิทักษ์อยู่ในอาณาจักรที่หวนคืนต้นกำเนิดลำดับที่สาม ซึ่งห่างจากอาณาจักรราชาต้นกำเนิดเพียงไม่กี่ก้าว เขาได้รับการพิจารณาให้เป็นปรมาจารย์ใน Star Field นี้แล้ว แต่ในฐานของตระกูล Yan นี้ เขาสามารถทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามรดกของตระกูล Yan แข็งแกร่งและแข็งแกร่งเพียงใด
แม้ว่าน้ำเสียงของเขาจะฟังดูสุภาพ แต่การแสดงออกของเขาก็ดูห่างเหิน วิธีที่เขากวาดตามองหยางไค่เป็นการดูถูกเล็กน้อยเพราะเขาไม่รู้สึกถึงความผันผวนของพลังงานที่มาจากตัวเขา ดังนั้นเขาจึงคิดว่าคนอย่างหลังเป็นเพียงคนธรรมดา
อย่างไรก็ตาม เขารู้สึกตกใจกับออร่าราชาต้นกำเนิดของเหอหยุนเซียง แม้ว่าเขาจะไม่สามารถระบุการฝึกฝนของเธอได้อย่างแม่นยำ แต่เขาแน่ใจว่าเธออยู่ในอาณาจักรต้นกำเนิดราชา ยิ่งไปกว่านั้น เธอสวยและมีเสน่ห์ ดังนั้นเขาจึงเริ่มคิดลามกเกี่ยวกับเธอทันที
Origin King Realm Master ที่สวยงามโดดเด่นอย่างเธอนั้นหาได้ยาก
ถ้าเขาอยู่ในโลกภายนอก เนื่องจากการบ่มเพาะของเขา เขาคงไม่กล้าที่จะขยายขนาดราชาต้นกำเนิดอย่างเปล่าประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขายืนอยู่ข้างนอก Yan Residence และเขาก็เป็นศิษย์ของตระกูล Yan ด้วย ดังนั้นแม้ว่าเขาจะอยู่ในอาณาจักรที่ต่ำกว่าเธอ แต่เขาก็ยังกวาดสายตามองร่างของเธออย่างโจ่งแจ้งและชื่นชมความงามของเธอ เขาคิดว่าถ้าเขาสามารถนอนกับผู้หญิงคนนี้ได้หนึ่งคืน เขาจะไม่เสียใจอีกต่อไปแม้ว่าเขาจะต้องตาย
ยามคนอื่น ๆ ของตระกูลหยานที่อยู่รอบ ๆ ก็มองมาที่เธอและน้ำลายไหลไปทั่วร่างของเธอ
ใบหน้าของ He Yun Xiang ลดลงเมื่อเห็นสิ่งนั้น ตอนนี้เธอเป็นราชาต้นกำเนิดลำดับที่สาม ซึ่งเป็นหนึ่งในปรมาจารย์ระดับสูงสุดไม่กี่คนในทุ่งดาราแห่งนี้ แล้วถ้าพวกเขามาจากตระกูลหยานล่ะ? ผู้ฝึกฝนที่อ่อนแอกว่าควรแสดงความเคารพต่อปรมาจารย์เช่นเธอ
ถ้าเธอมาที่นี่คนเดียว เธอคงกลืนความโกรธของเธอไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธออยู่ภายใต้ปีกของหยางไค่ ดังนั้นการกระทำของเธออาจส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของเขา ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอไม่สามารถทนต่อพฤติกรรมที่อวดดีของพวกเขาได้
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงปล่อยออร่าราชาต้นกำเนิดลำดับที่สามของเธออย่างรวดเร็ว ทำให้องครักษ์ของตระกูลหยานที่จ้องเธออยู่ถึงกับหน้าซีด หลังจากที่เขาเซไปข้างหลังกว่าสิบก้าว เขาก็แทบจะหยุดตัวเองไม่ให้ล้มก้นกระแทก ด้วยมือของเขาที่กดหน้าอกของเขา เขายังคงสั่นสะท้านจากความตกใจอยู่ครู่หนึ่ง เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะจากไปโลกอื่น
นั่นคือแรงกดดันของราชาต้นกำเนิด! ยิ่งกว่านั้น มันไม่ใช่แค่แรงกดดันจากอาณาจักรราชาต้นกำเนิดธรรมดาๆ ผู้คุมคิดว่าหญิงงามผู้นี้อย่างน้อยต้องเป็นราชาต้นกำเนิดลำดับสอง
การแสดงออกมากมายปรากฏขึ้นเหนือเขาในขณะที่เขากัดฟันและสำลักความไม่พอใจ แม้ว่าเขาจะเป็นศิษย์ของตระกูลหยาน แต่การฝึกฝนของผู้หญิงคนนี้ก็ทรงพลังอย่างน่าตกใจ ตระกูลหยานจะไม่เลือกที่จะรุกรานอาจารย์ในเรื่องเล็กน้อยเช่นนี้
ไม่กล้าหยิ่งยโสอีกต่อไป เขากำหมัดด้วยท่าทางขึงขัง “นายหญิง ขอทราบชื่อของคุณและคุณมาที่นี่เพื่ออะไร”
เขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากตัวตนที่หยิ่งจองหองของเขาก่อนหน้านี้
เหอหยุนเซียงพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันมาที่นี่เพื่อพบผู้เฒ่าแห่งตระกูลหยาน โปรดแจ้งให้เขาทราบถึงการเยี่ยมชมของฉัน”
“ท่านต้องการพบพระสังฆราชหรือไม่” ยามตกใจในขณะที่เขาส่ายหัว “ฉันเกรงว่าฉันไม่สามารถช่วยคุณในเรื่องนี้ได้”
ผู้เฒ่าแห่งตระกูล Yan เป็นผู้ปกครองของ Star Field ดังนั้นไม่ใช่แค่ใครก็ตามที่มีสิทธิ์พบเขา แม้ว่าผู้หญิงที่อยู่ต่อหน้าต่อตาขององครักษ์จะเป็นราชาต้นกำเนิด แต่ก็มีความแตกต่างอย่างมากในด้านความแข็งแกร่งและสถานะระหว่างราชาต้นกำเนิด เธออาจไม่คู่ควรกับการเข้าพบผู้นำสูงสุดของพวกเขา
“ฉันแค่ต้องการไปเยี่ยมพระสังฆราชหยาน ได้โปรดช่วยเราด้วย”
บุคคลนั้นส่ายหัวอีกครั้ง “ไม่ใช่ว่าฉันไม่เต็มใจช่วย แต่…” เขาหยุดชั่วครู่ “นายหญิง คุณเคยพบพระสังฆราชของเรามาก่อนหรือไม่”
ถ้าพวกเขาเป็นคนรู้จักเก่า ก็คงไม่มีปัญหา เขาเต็มใจอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้สังฆราชทราบเกี่ยวกับเรื่องนี้ บางทีผู้หญิงที่มีเสน่ห์คนนี้อาจจะเป็นนายหญิงของปรมาจารย์ในโลกภายนอก
“ฉันชื่นชมเขามาตลอด แต่ฉันไม่มีโอกาสพบเขามาก่อน”
"แล้ว…"
“ได้โปรด…” ขณะที่เหอหยุนเซียงพูด เธอก็สะบัดวงแหวนอวกาศไปทางผู้พิทักษ์