ผู้แปล: ศิลาวินและจอน
ตัวตรวจสอบการแปล: PewPewLazerGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
ทุ่งดาราอันกว้างใหญ่เงียบสงัด
ทางเดินแห่งความว่างเปล่าหมุนวน ณ สถานที่แห่งหนึ่ง ดูราวกับว่ามันอยู่ที่นั่นชั่วนิรันดร์ด้วยตัวของมันเอง ทางเดินแห่งความว่างเปล่านั้นไม่เหมือนกับที่อื่นเพราะมันให้ความรู้สึกว่ามันไม่เสถียรอย่างมาก ราวกับว่ามันจะพังทลายลงได้ทุกเมื่อ
ออร่าอันตรายลอยออกมาจากมัน
การมีอยู่ของ Void Corridor นี้ไม่ใช่ความลับใน Star Field แต่ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าใกล้ นั่นเป็นเพราะปรมาจารย์อาณาจักรราชาแห่งต้นกำเนิดลำดับสามได้หายตัวไปในสถานที่นี้ในอดีต และตั้งแต่นั้นมาก็ไม่มีข่าวคราวใดๆ เกี่ยวกับเธอเลย ไม่มีใครทราบแน่ชัดว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ดังนั้น ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลายคนคาดเดาว่า Void Corridor นี้นำไปสู่โลกที่ไม่รู้จักซึ่งไม่มีทางหวนคืนกลับมาได้ แต่ไม่มีใครพยายามค้นหาจริงๆ
ในความเป็นจริงสถานที่แห่งนี้กลายเป็นที่รกร้างมาหลายสิบปีแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติใน Void Corridor ทางเข้าหดตัวและขยายตัวอย่างรุนแรงหลายครั้งก่อนที่ลำแสงหลากสีจะพุ่งออกมาจากมัน
ร่างหนึ่งก็พุ่งออกมาจากทางเดินพร้อมกับลำแสง ราวกับลูกธนูออกจากคันธนู คนๆ นั้นถูกยิงออกไปกว่าหนึ่งกิโลเมตรก่อนที่เขาจะทรงตัวได้
คนๆ นั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหยางไค่ ในขณะนี้ เขาดูค่อนข้างยุ่งเหยิง
หลังจากที่เขาเข้าสู่ Star Road Portal ใน Ancestral Domain เขาต้องผ่าน Void Cracks หลายจุดก่อนที่เขาจะสามารถกลับไปที่ Heng Luo Star Field ได้ เขาต้องใช้ความพยายามพอสมควรในการทำเช่นนั้น เขาไม่สามารถใช้พละกำลังได้มากนักเพราะมันอาจทำให้ Void พังทลายได้ แต่เขาก็ไม่สามารถใช้พลังที่อ่อนแอเกินไปได้ มิฉะนั้น เขาจะไม่สามารถทะลวงผ่าน World Barriers ต่างๆ เพื่อไปถึงตัวเขาได้ ปลายทาง.
เขาพยายามหลายครั้งก่อนที่จะพบเส้นทางกลับบ้าน หลังจากที่เขาทำให้ตัวเองมั่นคง เขาก็สแกนสภาพแวดล้อมด้วยสัมผัสแห่งสวรรค์ของเขา หลังจากนั้น เขาก็ดูร่าเริงในขณะที่เขาหัวเราะ นั่นเป็นเพราะเขาสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของ Shadowed Star
กางแขนออกราวกับว่าเขาต้องการโอบกอด Star Field
[เหิงหลัวสตาร์ฟิลด์ ฉันกลับมาแล้ว!]
เมื่อเขาออกจากสถานที่นี้ในอดีต เขาไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะกลับมาเร็วขนาดนี้ เขาตั้งเป้าหมายที่จะกลับมาอีก 100 ปีต่อมาเพื่อตัวเขาเอง แต่ตอนนี้ เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ การเดินทางปูด้วยความยากลำบากนับไม่ถ้วนและการต่อสู้แบบเอาเป็นเอาตาย แต่ตอนนี้ทุกอย่างก็คุ้มค่าแล้ว ภาพของผู้คนที่เขาโหยหาชัดเจนขึ้นในความคิดของเขา ทำให้เขานึกอยากจะกางปีกสักคู่แล้วบินกลับไปที่ Shadowed Star ทันที เขาต้องการที่จะปรากฏตัวต่อหน้าต่อตาพวกเขาและดูว่าพวกเขาประหลาดใจเพียงใด
จากนั้น เขาก็หันกลับมาและจ้องไปที่ทางเดินแห่งความว่างเปล่า นั่นคือพอร์ทัลที่ Su Yan เดินทางไปยัง Ancestral Domain ขณะที่เขารู้สึกถึงออร่าที่ลอยออกมาจากทางเดิน เขายังคงสั่นสะท้านจากความตกใจ ซูหยานต้องโชคดีมากที่มาถึงแดนบรรพบุรุษอย่างปลอดภัย
หลังจากนั้น เขาก็หายใจเข้าลึก ๆ และโบกมือให้ Su Yan ปรากฏตัวต่อหน้าต่อตาเขา
ดูเหมือนเธอจะนั่งสมาธิ แต่เมื่อตระหนักได้ว่ามีบางอย่างเปลี่ยนไปรอบตัวเธอ เธอจึงลืมตาและมองไปรอบๆ ก่อนจะถามด้วยรอยยิ้มว่า “เรากลับมาแล้วเหรอ”
ก่อนที่พวกเขาจะเดินทางกลับบ้าน หยางไค่ได้ใส่ทั้งหมดลงในลูกปัดโลกปิดผนึก ก่อนอื่น การนำคนจำนวนมากผ่านประตูมิติถนนดารามานั้นใช้พลังงานมาก ประการที่สอง ซู่หยานอยู่ในอาณาจักรต้นกำเนิด Dao ลำดับที่สอง ซึ่งเกินขีดจำกัดที่ Heng Leng Star Field สามารถทนได้ ดังนั้นเธอจึงต้องระงับการฝึกฝนของเธอ
จนถึงตอนนี้ดูเหมือนว่าเธอจะทำได้ดี มันเป็นเพียงว่าเธอระงับการฝึกฝนของเธอมากเกินไปจนถึงจุดที่เธอเพิ่งปล่อยออร่าราชาต้นกำเนิดลำดับที่สองออกมาในตอนนี้
“เอาล่ะ เรากลับมาแล้ว!” หยางไค่สูดหายใจลึก แม้ว่าท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวจะไม่มีอากาศ แต่เขาก็ยังได้กลิ่นที่คุ้นเคย จากนั้น เขาก็ยื่นมือออกไปและคว้าตัวซู่หยานไว้แน่น ราวกับว่าเขาไม่ต้องการแยกจากเธออีก ด้วยมือขนาดต่างๆ กันประสานกัน หยางไค่ดูตื่นเต้นเหมือนเด็กและประกาศว่า “กลับบ้านกันเถอะ!”
เขาไม่จำเป็นต้องระบุทิศทางเนื่องจากความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่าง Shadowed Star กับเขานั้นเพียงพอที่จะชี้ให้เห็นทางที่ถูกต้องสำหรับเขา หลังจากนั้นพวกเขาก็กลายเป็นลำแสงและยิงไปที่ Shadowed Star
เมื่อมีหญิงสาวสวยอยู่เคียงข้าง หยางไค่ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวอีกต่อไปในการเดินทางของเขา เมื่อใดก็ตามที่เขารู้สึกเช่นนั้น เขาจะพาซู่หยานไปลงจอดบนเดดสตาร์หรือดาวเคราะห์น้อยที่อยู่ใกล้เคียงก่อนที่จะมีส่วนร่วมใน 'กิจกรรม' ต่างๆ กับเธอ หลังจากที่เขาทำเช่นนี้หลายครั้ง ซูหยานก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ร่างกายหยกคริสตัลน้ำแข็งของเธอเพื่อลดความกระตือรือร้นของเขา
ไม่กี่วันต่อมา ในที่สุดดาวดวงใหญ่ก็ปรากฏให้เห็น แหล่งกำเนิดดวงดาวของ Shadowed Star ภายในร่างกายของเขาเต้นเป็นจังหวะราวกับว่ามันเป็นนักเดินทางที่กลับบ้านในที่สุด
ด้วยเหตุผลบางอย่าง หยางไค่รู้สึกประหม่าอีกครั้ง ราวกับว่าเขากลัวเล็กน้อยที่จะกลับบ้าน จากนั้นเขารู้สึกจับแน่นในมือของเขา เป็นซู่หยานที่คว้ามือใหญ่ของเขา เมื่อสบสายตากัน ในที่สุดเขาก็สบายใจขึ้น หลังจากนั้น เขาก็ดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอดและจูบที่หน้าผากของเธอขณะที่เขาตะโกนว่า “ไปกันเถอะ!”
ครึ่งวันต่อมา พวกเขาอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับ Shadowed Star
ทันใดนั้น หยางไค่และซู่หยานหันไปมองจุดที่ยานอวกาศขนาดใหญ่กว่าสิบลำลอยอยู่บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาว รัศมีอันทรงพลังแผ่ออกมาจากยานอวกาศเหล่านั้น
“พวกเขามาจากนิกายอะไร” หยางไค่ชี้ไปที่สัญลักษณ์ที่ดูเหมือนโครงกระดูกบนยานอวกาศ บางทีเขาอาจออกจากสนามดวงดาวนานเกินไป ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถรับรู้ถึงพลังอันยิ่งใหญ่ที่สัญลักษณ์นี้เป็นตัวแทนได้
โดยไม่คาดคิด ซูหยานส่ายหัวและตอบว่า “ฉันไม่รู้”
เธอออกจาก Star Field มาหลายปีแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับ Heng Luo Star Field และ Shadowed Star ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา
ทันใดนั้น ร่างหนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนดาดฟ้าของยานอวกาศที่ใหญ่ที่สุด มันเป็นชายชราที่มีออร่าหนาแน่น ทำเครื่องหมายว่าเขาเป็นราชาต้นกำเนิดลำดับที่สาม พวกเขาอยู่ห่างกันไม่กี่พันเมตร แต่เขายังคงจ้องมองที่หยางไค่อย่างเฉียบคม ดวงตาของเขาดูเหมือนจะมองเห็นความว่างเปล่าและคุณภาพที่แท้จริงของทุกสิ่งในโลกนี้
หยางไค่ส่งยิ้มให้เขา แต่ชายชรายกมือขึ้น ปืนใหญ่คริสตัลบนยานอวกาศเล็งไปที่หยางไค่และซู่หยาน ก่อนที่แสงพร่างพราวจะเริ่มบรรจบกัน หลังจากนั้นลำแสงก็พุ่งเข้าหาพวกเขา
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” หยางไค่หัวเราะเบา ๆ “ดูเหมือนว่าเราจะเจอคนบ้าทันทีที่เรากลับมา อืม มาคุยกับเขากันเถอะ”
หลังจากที่ลำแสงลดลง หยางไค่และซู่หยานก็ไม่พบที่ไหนเลย ชายชราบนดาดฟ้าจ้องมองไปทางนั้นครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะตะคอกและหันกลับมาพร้อมที่จะกลับเข้าไปในห้องโดยสาร
อย่างไรก็ตาม จู่ๆ เขาก็หยุดเดินในขณะที่เขารู้สึกถึงความเย็นที่ปกคลุมเขา ด้วยสายตาที่ตื่นตระหนก เขาจ้องเขม็งไปที่ด้านหน้าซึ่งมีชายหญิงคู่หนึ่งปรากฏตัวขึ้นโดยที่เขาไม่ทันรู้ตัว สองคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากคู่ที่เขาเพิ่งเห็นห่างออกไปหลายพันเมตร! พวกเขาควรจะถูกทำลายโดย Crystal Cannon
อย่างไรก็ตาม พวกมันยังมีชีวิตอยู่และเตะขณะที่พวกมันปรากฏตัวข้างหลังเขา แต่เขาไม่สามารถสัมผัสได้ถึงการมีอยู่ของพวกมันเลย
“ท่านผู้เฒ่า ท่านเสพติดการฆ่าหรืออะไรหรือเปล่า?” หยางไค่มองเขาอย่างยิ้มแย้ม ในอดีตเขาจะฆ่าชายชราคนนี้โดยตรงด้วยหมัดเดียว อย่างไรก็ตาม วันนี้เขาอารมณ์ดี เขาจึงไม่สนใจที่จะเห็นเลือด ยิ่งกว่านั้น เขาไม่รู้จักตัวตนของชายชราคนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องการผลีผลาม มันคงจะแย่มากถ้าชายชราดำรงตำแหน่งสำคัญจริง ๆ และมีความเข้าใจผิดบางอย่างที่นี่
หยางไค่มีความเชื่อมโยงกับผู้คนมากมายและกองกำลังในสนามเหิงลั่วสตาร์ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถทำอะไรผลีผลามได้
ชายชราจ้องไปที่หยางไค่อย่างแน่วแน่โดยไม่ตอบเขา เขารู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าเขาไม่สามารถที่จะรุกรานชายหนุ่มคนนี้ได้ เมื่อมีหยดเหงื่อเย็น ๆ ไหลลงมาที่หน้าผากของเขา ซ่อนมือไว้ในแขนเสื้อ เขาแสดงผนึกอย่างลับๆ และเตรียมพร้อมที่จะเคลื่อนไหวได้ทุกเมื่อ
“นายเก่า คุณเป็นใคร? Starships เหล่านี้เป็นของใคร? พวกคุณมาทำอะไรที่นี่?” หยางไค่มองไปรอบ ๆ และถามคำถามบางอย่างอย่างตั้งใจ แต่เขาไม่ได้รับคำตอบใด ๆ เป็นการตอบแทน
จากนั้นเขาก็ก้าวไปข้างหน้าและวนรอบชายชราหลายครั้ง หลังจากนั้น เขาก็หยุดอยู่ข้างหน้าเขาและโน้มตัวเข้ามาใกล้เพื่อจ้องมองเขา “ท่านผู้เฒ่า ท่านดูกังวลมาก”
เหงื่อเย็นไหลลงมาที่หน้าผากของชายชรามากขึ้น
หยางไค่เอื้อมมือไปตบไหล่ชายชราก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่คุณไม่ใช่ศัตรูของฉัน ฉันจะไม่ทำอะไรคุณ คุณเป็นศัตรูของฉันเหรอ”
“น-น-ไม่!” ชายชราพูดด้วยความยากลำบาก
หยางไค่พยักหน้า “ดีมาก โดยวิธีการที่ให้ฉันแนะนำตัวเอง ฉันคือปรมาจารย์แห่งดวงดาวดวงนี้ หยางไค่” เขาชี้ไปที่ดาวดวงใหญ่เบื้องล่าง
รูม่านตาของชายชราหดตัวขณะที่เขาดูหวาดกลัว เขาไม่เคยได้ยินข่าวใด ๆ ว่ามี Star Master สำหรับ Cultivation Star นี้ แต่หยางไค่ดูจริงจัง ดังนั้นเขาจึงไม่แน่ใจว่าควรเชื่อเขาหรือไม่
“ฉันหายไปหลายสิบปี และในที่สุดฉันก็กลับมาในวันนี้ ผู้หญิงบางคนกำลังรอฉันอยู่ที่บ้าน ท่านผู้เฒ่า ท่านคิดว่าข้าควรนำของขวัญอะไรมา?”
[ทำไมคุณถึงถามคำถามนี้กับฉัน] ชายชราบ่นในใจ แต่เขาไม่กล้าที่จะเพิกเฉยต่อคำถามของเขา หลังจากคิดแล้ว เขาก็ตอบว่า “ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะไม่สนใจของขวัญตราบเท่าที่คุณกลับมา”
หยางไค่ลูบคางของเขาและพยักหน้าเห็นด้วย “ท่านผู้เฒ่า ท่านพูดถูก” จากนั้นเขาก็หัวเราะทันที “ฉันเป็นของขวัญที่ดีที่สุดแล้ว คุณเห็นด้วยหรือไม่ พี่สาวอาวุโส?”
ซู่หยานตอบว่า “ใช่”
“ท่านผู้เฒ่า ขอบคุณมากที่ให้ความกระจ่างแก่ข้า” หยางไค่กำกำปั้นของเขาที่ชายชราและหายใจเข้าลึก ๆ “ฉันควรไปได้แล้ว ฉันเชื่อว่าพวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะเจอฉัน”
[โปรดไปให้พ้น! ไอ้บ้านี่มาจากไหน!? น่าเสียดายที่หญิงสาวสวยคนนี้ดูเหมือนจะไม่มีความตั้งใจที่จะจากเขาไป]
หยางไค่กำลังเร่งรีบ ดังนั้นเขาจึงกระตือรือร้นที่จะจากไป แต่ในขณะที่เขากำลังจะบินออกไป จู่ๆ เขาก็หันกลับมาและมองไปที่ชายชรา “ท่านผู้เฒ่า ท่านไม่ใช่ศัตรูของข้าจริงๆ หรือ?”
“ไม่แน่นอน!”
“อืม ดี” หยางไค่พยักหน้า “ก็อย่างที่คุณรู้ ถ้าคุณเป็นศัตรูของฉัน จุดจบของคุณก็จะน่าสังเวช”
หัวใจของชายชรากระโดดขึ้นไปที่คอในขณะที่ความหนาวเย็นแล่นจากเท้าไปถึงศีรษะ แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง กลับไม่พบทั้งคู่ เขาไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าพวกมันหายไปเมื่อใด หลังจากที่เขาสแกนพื้นที่ด้วย Divine Sense เขาก็ไม่สามารถตรวจพบออร่าใด ๆ ราวกับว่าพวกมันไม่ได้อยู่ที่นั่นตั้งแต่แรก
ด้วยความยากลำบาก ชายชรากลืนน้ำลายและหยิบอุปกรณ์สื่อสารออกมาทันทีก่อนจะใส่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาเข้าไป มือที่เหี่ยวย่นของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
นิกายสวรรค์ชั้นสูง
ในฐานะที่เป็นกองกำลังที่ค่อนข้างใหม่ การเพิ่มขึ้นของ High Heaven Sect ถือได้ว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน แต่หลังจากช่วงเวลาสั้นๆ ดังกล่าว ก็สามารถรวบรวมปรมาจารย์นับไม่ถ้วนที่อยู่ในอาณาจักรต้นกำเนิดกษัตริย์ได้ พวกเขายังมีราชาต้นกำเนิดลำดับที่สามสี่หรือห้าคนในนิกาย ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงกลายเป็นกองกำลังที่ทรงพลังที่สุดใน Star Field แม้แต่เจ้าโลกเก่าอย่างหอการค้าเหิงหลัว ดาวม่วง และสมาพันธ์ดาบก็ไม่คู่ควรกับพวกเขา
ในขณะนี้ ในห้องประชุมใหญ่ของนิกาย High Heaven Sect อาจารย์หลายคนมารวมตัวกัน
ประมุขนิกายชั่วคราวและผู้อาวุโสใหญ่แห่งสวรรค์ชั้นสูง Ye Xi Yun นั่งในตำแหน่งหัวหน้า ขณะที่ผู้อาวุโสอย่าง Chu Ling Xiao, Ling Tai Xu, Yang Xiu Zhu, Chu Han Yi, Lin Yu Rao, Qing Ya และ คนอื่น ๆ นั่งอยู่ทั้งสองด้านของห้องโถง แต่ละคนเป็นราชาต้นกำเนิด
ห่างจากกลุ่มนี้มากกว่าสิบคนเช่น Wu Yi, Yang Wei, Dong Qing Han และคนอื่น ๆ ที่อยู่ใน Origin Returning Realm บางคนอยู่ที่จุดสูงสุดของ Origin Returning Realm ดังนั้นพวกเขาอาจทะลุไปยัง Origin King Realm ได้ทุกเมื่อ
ห้องโถงมีเสียงดังเนื่องจากทุกคนกำลังถกเถียงกันอย่างเผ็ดร้อน ไม่เพียงแต่ผู้สูงวัยเท่านั้นที่แตกแยกในมุมมองของพวกเขา แต่แม้แต่คนรุ่นใหม่ก็ยังมีส่วนร่วมในการโต้วาทีอย่างดุเดือด
Ye Xi Yun นั่งอยู่ในที่นั่งหลักยังคงเงียบ แต่เธอก็ตั้งใจฟังการสนทนาทั้งหมดของพวกเขา