ตอนที่ 3186 ขอร้องทูตดวงดาวให้ลงมา
ผู้แปล: ศิลาวินและเตี้ย
ตัวตรวจสอบการแปล: PewPewLazerGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
หยางไค่ไม่สามารถรับรู้ถึงสิ่งนี้ได้ในขณะนี้ และแม้ว่าเขาจะทำได้ ก็ไม่มีอะไรที่เขาสามารถทำได้เพื่อหยุดมันไม่ให้เกิดขึ้น Wu Heng เป็น Star Field Master และสามารถออกแรง World Force of Grand Desolation Star Field เมื่ออยู่ในนั้น หยางไค่ไม่มีโอกาสชนะหากเขาต่อสู้กับหวู่เหิงที่นี่ คนเดียวที่สามารถต่อสู้กับ Wu Heng ได้ก็คือ Gun-Gun โชคดีที่ Gun-Gun ทำตามความคาดหวังของเขา ไม่ว่า Wu Heng จะรวบรวมพลังได้มากเพียงใดจาก Star Field มันก็กลืนกินพวกเขาทั้งหมด
ร่างสองร่าง ร่างหนึ่งใหญ่และร่างเล็กวิ่งไล่ตามกันทั่วสนามดารา ทำให้เกิดฉากที่มีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง
[เลขที่! เรื่องแบบนี้ดำเนินต่อไปไม่ได้!] อู๋เหิงกังวลมาก ทุกช่วงเวลาที่เขาถูกคุมขังอยู่ที่นี่ พื้นที่ส่วนใหญ่ของ Grand Desolation Star Field กำลังถูกกลืนกิน การหดตัวของ Star Field จะส่งผลโดยตรงต่อปริมาณพลังงานที่เขาสามารถระดมได้ [ฉันจะพ่ายแพ้ถ้าเรื่องยังเป็นแบบนี้ ฉันจะแพ้ได้ยังไง!] แค่เศษเสี้ยวของความเป็นไปได้ที่เขาอาจจะแพ้ก็ทำให้เขารู้สึกเหลือเชื่อ เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าผลลัพธ์ดังกล่าวจะเป็นไปได้ก่อนที่เขาจะมาหาหยางไค่ อย่างไรก็ตาม เขากำลังขี่เสืออยู่
ในทำนองเดียวกัน หยางไค่รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาใช้เวลาในการตรวจสอบสถานการณ์ของ Gun-Gun และในที่สุดก็ค้นพบการเปลี่ยนแปลงใน Small Sealed World
เช่นเดียวกับที่ Gun-Gun ต้องการเวลาพักผ่อนและย่อยอาหารหลังจากกลืน Cultivation Stars ไปแล้วสามดวง การโจมตีของ Wu Heng ที่เกิดจากการควบแน่นของพลังแห่งดวงดาวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะกิน การโจมตีเหล่านั้นสร้างแรงกดดันต่อ Gun-Gun มากกว่าการกลืน Cultivation Stars เหล่านั้น โลกใบเล็กที่ปิดสนิทจะไม่สามารถรับแรงกดดันได้หากสิ่งต่าง ๆ ดำเนินต่อไปนานกว่านั้น และเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น สถานการณ์จะกลายเป็นอันตราย กัน-กันจำเป็นต้องพักสักครู่เพื่อย่อยพลังของดวงดาวที่มันกลืนกินไป
ทั้งสองฝ่ายเป็นปรปักษ์ต่อกัน แต่ถึงแม้ต่างฝ่ายต่างจะมีข้อกังวลของตัวเอง แต่ทั้งคู่ก็เลือกที่จะมุ่งหน้าไปยังขอบของทุ่งดวงดาวรกร้างว่างเปล่าในเวลานี้ Wu Heng กำลังเร่งรีบเพื่อควบคุมการขยายตัวของ Heng Luo Star Field ในขณะเดียวกันก็พยายามขับไล่ Yang Kai ออกไป ในทางกลับกัน Yang Kai กำลังรีบพา Gun-Gun ไปยังที่ปลอดภัยเพื่อพักฟื้น
ความเร็วของทั้งสองฝ่ายเร็วมาก ไม่จำเป็นต้องพูดว่าในฐานะปรมาจารย์ของ Star Field Wu Heng สามารถข้ามระยะทางหลายร้อยล้านกิโลเมตรในพริบตาเดียว ในทางกลับกัน Gun-Gun ก้าวข้ามระยะทางที่น่าหวาดหวั่นอย่างมากในทุกๆ การเคลื่อนไหวที่มันทำ แม้ว่าร่างกายจะอ้วนและอ้วนก็ตาม เมื่อรวมกับความช่วยเหลือโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของ Wu Heng ก็มีผลทำให้เกิดการเคลื่อนไหวในทันที
ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ความมืดอันไม่มีที่สิ้นสุดก็ปรากฏให้เห็น ในไม่ช้าทั้งสองฝ่ายก็มาถึงสถานที่ที่ Star Fields ทั้งสองเชื่อมต่อกัน หยางไค่เอื้อมมือออกไปและสร้างความเชื่อมโยงกับร่างของเขาทันที ที่สำคัญกว่านั้น เขารู้สึกถึงพลังของ Heng Luo Star Field ที่เติมเต็มเขา แม้ว่าเขาจะยังคงอยู่ใน Grand Desolation Star Field แต่สถานที่แห่งนี้เป็นจุดที่ Star Fields ทั้งสองตัดกัน ดังนั้นจึงเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้ถูกกดขี่ด้วยพลังของ Wu Heng เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป
เมื่อรู้สึกถึงทั้งหมดนี้ หยางไค่อดไม่ได้ที่จะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “มีเส้นทางสู่สวรรค์ แต่เจ้ายืนยันที่จะบุกเข้าไปในนรก! Wu Heng ฉันต้องขอบคุณจริงๆ!” เมื่อคำพูดออกจากปากของเขา เขาก็ขี่ Gun-Gun และผ่าน Wu Heng เพื่อรีบกลับไปที่ Heng Luo Star Field
แม้จะส่งศัตรูที่ทรงพลังนี้ออกไปในที่สุด แต่ Wu Heng ก็ไม่ได้มีความสุขแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม หัวใจของเขาจมดิ่งลง เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกราวกับว่าเขาทำผิดพลาดร้ายแรงด้วยเหตุผลบางอย่าง
ในช่วงเวลาต่อมา พลังอันน่าสะพรึงกลัวที่ผลักหวู่เหิงก็มาจากความมืดที่ไร้ขอบเขต มันทำให้เขารู้สึกว่าเขาจะมีช่วงเวลาที่ยากลำบากในการปัดเป่ามันออกไป อย่างไรก็ตาม ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของ Yang Kai ปรากฏขึ้นในความมืดถัดไป ประทับอยู่ในดวงตาของ Wu Heng อย่างชัดเจน
“คุณเป็นปรมาจารย์ของ Star Field จริงๆ!” Wu Heng อุทานด้วยความตกใจ คลื่นความเสียใจท่วมท้นท่วมท้นเขา [ถ้าฉันรู้ ฉันจะไม่ส่งเขากลับ!]
เขาคิดว่าหยางไค่ไม่ใช่อาจารย์ของเหิงลั่วสตาร์ฟิลด์ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจไล่เขาออกจาก Star Field เพราะเขาไม่สามารถปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวได้ ปล่อยให้เขาวุ่นวายใน Star Field ของเขาทางด้านหลัง ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถมุ่งความสนใจไปที่การรับมือกับแรงกดดันจาก Heng Luo Star Field โดยไม่ต้องกังวลใดๆ แต่ตอนนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่!
อย่างไรก็ตาม มีบางอย่างที่เขาไม่เข้าใจไม่ว่าจะใช้สมองมากแค่ไหนก็ตาม หากหยางไค่เป็นจ้าวแห่งดวงดาว แล้วใครล่ะที่เป็นผู้ควบคุมการกลืนกินของลานดวงดาวที่รกร้างว่างเปล่าเมื่อหยางไค่บุกเข้ามาและอาละวาด เป็นไปได้ไหมว่าเหิงลั่วสตาร์ฟิลด์มีปรมาจารย์สองคน? แต่นั่นเป็นไปไม่ได้! มี Star Field Source เพียงแห่งเดียว ดังนั้นคนสองคนที่แตกต่างกันจะขัดเกลาได้อย่างไร?
จู่ๆ การคาดเดาที่กล้าได้กล้าเสียก็เกิดขึ้นในใจเมื่อการแสดงออกของ Wu Heng กลายเป็นความโกรธ
เขากัดฟันและคำราม “วิญญาณโคลน!”
นั่นเป็นคำอธิบายเดียวสำหรับข้อสงสัยทั้งหมดของเขา หยางไค่ต้องมีร่างโคลนวิญญาณที่เขาควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือวิธีที่เขาสามารถแทรกซึมเข้าไปใน Grand Desolation Star Field ในขณะที่ยังคงกลืนกิน Star Field!
เทคนิคในการสร้าง Soul Clones นั้นไม่ใช่ความลับหรือยากที่จะฝึกฝน อาจารย์หลายคนได้ฝึกฝนเทคนิคลับดังกล่าว แต่ Soul Clones ธรรมดาไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก พวกเขาสามารถใช้เพื่อสอดแนมสถานการณ์ที่เป็นอันตรายได้มากที่สุดแทนที่ต้นฉบับ ดังนั้นจึงถูกมองว่าเป็นเทคนิคลับที่ค่อนข้างไร้ประโยชน์ นอกจากนี้ การบ่มเพาะเทคนิคลับนี้ใช้เวลานานมากและต้องใช้ทรัพยากรอันมีค่าจำนวนมาก
ภายใต้สถานการณ์ปกติ มีไม่กี่คนที่ทุ่มเทความพยายามอย่างมากในการฝึกฝนเทคนิคลับเพื่อสร้าง Soul Clone; อย่างไรก็ตาม เทคนิคลับนี้ไม่สามารถใช้ในการต่อสู้ที่มีชีวิตเป็นเดิมพันได้ อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่า Soul Clone ของ Yang Kai นั้นทรงพลังอย่างน่าขัน มิฉะนั้นจะไม่สามารถควบคุมพลังของทุ่งเหิงหลัวสตาร์ทั้งหมดได้
ความมืดเป็นเหมือนกระแสน้ำที่ไหลออกไปด้านนอกเป็นคลื่น กลืนกินท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวเป็นส่วนใหญ่ในแต่ละครั้ง ในขณะเดียวกัน Wu Heng ถอยกลับอย่างต่อเนื่องด้วยความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์!
เขาพบว่าเป็นการยากที่จะหยุดยั้งความมืดเมื่อร่างทรงควบคุมการกลืนกินของ Star Field และทำได้เพียงพยายามอย่างเต็มที่เพื่อยับยั้งการโจมตีของมัน ตอนนี้หยางไค่ได้กลับมาที่ลานดาราแล้ว เป็นเรื่องธรรมดาที่พลังทำลายล้างจะเพิ่มขึ้น เมื่อรวมกับข้อเท็จจริงที่ว่า Grand Desolation Star Field ได้สูญเสีย Starry Sky ส่วนใหญ่ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่อาณาเขตของ Heng Luo Star Field ได้ขยายออกไป ส่งผลให้ Wu Heng เป็นคู่ต่อสู้ที่น้อยกว่าสำหรับ Yang Kai
[ฉันหยุดมันไม่ได้! ฉันหยุดมันไม่ได้แน่นอน!] ใบหน้าของ Wu Heng ซีดเซียว เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าการกลืนกินชิ้นส่วนเล็กๆ ของ Star Field ชั่วคราวโดยไม่มีอาจารย์จะทำให้เกิดหายนะเช่นนี้! หยางไค่เพิ่งกลายเป็น Star Field Master เมื่อไม่นานมานี้ ดังนั้นเขาจึงสามารถใช้พลังอันทรงพลังเช่นนี้ได้อย่างไร!? ทั้งสองคนเป็น Star Field Masters ดังนั้นในทางเทคนิคแล้ว Wu Heng ที่มีประสบการณ์มากกว่าควรจะได้เปรียบในการต่อสู้ครั้งนี้ น่าเสียดายที่ความเป็นจริงกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง
ด้วยการขยับร่างกายของเขา Wu Heng ถอยห่างออกไปอีกล้านกิโลเมตร
ในความมืด หยางไค่เฝ้าดูเขาอย่างเงียบ ๆ และเยาะเย้ย “เจ้าอยากวิ่งหรือ? มาดูกันว่าเจ้าจะหนีไปไหนได้เมื่อข้ากลืนกิน Grand Desolation Star Field ทั้งหมดแล้ว!”
หยางไค่รู้สึกเบิกบาน ไม่น่าแปลกใจที่ Wu Heng มีความคิดที่จะกลืนกิน Heng Luo Star Field เพื่อเป็นเจ้านายของมัน การกลืนกิน Star Fields อื่นกลายเป็นประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจ ยิ่งกว่านั้น หยางไค่สามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงในสนามดาราเหิงลั่วขณะที่เขากลืนกินลานดารารกร้างว่างเปล่า เขาตัดสินใจที่จะกลืนกินทุ่งดารารกร้างอันยิ่งใหญ่ทั้งหมด และรวมทุ่งดาราทั้งสองแห่งเป็นหนึ่งเดียว
[ฉันจะกลายเป็น Star Field Master ของ Star Fields สองแห่งในไม่ช้า!]
ในทางกลับกัน Wu Heng รู้สึกสงบอย่างประหลาดเมื่อเผชิญกับการเหน็บแนมของ Yang Kai เขาดูเหมือนยอมจำนนต่อชะตากรรมของเขา แต่ดวงตาของเขายังคงส่องประกายแววแห่งความมุ่งมั่นในตัวพวกเขา
ทันใดนั้น Wu Heng หยิบแผ่นหยกออกมาจาก Space Ring ของเขา แผ่นหยกถูกปกคลุมด้วยแสงระยิบระยับ ราวกับว่ามีดวงดาวนับไม่ถ้วนประทับอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังให้กลิ่นอายที่ลึกซึ้งและลึกลับ
หยางไค่อดขมวดคิ้วไม่ได้เมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเขาอาจอยู่ห่างกันมาก แต่เขาก็สามารถบอกได้ว่าแผ่นหยกนั้นไม่ใช่สิ่งประดิษฐ์
[ทำไมเขาถึงเอามันออกมาในเวลานี้? ฉันสงสัยว่าแผ่นหยกนั้นคืออะไร? มันดูไม่เหมือนไอเทมทั่วไป]
ในขณะเดียวกัน การแสดงออกของ Wu Heng ก็เคร่งขรึมในขณะที่เขาสร้างชุดผนึกมือแล้วชี้ไปที่แผ่นหยกในมือของเขา จากนั้นเขาก็ยกมันขึ้นเหนือหัวและตะโกนว่า “ฉันขอให้ Star Envoy ลงมา!”
เศษแสงเรืองแสงออกมาจากแผ่นหยกโดยไม่มีการเตือนล่วงหน้า ดูเหมือนว่ามีหิ่งห้อยนับล้านบินออกมาจากแผ่นหยก เศษแสงเหล่านี้รวมตัวกันเป็นลำแสงพร่างพรายที่พุ่งตรงไปยังท้องฟ้า เมื่อลำแสงนั้นไปถึงปลายสุดของท้องฟ้าเหนือศีรษะของเขา แสงสีขาวสว่างจ้าก็แผ่กระจายออกไปและบรรจบกันเป็นวงกลมยาวหลายกิโลเมตร วงกลมนั้นเต็มไปด้วยรูปแบบที่ซับซ้อนซึ่งหมุนอย่างไม่สม่ำเสมอ ทำให้ใครก็ตามที่มองมันวิงเวียน
หยางไค่ตกตะลึงเนื่องจากรูปแบบเหล่านั้นดูคุ้นเคยด้วยเหตุผลบางอย่าง เมื่อมองดูใกล้ ๆ เขาก็ตกตะลึง [นั่นไม่ใช่รูปแบบ Spirit Array ที่ฉันใช้ทุกครั้งที่จัดเรียง Space Array ข้ามเขตแดนเหรอ? แผ่นหยกนั้นคืออะไร? มันจะสร้างอาร์เรย์ที่ซับซ้อนในทันทีได้อย่างไร!?]
พลังแห่งอวกาศผันผวนอย่างรุนแรง และความวิตกกังวลก็เกิดขึ้นในหัวใจของหยางไค่ เมื่อรวมสิ่งที่หวู่เหิงตะโกนเมื่อกี้และสิ่งที่เขาเห็นตรงหน้า หยางไค่สามารถสัมผัสได้อย่างดีว่าจะมีใครบางคนโผล่ออกมาจากแถวนี้ในไม่ช้า นั่นเอง; ในแสงที่พร่างพราว จู่ๆ เท้าก็ก้าวออกมาจากแถววงกลมขนาดใหญ่ ราวกับว่าอมตะที่ถูกเนรเทศกำลังตกลงมาจากท้องฟ้าขณะที่ร่างนั้นค่อยๆ เปิดเผยตัว
หยางไค่เบิกตากว้างและเฝ้าดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อหน้าเขา
เมื่อเขาประหลาดใจ ร่างนั้นกลับกลายเป็นชายรูปงามที่มีหงอนขนนกและพัดขนนก ผู้ชายคนนี้หล่อมากจนทำให้หยางไค่รู้สึกไม่สบาย ยิ่งกว่านั้น เขามีดาบที่โดดเด่นห้อยลงมาจากเอวของเขา มันทำให้เขามีอากาศของนักดาบผู้กล้าหาญ ตาของเขาปิดลงในขณะที่เขาก้าวออกจากอาร์เรย์วงกลมขนาดใหญ่
Wu Heng ยืนอยู่ที่นั่นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เงยหน้าขึ้นมองร่างนั้น
ทันใดนั้นร่างนั้นก็ลืมตาขึ้น รู้สึกราวกับว่าสายตาของเขาแหลมคมพอที่จะมองทะลุทุกสิ่งในโลกนี้
หวู่เหิงลดศีรษะลงอย่างรวดเร็วราวกับว่าการมองดูบุคคลนั้นถือว่าไม่สุภาพ
ในทางกลับกัน หยางไค่รู้สึกราวกับว่าขนทั้งหมดบนร่างกายของเขาร่วงหล่น ความกดดันที่แปลกประหลาดและอธิบายไม่ได้เริ่มก่อตัวขึ้นในหัวใจของเขา เขาไม่แน่ใจนักว่าหวู่เหิงทรงพลังเพียงใด แต่หยางไค่คิดว่าเขาเป็นจักรพรรดิลำดับที่สาม
แม้ว่าหยางไค่จะเคยพบกับปรมาจารย์ระดับสามของจักรพรรดิมาก่อน แต่พวกเขาก็ไม่เคยสร้างปัญหาให้เขามากนัก
อย่างไรก็ตาม ชายสวมมงกุฏขนนกที่ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้าทำให้หยางไค่รู้สึกหายใจลำบาก และนั่นเป็นเวลาที่อีกฝ่ายไม่ได้มุ่งเป้าไปที่เขาด้วยซ้ำ
[มีคนประเภทเดียวเท่านั้นที่ให้ความรู้สึกนี้กับฉันได้! คนผู้นี้ไม่ได้อยู่ในอาณาจักรจักรพรรดิ! คนผู้นี้ต้องเป็นจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่! เขาคือจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่องค์ใด!?] ชื่อและใบหน้าทั้งหมดของจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่แวบเข้ามาในความคิดของหยางไค่ แต่ไม่มีใครเทียบได้กับบุคคลนี้ สิ่งที่เขาพบว่าแม้แต่คนแปลกหน้าก็คือ Wu Heng สามารถเรียกบุคคลนี้ได้
เรื่องตลกเกี่ยวกับการขอให้ Star Envoy ลงมาคืออะไร? ชื่อของ 'Star Envoy' มีอยู่ใน Star Soul Palace ด้วย และ Xiao Yu Yang ก็เคยเป็น 'Golden Star Envoy' ของ Star Soul Palace อย่างไรก็ตาม นั่นไม่ใช่ตำแหน่งใน Star Soul Palace; ท้ายที่สุด ตำแหน่งของ Xiao Yu Yang ใน Star Soul Palace ก็คือผู้อาวุโส
ที่เรียกว่า 'ทูตดารา' เป็นชื่อตามดินแดนทางใต้ Star Envoys of Star Soul Palace มีหน้าที่หลักในการสื่อสารและการประนีประนอมของความขัดแย้งระหว่างนิกายหลักในดินแดนทางใต้ นอกจากนี้ Star Envoys ยังดำรงตำแหน่งอื่นๆ ใน Star Soul Palace ทั้งสองเป็นอิสระและไม่ขัดแย้งกัน
Star Envoy นี้ไม่ได้เป็นสมาชิกของ Star Soul Palace อย่างชัดเจน
[ชายสวมมงกุฏขนนกดูเหมือนจะอยู่ในอาณาจักรเดียวกับจักรพรรดิ์จันทราสว่างไสว ไม่ เขายังคงอ่อนแอกว่าจักรพรรดิ์จันทราสว่าง] น่าเสียดายที่หยางไค่มีประสบการณ์จำกัดและไม่สามารถบอกได้ว่าบุคคลผู้นี้อ่อนแอกว่ามากเพียงใดเมื่อเทียบกับจักรพรรดิ์จันทราสว่าง
"ท่าน!" Wu Heng กำหมัดทักทาย
ชายสวมมงกุฏขนนกมองลงมาที่หวู่เหิงและถามเบา ๆ ว่า “หวู่เหิง?”
“มันคืออู๋คนนี้”