ผู้แปล: Sissy That Walk
ทั้งสามมองหน้ากันหลังจากได้ยินแผนของเหอไป๋ และตอนนี้ใบหน้าที่โกรธเกรี้ยวของพวกเขาก็ดูดีขึ้นมากแล้ว พวกเขาทั้งหมดวางมือบนไหล่ของเหอไป๋และประกาศอย่างใจกว้างว่าพวกเขาพอใจแล้วกับวิธีการที่สิ่งนี้ถูกปรุงออกมา และถ้าเหอไป่จะซื้ออาหารเย็นให้พวกเขา พวกเขาก็จะยกโทษให้เขาโดยสิ้นเชิง
เหอไป๋ค่อนข้างประทับใจกับคำพูดของพวกเขา และเขาก็หยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาทันทีและบอกให้พวกเขาสั่งอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ
เมื่อพวกเขาทานอาหารเย็นเสร็จและกลับไปที่สถานีตำรวจ พวกเขาก็ถูกกลุ่มนักข่าวจับกลุ่มทันที และ Ke shi ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ที่หัวของพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นเหอไป๋ พวกเขารีบรุดหน้าไปล้อมเขาและให้คำมั่นว่าพวกเขาจะแสวงหาความยุติธรรมให้กับเขาและเปิดเผยความจริงให้ทุกคนได้เห็น!
ผู้สอนค่อนข้างไม่พอใจกับคำพูดเหล่านั้นและเขาต้องการโต้กลับ อย่างไรก็ตาม ทนายความยืนขวางทางเขาและพยายามทำให้เขาเสียสมาธิ
เหอไป๋ไม่เคยคาดหวังว่าตีชิ่วเหอจะจัดการสถานการณ์เช่นนี้ เขามองไปที่ Ke Shi ที่ดูดุร้ายซึ่งฟังดูแหบเล็กน้อยแล้วมองไปที่นักข่าวที่ถือกล้องอยู่ในมือ เขาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแล้วนั่งลงข้างผู้สอนด้วยท่าทางประหลาดใจ
“ภาพที่ถ่ายโดย Mr. He นั้นน่าทึ่งจริงๆ พวกเขาดูเหมือนยูโทเปียที่ฉันเคยฝันถึงมาก” Ke Shi อุทาน เมื่อเขาเห็นทนายความของตระกูลฉินเข้ามา เขาก็จงใจเปล่งเสียงและพูดว่า “ไม่เหมือนบางครอบครัวที่ไร้มารยาทที่เลี้ยงดูเด็กสาวฮิปปี้และหลานชายที่โกหก ถ้าคุณถามฉัน ฉันจะบอกว่าพวกเขาอาจร่วมบ้านด้วยเพราะพวกเขาห่วยทั้งคู่”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทนายความของตระกูลฉินก็กระตุกใบหน้าของเขาและมองกลับไปด้วยใบหน้าที่คุกคาม
อย่างไรก็ตาม Ke Shi เป็นผู้ชายที่มีนิสัยไม่ยอมใครง่าย ๆ จะไม่ถูกข่มขู่อย่างง่ายดาย เขายิ้มให้ทนายความและโบกมือให้นักข่าวที่นั่งอยู่ข้างหลังเขา “ไปถ่ายรูปพวกเขาหน่อย คนเหล่านั้นคิดว่าพวกเขาสามารถรังแกนักเรียนเหล่านั้นได้โดยมีภูมิคุ้มกัน เพราะพวกเขาร่ำรวยและมีโรงเรียนอยู่ข้างๆ แต่พวกเขากลับไม่รับผิดชอบฉัน คราวนี้ฉันจะเปิดโปงให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาเป็นใครกันแน่”
นักข่าวเหล่านั้นลุกขึ้นทันทีและเดินไปหาทนายความของตระกูล Qin และเริ่มถ่ายรูป
ใบหน้าของผู้สอนเข้มขึ้นเมื่อเขาเห็นว่าเขาถูกถ่ายรูป
"นาย. เคะ ทางโรงเรียนไม่ต้องรับผิดในเรื่องนี้ สาเหตุที่ก่อนหน้านี้อาจารย์แนะนำให้เรายุติเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวเพราะมีคนเกลี้ยกล่อมให้เขาเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเพียงการเล่นตลกที่ไม่เป็นอันตรายในหมู่นักเรียน ตอนนี้ผู้สอนได้ตระหนักถึงความรุนแรงของสถานการณ์แล้ว เขาให้ความมั่นใจกับเราก่อนรับประทานอาหารกลางวันว่าเขาจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างจริงจังที่สุด และโรงเรียนจะไม่ปกป้องคนเลวที่รังแกนักเรียนที่ไร้เดียงสา ฉันขอแนะนำให้เราหยุดถ่ายภาพของเขาได้ไหม ท้ายที่สุดเขาก็เป็นเหยื่อในกรณีนี้เช่นกัน” เหอไป๋คว้าช่วงเวลานี้เพื่อก้าวขึ้น แม้ว่าเขาดูเหมือนจะปกป้องผู้สอน แต่จริง ๆ แล้วเขากำลังบังคับให้ผู้สอนต้องเลือกข้าง หลังจากพูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้เพื่อนร่วมห้องเข้าร่วมด้วย
เมื่อได้รับสัญญาณ Niu Junjie ก็ก้าวไปข้างหน้าโดยปริยายและเข้าร่วมการสนทนา เขาอธิบายว่าโรงเรียนเป็นศูนย์รวมของความยุติธรรมและผู้สอนเป็นผู้ชนะของความยุติธรรมได้อย่างไร และเขาเล่าถึงวิธีการที่ครูฝึกสอน Huang Wei ได้อย่างรวดเร็วเมื่อเขาสังเกตเห็นการประพฤติมิชอบของเขา และวิธีที่เขาถอดทุนการศึกษาของ Huang Wei และตักเตือนเขาอย่างรุนแรง . เขายืนยันกับทุกคนว่าผู้สอนคนนี้เป็นผู้สอนที่ยุติธรรมที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก
Ke Shi รู้สึกประทับใจมากกับคำพูดของเขา ในขณะที่ผู้สอนสามารถรู้สึกเพียงใบหน้าของเขาไหม้ด้วยความอับอายเมื่อเขาฟัง
"ฉันเห็น. ดูเหมือนว่าฉันจะทำผิดพลาด ตอนนี้ทุกอย่างสมเหตุสมผลแล้ว มหาวิทยาลัย Q เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงเกินกว่าจะยอมให้ชื่อเสียงเสื่อมเสียด้วยการปกป้องพวกทิ่มแทงอันทรงพลังที่กลั่นแกล้งนักเรียนที่ดีอย่างสมบูรณ์แบบ” Ke Shi ถอนหายใจ หันหลังกลับและยื่นมือออกมา “ขออภัยในความอหังการของข้า ทั้งหมดเป็นเพราะฉันต้องการความยุติธรรมให้กับนักเรียนที่มีความสามารถเหล่านั้น นักเรียนของคุณเก่งมาก โดยเฉพาะเหอไป๋ เขาเป็นชายหนุ่มที่มีพรสวรรค์ และฉันดีใจที่ได้จ่ายเงินหลายแสนเพื่อซื้อภาพถ่ายของเขา ฉันขอโทษที่ปล่อยให้อารมณ์ไม่ดีมาทำร้ายฉันในวันนี้ เมื่อฉันได้ยินว่ารูปภาพเหล่านั้นถูกลบ ฉันกังวลมากว่าฉัน... อย่างไรก็ตาม ฉันหวังว่าคุณจะยกโทษให้ฉัน”
เมื่อผู้สอนได้ยินวลีเหล่านั้น เช่น “โรงเรียนอันทรงเกียรติ”, “ปกป้อง”, “เสื่อมเสีย” และ “หลายแสนคน” เขาก็ตกตะลึง เขาจบลงด้วยการจับมือกับ Ke Shi ด้วยรอยยิ้มที่ตึงเครียดบนใบหน้าของเขา ในท้ายที่สุด เขาก็ทำได้เพียงเพื่อให้ Ke Shi มั่นใจว่ามหาวิทยาลัยจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าจะได้รับความยุติธรรม
Ke Shi รู้สึกประทับใจมากยิ่งขึ้นเมื่อได้ยินคำสัญญานี้ ด้วยการโบกมือของเขา กลุ่มนักข่าวที่รุมทำร้ายทนายความของตระกูล Qin หันกลับมาและสั่งให้กล้องของพวกเขาถ่ายทำฉากที่ผู้สอนร้องขอความยุติธรรมให้กับผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ และส่วนที่ Ke Shi เสนอให้ส่ง ธงกิตติมศักดิ์เพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของเขา
ใบหน้าของผู้สอนดูค่อนข้างเคร่งขรึม เขามองไปที่นักเรียนทั้งสี่คนที่ปกป้องเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลายและจากไปหลังจากแลกเปลี่ยนคำพูดกับ Ke Shi วิธีที่เขารีบหนีออกจากที่เกิดเหตุนั้นดูน่ากลัวราวกับว่ามีคนกำลังไล่สุนัข
ทนายความของตระกูล Qin อยู่ระหว่างการลิ้มรสอะดรีนาลีนที่พลุ่งพล่านที่เขาเพิ่งประสบกับนักข่าว และเมื่อเขาสังเกตเห็นว่านักข่าวเหล่านั้นรีบวิ่งไปถ่ายรูปผู้สอนที่เปลี่ยนข้างอย่างเมามัน เขาก็ตื่นตระหนกทั้งที่รู้ดี ผลที่ตามมาอันเลวร้ายของสิ่งนี้จะออกสู่สื่อ เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาทันทีและโทรหาทั้งกลุ่ม Qin และ Huangdu จากนั้น ราวกับว่าพยายามทำตัวให้รอบคอบ เขาส่งผู้ช่วยของเขาไปคุยกับ Ke Shi ด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะขัดขวางเขาและนักข่าว เพื่อให้คนจากตระกูล Qin และ Huangdu สามารถปรากฏตัวเพื่อหยุดพวกเขาได้ทันเวลา
Ke Shi เห็นแผนของเขาทันที แต่เขาแสร้งทำเป็นอย่างอื่นและพูดคุยกับพวกเขาต่อไป ในขณะที่ขุดคุ้ยเรื่องราวในอดีตที่สกปรกของตระกูล Qin และ Huangdu เพื่อยึดติดกับพวกเขา มันทำงานได้ดีและทนายความบางคนเข้ามาใกล้เพื่อเรียกชื่อเขา
ในขณะเดียวกัน เหอไป๋และเพื่อน ๆ ของเขากำลังนั่งดูเอะอะวุ่นวายอยู่ใกล้ ๆ และพวกเขาค่อนข้างรู้สึกขบขันกับสิ่งที่ได้เห็น
“ไป๋ ฉันต้องส่งมันให้คุณ แฟน ๆ เหล่านั้นมีประโยชน์จริงๆ” Niu Junjie ศอก He Bai ด้วยความตื่นเต้น
ทันใดนั้นเหอไป๋ก็ตระหนักได้ว่าเพื่อนร่วมห้องของเขาไม่คุ้นเคยกับความสัมพันธ์ระหว่างฮัวติงและตีชิ่วเหอ หลังจากลังเลอยู่นาน เขาตัดสินใจไม่บอกความจริงกับพวกเขา แต่เขากลับบอกพวกเขาว่าเป็นเพราะความบาดหมางในอดีตของ Ke Shi กับ Huang Du ทำให้ Ke Shi มาช่วยเขาและเขาไม่ใช่แฟนของเขาจริงๆ เหตุผลที่เขาเลือกที่จะเก็บความสัมพันธ์ระหว่าง Hua Ding และ Di Qiuhe เป็นความลับไม่ใช่เพราะเขาไม่ไว้ใจเพื่อนร่วมห้องของเขา แต่เพราะมันเป็นเรื่องส่วนตัวของ Di และมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเขาที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์นั้นกับคนอื่น นอกจากนี้ มนุษย์โดยธรรมชาติยังไม่ทราบแน่ชัดถึงความสามารถในการเก็บความลับ
“ฉันเดาว่า Karma เป็นผู้หญิงเลว ใช่มั้ย?” Cheng Jie กล่าวสรุปขณะที่เขายกแว่นขึ้น “ผู้คนต้องการอยู่ฝ่ายที่ชนะ ส่วน Huang Du และกลุ่ม Qin นั้นตรงกันข้าม”