ผู้แปล: xiiannie บรรณาธิการ: adeadaxe
ก่อนที่ Lu Mingshu จะได้นั่งลงเมื่อเธอกลับมา ก็มีคนมาที่ประตูของเธออีกครั้ง
มันคือ Shao Zhengyang
“ศิษย์น้องหลู่ พี่ชายโค่วเหว่ยต้องการพบพวกเรา เราไปกันเลยไหม”
เนื่องจากเป็น Kou Wei มันควรจะเป็นสิ่งที่สำคัญ
Lu Mingshu รีบเก็บของของเธอและเดินตามหลัง Shao Zhengyang
โคมไฟส่องสว่างทั่วลานบ้านอย่างสว่างไสว เมื่อพวกเขามาถึง คนอื่นๆ ก็มาถึงแล้ว และพวกเขาต่างก็คึกคักไปด้วยเสียงอึกทึกครึกโครมและตื่นเต้น
“อา มิสลู่ ในที่สุดพวกคุณก็มาถึงแล้ว!” Yue Lingyin เป็นคนช่างสังเกตที่สุด สังเกตเห็นพวกเขาก่อนและส่งสัญญาณให้พวกเขาเข้ามา
ความเงียบเข้าครอบงำลานบ้าน และทุกสายตาจับจ้องมาที่พวกเขา
"พวกเราสาย." Shao Zhengyang ยิ้มและคำนับส่วนที่เหลือ "ขอโทษ."
Lu Mingshu ติดตามและโค้งคำนับด้วย
“ไม่” Kou Wei ยิ้ม “เรายังไม่ถึงประเด็นหลักด้วยซ้ำ”
ในทางกลับกัน Qi Sheng ได้จับที่นั่งสำหรับพวกเขาแล้ว “ Brother Shao, Miss Lu ที่นี่”
“มานี่สิ นั่งกับฉันสิ” Yue Lingyin ดึง Lu Mingshu เข้าหาอย่างเสน่หา
ทั้งคู่นั่งลงและ Kou Wei เริ่มพูดว่า “ศิษย์น้อง Shao เจ้าฟื้นแล้วหรือ? คุณไม่เป็นไรใช่ไหม”
เมื่อพูดอย่างนั้น Kou Wei ได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นของตัวเองในใจของ Lu Mingshu แม้ว่า Shao Zhengyang จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เพียงแค่การถามก็ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น
"ฉันสบายดี." Shao Zhengyang ยิ้ม “เจ้านายของฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ เขาให้ยากับฉันจำนวนหนึ่งก่อนที่เราจะมา ฉันจะรักษาให้หายเร็วๆ นี้”
"ดีแล้ว." Kou Wei ยิ้มและหันเหความสนใจไปที่ Lu Mingshu “ฉันเชื่อว่าฉันไม่จำเป็นต้องแนะนำเธอใช่ไหม”
เสียงหัวเราะและการสนทนาที่มีชีวิตชีวาเต็มลาน “แน่นอน ไม่จำเป็น เธอเป็นที่รู้จักกันดี”
“ ใช่ Miss Lu ไม่รู้จักเรา แต่เรารู้จักเธอ”
“ฉันอยากเจอคุณมานานแล้ว!”
“ มิสลู ฉัน…”
นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเธอที่ผู้คนต่อสู้เพียงเพื่อที่จะได้รู้จักเธออย่างกระตือรือร้น โดยไม่ปฏิบัติกับเธอเหมือนเป็นสัตว์รบกวน และหลีกเลี่ยงเธอทันทีที่เห็นเธอ
“เฮ้ ช้าลงหน่อย คน!” Qi Sheng ตะโกน “เธอควรจะไล่ตามพวกนายได้ยังไงในเมื่อคุณส่งเสียงดังขนาดนั้น? อย่ามีวัว!”
“'ใช่ ใช่ ใช่ คุณมีน้ำใจมาก โอเคไหม?”
หลังจากแนะนำตัวมานาน Kou Wei ก็ยุติการไล่ล่า “เอาล่ะ มันสายไปแล้ว และพรุ่งนี้ยังมีการแข่งขันอีก เข้าประเด็นกันเถอะ”
ด้วยบารมีของเขา ทันทีที่เขาพูด ความเงียบก็เข้าครอบงำลานบ้าน
“เทศกาล Qilin จัดขึ้นเพียงครั้งเดียวในทุก ๆ ทศวรรษ และสำหรับ Spirit Realms นั้นเหมาะสำหรับพวกเขา แต่สำหรับเรา เรามีโอกาสแค่สองครั้งเท่านั้น และฉันก็สงสัยว่าใคร ๆ ก็อยากได้โอกาสครั้งที่สาม จริงไหม?”
ทุกคนหัวเราะออกมา
ทุกคนที่มาร่วมงานล้วนเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงจากนิกายของตน อายุที่เหมาะสมที่สุดในการเข้าสู่ Spirit Realm คือประมาณสามสิบ ถ้าใครอายุมากกว่าสามสิบห้าปีและยังไม่สามารถทะลวงผ่านไปยังอาณาจักรวิญญาณได้ พวกเขาคงไม่มีหน้าพอที่จะออกไปข้างนอก นั่นเป็นเหตุผลที่กลุ่มนี้จะเข้าร่วมเทศกาลกิเลนมากสุดแค่สองครั้ง และสำหรับบางคนเพียงครั้งเดียว
“ในหมู่พวกเรา มีไม่กี่คนที่เข้าร่วมเทศกาลกิเลน นี่เป็นครั้งแรกสำหรับพวกคุณส่วนใหญ่” Kou Wei แล้วชี้ไปที่ตัวเอง “ฉันแก่กว่าพวกคุณและเห็นได้ชัดว่าเคยเข้าร่วมเทศกาล Qilin ครั้งล่าสุด ดังนั้นให้ฉันเป็นอลัชชีและแบ่งปันความคิดของฉัน”
“พี่ชาย Kou รักษาความอ่อนน้อมถ่อมตน คุณเข้าสู่ห้าอันดับแรกหลังจากอยู่ใน Harmonization Realm เพียงสามปี ฉันจะขอให้คุณบอกฉันแม้ว่าคุณไม่ได้พูดอะไร!”
"ถูกตัอง! แค่พูดอะไรบางอย่างถ้าคุณต้องการคำชมจากเรา!” Qi Sheng เย้ยหยัน
Qi Sheng ถูกกระแทกที่ศีรษะอย่างแรงทันที
“อย่าล้อเล่น จริงจัง”
“โอเค ฉันจะหุบปาก….”
Kou Wei เริ่มอีกครั้ง “ฉันแน่ใจว่าพวกคุณทุกคนชัดเจนเกี่ยวกับกฎของเทศกาล Qilin มีสามสิ่งที่ควรทราบหากคุณต้องการชนะ ประการแรก คุณต้องมีการต่อสู้ที่เพียงพอ ประการที่สอง เลือกคู่ต่อสู้ที่ถูกต้อง ประการที่สาม อย่าแพ้เด็ดขาด ตามคะแนนที่หักเมื่อคุณแพ้ คุณไม่ควรต่อสู้หากไม่มีโอกาสชนะอย่างน้อย 50 เปอร์เซ็นต์”
“เขาพูดถูก” Yue Lingyin กล่าวเสริม “ไม่เป็นไรที่จะแพ้เมื่อมีคะแนนน้อยกว่า แต่เมื่อคะแนนของคุณสูงขึ้น การสูญเสียเพียงครั้งเดียวอาจเทียบเท่ากับการโบกมือลาสิบอันดับแรก”
ทุกคนพยักหน้า นั่นคือจุดสำคัญ
“สิ่งต่อไปคือการเลือกคู่ต่อสู้” Kou Wei จุ่มตะเกียบลงในชาและเริ่มเขียนข้อความบนโต๊ะ “สองสิ่งที่ควรคำนึงถึงในการเลือกคู่ต่อสู้ – อย่างแรก เครื่องหมายของพวกเขา ประการที่สอง ความสามารถของพวกเขา การมองข้ามจะทำให้คุณจมอยู่กับปัญหา ด้วยความสามารถ ฉันเชื่อว่าทุกคนที่นี่รู้วิธีตัดสินสิ่งนั้น สำหรับคะแนน ยิ่งคุณต่อสู้เร็วเท่าไหร่ คุณก็ยิ่งสูญเสียมากขึ้นเท่านั้น”
ทุกคนหันไปมองการเขียนลวกๆ ของ Kou Wei การต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีคะแนน 10 คุณจะได้เพียง 2 คะแนน ในขณะที่การต่อสู้กับคู่ต่อสู้ที่มีคะแนน 20 คะแนน คุณจะได้ 4 คะแนน ด้วยคณิตศาสตร์อย่างง่าย มันง่ายที่จะบอกว่า ยิ่งคุณเริ่มเร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีประสิทธิภาพน้อยลงเท่านั้น
“แต่พี่โค่ว ถ้าเราเริ่มช้าเกินไป เราจะไม่มีคะแนนเพียงพอหรือ?”
Kou Wei ยิ้มกว้าง "อย่างแท้จริง. ดังนั้นเราต้องจับจังหวะให้ถูกจังหวะ” เขาวางตะเกียบลงและหันไปทางกลุ่ม “ทุกคนที่นี่เก่งที่สุดจากนิกายของคุณ ดังนั้นฉันจะพูดตรงๆ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเราจะพบกันระหว่างการแข่งขัน และจากนั้น... พวกเราต่างก็เป็นคู่ต่อสู้กัน”
ทุกคนพยักหน้า ความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นสิ่งหนึ่ง แต่ในสนามรบนั้นแตกต่างกัน ใครจะเต็มใจเป็นหินก้าวของคนอื่น? ทุกคนต้องการได้รับการจัดอันดับใหม่
“อย่างไรก็ตาม” Kou Wei หยุดชั่วขณะ “หากเราต่อสู้กันเร็วเกินไป ก็จะเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่นเท่านั้น”
นี่เป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจ
“พี่ชาย Kou คุณกำลังบอกว่าเราควรรอที่จะต่อสู้?”
Kou Wei ยิ้ม “เมื่อการแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นขึ้น เหล่าสาวกที่รู้ว่าพวกเขาไม่มีโอกาสติดท็อปเท็นและต้องการมีชื่อเสียงจะได้เริ่มก้าวแรก เมื่อพวกเขาจบการแข่งขัน นั่นคือเวลาที่เราจะเข้ามา และพวกเขาคือกุญแจสำคัญที่ทำให้เราได้รับชัยชนะ”
“รุ่นพี่โค!” เขาเป็นคนอ่อนโยนและทางอ้อมที่ Yue Lingyin ไม่สามารถรับได้อีกต่อไป “ฉันจะทำ โอเค?”
“แน่ใจนะ” Kou Wei ระเบิดเสียงหัวเราะ “คุณสามารถยึดครองได้”
Yue Lingyin กระแอมในลำคอก่อนที่เธอจะเริ่ม “ขอแบ่งสิ่งนี้ออกเป็นสามขั้นตอน ด่านแรก – ให้พวกเขาแข่งขันกันเอง เมื่อพวกมันกลายเป็นลูกแกะอ้วน นั่นจะเป็นด่านที่สองที่เราขึ้นไปกินลูกแกะ หลังจากกินลูกแกะแล้วคือระยะที่สาม – การกินเนื้อคน!”
วิธีที่เธอพูดมันทำให้ Kou Wei หัวเราะ “อะไร 'ลูกแกะอ้วน'? ความเคารพของคุณอยู่ที่ไหน”
“โอ้พระเจ้า อย่าทำเหมือนว่าคุณไม่ได้คิดอะไรเหมือนกันนะ เจ้าหน้าซื่อใจคด” Yue Lingyin กลอกตาก่อนจะหันไปทางที่เหลือ "ชัดเจน?"
"ใช่!" ที่เหลือตอบ
เมื่อเทียบกับคำอธิบายที่ดีของ Kou Wei แล้ว Yue Lingyin เข้าใจได้ดีกว่ามาก
"ดี." Yue Lingyin ปรบมือ “นั่นคือบทสรุปของการต่อสู้ของผู้ท้าชิง เราจะแพ้ถ้าเราสู้กันเองก่อนด่านสาม”
เท่านั้น
ที่เหลือพยักหน้า
"เย้!" Yue Lingyin ปรบมือ “แล้วนั่นล่ะ”
เธอมองไปที่ Kou Wei อย่างภาคภูมิใจ “รุ่นพี่โค มีอะไรจะเพิ่มเติมไหม”
Kou Wei แตะจมูกของเขา “คุณรับสายของฉัน มีอะไรให้ฉันพูดอีกไหม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพรุ่งนี้เราจะไม่ต่อสู้กัน เราก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะไม่มีใครมาท้าทายเราได้ กลับไปพักผ่อนกันเถอะ”
ทุกคนพยักหน้า
“นอกจากนี้” Kou Wei กล่าวเสริม “ไม่ใช่นักสู้ที่เก่งที่สุดทุกคนที่จะเข้าร่วมแผนนี้ ดังนั้นทุกคนควรระวังตัวด้วย”
ตัวอย่างเช่น แท่นความจริงที่เจ็ดและยอดหยกโบราณไม่ได้อยู่ที่นี่ Kou Wei อาจมีชื่อเสียง แต่ทุกคนไม่ได้เห็นหน้าเขา