ตอนที่ 322: หอคอยเมฆา
ผู้แปล: imperfectluck บรรณาธิการ: Pranav
เจ้านายคนใหม่ได้รับการยืนยันแล้ว และหอคอยสามสีก็เริ่มส่องแสง—มันสว่างมากจนแม้แต่คนที่อยู่บนถนนใกล้ๆ ก็มองเห็นได้
แสงลึกลับล้างบาปให้ทั้งหอผู้วิเศษ รวมถึงหอสังเกตการณ์ ห้องทำนาย ห้องสมุด สวนลึกลับ โกดังหุ่นเชิดเวทมนตร์ ห้องทดลองวิจัยสัตว์วิเศษ ดันเจี้ยนสัตว์วิเศษ ห้องอัญเชิญ สระแห่งธาตุ และที่พักของคนรับใช้ นอกจากแสงที่ส่องสว่างทุกห้องแล้ว ความตั้งใจของฉันก็กระจายไปทั่วทุกมุมของหอคอยนักเวทย์แห่งนี้
แม้ว่าฉันจะใช้แผงควบคุม แต่ฉันก็สามารถส่งวิสัยทัศน์ของฉันไปยังตำแหน่งใดก็ได้ที่ฉันต้องการในหอคอย ตราบเท่าที่ฉันตั้งใจ คำสั่งของฉันจะมาถึงในทันที ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด
“การวิเคราะห์อัตโนมัติสำหรับทั้งสิบเจ็ดชั้นของหอคอยหลักและสิบสองชั้นของหอคอยรองทั้งสองเสร็จสมบูรณ์แล้ว จำเป็นต้องมีการซ่อมแซมสำหรับชั้นที่สามของหอคอยหลักและชั้นที่เจ็ดของหอคอยรองที่สอง ชั้นอื่นๆทั้งหมดอยู่ในสภาพดีเยี่ยม แบตเตอรี่พลังงานถูกเปิดใช้งาน และหุ่นเชิดเวทมนตร์จะสรุปการวิเคราะห์อัตโนมัติภายในห้านาที หุ่นเชิดจะดำเนินการทำความสะอาดและซ่อมแซมหอคอยผู้วิเศษ กว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของหอคอยเวทย์มนตร์สามารถกู้คืนกลับมาใช้งานได้ทุกวันหลังจากการบำรุงรักษาสามวัน”
เสียงของ Mage Tower Spirit Garden ดังก้องอยู่ในหูของฉัน Aso เป็น Mage ที่มีประสบการณ์อย่างแท้จริง แม้จะจำศีลเป็นเวลานาน แต่หอคอยสามสีก็อยู่ในสภาพสุดยอด จำเป็นต้องมีการบำรุงรักษาเพียงเล็กน้อยเพื่อให้สามารถใช้งานได้อีกครั้ง
โกดังหุ่นเชิดเวทย์มนตร์เปิดออกและจากนั้นก็เหยียบหุ่นเชิดเวทย์มนตร์ขนาดใหญ่ซึ่งดูเหมือนจะมีพละกำลังมหาศาล หุ่นเชิดเหล่านี้ไม่เคยรู้ถึงความเหนื่อยล้า เป็นกรรมกรอิสระและคนทำความสะอาดที่ดีที่สุด ภายใต้คำสั่งของฉัน ห้องอัญเชิญก็เริ่มปฏิบัติการ เรียกบริวารที่เป็นธาตุซึ่งจะคอยอยู่เคียงข้างฉันตลอดไป
“อาจารย์โรแลนด์ ห้องสมุดเรียบร้อยดี แมวสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังขออนุญาตเข้า คุณต้องการที่จะให้มันกับเธอ?
“ไม่แปลกใจเลยที่เธอหายไปในพริบตา ฉันไม่เคยเห็นเธอเคลื่อนไหวเร็วขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอต้องทำงาน โยนเธอลงในสระธาตุน้ำให้ฉัน ช่วยเธอทำความสะอาดศีรษะและล้างตัวก่อนที่จะอนุญาตให้เธอเข้าไป
ขณะที่ฉันได้ยินเสียงคำรามอย่างเกรี้ยวกราดของแมวโง่นั่นผ่านการเชื่อมต่อทางจิตวิญญาณของเรา การ์เดน ซึ่งเคยเป็นสจ๊วตของหอคอยผู้วิเศษก็สรุปรายงานของเธอ อุกกาบาต “กัปตันหน่วยรักษาความปลอดภัย” ก็เสร็จสิ้นการตรวจสอบหอคอยเวทย์มนตร์ไปพร้อม ๆ กัน
“การเลิกใช้เป็นเวลานานหลายปีประกอบกับเหตุผลอื่นๆ ทำให้คาถาป้องกันตัวและกับดักทรุดโทรมลง ความสามารถในการป้องกันของหอคอยนั้นมีเพียงสี่สิบเจ็ดเปอร์เซ็นต์ของจำนวนที่เท่าเดิม รายการทรัพยากรที่จำเป็นในการแก้ไขการป้องกันได้ถูกสร้างขึ้น แต่…”
หอคอยเมฆาน่าจะยังคงปลอดภัยอยู่สักระยะหนึ่ง ดังนั้นฉันจึงตัดสินใจทิ้งเรื่องนั้นไว้ ที่สำคัญกว่านั้น ฉันมีความคิดที่ไม่เหมือนใครเกี่ยวกับวิธีใช้หอคอยผู้วิเศษนี้
“ระบบสนับสนุนหลักแบบหอคอยคู่ของ Three-Colored Tower อยู่ในสภาพที่ยอดเยี่ยม มานาจำนวนมากถูกเก็บไว้ภายใน คุณต้องการที่จะลองยิงใส่ใครสักคนหรือไม่? [1] 1
"เลขที่! ฉันเป็นคนดี—ฉันไม่มีวันทำแบบนั้น! ผลที่ตามมาจะเลวร้ายเกินไป ฉันคงรับมันไม่ได้
แม้ว่าอุกกาบาตวิญญาณของหอคอยจะล้อเล่นกับฉัน แต่ฟังก์ชันที่แข็งแกร่งที่สุดของหอคอยสามสี—การอนุญาตให้อาร์คเมจร่ายคาถาต้องห้ามสามธาตุ—ทำให้ฉันมีเอซเพิ่มขึ้นอีก
"ขวา. ฉันขอมอบสิ่งนี้ให้กับคุณสองคน ทำรายการทรัพยากรและเงินที่จำเป็นในการสร้าง และเมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้น ก็เริ่มดำเนินการแก้ไข”
“นี่ไม่ใช่พิมพ์เขียวของ Cloud Tower ที่ลอยอยู่ใช่ไหม มันไม่สูญหายไปในประวัติศาสตร์เหรอ?”
ใช่ ในท้ายที่สุด พิมพ์เขียวการออกแบบ Mage Tower ที่ฉันเลือกคือแบบ Cloud Tower Cloud Tower ของ Mage Country ได้รับการตั้งชื่อตามชื่อประเภทนี้ แต่เป็นเพียงเมืองในขณะที่เมืองที่ฉันต้องการสามารถบินได้ท่ามกลางเมฆ เหมืองเป็นหอคอยผู้วิเศษขนาดใหญ่ที่มีความสามารถในการทำให้ไอน้ำในอากาศแข็งตัว
เป็นไปได้ว่าฉันจะไม่มีวันใช้การป้องกันของหอคอยเวทย์มนตร์นี้เลยตลอดชีวิต ไม่อย่างนั้น การทิ้งหอคอยสามสีรูปแบบการต่อสู้นี้ไว้ในเมืองที่ปลอดภัยอย่างอาร์โลนั้นเป็นการเสียเปล่ามากเกินไป ฉันแน่ใจว่าจะต้องเจอปัญหาไม่รู้จบในอนาคต ดังนั้นหอคอยนักเวทย์เคลื่อนที่จึงเป็นสิ่งที่ฉันต้องการมากที่สุด ด้วยพิมพ์เขียวสำหรับ Cloud Tower ฉันจะสามารถรวบรวมทุกสิ่งที่จำเป็นในการสร้างมันได้ในที่สุด แม้ว่าทรัพยากรที่จำเป็นจะหายากและเกือบเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับ ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดคือการหาแหล่งพลังงานที่เชื่อถือได้
หอคอยนักเวทย์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอย่างถาวร ไม่ต้องพูดถึงการเข้าสู่การต่อสู้ ต้องใช้พลังงานจำนวนมหาศาล การใช้พลังงานเป็นเวลาสองเดือนติดต่อกันของการบินและการต่อสู้นั้นเห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องทางดาราศาสตร์
เดิมทีฉันใช้สมองอย่างหนักเพื่อแก้ปัญหานี้ เพราะฉันได้คาดการณ์ไว้ทั้งหมดแล้วหลังจากตัดสินใจดำเนินการพิมพ์เขียวของ Cloud Tower ฉันวางแผนที่จะจ้างอาชีพนักเวทย์ เช่น นักดาบสี่ธาตุ เพื่อทำงานให้ฉันในฐานะมนุษย์แบตเตอรี่ โชคดีที่ตอนนี้ฉันมีวิธีแก้ปัญหาที่ง่ายกว่ามาก
Salo Crystal สามารถสร้างพลังให้กับเมืองลอยน้ำที่มีประชากรมากกว่าหนึ่งล้านคนได้อย่างง่ายดาย Cloud Tower เพียงอย่างเดียวไม่มีอะไรเลย
แน่นอนว่าเพียงแค่มองทรัพยากรและเงินที่ต้องใช้ในการสร้าง Cloud Tower เพียงเล็กน้อยก็ทำให้ฉันปวดหัวแล้ว และฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะเลียนแบบเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ฉันตั้งใจที่จะเรียนรู้และซึมซับมันก่อนที่จะปรับเปลี่ยน Three-Colored Tower ให้เป็น Cloud Tower ที่ยังคงข้อดีของหอคอยทั้งสองประเภทไว้… แม้ว่านี่จะฟังดูเป็นความฝันที่น่าอัศจรรย์ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีมาก เป็นไปได้ดีเพราะ Meteor และ Garden ไม่ได้แจ้งฉันว่าพวกเขาไม่สามารถทำสิ่งนั้นให้สำเร็จได้
“แม้ว่ามันจะค่อนข้างยาก แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
"ใช่. หลังจากนั้นไม่นาน ฉันจะช่วยให้คุณเพิ่มระดับขึ้นอีก 2 ระดับ และจะแนะนำคุณให้รู้จักกับเพื่อนใหม่ 007 เมื่อเขาเข้าร่วมกับพวกคุณ อย่างน้อยที่สุดความสามารถด้านความรู้ของคุณจะเพิ่มเป็นสองเท่า ด้วยความรู้ที่สั่งสมมาของจักรพรรดิแห่ง Undead ทั้งสอง คุณจะไม่เป็นหอคอยวิญญาณนักเวทย์คู่ของหอคอยสามสีอีกต่อไป คุณจะสร้างระบบสามนักปราชญ์แทน!”
Cloud Tower ต้องการความสามารถในการควบคุมธาตุลม ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างสระธาตุลมภายใน ด้วยเหตุนี้ จึงจำเป็นต้องมีวิญญาณหอคอยนักเวทย์ธาตุลมใหม่ เว้นแต่ว่าฉันจะถอดสระธาตุน้ำหรือไฟออกและทำการแก้ไข
มันคงเป็นการเสียเปล่ามากเกินไปที่จะทิ้งจิตวิญญาณของ Mage Tower กลับไปรวบรวมฝุ่นที่บ้านของฉัน แม้ว่าเราจะลืมความทรงจำที่ถูกฝังไว้ แต่ความรู้ที่ฉันได้รับในช่วงสามร้อยปีที่ผ่านมาใน Eich ก็สามารถเพิ่มเข้าไปในคลังเวทมนตร์ของ Mage Tower ได้ ใช่ ในทางทฤษฎีแล้ว วิญญาณหอคอยเวทย์มนตร์จะเชื่อฟังเจ้านายคนใหม่ของพวกเขา ฉันตั้งใจที่จะ... เอาล่ะ ลองใช้การเปรียบเทียบจากโลกก่อนหน้าของฉัน เมื่อใดก็ตามที่บริษัทได้รับซีอีโอคนใหม่ เป็นเรื่องปกติที่ผู้จัดการทั่วไปคนใหม่จะปรากฏตัวพร้อมกับหัวหน้าคนใหม่ในทันที เป็นเรื่องที่เข้าใจได้อย่างดีสำหรับเจ้านายใหม่ที่จะนำผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์มาด้วย
“ระบบสามนักปราชญ์? ฟังดูดีทีเดียว นั่นจะเป็นชื่อเล่นของเราในอนาคต”
ในที่สุดฉันก็มีหอคอยผู้วิเศษที่ดี ซึ่งหมายความว่าตอนนี้ Great Industrial Party ก็มีศูนย์วิจัยที่ดีเช่นกัน การขอยืมห้องทดลองของคนอื่นเพื่อทำการวิจัยเวทมนตร์ตามปกติเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ และการวิจัยทางวิศวกรรมและการเล่นแร่แปรธาตุก็เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม นี่เป็นเพียงสำหรับนักเวทย์ทั่วไปเท่านั้น มันไม่สมควรอย่างยิ่งสำหรับนักเวทย์ที่มีตราสัญลักษณ์แห่งความจริงไม่รู้จบสองอันที่จะหันไปใช้วิธีดังกล่าว หากไม่มีสำนักงานใหญ่ที่แน่นอน เราคงเป็นบริษัทกระดาษที่ขายผลิตภัณฑ์ห่วยๆ
ความจริงแล้วชื่อเสียงของเราไม่ใช่ส่วนที่สำคัญที่สุด เครื่องมือที่จำเป็นในการช่วยเหลือการวิจัยเป็นสิ่งที่น่ากังวลมากกว่า คล้ายกับห้องทดลองวิทยาศาสตร์ที่มีเครื่องมือและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ครบครัน ห้องทดลองวิจัยเวทมนตร์ไม่สามารถทำการวิจัยได้หากไม่มีเครื่องมือเวทมนตร์ที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างเช่น ห้องทดลองวิจัยสัตว์วิเศษสามารถเร่งอัตราการวิวัฒนาการของสัตว์วิเศษได้ 10 เท่า—และวิวัฒนาการส่วนใหญ่มักจะเป็นประโยชน์ ดังนั้นจึงทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมในการเพาะพันธุ์สายพันธุ์ใหม่ที่มีประโยชน์ ห้องอัญเชิญก็เช่นกันไม่เหมาะสำหรับการอัญเชิญมิติ พื้นที่ การควบคุม และสัญญาอาเรย์เวทมนตร์จำนวนมากจะถูกสลักไว้บนกำแพงเพื่อช่วยให้นักเวทย์ที่ครอบครองควบคุมสิ่งที่พวกเขาพยายามจะเรียก แม้ว่านักเวทย์คนนั้นจะอัญเชิญสิ่งมีชีวิตที่เป็นอันตรายออกมาได้สำเร็จ มันก็เป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนมังกรปีศาจนรกให้กลายเป็นกิ้งก่าปรุงสุกจากไฟนรกภายในขอบเขตของผนังห้อง
ประเภทของการวิจัยที่ง่ายและพื้นฐานที่สุดจะมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นมากที่สุด ด้วยคำสั่งง่ายๆ วิญญาณหอคอยจะเตรียมตารางการทดลองรวมถึงเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการใช้งานของคุณ และมันสามารถนำวัสดุเพิ่มเติมมาให้คุณและทำงานจิปาถะอื่นๆ ให้สำเร็จได้ด้วย วิญญาณหอคอยจะบันทึกกระบวนการทั้งหมด—และบทสรุป—ของการวิจัยของคุณ และเมื่อเสร็จสิ้น มันจะเขียนรายงานให้คุณด้วยซ้ำ หากโครงการของคุณล้มเหลวด้วยเหตุผลบางประการ คุณสามารถเล่นบันทึกการทดลองของคุณซ้ำได้ ทั้งหมดนี้สะดวกอย่างมากในการลดเวลาที่ใช้ในการวิจัย ผู้วิเศษจะหลีกเลี่ยงการใช้เวลาก้อนใหญ่ไปกับรายละเอียดที่ไม่จำเป็น ซึ่งแน่นอนว่าหมายความว่าพวกเขามีเวลาทำโครงการวิจัยมากขึ้น
ฉันต้องการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่องและนำออกจำหน่ายใน Thorn Garden แต่สิ่งนี้ทำให้ฉันต้องหาห้องปฏิบัติการที่เหมาะสมสำหรับวิศวกรและนักเล่นแร่แปรธาตุที่มีพลังมากเกินไป: ห้องทดลองที่เกือบจะทำลายไม่ได้และป้องกันการระเบิด! หอคอยนักเวทย์ตรงตามข้อกำหนดเหล่านั้นและจะทำหน้าที่เป็นห้องปฏิบัติการวิจัยที่ยอดเยี่ยมสำหรับวิศวกรคำพังเพยที่มีชีวิตชีวามากเกินไป—หรือฉันควรเรียกมันว่าห้องปฏิบัติการระเบิด? Thorn Garden ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเกี่ยวกับเพื่อนบ้านที่ไม่พอใจบ่นว่า "ส่งเสียงดังเกินไป" หรือ "ระเบิดตัวเองในวันเดียว"
แน่นอนว่าเวลาที่ใช้ในการดำเนินการแก้ไขทั้งหมดที่ฉันต้องการนั้นไม่แน่นอน นอกจากนี้ จำนวนของส่วนผสมเวทย์มนตร์ที่จำเป็นยังเป็นตัวเลขทางดาราศาสตร์ และหลายอย่างประเมินค่าไม่ได้และไม่มีในท้องตลาด ฉันสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ได้ทีละขั้นตอนเท่านั้น
และตอนนี้ ฉันมีเรื่องที่สำคัญกว่าอยู่ในจานของฉัน
“แล้วไง? พวกเขาพูดอะไร?"
ตอนที่ฉันออกจากหอคอยสามสี ฉันส่งข้อความถึงสมาชิกของ Truth Symposium เกี่ยวกับคริสตัลของซาโล ฉันยังส่งภาพเหล่านั้นในความทรงจำของ Meteor ที่ Aso ติดตั้ง "ปืนใหญ่ Crystal Gnome ของ Salo" ให้พวกเขา ซึ่งสามารถทำลายเมือง Arlo ทั้งเมืองได้ในพริบตาเดียว โดยธรรมชาติแล้วฉันเปิดเผยตัวคริสตัลเป็นหลักฐาน
โคเฮนผู้ส่งสารที่ไว้ใจได้ของฉันนำปฏิกิริยาและการตอบสนองของอาร์คเมจกลับมา
“…พวกเขาบางคนโกรธแค้นมาก พวกเขาสาบานว่าจะล้างแค้นพวกอันเดดทันที แต่ส่วนใหญ่ค่อนข้างสงบ แต่ไม่มีคนปกติคนใดที่จะสามารถสงบสติอารมณ์ได้หลังจากเรียนรู้ว่าชีวิตของพวกเขาอาจหายไปได้ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว ซึ่งก็เป็นไปตามความต้องการของผีดิบเช่นกัน มันแปลกที่พวกเขา 'สงบ' พวกเขาอาจจะแค่บรรจุขวดทั้งหมดไว้ข้างใน”
บันทึก:
[1] TL/N: Double entender ตั้งใจอย่างเต็มที่ที่นี่