ตอนที่ 351: น่าสนใจ
ผู้แปล: imperfectluck บรรณาธิการ: Pranav
“ฉันอยากจะขอบคุณทุกคนสำหรับการทำงานหนักของพวกเขา ฉันหวังว่าความร่วมมือในอนาคตของเราจะประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น”
หลังจากมองดูห่อกระดาษหนาที่เธอถืออยู่ เด็กสาวที่อยู่บนเวทีก็เอียงศีรษะ คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วพยักหน้าก่อนจะโยนเอกสารสุนทรพจน์ของเธอไปตามสายลม จากนั้นเธอก็พูดนอกสคริปต์ต่อไป
“…อย่าเสียเวลากันเลยทุกคน ขอขอบคุณทุกคนอีกครั้งสำหรับการสนับสนุนของพวกเขา ไชโย!”
“โอ้ ทุกคนทำงานหนัก!”
“โลลิส—ฉันหมายถึงวิญญาณไม้—บันไซ! ซาแมนธาตัวน้อยที่น่ารักที่สุดในบรรดาทั้งหมดช่างน่าทึ่งจริงๆ เธอคือนางฟ้าของฉัน”
“ใครคือนางฟ้าของคุณ? คุณซาแมนธาเป็นของทุกคน!”
ในงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง ซาแมนธาผู้เย็นชาเริ่มกล่าวสุนทรพจน์ก่อนจะตัดสินใจละทิ้งคำพูดยาวเหยียด เมื่อเธอได้รับเสียงปรบมือเกรียวกราวจากเหล่านักผจญภัย อย่างไรก็ตาม วิธีที่พวกเขาต้อนรับเธอดูค่อนข้างแปลก...
“ทำไมมันถึงรู้สึกเหมือนเธอเป็นไอดอลคนดังแทนที่จะเป็นผู้นำเผ่าพันธุ์ของเธอ”
“พี่สาว คุณเป็นคนขอให้ฉันเขียนสุนทรพจน์—คุณยังบอกว่ามันสำคัญมาก! คุณขอให้ฉันพยายามเขียนมันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้… นี่คือวิธีที่คุณปฏิบัติต่อผลิตภัณฑ์ที่ฉันคิดขึ้นหลังจากใช้ออลไนท์เนอร์สองตัว…”
เอาล่ะ อย่าสนใจโรซาที่มีรอยคล้ำใต้ตาและกำลังจ้องมองพี่สาวของเธอ ราวกับว่าเธอเก็บความแค้นเอาไว้กับเธอ สุนทรพจน์ความยาวสามสิบหน้าที่เธอใช้เวลาตลอดทั้งคืนถูกยกเลิกพร้อมกับความคิดเห็นเพียงหนึ่งเดียวที่เขียนว่า “อย่าเสียเวลากับทุกคนเลย” มีแนวโน้มว่าความขัดแย้งระหว่างพี่น้องจะเกิดขึ้นในคืนนี้ แต่ผู้สนับสนุนแปลก ๆ เหล่านั้นที่อยู่เบื้องหลังเธอตะโกนว่าอย่างไร?
“ร่างมืดของโรซ่าก็น่ารักเช่นกัน!”
“อย่างที่คาดไว้ ข้างนอกสีชมพู ข้างในสีดำ!”
ไอ ดูเหมือนว่าเมื่อวิญญาณไม้กลายเป็นเหมือนมนุษย์มากขึ้น จำนวนบุคคลแปลก ๆ ที่พวกมันดึงดูดก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน
จากช่วงเวลาที่ไม่ทราบ วิญญาณไม้เริ่มได้รับความนิยมสูงผิดปกติ ตอนนี้มีทีมผจญภัยแปลกๆ มากมายที่คล้ายกับที่ Beyana สร้างขึ้น; ในความเป็นจริงอาจกล่าวได้ว่าเป็นเรื่องธรรมดา
แน่นอนว่ายังมีคนชั่วร้ายบางคนที่มีเจตนาที่ไม่อาจบรรยายได้ แต่ด้วยต้นไม้ที่เฝ้าดูอยู่ พวกเขาถูกจับได้ก่อนที่จะลงมือวางแผนเสียด้วยซ้ำ ไม่ทราบว่าพวกเขาจะถูกลงโทษด้วยหนาม รากไม้ หรืออย่างอื่น
ซึ่งแตกต่างจากวิญญาณไม้ทั่วไปส่วนใหญ่ที่เข้าหาได้ง่ายมาก ปกติแล้วซาแมนธามักมีสีหน้าเย็นชาและไม่เคยพูดอะไรที่ไม่จำเป็นแม้แต่คำเดียว ถ้าเธอสามารถตอบได้ด้วยคำเดียว เธอจะไม่ใช้สองคำ และส่วนใหญ่ที่เธอพูดจะเป็นการดุ เธอแทบไม่ยิ้มเลย แต่ด้วยเหตุผลแปลกๆ บางอย่าง การแสดงของเธอทำให้เธอได้รับความนิยมอย่างน่าอัศจรรย์ อันที่จริงเธอมีแฟนคลับที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาวิญญาณไม้ทั้งหมด… ฉันควรจะแสดงความคิดเห็นที่นี่หรือไม่ว่าไม่ว่าฉันจะอยู่ในโลกไหน ก็จะมีสุภาพบุรุษมากมาย? โลลิประเภทนี้ที่สั้น อ่อนนุ่ม และดูเหมือนง่ายที่จะกดลง ด้วยสีหน้าเย็นชาตลอดเวลาและลิ้นที่มีพิษ ที่จริงแล้วกลายเป็นวิญญาณไม้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด
“ซาแมนธาตัวน้อยก็ทำงานหนักเช่นกัน”
ขณะที่ฉันมองดูหนูน้อยสีแดงกำลังกอดหมีซาแมนธาอย่างกระตือรือร้น และเห็นว่าซาแมนธากำลังดิ้นรนแต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นจากอ้อมกอดของสตรีมังกรที่แข็งแกร่งอย่างน่าขันได้ พลางอ้อนวอนด้วยสายตาของเธอเพื่อให้ฉันช่วยเธอ ฉันก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี
เมื่อฉันได้ยินว่าผู้นำของ “Wood Spirits Fan Club” คือ Little Red ฉันไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อย ฉันได้แต่ถอนหายใจ อดีต "โลลิปลอม" คนนี้คงรู้สึกว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ของเธอหลั่งไหลมากเกินไปอีกครั้ง
ต้องบอกว่า บางครั้งรูปลักษณ์ภายนอกก็สำคัญจริงๆ ตัวอย่างเช่น กองทัพผีดิบของฉัน แม้ว่าพวกเขาจะลงเอยด้วยการช่วยเหลือเมืองซัลเฟอร์เมาเท่น ซึ่งช่วยปรับปรุงความสัมพันธ์ของพวกเขากับผู้อยู่อาศัยให้ดีขึ้นอย่างมาก แต่ก็ยังมีระยะห่างระหว่างพวกเขา อาจกล่าวได้เพียงว่าคนเป็นและคนตายมีเพื่อนบ้านที่ค่อนข้างดี
ในขณะเดียวกัน วิญญาณแห่งไม้ต้องการเพียงออกมาโบกมือให้กลุ่มนักผจญภัยติดตามพวกเขาราวกับสุนัขผู้ซื่อสัตย์ ในอนาคต สมาชิกของ “แฟนคลับวิญญาณไม้” จะมีสมาชิกเกิน 100,000 คน และนักผจญภัยถึงกับเริ่มจัดตั้งกลุ่มพิทักษ์ส่วนตัวเพื่อทำหน้าที่เป็นคนงานอิสระของวิญญาณไม้ ฉันไม่รู้ว่าฉันควรจะพูดอะไรด้วยซ้ำ
และเมื่อซาแมนธาชูถ้วยรางวัลเพื่อฉลองชัยชนะของเรา พวกสุภาพบุรุษก็เริ่มกระตุ้นให้เธอร้องเพลงเพื่อสร้างบรรยากาศให้มีชีวิตชีวา ฉันรู้สึกโล่งใจอย่างมาก และเริ่มเพลิดเพลินกับงานเลี้ยงหรูหราที่ไม่ได้ทานมานานมาก
คืนที่แล้ว ฉันค้างคืนที่บ้านของซาแมนธา แม้ว่าวิญญาณแห่งไม้จะปฏิบัติต่อฉันไม่ดี แต่ปัญหาก็คือสิ่งที่พวกเขากินคือผักและผลไม้ ฉันไม่สามารถปฏิเสธบริการที่เป็นมิตรของพวกเขาได้ และฉันไม่เต็มใจที่จะใช้คะแนนความยุติธรรมที่ได้มาอย่างยากลำบากกับไก่หรือหมู ดังนั้นฉันทำได้แค่ควบคุมอาหารเท่านั้น น่าเสียดายที่อาหารของพวกเขาเป็นธรรมชาติทั้งหมด ไม่มีการปรุงรสหรือสารปรุงแต่งใดๆ เลย แม้ว่ามันจะเพียงพอที่จะทำให้อิ่มท้องของฉัน แต่รสชาติ… ก็เหมือนกับแมวโง่ๆ ของฉัน “ฉันยอมกินหนูมากกว่าหญ้าพวกนี้ อย่างน้อยหนูก็มีรสชาติบางอย่างสำหรับพวกเขา”
“ดูเหมือนว่าฉันต้องคิดไอเดียบางอย่างเพื่อหาเหรียญทองให้ตัวเอง”
ฉันค่อนข้างสงสัยว่าใครแอบขโมยเงินของฉันไป อันที่จริง เงินที่ฉันหายไปจากกระเป๋าเงินของฉันไม่มากนัก—แค่สองหรือสามร้อยเหรียญทองเท่านั้น ส่วนที่น่ารำคาญเพียงอย่างเดียวคือของใช้ส่วนตัวของฉันหายไปจากกระเป๋าเงินของฉันด้วย
“…คุณไม่เคยพกเงินมากไปหรือเพราะคุณมักจะทำมันหายอยู่เสมอ”
“ไม่ ฉันแค่คิดว่ามันน่ารำคาญเกินไปที่จะพกเงินจำนวนมาก สิ่งต่าง ๆ จะดีขึ้นมากหลังจากที่เทพีแห่งความมั่งคั่งเปิด 'บริการธนาคาร' ของเธอ”
ใช่ ในขณะที่ "ธนาคาร" มีอยู่แล้วในโลกนี้ พวกเขาเป็นเหมือนตู้เซฟมากกว่าสถาบันการเงิน คุณจะสามารถเรียกเงินของคุณคืนได้ในที่ที่คุณเก็บไว้เท่านั้น คุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตามช่วงเวลาปกติด้วย มิฉะนั้นธนาคารจะเรียกร้องสิ่งที่เก็บไว้ภายใน
พกเงินติดตัว? อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีมิตินั้นมีอยู่ไม่มาก—ไม่ต้องพูดถึงราคาแพง—และจะมีข้อจำกัดทั้งพื้นที่จัดเก็บและน้ำหนัก ไม่เพียงพอสำหรับเก็บอุปกรณ์สำรอง เหรียญทองน้อยกว่ามาก
เหล่าฮีโร่จากตำนานที่ใช้เงินหลายพันเหรียญทองในคราวเดียวจำเป็นต้องมีพละกำลังมหาศาลเช่นกัน ตั้งแต่การถือเหรียญทองหลายพันเหรียญหมายถึงการแบกน้ำหนักหลายโหลกิโลกรัม ไม่มีคนธรรมดาที่จะสามารถพกเหรียญทองหมื่นเหรียญได้ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจ่ายมากกว่าหนึ่งแสนเหรียญทองโดยไม่ตั้งใจ เว้นแต่คุณจะมีรถม้าที่เต็มไปด้วยเหรียญตามหลังคุณ
แน่นอนว่าเงินกระดาษแทบไม่ได้ใช้และยังคงไม่ประสบความสำเร็จเป็นส่วนใหญ่ สมาคมการค้าและกิลด์ทหารรับจ้างจบลงด้วยบทบาทของ "บริการธนาคาร" ในโลกนี้ อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่คุณจะสามารถทำธุรกิจได้ในที่เดียว แต่ยังไม่สะดวกอย่างมากและไม่น่าเชื่อถืออีกด้วย
สมาชิกของกิลด์ทหารรับจ้างจะเป็นทหารรับจ้าง ไม่น่าไว้วางใจตั้งแต่แรก สมาคมการค้าถืออันตรายจากการล้มละลายตลอดไป ไม่ว่าพวกเขาจะมั่งคั่งเพียงใด สมาคมการค้าใดๆ ที่ร่ำรวยแต่ไม่มีเงินส่วนตัวก็เปรียบได้กับตู้เอทีเอ็มที่เต็มไปด้วยเงินสดฟรีในสายตาของเจ้าของโดเมนในท้องถิ่น มันง่ายและธรรมดาพอที่เจ้าของโดเมนจะใช้ข้อแก้ตัวแบบสุ่มเพื่อขับไล่สมาคมพ่อค้าให้ล้มละลายภายในคืนเดียว
ดังนั้นผลลัพธ์สุดท้ายก็คือเนื่องจากระบบก่อนหน้านี้ล้มเหลวมากเกินไป โลหะมีค่าและโลหะวิเศษจึงเป็นสกุลเงินหลักตลอดกาลในโลกนี้ ท้ายที่สุดแล้ว โลหะเหล่านี้สามารถใช้เพื่อสร้างอาวุธและอุปกรณ์และทำการวิจัยเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุและเวทมนตร์ได้ โลหะเป็นวัสดุสิ้นเปลืองที่มีค่าที่สุด
สำหรับ "บริการธนาคาร" ใหม่ที่ Beyana กำลังจะนำเสนอนั้น โดยทั่วไปแล้วจะทำให้ Justice Points เป็นสกุลเงินประเภทใหม่ ซึ่งจะทำงานในลักษณะนี้: บุคคลจะสามารถแลกเปลี่ยนโลหะมีค่าเป็นคะแนนยุติธรรม และในบางสถานที่ แลกเปลี่ยนคะแนนความยุติธรรมเป็นโลหะมีค่า
เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ผู้คนใช้เหรียญทองจำนวนมากเพื่อแลกเปลี่ยนเป็นคะแนน Justice ซึ่งจะทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อในระบบของเรา คะแนน Justice ที่ได้รับจากโลหะสามารถใช้เป็นสกุลเงินธรรมดาเท่านั้น และไม่สามารถใช้แลกเปลี่ยนเป็นรายการพิเศษได้ แม้ว่าสิ่งนี้จะฟังดูค่อนข้างซับซ้อน แต่จริง ๆ แล้วค่อนข้างง่าย: มันเป็นรูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ที่เทียบเท่าสากลอย่างแท้จริง
คะแนนความยุติธรรมที่ได้รับโดยใช้เงินเรียกอีกอย่างว่า "คะแนนความมั่งคั่ง" แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อลักษณะพื้นฐาน และเนื่องจากเหล่าทวยเทพรับประกันความถูกต้องของระบบนี้ ดูเหมือนว่าทั้งโลกจะเต็มใจยอมรับมันจริงๆ หาก Beyana ทำสำเร็จ บางที Wealth Points จะสามารถแทนที่เหรียญโลหะที่เทอะทะและกลายเป็นสกุลเงินสากลของโลกนี้ได้อย่างแท้จริง
นี่ไม่ใช่แนวคิดที่แปลกใหม่หรือแปลกใหม่ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากนี่เป็นยุคศักดินา จึงไม่มีใครสามารถทำได้สำเร็จ ขุนนางส่วนใหญ่มองว่าอาณาเขตของตนเป็นทรัพย์สินส่วนตัว และพวกเขาคุ้นเคยกับการเก็บภาษีของตนเองและเกณฑ์ทหาร แม้ว่าจะมีขุนนางที่เปิดกว้างและเป็นนักปฏิรูปเป็นครั้งคราว สงครามและการเปลี่ยนแปลงในพระราชอำนาจก็เกิดขึ้นบ่อยครั้ง สิ่งนี้บีบให้แม้แต่ขุนนางไม่กี่คนเหล่านี้ต้องมุ่งความสนใจไปที่วัฏจักรแห่งสงครามที่ไม่มีที่สิ้นสุดแทน ท้ายที่สุด หากคุณไม่สามารถแม้แต่จะปกป้องชีวิตของคุณได้ ใครจะสนใจเกี่ยวกับการฉีกสัญญาหรือสองข้อตกลง?
เนื่องจากขุนนาง เชื้อพระวงศ์ และพ่อค้าได้ทำลายความน่าเชื่อถือของระบบเงินกระดาษ เป็นเรื่องธรรมดาที่คนส่วนใหญ่จะไม่เชื่อถือเงินกระดาษในท้ายที่สุด เนื่องจากคะแนนความยุติธรรมค่อยๆ ได้รับการยอมรับจากทุกคน Beyana จึงไม่พลาดโอกาสที่ยอดเยี่ยมนี้สำหรับทุกสิ่ง
ไม่เคยมีการใช้สิทธิอำนาจจากสวรรค์เพื่อรับประกันสกุลเงินใหม่มาก่อน ซึ่งหมายความว่าอนาคตเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แต่ตราบใดที่สิ่งนี้สำเร็จ… แม้ว่ามันจะสำเร็จเพียงครึ่งเดียว มันก็หมายถึงระดับพลังของแนวคิดศักดิ์สิทธิ์แห่งความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น การเงิน ฟิวเจอร์ส สินเชื่อ และอุตสาหกรรมการเงินที่คล้ายกันจะพัฒนาเป็นแนวคิดภายใต้ความมั่งคั่ง เมื่อถึงเวลานั้น หลายๆ อย่างน่าจะเปลี่ยนไป
“…บางทีพระเจ้าองค์แรกจากฝ่าย Ayer ที่กลายมาเป็น Main God อาจจะไม่ใช่ God of Fate หรือ Moonlight Goddess อย่างที่คนส่วนใหญ่คาดหวัง ฉันพนันกับเทพีแห่งความมั่งคั่งที่อ่อนแอกว่าแต่เดิม”
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน ไม่มีประเทศใดเต็มใจที่จะเฝ้าดูสกุลเงินที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเป็นที่นิยมมากกว่าสกุลเงินประจำชาติของตน ไม่ว่าท้ายที่สุดแล้ว Beyana จะประสบความสำเร็จเพียงใด เส้นทางนี้ก็เต็มไปด้วยขวากหนาม
ย้อนกลับไปในปัจจุบัน เมื่อ Contract Heroes ค้นพบว่า Justice Points ของพวกเขาสามารถแลกเปลี่ยนเป็นทองคำและเงินได้จริง นอกเหนือจากสมบัติเหล่านั้น พวกเขาค่อนข้างตื่นเต้นและรู้สึกว่าพวกเขาเลือกถูกแล้วในการเข้าร่วมระบบนี้
คนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ พวกเขารู้สึกยินดีที่ได้รับผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม เมื่อพวกเขาค้นพบว่าชีวิตของพวกเขาจะถูกเปลี่ยนแปลงด้วยบางสิ่ง พวกเขาก็ทำได้เพียงยอมรับอย่างเฉยเมย แต่บางคนได้มองผ่านเรื่องต่างๆ มาแล้ว และมองว่านี่คือโอกาส
“ท่านโรแลนด์ ข้าขอคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวได้ไหม?”
อัศวินเวทมนตร์ที่หล่อเหลาและน่าขันติดต่อมาหาฉัน ครั้งนี้ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาดูกระวนกระวายมากกว่าการพบกันครั้งก่อน ทำให้ฉันครุ่นคิดอยู่สองสามเรื่อง
จริงๆ แล้ว เนื่องจากเป้าหมายหลักของ Wood Spirit ถูกสายลับรั่วไหลออกมา ฉันจึงสงสัยว่ามีคนทรยศในหมู่นักผจญภัยอันดับสูงสุด เนื่องจากไคเสะเป็น "คนนอก" เพียงคนเดียวที่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในศูนย์บัญชาการหลักของวิญญาณไม้ได้โดยตรง เขาจึงเป็นผู้ต้องสงสัยคนสำคัญโดยธรรมชาติ
ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาเป็นคนที่ช่วยค้นพบสายลับนักเวทย์อมตะระดับบรอนซ์ สิ่งนี้ทำให้ไคเสะดูน่าสงสัยมากขึ้นในสายตาของฉัน เพราะมันเป็นกลวิธีทั่วไปในการเสียสละเบี้ยเพื่อปกป้องพระราชา ไคเสะได้รับการดูแลตลอดยี่สิบสี่เจ็ดโรงงานตามคำสั่งของฉัน
ต่อเมื่อสายลับ Molly ตัวจริงกระโจนออกมาในช่วงใกล้สิ้นสุดการต่อสู้เท่านั้น ที่ทำให้ความสงสัยในตัว Kaise ของฉันกระจ่างได้ในที่สุด เนื่องจากไคเสะเป็นผู้นำอันดับสูงสุดของนักผจญภัย เขาจึงได้รับเหรียญตราความสำเร็จทางทหารสีเงินเป็นธรรมดาสำหรับผลงานของเขา
แต่พูดตามตรง ฉันไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะมาติดต่อฉันหลังการต่อสู้จบลง
ท้ายที่สุด ตัวตนของฉันก็ถูกเปิดเผยแล้ว เป็นที่ทราบกันดีในหมู่บุคคลที่ทรงพลังว่า “Undying Roland” ในการจัดอันดับภัยพิบัติยังเป็นจักรพรรดิอมตะ Yongye ที่นำความตายและความมืดมาด้วย นักผจญภัยระดับสูงที่รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของฉันล้วนทำตัวค่อนข้างยับยั้งชั่งใจในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาเห็นฉัน ไม่เพียงแต่พวกเขาจะไม่มาคุยกับฉัน พวกเขาทั้งหมดจะนั่งอย่างถูกต้องทุกครั้งที่ฉันมองไป ด้วยสีหน้าซีดเซียวและเหงื่อไหลหยดลงมาตามหน้าผาก ราวกับว่าฉันเป็นเสือกินคน
แม้แต่นักผจญภัยมือใหม่ที่ไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร ก็ยังค่อนข้างสงวนท่าทีเมื่อสังเกตเห็นสัญลักษณ์ความสำเร็จทางการทหารสีทองบนหน้าอกของฉัน ผู้ที่ฉลาดกว่าในบรรดามือใหม่จำได้ว่ามีบุคคลระดับภัยพิบัติระดับสูงที่ทำหน้าที่ปกป้องโอ๊กทาวน์ในการสู้รบ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าควรปฏิบัติอย่างไรกับ “บุคคลสัญลักษณ์ความสำเร็จทางการทหารระดับทอง”
แต่ถึงกระนั้นฉันก็ไม่ค่อยชอบบรรยากาศแบบนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันรู้สึกเบื่อมาก แม้ว่าฉันจะไม่ได้ใส่ใจกับภาพลักษณ์ของฉันและยัดเยียดใบหน้าของฉันในงานเลี้ยงฉลองนี้ แต่ก็ไม่มีใครพูดถึงมารยาทที่ไม่ดีของฉันเลยสักคำ แต่เพื่อนหนุ่มคนนี้มาพูดให้ฉันฟังตามความประสงค์ของเขาเอง ทำให้ฉันค่อนข้างสนใจในตัวเขา
“ฉันอยากจะคุยกับคุณเรื่องความร่วมมือ…”
เห็นได้ชัดว่า บางสิ่งไม่เหมาะสำหรับการพูดคุยกันในที่สาธารณะ เราไปที่ห้องว่างและคุยกันอย่างสนุกสนาน ผลลัพธ์สุดท้ายคือเราทั้งคู่ค้นพบว่าเราสามารถตกลงในเป้าหมายร่วมกันได้ ดังนั้นเราจึงลงเอยด้วยการเซ็นสัญญาสองสามฉบับที่ไม่เหมาะสำหรับการมองเห็นแสงสว่างของวัน
“เอาล่ะ ถึงเวลาที่ฉันจะต้องบอกลาแล้ว ฝ่าบาท ฉันหวังว่าจะได้พบคุณอีกครั้งในเมืองหลวงของ Bardi Empire”
Kaise Elowen “Black Guardian” และหัวหน้ากลุ่มทหารรับจ้าง Westwood Guardian ออกไปอย่างพึงพอใจ แม้ว่าเราจะไม่ได้พบกันครั้งแรกที่มีความสุขที่สุด แต่บางทีเราอาจมีโอกาสทำงานร่วมกันมากขึ้นในอนาคต
“เพื่อนไคเสะคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ฉันรู้สึกว่าเขาจะกลายเป็นคนที่ยอดเยี่ยมในอนาคต อ้อ ใช่ ฉันควรตรวจสอบประวัติเกมว่าเขาปรากฏตัวในนั้นหรือไม่…”
มีเรื่องราวเกี่ยวกับตำนาน วีรบุรุษ มหากาพย์ สิ่งลี้ลับ และอื่นๆ มากเกินไป เพียงแค่บันทึกชื่อของพวกเขาทั้งหมดจะทำให้หนังสือหนากว่าพจนานุกรม บ่อยครั้ง เมื่อได้ยินชื่อฮีโร่หรือวายร้ายผู้ยิ่งใหญ่ซึ่งค่อนข้างเป็นที่รู้จักและทรงพลัง ประวัติเกมอาจไม่มีอะไรมากไปกว่าชื่อของพวกเขา เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะจำทุกชื่อในประวัติศาสตร์ของเกม แต่ฉันจะใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีเพื่อตรวจสอบว่าชื่อของบุคคลนั้นปรากฏในคำแนะนำประวัติเกมของฉันหรือไม่
[Kaise Elowen, หน้า 367, บรรทัดที่ 7 อย่างไรก็ตาม เขาค่อนข้างเป็นคนที่น่าสนใจ]
ในตอนที่ระบบของฉันพูดขึ้นมา ฉันคิดว่ามีบางอย่างเกิดขึ้น ดังนั้นฉันจึงรีบพลิกไปที่หน้านั้นและดูสิ่งที่เขียนอยู่ในนั้น แล้วฉันก็เข้าใจในทันที
“Kaise Elowen… เขาเป็นคนที่น่าสนใจจริงๆ”
*****
เลือดสีแดงนองเต็มสระน้ำ อย่างไรก็ตาม ส่วนที่แปลกคือแม้ว่าทั้งหมดนี้จะเต็มไปด้วยเลือด แต่ก็ไม่มีกลิ่นสาบใด ๆ
นี่คือเลือดของมังกรแดงยุคโบราณ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากอย่างเหลือเชื่อไม่ว่าคุณจะจ่ายไปเท่าไหร่ก็ตาม แต่ทันทีที่ฉันจมลงไปในสระเลือด ระบบประสาทสัมผัสของร่างกายฉันก็เสียสติ มีอาการชา เจ็บ บวม และความรู้สึกต่างๆ รุมเร้าฉันพร้อมกัน ฉันคันไปทั่วจนอยากจะตัดผิวหนังของตัวเองออก แต่ใช้เวลาเพียงครู่เดียวฉันก็สูญเสียประสาทสัมผัสทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิง
[บริการตัดประสาทสัมผัส 10—ไม่—100 คะแนนความยุติธรรม]
“…คุณกำลังเอาเปรียบฉันตอนที่ฉันตกต่ำ! อย่างน้อยคุณก็ดีขึ้นกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ!”
[ในกรณีนั้น ฉันควรยกเลิกบริการนี้และขอคืน Justice Points ของคุณหรือไม่? ฉันจะทำมันในสาม สอง…]
"…คุณชนะ."
ทุกอย่างเงียบลงอีกครั้ง เนื่องจากฉันจำเป็นต้องแช่ตัวเองในแอ่งเลือดนี้ชั่วคราว ฉันจึงตัดสินใจมุ่งเน้นไปที่การเก็บเกี่ยวที่ฉันได้รับ ซึ่งฉันได้วางไว้ใน Frigidwinter Earth ของฉัน จากมุมมองหนึ่ง ในฐานะผู้ชนะที่ประสบความสำเร็จในการ "ปล้นศพ" ฉันได้อะไรมากมายจากการต่อสู้ครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนผลผลิตของฉันให้เป็นประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรมนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ฉันทำได้แค่เฝ้ามองจากข้างสนามก็พอแล้ว มันค่อนข้างชัดเจนว่าฉันต้องทำอะไร
“ฉันต้องแข็งแกร่งขึ้น เร็ว."