ผู้แปล: ไม่สมบูรณ์โชค บรรณาธิการ: Pranav
“ห๊ะ! ท้องฟ้าทั้งหมดกำลังลุกเป็นไฟ ช่างเป็นภาพที่น่าเกรงขาม”
อากาศของ Dragon World ไม่เคยสกปรกเหมือนตอนนี้ ดวงจันทร์สองดวงลอยอยู่บนท้องฟ้า แต่ทั้งสองดวงเป็นสีแดงเลือด ภูเขาที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าสามารถมองเห็นได้ในระยะไกล สัตว์ป่าดุร้ายแต่เดิมร้องโหยหวนและลอยอยู่ในอากาศอย่างช่วยไม่ได้
จู่ๆ มังกรเขียวผู้โชคร้ายก็พบกับรอยแยกมิติ ในเวลาเพียงชั่วพริบตา มันเปลี่ยนจากมังกรโตเป็นมังกรหนุ่มเป็นมังกรทารกจนกลายเป็นไข่มังกรในที่สุด ซึ่งเป็นวิวัฒนาการที่ย้อนกลับ
เวลา แรงโน้มถ่วง อวกาศ และกฎมิติพื้นฐานของโลกทั้งหมดถูกบิดเบือน กฎฟิสิกส์ทุกข้อเข้าสู่กระแสเมื่อ Dragon World ใกล้จะล่มสลายอย่างสมบูรณ์
บนท้องฟ้า แซมมังกรขาวผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลพยายามพูดอะไรบางอย่างกับมังกรจำนวนมากที่คำรามใส่เขา แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะไม่กี่อึดใจต่อมา ลมหายใจมังกรหลายสายก็พยายามอบเขา
เขาไม่ได้โจมตีพวกเขากลับ เขาลงมาบนพื้นและเปลี่ยนกลับเป็นร่าง Snow Elf ของเขาด้วยสีหน้าไม่พอใจอย่างมาก
“ฉันบอกคุณแล้ว—มันไม่มีประโยชน์”
ฉันเคยบอกเขาว่าการพยายามอธิบายสิ่งต่าง ๆ จะไม่มีความหมาย
“…คนโง่เขลาและสิ่งประดิษฐ์เก่าที่ดื้อรั้นเหล่านั้น พวกเขาสมควรถูกไททันฆ่า! พวกเขาคิดว่าพวกเขาสามารถรักษาตัวเองให้ปลอดภัยและไม่สนใจสิ่งอื่นใด!”
เอลฟ์หิมะที่ปรากฏตัวในวัยเยาว์มีสีหน้าไม่พอใจ แต่เขารู้มานานแล้วว่าผลที่ออกมาจะเป็นแบบนี้ แต่เขาก็ยังอยากจะลอง
ฉันยักไหล่โดยไม่พูดอะไรสักคำ เพราะมันคงจะอึดอัดใจที่ฉันจะทำแบบนั้น...
“ช่างเป็นความคิดที่ดีเหลือเกิน คุณไปที่นั่นด้วยตัวเองเพื่ออธิบาย ตอนนี้มังกรกำลังโกรธจัด ไม่มีอะไรที่ 'คนทรยศ' อย่างคุณบอกพวกเขาจะไม่ได้ยิน เหตุผลเดียวที่พวกเขาไม่ฆ่าคุณโดยตรงก็เพราะพวกเขาไม่มีพลังพอที่จะทำเช่นนั้น”
ใช้ได้. แม้ว่าฉันจะไม่ได้พูดออกมาดัง ๆ แต่จอมมารก็ไม่ได้มีความวิตกใด ๆ และพูดเพียงแค่นั้น
"คุณ…"
แต่แม้แต่จักรพรรดิ์มังกรขาวในสมัยโบราณก็ยังไม่กล้าที่จะโกรธมากพอที่จะต่อสู้กับราชาปีศาจ แซมได้แต่มองมาทางฉัน
"ผ่อนคลาย. ฉันจะให้ทุกอย่างที่ฉันสัญญากับมังกรขาว มังกรขาวจะกลายเป็นสายพันธุ์มังกรที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน ฉันจะให้ทุกสิ่งที่ฉันพูด… ใช่ ฉันจะให้แน่นอน”
แน่นอน เพื่อให้มังกรขาวยอมละทิ้ง Dragon World และกลายเป็นที่เกลียดชังของมังกรตัวอื่นๆ ทั้งหมด ฉันสัญญาว่าจะยั่วเย้าพวกเขาพอสมควร
ตอนนี้สถานการณ์ได้พัฒนาขึ้นจน Dragon World ถูกตัดขาดจากระนาบมนุษย์ มังกรจะไม่สามารถคงความเป็นกลางได้แม้ว่าพวกเขาจะต้องการก็ตาม แม้ว่าปีศาจที่ไม่ได้สร้างปัญหาให้กับพวกเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง ฉันก็นัด "เพื่อนเก่า" สองสามคนของพวกเขามาพบพวกเขา และ "เพื่อนเก่า" เหล่านี้มี "ความสัมพันธ์ที่ยอดเยี่ยม" กับ Dragon City
“ในที่สุด… ในที่สุด… อิสระ… อิสรภาพ!”
ภาษาโบราณสะท้อนไปทั่วทั้ง Dragon World แม้ว่าจะไม่มีใครเข้าใจภาษาโบราณที่ลิ้นบิดเบี้ยวนี้ แต่ก็มีความหมายมหัศจรรย์อยู่ภายในซึ่งทำให้สิ่งมีชีวิตที่ชาญฉลาดทั้งหมดสามารถเข้าใจได้
สิ่งมีชีวิตทุกชนิดสามารถรับรู้ได้ลางๆ ว่าไททันเริ่มก่อตัวขึ้น พลังอันบริสุทธิ์ของคำสั่งได้เขย่ามิติให้ดียิ่งขึ้นเมื่อสิ่งมีชีวิตโบราณที่หลับใหลเหล่านี้ตื่นขึ้น
ใบหน้าของ Snow Elf Sam ตัวเล็ก ๆ ก็ซีดลงทันที
“เดอะ… ไททันส์!”
“ใช่ ไททันส์”
ฉันอยากจะหัวเราะออกมาดัง ๆ หลังจากเห็นว่า Supreme Immorial White Dragon นั้นตื่นตระหนกเพียงใด ดูเหมือนว่าบางทีฉันประเมินเขาสูงเกินไป
มังกรบนท้องฟ้าตื่นตระหนกยิ่งขึ้นเมื่อเห็นสิ่งนี้ พวกเขาไม่ได้คาดคิดมาก่อนว่าผนึกบนไททันส์จะแตกหักอย่างสมบูรณ์ในตอนนี้ มังกรกำลังจะถูกท้าทายโดยไททันส์ศัตรูคู่อาฆาตของพวกเขา
“…คุณ… คุณทำอะไรลงไป?”
แม้แต่การดำรงอยู่ที่เก่าแก่และทรงพลังเช่นมังกรขาวก็ยังตกอยู่ในความตื่นตระหนกเมื่อเขารู้ว่าเขากำลังจะเผชิญหน้ากับศัตรูมนุษย์โบราณของมังกรจากตำนานและตำนาน
"ฉัน? ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันแค่ทำตามแผนของฉันและตัดมิตินี้ออกจากระนาบอื่น”
อันที่จริง ด้วยความรู้และประสบการณ์ของแซม เขาควรจะสามารถคาดหวังทุกสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่ได้ตราบเท่าที่เขาคิดอย่างรอบคอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่โชคไม่ดีสำหรับเขาที่เขาตาบอดด้วยคำสัญญาที่สวยงามที่ฉันให้ไว้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงคิดเลขผิดครั้งใหญ่
ที่จริงทุกสิ่งที่ฉันทำก็เดาได้ไม่ยาก
ไททันส์ถูกผนึกในโลกนี้โดยตราแห่งการสร้างธาตุทั้งสี่ ซึ่งเป็นตราผนึกแห่งธาตุทั้งสี่รุ่นที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ระนาบของ Dragon World เชื่อมต่อกับ Four Elemental Planes ซึ่งให้พลังงานธาตุอย่างต่อเนื่องซึ่งขับเคลื่อนผนึกบนไททัน แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าระนาบของ Dragon World ถูกตัดขาดจากมิติอื่น ๆ รวมทั้ง Four Elemental Planes?
แน่นอนว่าผนึกจะไม่มีพลังงานธาตุอีกต่อไปและจะไร้ประโยชน์—มันจะเริ่มยุบลง เมื่อไททันส์เป็นอิสระ โลกทั้งใบที่สร้างขึ้นเพื่อผนึกพวกมันก็จะพังทลายเช่นกัน และทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ฉันต้องการ
แน่นอนว่ามนุษย์คนเดียวไม่สามารถตัด Dragon World ออกจากโลกอื่นได้นอกจากโลกมนุษย์ Orloss เป็นเพียงแพะรับบาปที่รับโทษ สำหรับเทพแห่งความตายที่แอบเข้ามาแทรกแซงจากด้านหลัง? ผู้อ่านทุกคนควรรู้ว่าใครเป็นใครโดยที่ฉันไม่ต้องพูดชื่อของเขาออกมาดัง ๆ
อย่างน้อยที่สุด ย้อนกลับไปตอนที่ฉันอยู่ในระนาบธาตุดิน เทพแห่งความตายองค์หนึ่งได้ตัดระนาบธาตุดินออกจากระนาบอื่นทั้งหมด แน่นอนว่าแซมไม่รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงคิดไม่ถึงว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้น
“คุณ—คุณ—โดยพื้นฐานแล้วคุณคือปีศาจ!”
จากมุมมองหนึ่ง แซมตกหลุมพรางของฉัน เพราะฉัน Dragon City จะมองว่าเขาเป็นคนทรยศ อย่างไรก็ตาม ฉันยังหัวเราะออกมาดัง ๆ กับเรื่องนี้อีกครั้ง
เขาคิดว่าฉันไม่รู้เจตนาของเขาจริงๆเหรอ? ครอบครัวของแซมยังคงอยู่ใน Dragon City ค่อนข้างชัดเจนว่าเขาตั้งใจที่จะกลับไปที่ฝั่งมังกรและวางตัวเป็นกลางทันทีหลังจากที่เขาช่วยฉันเสร็จและได้รับค่าจ้าง แต่หลังจากที่เขาเข้าร่วมกลุ่มของฉัน ฉันจะปล่อยเขาไปง่ายๆ อย่างนั้นเหรอ? กลุ่มของฉันจะเข้าร่วมและจากไปโดยง่ายหรือไม่?
“ปีศาจ? ขอบคุณสำหรับคำชม."
“ใช่ นั่นเป็นคำชมที่ยอดเยี่ยม เขาเป็นปีศาจอย่างแน่นอน”
คำตอบของฉันและ Devil Lord Kamiltias สอดคล้องกัน การถูกเรียกว่าปีศาจนั้นค่อนข้างดี และ Kamiltias ก็รู้สึกว่าการเรียกฉันว่าปีศาจเป็นการชมเชยปีศาจทั้งหมด
ฉันเริ่มชอบเพื่อน Tias ตัวน้อยคนนี้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่างน้อยที่สุด เขาก็มีความเด็ดขาด เขารู้ว่าเมื่อใดที่เขาควรเดิมพันทุกสิ่ง เขานำพลังทั้งหมดของเขามาที่นี่เพื่อสนับสนุนฉัน
ในเมื่อปีศาจปฏิบัติต่อข้าด้วยความจริงใจเช่นนั้น ข้าก็จะตอบแทนพวกมันด้วยความจริงใจเช่นเดียวกัน สถานการณ์ปัจจุบันจะจบลงด้วยชัยชนะหรือความพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง ไม่มีที่ว่างสำหรับการลังเลหรือถอยหนี
อย่างไรก็ตามแซมยังคงเป็นมังกรในท้ายที่สุด แม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์และรอบรู้—และมีความเด็ดขาดในระดับหนึ่ง—เขาก็ยังไร้เดียงสาและหยิ่งยโสเกินไปเมื่อต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญเกี่ยวกับสถานการณ์โดยรวม เช่นเดียวกับมังกรทุกตัว เขาเชื่อเสมอว่าเขาจะสามารถนั่งทุกอย่างได้ เขาเชื่อว่าเขาจะได้รับประโยชน์มากมายโดยไม่ต้องจ่ายแพงเกินไป อันที่จริงเขาไม่ต้องการต่อสู้เป็นการส่วนตัวด้วยซ้ำ
“อะไรทำให้คุณพิเศษ? เพียงเพราะคุณเป็นมังกร?”
ฉันไม่ได้พูดอะไรดูถูกเขาขนาดนั้น แค่คิดในใจก็ไม่เป็นไร แต่ตอนนี้ Supreme Immorial White Dragon ที่ตกหลุมพรางของฉันค่อนข้างจะตีโพยตีพาย
“ไททันส์และมังกรตัวอื่นๆ… เจ้าตั้งใจจะจัดการกับเรื่องทั้งหมดนี้ยังไง!”
ในที่สุดแซมก็สังเกตเห็นว่าเราบ้าแค่ไหน ฉันทำให้มังกรเป็นศัตรูกันอย่างเต็มที่ และไททันที่ฟื้นขึ้นมาก็ไม่ใช่เพื่อนของเราเช่นกัน คำถามของแซมกำลังเรียกร้องให้ฉันพิจารณาและแสวงหาความรอด
“จัดการกับพวกมัน? ทำไม มังกรและไททันคือคนที่ควรอ้อนวอนให้ฉันช่วยชีวิตพวกเขา คุณรู้หรือไม่ว่าธุรกิจที่ทำกำไรได้มากที่สุดในวันสิ้นโลกคืออะไร? ขายตั๋วเพื่อความปลอดภัย!”
เมื่อโลกทั้งใบเริ่มพังทลายลง มีเพียงตำแหน่งเดียวที่ยังคงมั่นคง… ใช่แล้ว ที่ราบโกสต์วินด์ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานของฉัน ในไม่ช้า สิ่งนี้จะกลายเป็นแกนกลางของโลกใบใหม่ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยเพียงแห่งเดียวใน Dragon World ที่กำลังล่มสลาย ใครก็ตามที่ต้องการใช้ท่าเรือที่ปลอดภัยที่นี่จะต้องได้รับข้อตกลงจากฉัน
ถ้าฉันจะฉวยโอกาสนี้รีดไถผู้คนล่ะ? แน่นอน! แน่นอนว่าใช่! ทุกคนต้องการเอาชีวิตรอดจากการทำลายล้างของ Dragon World หรือไม่? แน่นอน แต่พวกเขาจะต้องซื้อตั๋วจากฉันก่อน! ขายในราคาเต็มคลัง!
[คุณสร้างคัมภีร์ของศาสนาคริสต์แล้วคิดเงินเพื่อช่วยผู้อื่น? มีข้อผิดพลาดกับ Child of Fate จากรุ่นนี้หรือไม่? คุณธรรมควรเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินเช่นกัน…]
“ห๊ะ! ฉันเรียนรู้ทั้งหมดนี้จากคุณ และอย่างน้อยฉันก็ไม่ได้สร้างทั้งหมดนี้ Dragon World ถูกกำหนดให้ล่มสลายตั้งแต่ต้น ฉันยังช่วยให้พวกเขาจัดการกับผลที่ตามมา”
เอาล่ะ แอสทรียาไม่ได้แสดงความคิดเห็นหลังจากนั้น สงครามศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดไม่ใช่ความผิดของเธอใช่ไหม มันเป็นไปไม่ได้สำหรับเธอที่จะสะสางและรับมือกับผลที่ตามมา ดังนั้นในท้ายที่สุดฉันจึงต้องเข้ามาและพยายามแก้ไขสิ่งต่างๆ
และเพียงแค่คิดถึงสิ่งต่าง ๆ ก็ทำให้ฉันมีความสุข ฉันจะได้กำไรมหาศาลถ้าฉันประสบความสำเร็จในการได้รับสมบัติของไททันส์และมังกรทั้งหมดและบังคับให้พวกเขาทำงานเพื่ออุดมการณ์ของฉัน
“…อย่าเพิ่งดีใจไป การมีอยู่ของ Chaos Main God กำลังมา”
แน่นอนว่าเพื่อให้ฉันได้รับผลกำไรมหาศาลนี้ ก่อนอื่นฉันต้องสามารถจัดการกับปัญหาใหญ่ที่อยู่ตรงหน้าและกำจัดนักล่าเหล่านี้ให้ได้
เครื่องบินของ Dragon World เริ่มพังทลายและสูญเสียการเชื่อมต่อกับเครื่องบินลำอื่น และเมื่อเวลาผ่านไป การจะมาที่นี่จากระนาบมนุษย์ก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ แต่การล่มสลายของมิตินี้ยังเปิดประตูบานอื่นๆ ของมัน ทำให้การดำรงอยู่บางอย่างสามารถส่งสิ่งที่น่ารังเกียจบางอย่างเข้ามาได้ง่ายขึ้นมาก
“มีการดำรงอยู่ระดับ Chaos Main God อยู่สามตัว? คุณจำพวกเขาได้ไหม”
โดยธรรมชาติแล้ว Chaos Faction ได้ส่งสิ่งมีชีวิตมาตามล่าฉัน—พวกเขาลงมาด้วยเปลวเพลิงจากก้นบึ้ง
ฉันคาดว่าซินเทียจะสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว ฉันปฏิเสธที่จะเชื่อว่าปีศาจทุกตัวที่ฉันอัญเชิญมาไม่ได้อยู่ข้าง Chaos Abyss ตราบใดที่ผู้ทรยศปีศาจแม้แต่คนเดียวบอกความลับนี้แก่ Chaos Faction และให้พิกัดมิติ แน่นอนว่า Chaos Abyss จะเร็วที่สุดในการส่งสิ่งมีชีวิตมาตามล่าเรา
เนื่องจากเรามี Kamiltias ระดับพระเจ้าหลักอยู่ข้างเรา Chaos Abyss จะส่ง Demon Lords ระดับ Main God และ Chaos Evil Gods ออกไปโดยธรรมชาติ เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าโดยทั่วไปแล้ว Chaos Evil Gods จะนำอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขามาด้วย ในขณะที่ Demon Lords มีความสามารถในการเรียกปีศาจและสามารถเรียกกองทัพทั้งหมดได้ การต่อสู้แม้แต่การดำรงอยู่ดังกล่าวเพียงครั้งเดียวก็จะจบลงด้วยสงครามกับกองทัพทั้งหมด
[มีสิ่งมีชีวิตระดับเทพหลักทั้งหมดสี่ตัว]
ห่างออกไปไม่ไกล น้ำตามิติใหม่ได้เปิดขึ้นบนท้องฟ้าสีแดง ออร่าศักดิ์สิทธิ์ลงมาพร้อมกับร่างที่คุ้นเคยและฝูงเทวดาทั้งหมด พระองค์นี้เปล่งแสงสีส้มแดง กลุ่มคำสั่งก็มาถึงเพื่อตามล่าเราเช่นกัน
ร่างของเขามีแสงพร่ามัวและมองเห็นไม่ชัด แต่ฉันสัมผัสได้โดยสัญชาตญาณว่าเขากำลังมองมาที่ฉันและต้องการจะฉีกฉันเป็นชิ้นๆ
“เทพแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์… ร่างอวตารของเขาเท่านั้นหรือ?”
ครั้งแรกฉันรู้สึกประหลาดใจ แล้วก็ดีใจ แต่สุดท้ายก็ผิดหวังเล็กน้อย
[การกลับชาติมาเกิดของเขาจะสามารถใช้พลังได้เกือบเต็มที่ในระนาบนี้ซึ่งกฎแห่งมิติกำลังพังทลายลง ระดับพลังของการกลับชาติมาเกิดของเขานั้นอยู่ในระดับเทพหลักอย่างแน่นอน]
เอาล่ะ ฉันได้แต่อุทานว่าเทพแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์มีพลังสะสมที่น่าขันขนาดไหน ฉันไม่เคยคาดคิดว่าฉันจะสามารถต่อสู้กับผู้อาวุโสของฉันได้เร็วขนาดนี้ ฉันดีใจมากที่มีโอกาส!
“น่าเสียดายที่มันเป็นเพียงร่างอวตารของเขาแทนที่จะเป็นร่างที่แท้จริงของเขา…”
ฉันก้มศีรษะลงและถอนสายตาที่โกรธแค้น จากนั้นฉันก็คลายกำปั้นที่กำแน่น ปล่อยให้ความปรารถนาที่จะแก้แค้นกลับคืนสู่ก้นบึ้งของหัวใจ
“ถึงกระนั้น ฉันจะทำให้การกลับชาติมาเกิดของคุณอยู่ที่นี่”
แม้ว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ที่จะแก้แค้นพระเจ้าแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง แต่อย่างน้อยฉันก็สามารถรวบรวมดอกเบี้ยที่เขาเป็นหนี้ฉันได้ ยิ่งอวตารมีพลังมากเท่าไหร่ พลังก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้นในการสร้างมันขึ้นมา การสังหารร่างอวตารที่ทรงพลังเช่นนี้จะทำให้พลังศักดิ์สิทธิ์ส่วนหนึ่งที่พระเจ้าแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ได้สั่งสมมาเป็นเวลาหลายปีหมดสิ้นไป ซึ่งเป็นโอกาสที่หาได้ยาก
ในขณะเดียวกัน Kamiltias ได้ค้นพบว่าใครมาจาก Chaos Faction ต้องขอบคุณคลื่นพลังงานที่พวกเขาคุ้นเคย แม้ว่าฝ่าย Chaos จะมีตัวตนระดับเทพเจ้าหลักมากกว่าฝ่าย Order แต่ก็ยังมีเพียงสิบสี่คนเท่านั้น เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าราชาปีศาจระดับพระเจ้าหลักสองคนอยู่ข้างฉัน จึงมีผู้สมัครน้อยมากที่ยังคงอยู่
“Demon Earl Ladvioka ผู้ปกครองชั้นที่เก้าถึงชั้นที่สิบสามของ Chaos Abyss ชื่อจริงของปีศาจนั้นยาวจนน่าขัน นี่คือเวอร์ชันย่อของเวอร์ชันย่อแล้ว ชื่อของเขาไม่เป็นที่รู้จักในระนาบของมนุษย์ ดังนั้นจึงน่าจะง่ายกว่าที่จะจำเขาด้วยชื่อของเขา 'ลอร์ดแห่งความเน่าเฟะ'”
ควันเหม็นหืนเริ่มแพร่กระจายไปยังตำแหน่งที่ลอร์ดแห่งการเน่าเสียได้ตกลงสู่พื้นราวกับดาวตก ก๊าซที่ปนเปื้อนนี้เปลี่ยนอากาศให้กลายเป็นพิษร้ายกาจ และภายในนั้นทั้งหมดมีร่างสูงยืนขึ้นอย่างช้าๆ
“ฉันไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเขา”
ลอร์ดปีศาจผู้ทรงพลังควรมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งโลก แต่น่าแปลกที่ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับจอมมารองค์นี้มาก่อน
“เขาเป็นคนที่มีโปรไฟล์ต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ เขาไม่มีผู้เชื่อแม้แต่คนเดียวในระนาบมรรตัย อย่างไรก็ตาม ไวรัสและโรคระบาดมากกว่าสามสิบชนิดในระนาบมรณะนั้นเป็นผลงานของเขา เขามีความลับอย่างไม่น่าเชื่อเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยววิญญาณ เขาคิดว่ามันเป็นศิลปะรูปแบบหนึ่งด้วยซ้ำ… ฉันจะอธิบายให้ตรงกว่านี้สักหน่อยเพื่อที่คุณจะได้เข้าใจได้ดีขึ้น เขาเป็นปีศาจโบราณจากรุ่นเดียวกับฉัน ฉันต่อสู้กับเขาหลายครั้ง แม้ว่าฉันจะชนะมากกว่าที่เสียไป แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่ฉันจะฆ่าเขา”
จอมมารผู้นี้สามารถเอาชีวิตรอดได้แม้จะพ่ายแพ้ต่อผู้นำแห่งจอมมารหลายต่อหลายครั้ง? เพื่อนที่ไม่มีชื่อเสียงคนนี้คงจะรับมือได้ยากอย่างแน่นอน
ถัดจาก Lord of Putrefaction คือนักรบร่างยักษ์ สวมชุดเกราะหนักที่ไม่มีเครื่องประดับหรืออักษรรูนสลักไว้ หน้ากากของเขาซึ่งปกปิดทั้งใบหน้าของเขานั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากสีขาวบริสุทธิ์และว่างเปล่า ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครกล้าประเมินเขาต่ำไป เขากวัดแกว่งดาบใหญ่สองมือที่สร้างจากหินออบซิเดียน เลือดสีทองของพระเจ้าสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนบนรอยแตกของดาบของเขา
เขายืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบๆ แต่แผ่รังสีแห่งอำนาจเด็ดขาดออกมา ราวกับว่าเขาเป็นยักษ์ที่สามารถขึ้นไปถึงท้องฟ้าได้ แต่ในชั่วพริบตาต่อมาเขาก็ระงับรัศมีของเขาราวกับว่าเขาเป็นเพียงรูปปั้นที่ไร้ชีวิต ทำให้คนอื่นลืมการปรากฏตัวของเขาได้อย่างง่ายดาย
“นักรบที่ได้รับชัยชนะนิรันดร์ของปีศาจ Chaos Evil God Donatis เจ้าแห่งสี่ร้อยห้าสิบชั้นของ Chaos Abyss คุณควรจำเขาได้อย่างแน่นอน”
แน่นอนฉันจำเขาได้ หัวขโมย โจร และนักรบกระหายเลือดหลายคนบูชาเทพเจ้าแห่งความโกลาหลนี้ เขาเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่เหล่าปิศาจให้ความเคารพนับถือมากที่สุด ผู้ซึ่งไม่ค่อยแสดงความเคารพต่อเทพเจ้าองค์ใดเลย เพราะเขามีชื่อเสียงในด้าน "ความสามารถในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยม" และในสงครามศักดิ์สิทธิ์ทุกครั้ง เขามักจะเป็นแนวหน้าของแนวหน้า แต่ก็ยังสามารถอยู่รอดได้จนถึงทุกวันนี้ นั่นเป็นมากกว่าหลักฐานมากมายว่าเขาทรงพลังเพียงใด
Chaos Evil Gods มีความคล้ายคลึงกัน แต่ก็แตกต่างจาก True Gods of Order ในขณะที่ Chaos Evil Gods ยังสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเองด้วยการได้รับความเชื่อที่มากขึ้น แต่พวกมันก็ไม่ได้ถูกจำกัดด้วยแนวคิดศักดิ์สิทธิ์หรือกฎธรรมชาติ เช่นเดียวกับปีศาจ พวกมันสามารถเสริมความแข็งแกร่งให้ตัวเองผ่านการฝึกฝนและการต่อสู้จริง แม้ว่าจะมีข้อยกเว้นที่หาได้ยากซึ่งได้รับพลังมาจากความเชื่อล้วนๆ แต่ Chaos Evil God ใด ๆ ที่อยู่ในระดับพลังเดียวกันกับ Order God จะมีปัญหามากกว่า Order God ถึงสองเท่า คุณจะต้องเผชิญกับทั้งพลังอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันพร้อมกับความแข็งแกร่งส่วนตัวของการดำรงอยู่
โดยทั่วไปอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของ Chaos Evil Gods จะอยู่ภายใน Chaos Abyss เอง เนื่องจากปีศาจเป็นเพื่อนบ้านของพวกเขา พวกเขาจึงต้องคอยระแวดระวัง “เพื่อนบ้านที่อบอุ่น” ที่ต้องการมาเยี่ยมอยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ Donatis ครอบครอง Chaos Abyss เพียงชั้นเดียวในฐานะอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ของเขา แต่ก็ไม่มีใคร "เยี่ยมชม" ชั้นของเขาในช่วงหลายพันปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นหลักฐานที่ดีที่สุดว่าเขามีพลังที่น่ากลัวเพียงใด
อาจกล่าวได้ว่าประวัติความสำเร็จและความสามารถที่ผ่านมาของเขาทำให้โดนาติเป็นศัตรูที่ฉันอยากเห็นน้อยที่สุด
“เขามาที่นี่ทำไม? ความสัมพันธ์ของคุณแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เขาเป็นสุนัขที่ซื่อสัตย์ต่อความโกลาหล แปลกตรงไหนที่เขามาเป็นพวกแรกๆ”
เอาล่ะ ฉันหันไปมองการมีอยู่ของ Chaos Main God สุดท้าย หัวของฉันเจ็บมากขึ้นเมื่อฉันเห็นว่าใบหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมแม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นขนาดมหึมาก็ตาม และเขากำลังปรุงซุปปลาในสนามรบจริงๆ! ปลาขนาดใหญ่ที่ดิ้นรนอยู่ในหม้อใบใหญ่ดูค่อนข้างคุ้นเคย มีใบหน้าที่น่าเกลียดอย่างเหลือเชื่อ ฉันรู้สึกเหมือนฉันเคยเห็นเจ้าปีศาจปลาตัวนี้ที่ไหนสักแห่งในหนังสือมาก่อน…”
“ฉันเชื่อว่าฉันไม่จำเป็นต้องแนะนำอันสุดท้ายนี้ให้กับคุณ เขาเป็นลูกคนโปรดของ Chaos น้องชายของคุณ Abyss Prince Karwenz”
“ความสำเร็จในการต่อสู้ของเขาคืออะไร? และลักษณะพิเศษของพลังของเขา?”
“ไม่ทราบ เขามีประวัติการต่อสู้ส่วนตัวน้อยเกินไป ใครก็ตามที่ได้เห็นพลังของเขาตาย และถ้าฉันเห็นถูกต้อง ปลาในหม้อของเขาคือ Demon Lord จากชั้นที่เจ็ดสิบหกของ Chaos Abyss จักรพรรดิปลา Blackblade Antolostan Antolostan สามารถเปลี่ยนร่างเป็นทะเลหมอกสีดำที่ต้านทานการโจมตีทั้งทางกายภาพและทางเวทมนตร์ ซึ่งเป็นความสามารถที่รับมือได้ยากจริงๆ”
Karwenz ดูเหมือนจะสังเกตเห็นว่าเรากำลังมองเขาและโบกมือทักทายฉันอย่างมีความสุข
“โรแลนด์ ถ้าคุณไม่ตายหลังจากการต่อสู้ของเรา ฉันจะชวนคุณมาดื่มซุปปลากับฉัน”
ใช่ Karwenz เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ทุกประการ บางทีคนอื่นอาจจะคิดว่าเขาพูดเล่น แต่ฉันรู้ว่าเขาจริงจัง ถ้าการต่อสู้ของเราจบลงโดยที่ไม่มีใครตาย เขาจะชวนฉันไปดื่มซุปปลากับเขาจริงๆ แต่จากมุมมองอื่น เขาหมายความว่าเขาจะพยายามฆ่าฉันอย่างจริงจังอย่างแน่นอน
“นี่เป็นความผิดของเคออสที่บุกรุกสมองของเขา อีกครึ่งหนึ่งของจิตวิญญาณของฉันจะงี่เง่าแบบนี้ได้ยังไง!”