ผู้แปล:imperfectluck บรรณาธิการ:Kurisu
หอคอยทมิฬเป็นอีกชื่อหนึ่งที่นักวิชาการรุ่นหลังตั้งให้กับหอฟ้าที่ซ่อนอยู่หลังที่แปดนี้ ความหมายเบื้องหลังคือพวกเขาต้องการให้หอคอยนี้ถูกปกปิดอย่างดีในความมืด แม้กระทั่งจากเหล่าทวยเทพ เพื่อรักษาวัฒนธรรมของคนรุ่น Haletdam
และตอนนี้ Sky Tower กลายเป็นเมืองเดียวของ Revived เมืองนี้กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา
จากมุมมองหนึ่ง การระเบิดแสงศักดิ์สิทธิ์ของฉันเมื่อนานมาแล้วเป็นการกระทำที่ดีจริงๆ เนื่องจากแนวภูเขาในบริเวณนี้ราบเรียบไปหมด นั่นทำให้ Revived สร้างเมืองและขยายออกไปนอกหอคอยได้ง่ายขึ้นมาก
หลังจากเคลียร์เศษหินออกหมดแล้ว ก็มีการลากเส้นบนที่ราบเพื่อกำหนดพื้นที่ก่อสร้าง บ้านไม้ถูกสร้างขึ้นทีละน้อย ตามมาด้วยกำแพงบางส่วน และจากนั้นก็มีบางคนถูกพาตัวมาที่นี่จากกลุ่มพันธมิตรหมอกเพื่ออพยพเข้ามาในเมืองใหม่ของ Revived ซึ่งเป็นการสร้างรากฐานให้กับเมืองใหม่นี้
ชั้นใต้ดินสิบชั้นแรกของหอคอยทมิฬก็ถูกเปิดเช่นกัน วิศวกรที่ดีที่สุดหลายร้อยคนใน Mist Alliance จะมาถึงในไม่ช้า ในเมืองใหม่และพื้นฐานแห่งนี้ พวกเขาจะเรียนรู้ความรู้ทั้งหมดที่นี่โดยเร็วที่สุดเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีวิศวกรรมเวทมนตร์ของ Mist Alliance
เทคโนโลยี ตลาด และแรงงานล้วนอยู่ที่นี่ บางทีเมืองนี้อาจกลายเป็นหนึ่งในเมืองชั้นนำของ Mist Alliance สำหรับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีในเวลาเพียงไม่กี่ปี
เนื่องจากฉันเกษียณจากหน้าที่ผู้นำ Mist Alliance ไปแล้วครึ่งหนึ่ง การสามารถช่วย Mist Alliance เช่นนี้จึงเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ
ประตูมิตินั้นในหอคอยทมิฬซึ่งเชื่อมต่อกับระนาบล่างจะช่วยฉันจากปัญหาได้มาก อย่างน้อยที่สุดก็คงเป็นตัวช่วยที่ดีในการผจญภัยครั้งหน้าที่เรากำลังจะเริ่มต้นขึ้น
“รายชื่อทั้งหมดของผู้ที่จะได้รับการพิจารณาแล้วหรือยัง”
“ฉันได้ส่งคำเชิญทั้งหมดให้กับทุกคนแล้ว ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาจะมาถึงกี่คน เนื่องจาก Chaos Abyss นั้นอันตรายเกินไป… แม้แต่เทพแท้จริงก็อาจพบว่าตัวเองกำลังจะตายเมื่อใดก็ได้ที่ด้านล่าง”
เนื่องจากเราตั้งใจจะลงไปที่ Chaos Abyss การไปพักผ่อนที่นั่นอย่างไม่ตั้งใจนั้นไม่ฉลาดเลย
เมื่อพิจารณาถึงชื่อเสียงอันย่ำแย่ของฉัน และวิธีที่ฉันเป็นที่รู้จักจากการลงไปที่ชั้นใต้ดินเพื่อสังหาร Demon Lords ในอดีต หากข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้รั่วไหลออกไป เป็นไปได้มากทีเดียวที่ Demon Lords จะเป็นพันธมิตรกันและคอยซุ่มโจมตีฉันในขณะนั้น ฉันมาถึง
แม้ว่าฉันจะเตรียมข้อมูลที่ผิดสำหรับการควบคุมข้อมูลแล้ว แต่ก็ยังเป็นไปได้ที่เราทุกคนจะถูกบังคับให้วิ่งหนีเอาชีวิตรอดทันทีที่มาถึง และแม้ว่าเราจะโชคดีพอที่จะไม่พบ "คนรู้จักเก่า" ก็ตาม Chaos Abyss ก็เป็นสถานที่ผิดปกติที่ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในพริบตาถัดไป มีเพียงความแข็งแกร่งเพียงพอเท่านั้นที่คุณจะสามารถรับประกันความปลอดภัยของคุณที่นั่นได้
บางทีอันดับ Saint อาจถูกพิจารณาว่าน่าทึ่งในระนาบมนุษย์ แต่อันดับ Saint จะไร้ประโยชน์อย่างยิ่งใน Chaos Abyss ที่มีปีศาจนับไม่ถ้วน นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันส่งคำเชิญออกไป โดยหวังว่าจะเรียกเพื่อนร่วมทางมาเคียงข้างฉันสำหรับการเดินทางที่วางแผนไว้ไปยัง Chaos Abyss
“มีกฎเพียงข้อเดียวใน Chaos Abyss: ผู้ที่แข็งแกร่งจะตกเป็นเหยื่อของผู้อ่อนแอ ไม่เพียงแต่ผู้ที่ไม่แข็งแรงพอที่จะพาพวกเขาไปด้วย พวกเขายังจะกลายเป็นภาระอีกด้วย สำหรับผู้ทรงพลัง ยิ่งมากยิ่งดี”
“แล้วทำไมคุณถึงปฏิเสธไม่ให้ Amelia และ Reyne มาด้วยล่ะ? ทั้งคู่ควรจะมีพลังมากเกินพอ”
“พอแล้ว ฮาร์ลอยส์ แน่นอนคุณรู้ว่าทำไมฉันปฏิเสธพวกเขา นั่นเป็นเพราะ…”
ในขณะที่ฉันกำลังจริงจังอยู่นั้น จู่ๆ เจ้าแมวโง่ก็กลายร่างเป็นเอลฟ์สีทองของเธอและเริ่มขยับนิ้วของเธออย่างอายๆ พร้อมกับก้มหน้าลง
“ต่อให้เจ้าเลือกข้าในท้ายที่สุด และแม้ว่าข้าจะเป็นผู้ชนะเพียงคนเดียวก็อย่าพูดตรงๆ! คุณจะทำให้ฉันอับอาย!”
“…Reyne มีเลือดปีศาจอยู่ในตัว ดังนั้นนั่นจะเป็นปัญหาทุกอย่างที่นั่น และเธอเป็นราชินีแห่งอาณาจักรหมอก ดังนั้นเธอจึงออกไปไม่ได้…”
ฉันตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อ Harloys ที่กำลังสนุกสนานกับการแสดงของเธอเอง การเพิกเฉยต่อเธอจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้เธอบ้าคลั่งมากขึ้นเรื่อย ๆ
Amelia และ Reyne ต่างต้องการมากับฉัน แต่ทั้งสองคนไม่เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเข้าร่วมปาร์ตี้ของฉัน
“…สำหรับ Amelia เธอคือผู้สร้างและเทพธิดาแห่งวิญญาณไม้ทั้งหมด หากอมีเลียเสียหาย นั่นจะเทียบเท่ากับการทำลายสายพันธุ์วิญญาณไม้ทั้งหมด ถ้าเธอลงไปใน Chaos Abyss และถูกค้นพบ เป็นไปได้ว่าแม้แต่ Demon Princes และสูงกว่าก็จะมาเยี่ยมเป็นการส่วนตัว ในกรณีนี้เธอจะกลายเป็นปัญหามากกว่าความช่วยเหลือ”
แม้ว่า Chaos Abyss โดยพื้นฐานแล้วจะไม่มีขีดจำกัดของระดับพลัง แต่ถึงจุดที่มันค่อนข้างง่ายสำหรับ True God ใดๆ ก็ตามที่จะลงไปที่นั่นเป็นการส่วนตัว ไม่มี Order God ใดที่จะส่งร่างที่แท้จริงของพวกเขาลงไปที่ Chaos Abyss เว้นแต่ว่าพวกเขาจะฆ่าตัวตาย
ในอดีต ภาคีพระเจ้าที่แท้จริงเคยโง่เขลาพอที่จะลงไปยัง Chaos Abyss ด้วยร่างกายที่แท้จริงของเขาเองแทนที่จะเป็นร่างอวตาร สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือ… อืม หลายอย่าง จากนั้นเขาก็กลายเป็น Chaos Evil God ในท้ายที่สุด Chaos Abyss เป็นสถานที่ที่บิดเบี้ยว
การคอรัปชั่นหรือการตกสู่บาปไม่ได้เป็นเพียงการบิดเบี้ยวของบุคลิกภาพเท่านั้น มีความแตกต่างพื้นฐานระหว่างพลังงานบวกและพลังงานลบ ความโกลาหลสามารถบิดเบือนสติปัญญาและร่างกายของรูปแบบชีวิตปกติได้ ใน Chaos Abyss การบิดเบือนและความโกลาหลเป็นเพียงกฎแห่งมิติที่พบมากที่สุดเท่านั้น แม้แต่คำสั่งของพระเจ้าก็อาจเสียหายได้อย่างสมบูรณ์ที่นั่น
“ท้ายที่สุดแล้ว ฉันเป็นคนเดียวที่สามารถพาคุณไปยัง Chaos Abyss ได้หรือไม่? นี่เหมือนเป็นทริปฮันนีมูนคู่บ่าวสาวของเราหรือเปล่า? ท่องเที่ยวไปตามแม่น้ำปรภพในขณะที่เพลิดเพลินกับทิวทัศน์นรกในท้องถิ่นและได้รับการต้อนรับจากปีศาจ เพลิดเพลินกับความตื่นเต้นของการต่อสู้และการวิ่งหนี? คุณมีรสนิยมที่แปลกจริงๆ”
“หยุดพูดเกินจริง อดัมกับมาร์กาเร็ตมากับเราไม่ใช่เหรอ”
“งั้นเราจะไปเดทกันสองคนเหรอ?”
ฉันกลายเป็นพูดไม่ออก จริงหรือที่ฤดูผสมพันธุ์ในฤดูใบไม้ผลิส่งผลกระทบต่อจิตใจของเธอ? ฉันขอคุยกับแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงของฉันตามปกติได้ไหม
ขณะที่ฉันจ้องมองเธอ เธอก็แสร้งทำเป็นจริงจังอีกครั้งพร้อมกับเปิดคัมภีร์โบราณที่ดึงดูดความสนใจของฉัน
หนังสือม้วนนี้เป็นแผนที่มิติต่างๆ ของ Chaos Abyss สถานที่นับไม่ถ้วนถูกทำเครื่องหมายไว้แล้ว นี่คือสิ่งที่ Harloys กำลังดำเนินการอยู่เมื่อเร็วๆ นี้
ปัจจุบันถูกทำเครื่องหมายเป็นระดับที่ 77 ของ Chaos Abyss เช่นเดียวกับมิติส่วนใหญ่ใน Chaos Abyss ระดับนี้ถูกปกครองโดยปีศาจที่ไม่มีใครเคยได้ยินชื่อ แม้ว่าหัวหน้าโดยตรงของปีศาจตัวนี้คือ Sophocles the Deceiver แต่ก็น่าจะง่ายพอที่จะผ่านไปได้เนื่องจากสามารถควบคุมประตูมิติได้
“นั่นเป็นเพราะไม่มีใครเคยจินตนาการว่าผู้อยู่อาศัยในระนาบมรณะจะลงไปยัง Chaos Abyss โดยสมัครใจ”
………
ในคืนที่มืดมิด นักเดินทางสองคนกำลังเดินทางแม้ในความมืดมิด แม้ว่าลมแรงอย่างน่าอัศจรรย์จะพัดเอาหินข้างถนนออกไป แต่ลมก็ไม่สามารถแม้แต่จะขยับผ้าคลุมของทั้งสองหรือขัดขวางความก้าวหน้าของพวกเขาได้
“ฮ่าๆ โรแลนด์ชวนพวกเราไปช่วยเขาจริงๆ เขาต้องไม่มีทางเลือกอื่นเหลืออยู่”
ผมสีแดงเพลิงของอดัมและเสียงหัวเราะดังสนั่นยังคงเหมือนเดิม ทันทีที่เขาได้รับจดหมายของโรแลนด์ อดัมก็ออกเดินทางทันทีแม้จะหัวเราะเยาะโรแลนด์ที่ขอความช่วยเหลือจากเขา
“…ฉันค่อนข้างสนใจว่าเราจะไปที่ไหนกัน คุณแน่ใจหรือว่าเราไม่ควรขอคำแนะนำจากใคร?”
“ฮ่า สัญชาตญาณของฉันบอกว่าเราอยู่ไม่ไกลกัน”
"สัญชาตญาณ? จุดหมายของเราอยู่ไม่ไกล? ฮ่าๆ”
มาร์กาเร็ตหัวเราะอย่างเย็นชาขณะที่ฝูงแมวน้ำและนกเพนกวินวิ่งลงมาจากภูเขาน้ำแข็งที่อยู่ข้างหลังเธอ อดัมและมาร์กาเร็ตเดินทางผ่านทุ่งทุนดราที่เย็นยะเยือกมาสามวันแล้ว
พายุหิมะ พายุลูกเห็บ ลมหนาว และหิมะถล่มยังคงเกิดขึ้นที่นี่ ภัยธรรมชาติที่อาจเป็นอันตรายต่อคนธรรมดาเหล่านี้ไม่มีอะไรมากไปกว่าความสนุกสนานในการเดินทางของ SemiGods ทั้งสองนี้
พวกเขามาถึงที่นี่ได้อย่างไร? มาร์กาเร็ตไม่รู้เลย… เดิมที ทั้งสองคนเดินทางไปทั่วโลกอย่างไร้จุดหมาย และหลังจากที่อดัมได้รับจดหมายของโรแลนด์ มาร์กาเร็ตก็เดินตามคนงี่เง่าตรงหน้าเธอที่พยายามหาทางออกอย่างสนุกสนาน อดัมเดินทางจากภูเขาลูกหนึ่งไปยังอีกลูกหนึ่ง ตามคำแนะนำของสัญชาตญาณตลอดทาง หลังจากผ่านไปประมาณสองสัปดาห์ พวกเขาก็มาถึงสถานที่ที่มีน้ำแข็งแห่งนี้ด้วยการเดินเท้า
ไม่ว่าโรแลนด์ต้องการให้พวกเขาไปพบเขาที่ใด มันไม่ใช่สถานที่นี้อย่างแน่นอน มาร์กาเร็ตมองไปรอบ ๆ ตัวเธอและไม่เห็นอะไรเลยนอกจากภูเขาน้ำแข็ง แม่น้ำน้ำแข็ง และสิ่งมีชีวิตที่รักความเย็นทุกประเภท
“ฉันว่ามันไม่สำคัญหรอก เนื่องจากเขาเขียนจดหมายถึงอดัมมากกว่าฉัน นั่นหมายความว่าจดหมายนี้ไม่ด่วนมาก ฉันสามารถถือว่านี่เป็นวันหยุดพักผ่อน”
มาร์กาเร็ตมองดูเข็มทิศของเธอ คำนวณว่าตำแหน่งปัจจุบันของพวกเขาอยู่ทางเหนือสุดของทวีป จากนั้นเธอก็ใช้เครื่องมือของเธอเพื่อคำนวณละติจูดและลองจิจูด โดยยืนยันว่าขณะนี้พวกเขาอยู่ในหมู่เกาะ Gibser ทางเหนือสุด นี่เป็นสถานที่ที่ไกลออกไปทางเหนือยิ่งกว่าดินแดนทางเหนือ ใกล้กับสุดขอบโลก
การรับรู้ทิศทางของคนผมแดงบางคนนั้นเกินความเข้าใจทั้งหมด นี่เทียบเท่ากับการต้องการไปตกปลาในมหาสมุทร แต่เดินทางไปในอวกาศแทน
แม้ว่ามาร์กาเร็ตจะคำนวณตำแหน่งของพวกเขาและเรียนรู้ว่าพวกเขาอยู่ห่างจากสถานที่นัดพบของโรแลนด์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่จู่ๆ เธอก็สนใจสถานที่นี้
“…ในช่วงเวลานี้ของปี เราน่าจะได้เห็น Aurora Borealis ที่นี่ ฉันสามารถดูแสงเหนือร่วมกับอดัม และเราสามารถนับดาวด้วยกันได้… ฟังดูโรแมนติกมาก และเราอาจขึ้นไปทางเหนือได้ไกลกว่านั้นด้วย เนื่องจากเราอยู่ที่นี่จนสุดทางแล้ว ฉันยังสามารถทำการทดลองบางอย่างที่ต้องใช้สภาพอากาศที่หนาวจัดได้”
มาร์กาเร็ตมีความคิดของเธอเองในขณะที่เธอตัดสินใจที่จะไปไกลกว่านั้นทางเหนือ ดูเหมือนว่าอดัมและมาร์กาเร็ตจะมาถึงช้ากว่าที่โรแลนด์คาดไว้มาก
บางทีเมื่อถึงเวลาที่อดัมยอมรับว่าเขาจำเป็นต้องขอเส้นทาง เขาจะสามารถพาพวกมันไปจากหมีขั้วโลกและนกเพนกวินได้เท่านั้น
“ดูผู้ชายผิวขาวตัวใหญ่ตรงนั้นสิ เขาเป็นคนในท้องถิ่นหรือไม่? นี่เขากำลังโบกก้อนน้ำแข็งต้อนรับเราอยู่เหรอ? หลงใหลในตัวเขามากแค่ไหน คืนนี้เราควรค้างที่บ้านเขาไหม”
“…พวกมันคือปีศาจหิมะและน้ำแข็งผู้ยิ่งใหญ่ พวกเขามีทักษะสูงในการขว้างหอกน้ำแข็งและก้อนน้ำแข็ง ดูเหมือนว่าเราจะถูกล้อมรอบแล้ว ฉันคิดว่าพวกเขาต้องการให้เราไปทานอาหารเย็น เอาล่ะ คืนนี้เราพักที่บ้านพวกเขาก็ได้ ฉันหวังว่าพวกเขาจะมีอะไรให้เราได้อาบน้ำร้อนด้วยกัน”
ในขณะเดียวกัน ในเมืองมังกรใต้ดิน จดหมายของโรแลนด์ก็มาถึงแล้ว แต่บุคคลที่จดหมายนั้นยังไม่ได้อ่าน นั่นเป็นเพราะเจ้านายของ Dragon City นี้กำลังหลับสนิท
แล้วเมื่อไหร่คนคนนั้นจะตื่นล่ะ? เมื่อพิจารณาว่ามังกรนอนหลับได้ยาวน่าขันเพียงใด นั่นขึ้นอยู่กับโชคเท่านั้น
ในขณะเดียวกัน สหายคนหนึ่งของ Roland ที่ไม่ได้รับเชิญก็กำลังเดินทางมาอย่างตื่นเต้น อย่างไรก็ตาม มีแนวโน้มว่าโรแลนด์จะไม่ต้องการพบเธอจริงๆ
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม แม้ว่าโรแลนด์จะตัดสินใจเรียกพรรคพวกของเขา แต่คนที่เขาหวังว่าจะมากลับไม่มา ในขณะที่คนที่เขาไม่ได้เชิญก็กำลังมา โรแลนด์คงต้องรออีกนานหากเขาต้องการออกไปกับปาร์ตี้ที่เขาตั้งใจไว้