ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
“หัวหน้ากิลด์ เราจะทำยังไงดี!” ราวกับว่าเสียงต่างๆ ดังขึ้นพร้อมกันในกิลด์ทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้ว ทั้งกิลด์ก็อดที่จะสับสนไม่ได้ โดยไม่รู้ว่าสถานการณ์ในสนามรบเปลี่ยนไปอย่างไร
ถูกตัอง. พวกเขาสามารถทำอะไร? ในขณะนี้ Oathless Sword, Brave Surge และผู้นำกิลด์อื่น ๆ ที่เป็นตัวแทนของกิลด์ขนาดใหญ่สามารถทำได้คือการสาปแช่งบนสวรรค์ คนส่วนใหญ่รู้เพียงความรุ่งโรจน์ที่มาพร้อมกับการเป็นผู้นำที่โดดเด่น แต่พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรเกี่ยวกับความยากลำบากที่มาพร้อมกับการเลือกที่จำเป็นในช่วงเวลาดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากทำผิดพลาดในตอนนี้ จะสร้างความประทับใจที่ไม่ดีให้กับกิลด์ทั้งหมดในเมืองหยุนตวน ทั้งสองคนเงียบโดยหวังว่าอีกฝ่ายจะเป็นปากเป็นเสียงแทนเขา พวกเขาค่อนข้างให้โอกาสนี้ในการออกคำสั่งกับคนอื่นมากกว่าที่จะเสี่ยง อีกทางหนึ่ง พวกเขายังสบายดีหากมีคนงี่เง่าโผล่มาและตัดสินใจเหมือนที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้และถอดการตัดสินใจนี้ออกจากมือพวกเขา!
ไม่มีใครตะโกน อันที่จริง ทุกสิ่งมีโอกาสเกิดขึ้นโดยบังเอิญ และจำเป็นต้องมีข้อกำหนดเบื้องต้นบางประการเพื่อให้สิ่งนี้หลีกเลี่ยงไม่ได้ สถานการณ์ก่อนหน้านี้ทำให้เยาวชนเลือดร้อนกระโดดออกจากที่นั่งคนขับได้ง่าย แต่มีรายละเอียดเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบันที่หยุดแม้แต่คนบ้าบิ่นเหล่านี้จากการรับผิดชอบ: พวกเขาสบายดีกับการฆ่าต่อเนื่องเช่นนี้
Oathless Sword และ Brave Surge ค่อนข้างดอง! มันเป็นสถานการณ์ที่ยากที่จะตัดสินใจ!
“หัวหน้ากิลด์ ตัดสินใจอย่างรวดเร็ว เราไม่สามารถลากเรื่องนี้ไปได้อีกแล้ว” ผู้เล่นที่เข้าใจอย่างชัดเจนว่าปฏิบัติการกำลังมุ่งหน้าไปสู่สถานะที่เสียเปรียบอย่างมาก ต่างก็ประหม่า และกระตุ้นให้หัวหน้ากิลด์ของพวกเขารับผิดชอบสถานการณ์
ผู้นำกิลด์เองก็รู้สึกสับสน ดังนั้นพวกเขาจึงเร่งให้หัวหน้ากิลด์ที่ใหญ่กว่าออกคำสั่ง ซึ่งหมายความว่าความรับผิดชอบจะจบลงที่ Oathless Sword และ Brave Surge เป็นหลัก
ดังนั้นสิ่งที่ชายทั้งสองทำได้คือร้องไห้แม้ในขณะที่พวกเขาสาปแช่งสวรรค์
ครั้งนี้ ชายทั้งสองได้ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ตัดสินใจอย่างลวก ๆ และเลือกที่จะจัดการประชุมตามระบอบประชาธิปไตยในช่องปาร์ตี้กับหัวหน้ากิลด์หลักทั้งหมด ผู้นำสมาคมเหล่านี้ซึ่งกลายเป็นตัวแทนประชาธิปไตยของมวลชนอย่างกะทันหัน แต่ละคนมีความคิดเห็นของตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ และสิ่งนี้นำมาซึ่งการอภิปรายอย่างเผ็ดร้อน Oathless Sword และ Brave Surge เป็นสุนัขจิ้งจอกแก่สองตัวที่ยืนดูอยู่อย่างเงียบๆ ข้างสนาม เฝ้ารอที่จะได้ยินเสียงที่จะทำให้คนอื่นๆ ตื่นตะลึง แม้ว่าอาจกล่าวได้ว่าหัวหน้ากิลด์ทั้งสองไม่มีวิธีแก้ปัญหาที่กล้าหาญของตนเอง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าหัวหน้ากิลด์ทั้งสองพร้อมที่จะใช้ประโยชน์จากสถานการณ์อย่างสุดความสามารถ แม้ว่าจะมีใครคิดแผนขึ้นมา Oathless Sword และ Brave Surge ก็จะมีแพะรับบาปในท้ายที่สุดหากการดำเนินการล้มเหลว ในขณะที่อิทธิพลใดก็ตามที่ส่งให้กับบุคคลที่คิดไอเดียที่ประสบความสำเร็จนั้นอาจไม่เหมาะกับทั้งสองกิลด์ ผู้นำ ท้ายที่สุดแล้ว ทั้ง Brave Surge และ Oathless Sword ก็มีความแข็งแกร่งอย่างแท้จริง และนั่นเป็นรากฐานที่สำคัญใน MMO
“สุภาพบุรุษ หยุดทะเลาะกันแล้วฟังฉัน!” ทันใดนั้นเสียงตะโกนของใครบางคนก็ดังขึ้นในช่องปาร์ตี้ ขอให้ทุกคนเงียบและปล่อยให้เขาพูดคนเดียว
Oathless Sword และ Brave Surge ชำเลืองมองไปยัง IGN ของบุคคลที่พูดขึ้น และหัวใจของพวกเขาก็เริ่มเต้นแรงด้วยความกลัว มันคือ Black Index Finger หัวหน้ากิลด์ที่มาจากหนึ่งในห้ากิลด์หลักในเมืองหยุนตวน พวกเขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าคนๆ นี้จะกล้าพูดออกมาในเวลานี้
ช่องทางค่อยๆ เงียบลง และ Oathless Sword และ Brave Surge ต่างก็รอให้ Black Index Finger พูดออกมา คนผู้นี้ย่อมมีพละกำลังไม่น้อยที่จะต่อกรกับชายทั้งสอง… Oathless Sword และ Brave Surge ไม่ได้อยู่ใกล้กัน แต่หัวใจของพวกเขามีอัตราการเต้นของหัวใจที่ไต่ระดับเท่ากัน
“เราต้องล่าถอย!” Black Index Finger แสดงความคิดเห็นง่ายๆ หลังจากที่ช่องเงียบ Oathless Sword และ Brave Surge ถอนหายใจด้วยความโล่งใจ นั่นคือความคิดที่เขามี แค่สามารถเสนอแนวคิดที่ใช้การได้จริงนั้นไม่เพียงพอ แต่สิ่งสำคัญกว่านั้นคือการเสนอแนวคิดที่กล้าหาญพอที่จะแสดงความกล้าหาญที่เพียงพอ ใช้สถานการณ์ปัจจุบันเป็นตัวอย่าง แม้ว่า Black Index Finger กล้าที่จะแนะนำให้พวกเขาต่อสู้ต่อไป แต่เขาก็ยังอาจจำเป็นต้องจัดเตรียมขั้นตอนที่พวกเขาสามารถทำได้เพื่อให้พวกเขาสามารถรักษาสถานะที่เป็นอยู่ได้ หากพวกเขาลงเอยด้วยการได้รับชัยชนะ ศักดิ์ศรีที่เขามีในตอนนี้ก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น น่าเสียดาย สิ่งที่เขาแนะนำตอนนี้เป็นการถอย ดังนั้นไม่ว่าการตัดสินใจนี้จะถูกต้องหรือสมเหตุสมผลเพียงใด มันก็ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรกับเขาสำหรับการแนะนำ ทั้ง Brave Surge และ Oathless Sword สามารถบอกได้อยู่แล้วว่าการถอยกลับจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอย่างแม่นยำเพราะพวกเขาไม่ต้องการให้ผู้อื่นรู้สึกว่าอ่อนแอ ทั้งสองไม่เพียงแค่กังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของกิลด์ของพวกเขา แต่พวกเขายังมองหาภาพลักษณ์ของพวกเขาด้วย
หลังจากที่ Black Index Finger แสดงความคิดเห็นของเขา เสียงขรมของเสียงที่แตกต่างกันก็ดังขึ้น และมันก็เป็นอย่างที่ Brave Surge และ Oathless Sword คาดไว้ ทุกคนแสดงความดูถูกต่อการขาดความกล้าหาญของ Black Index Finger
นิ้วชี้สีดำตะโกนให้ฝูงชนสงบลงอีกครั้งก่อนที่จะพูดต่อ “ฉันไม่สงสัยเลยว่าสุภาพบุรุษของคุณมีพละกำลังและพลังที่จะต่อสู้ต่อไปอีกหลายชั่วโมงหากเราจัดระเบียบคนของเราอย่างระมัดระวัง แต่ปัญหา ไม่ใช่เรา แต่คนที่อยู่ที่นั่น… ฉันเกือบจะแน่ใจว่าพวกเขาจะไม่สามารถอยู่ได้นานกว่านี้”
‘ที่นั่น…’ ทุกคนรู้ว่าใครและที่ไหนที่นิ้วชี้ดำหมายถึง: กองทัพที่ประกอบด้วยอาหารสัตว์ปืนใหญ่ ทุกคนเงียบ ไม่มีใครสงสัยเลยว่ากองทัพปืนใหญ่ไม่สามารถเทียบได้กับกองกำลังหลักและโดยพื้นฐานแล้วพวกเขาเพียงแค่ส่งตัวเองไปสู่ความตายในการโจมตีครั้งนี้ แม้ว่าพวกเขาจะมีตัวเลขอยู่ข้างๆ แต่ความถี่ของการตายนั้นสูงมาก แม้ว่าการจัดทีมที่มีประสิทธิภาพจะอนุญาตให้พวกเขายับยั้งผู้คุมเมืองได้ในภายหลัง แต่อัตราการสังหารพวกเขานั้นสูงกว่ากองกำลังหลักหลายเท่า หากสิ่งนี้ดำเนินต่อไปโดยไม่มีการขัดขวาง มันเกือบจะรับประกันได้ว่าแนวหน้าของปืนใหญ่จะพังทลายเร็วกว่ากำลังหลักมาก เมื่อถึงเวลานั้น เมื่อผู้คุ้มกันเมืองจากระบบไม่มีคู่ต่อสู้ พวกเขาก็จะเข้ามาสนับสนุนผู้พิทักษ์ที่เหลือและทำลายสมดุลเดิมที่กองกำลังหลักสามารถรักษาไว้ได้ จำเป็นต้องพูดถึงผลลัพธ์อื่น ๆ ที่จะมีขึ้นสำหรับทุกคนหรือไม่?
“เราควรจะโยนคนของเราไปบ้างดีไหม” มีคนแนะนำมา.
“ฉันเกรงว่ามันจะสายเกินไป” Black Index Finger กล่าว “ยอดเงินปัจจุบันเป็นสิ่งที่เราเตรียมการไว้ก่อนหน้านี้ และเราแทบจะไม่สามารถรักษาสถานะที่เป็นอยู่ได้หลังจากนั้น ตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เป็นไปได้มากว่าระบบจะสามารถเอาชนะเราได้ในบัดดล ฉันแน่ใจว่าทุกคนที่นี่รู้ว่าอะไรคือสาเหตุของเหตุการณ์นี้”
“ดังนั้น การล่าถอยจึงเป็นทางเลือกเดียวของเรา!” นิ้วชี้ดำสรุป
ครั้งนี้ เสียงเหล่านั้นก่อนหน้านี้ที่ไม่เห็นด้วยไม่มีเสียงอีกต่อไป แต่มีเสียงร้องที่ไม่คาดคิดจากใครอีกคน
“เราถอยไม่ได้!!” คนที่พูดนี้คือ Brave Surge
ยิ่ง Brave Surge ได้ยินคำพูดของ Black Index Finger เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ นิ้วชี้ดำกำลังวิเคราะห์สถานการณ์บนพื้นผิว แต่เขาแอบกล่าวหาความจริงที่ว่าการสร้างกองทัพอาหารสัตว์ปืนใหญ่เป็นการกระทำที่ผิดพลาด ทั้งหมดนี้เป็นเพราะข้อตกลงเฉพาะนี้ที่พวกเขาได้ทำลงไป ซึ่งทำให้ยากขึ้นมากในการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมใดๆ และมันก็บังเอิญมากที่คนเสนอแนวคิดดังกล่าวให้จัดตั้งกองทัพปืนใหญ่คือ Brave Surge
Oathless Sword ได้เกิดแนวคิดให้พวกเขาผลัดกันหมุนเวียนคนเพื่อลดทอนระบบ จากนั้นก็เป็นนิ้วชี้สีดำที่เสนอว่าพวกเขาควรจะเลือกเฉพาะผู้เล่นชั้นยอดสำหรับปฏิบัติการนี้โดยเฉพาะ วาดเส้นบนผืนทรายและไม่รวมผู้เล่นที่ไม่เสมอกัน เดิมที Brave Surge มีภารกิจสำคัญอยู่ในมือ ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงไม่กังวลกับการเผชิญหน้าโดยตรงกับผู้คุมเมืองมากนัก ในท้ายที่สุด เมื่อภารกิจสำคัญทั้งหมดสิ้นสุดลงแล้ว และหนทางเดียวสู่ชัยชนะคือการเผชิญหน้าโดยตรง Brave Surge จะเต็มใจที่จะถูกกันออกจากการวางแผนการต่อสู้ได้อย่างไร ด้วยเหตุนี้ เขาจึงเสริมแนวคิดที่ว่าให้กองทัพปืนใหญ่ดึงพลังยิงส่วนหนึ่งออกไป ซึ่งจะช่วยลดแรงกดดันที่กองกำลังหลักจะต้องเผชิญ ทุกคนรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ความคิดที่แย่ ดังนั้นพวกเขาจึงตกลงไปพร้อมกับการจัดการ แต่ตอนนี้กองทัพปืนใหญ่กลายเป็นปัญหาหลักที่ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ในปัจจุบันของพวกเขา ถ้าใครกังวลกับการไล่ตามความรับผิดชอบ Brave Surge จะพบว่าทุกอย่างตกอยู่ที่เขาโดยธรรมชาติ เพราะเขาเป็นคนคิดไอเดียขึ้นมาเอง ในที่แรก.
เนื่องจาก Black Index Finger ได้แสดงการวิเคราะห์ของเขาในตอนนี้และได้เปิดเผยสิ่งต่าง ๆ ออกมาดังนั้น หากพวกเขาต้องการถอยในตอนนี้ แน่นอนว่าผู้เล่นจะเถียงว่า “ทำไม”
แล้วจะมีคนตอบว่า “เพราะกองทัพปืนใหญ่ไม่สามารถต้านทานได้อีกแล้ว”
สิ่งนี้จะนำไปสู่คำถามตามมา “ใครเป็นคนคิดสร้างกองทัพปืนใหญ่?”
ซึ่งจะมาถึงคำตอบ: Brave Surge
Brave Surge จบลงด้วยคำถามสองข้อนี้และคำตอบที่ตามมา ซึ่งทำให้เขาตระหนักได้ทันทีว่าพวกเขาต้องไม่ล่าถอย! โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ Black Index Finger ได้สรุปเรื่องนี้ให้ทุกคนทราบ ผู้ชายคนนี้จงใจที่จะโยนฉันลงใต้รถบัสหรือไม่? Brave Surge รู้สึกฉุนเฉียวเล็กน้อยและในช่วงเวลาที่ร้อนระอุ เขาไม่สามารถสนใจสิ่งอื่นใดได้ในขณะที่เขารีบโพล่งออกมาเพื่อหยุดคนของพวกเขาไม่ให้ถอนตัว
แน่นอนว่า Brave Surge ยังเป็นหัวหน้ากิลด์คนสำคัญที่ค่อนข้างมีหน้ามีตาในเมืองหยุนตวน ในทำนองเดียวกัน ในฐานะหัวหน้ากิลด์ของกิลด์ระดับ 6 เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเขามีความสำคัญมากกว่านิ้วชี้ดำ เมื่อ Black Index Finger กำลังพูด ผู้คนที่ไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นของเขาจะทำให้ตัวเองเป็นที่รู้จัก แต่เมื่อ Brave Surge เข้าร่วมในการสนทนา เสียงที่ตามมาคือการแสดงความเคารพ “หัวหน้ากิลด์ Surge คุณมีข้อเสนอแนะอย่างไร”
“มันไม่ง่ายเลยที่เราจะก้าวหน้าในการต่อสู้จนถึงขั้นตอนนี้ ตอนนี้เราได้เห็นการกำหนดค่าตัวนับการตายซ้ำแล้วซ้ำอีกที่ระบบมีให้เรา ถ้าเราจะถอนทหารตอนนี้ งานหนักที่เราทำมาก่อนหน้านี้จะสูญเปล่า แต่ฉันแน่ใจว่าระบบได้เก็บบันทึกจำนวนผู้เสียชีวิตของเราไว้ ดังนั้น ครั้งต่อไปที่เรามีส่วนร่วม เราจะเผชิญกับเวลาพักฟื้น 5 นาทีโดยตรง นานถึง 10 นาทีและแม้แต่ 15 นาที ซึ่งเป็นบทลงโทษที่ขัดขวางไม่ให้เราออกไปต่อสู้หลังความตาย แทนที่จะจัดการกับสิ่งนั้นในภายหลัง ทำไมเราไม่พยายามดำเนินการต่อกับรากฐานปัจจุบันที่เราได้ต่อสู้อย่างหนักเพื่อมา!?” Brave Surge กล่าวว่า
“แต่… เราจะทำอย่างไรกับอีกฝ่าย?”
“ปล่อยฉัน ฉันจะรับคำสั่งที่นั่น! ฉันจะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ทุกคนมีเวลาเพียงพอ ดังนั้นโปรดทำให้ดีที่สุด พี่น้อง เราต้องชนะ City War นี้ให้ได้ในจังหวะเดียว!” Brave Surge ฟังดูมีความมุ่งมั่นอย่างมากเมื่อเขาพูดสิ่งนี้ แม้ว่าลึกๆ แล้วเขาจะรู้สึกสลดใจอย่างมากก็ตาม เขาไม่ได้เป็นเพียงการบังคับให้กองทัพปืนใหญ่ทำสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถบรรลุได้ เนื่องจากเขาจะต้องแบกรับความผิดหากพวกเขาล่าถอย เขาจึงคิดว่าจะเป็นการดีกว่าหากใช้กลอุบายสุดท้ายแทน แม้ว่าการต่อสู้จะล้มเหลว แต่อย่างน้อยผู้คนก็ยังจดจำจิตวิญญาณที่ไม่ย่อท้อของเขาได้ บางทีหากมีการแก้ไขเพิ่มเติมในสถานะของการต่อสู้ที่ส่งผลให้พวกเขาได้รับชัยชนะในท้ายที่สุด เขาจะได้เห็นชื่อเสียงที่เพิ่มขึ้นอย่างมากอย่างแน่นอน
มีคนจำนวนมากที่สนับสนุนคำอธิบายของ Brave Surge และแม้แต่ Black Index Finger ซึ่งเป็นคนแรกที่แนะนำให้พวกเขาถอย ก็ไม่ได้ยืนกรานที่จะถอนตัวเช่นกัน เพียงพูดผ่านช่องทางว่า “ในเมื่อ Brave Surge มีความมั่นใจขนาดนั้น ทำไมไม่ทำ” เราลองยิงดูไหม ฉันก็คิดว่ามันค่อนข้างจะสูญเปล่าหากเราจะล่าถอยแบบนั้น”
ถ*ถ*ถ! Brave Surge สาปแช่งด้วยความโกรธของเขา ผู้ชายคนนั้นกำลังพยายามเยาะเย้ยฉันอย่างชัดเจน โดยพูดถึงแนวคิดเรื่องความมั่นใจในสภาพปัจจุบันของเรา คุณแค่พยายามเตือนทุกคนว่าการตั้งค่านี้เป็นความคิดของฉันตั้งแต่แรก!
Oathless Sword ต้องการที่จะได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นเพียงอากาศตลอดเวลานี้ แต่เขาไม่มีใครที่จะตำหนินอกจากตัวเขาเองที่มักจะสร้างสถานะที่แข็งแกร่ง มีคนจำการมีอยู่ของเขาได้จริงๆ และเรียกเขาด้วยชื่อ “หัวหน้ากิลด์ Oathless คุณคิดอย่างไร? ทำไมช่วงนี้คุณถึงไม่พูดอะไรสักคำ”
Oathless Sword หัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบว่า “ทุกคนวิเคราะห์เรื่องนี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ฉันไม่ต้องการขัดจังหวะใคร เนื่องจากการอภิปรายตกลงไม่มากก็น้อยในเวลานี้ ดังนั้นเราจะเดินหน้าตามแผนนี้ ฉันไม่มีความคิดเห็น”
ถ*ถ*ถ! Brave Surge โหมกระหน่ำเข้าหาตัวเองอีกครั้ง เขาจะไม่เข้าใจได้อย่างไรว่า Oathless Sword เป็นคนอย่างไร? ชายคนนี้ชอบให้คนสนใจเรื่องของตัวเอง และเหตุผลที่เขาไม่ขัดจังหวะการสนทนาก็เพราะเขาเห็นว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องตลก
“ในกรณีนั้น หัวหน้ากิลด์ Surge จะหยุดงานของเขาที่นั่น สหายที่เหลือของข้าอยู่ที่นี่ ทุ่มสุดตัวและยึดที่นี่ไว้ และส่งศัตรูของเราอย่างมีประสิทธิภาพ เราไม่ควรใช้ความพยายามทั้งหมดที่ Brave Surge ทุ่มเทให้กับที่นี่อย่างสูญเปล่า!” คำตักเตือนครั้งสุดท้ายของ Oathless Sword พบกับเสียงเรียกร้องที่ดังกึกก้องจากหัวหน้ากิลด์คนอื่นๆ หัวใจของ Brave Surge เต้นดังอยู่ในอกตลอดเวลา ผู้คนสามารถใช้เวลาทั้งหมดไปกับการปกป้องตนเองจากศัตรู แต่สิ่งที่ยากที่สุดคือการขัดขวางความพยายามจากภายใน! ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่า Oathless Sword กำลังเตะเขาในขณะที่เขาล้มลง โดยเจตนาทำให้หัวหน้ากิลด์คู่แข่งของเขาดูแย่ หาก Brave Surge ล้มเหลวในความพยายามครั้งนี้ เขาอาจพบว่าหัวของตัวเองจมอยู่กับจานก็เป็นได้ เขาได้แต่หวังว่า Oathless Sword จะมองภาพรวมทั้งหมด และจะไม่ถือว่าสิ่งนี้เป็นเพียงการเล่นของเด็กในระหว่างช่วงการโจมตีที่สำคัญเช่นนี้
Brave Surge จากไป หัวใจของเขายังคงกระวนกระวาย ในขณะที่ Oathless Sword ยังคงรับผิดชอบและดำเนินการต่อสู้ที่นี่ ในฐานะผู้บัญชาการสงคราม หัวหน้ากิลด์จะไม่ปล่อยให้ตัวเองตายง่ายๆ เพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาได้นำนักบวชมากมายไปด้วย อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เพราะตัวหัวหน้ากิลด์มีค่าและต้องไม่ตาย แต่มันเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับพวกเขาที่ไม่มีผู้บัญชาการในการต่อสู้ขนาดใหญ่เช่นนี้
ด้วยกลยุทธ์การทำสงครามโดยรวมที่กำหนดไว้อีกครั้ง Brave Surge ได้กลายเป็นผู้บัญชาการกองทัพปืนใหญ่ ก้าวเข้าสู่ภารกิจด้วยน้ำตาคลอเบ้า กองกำลังที่อยู่ฝ่ายระบบยังคงทำสงครามอย่างต่อเนื่องและไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะเดียวกัน คู่หูที่เข้าใจยาก Gu Fei และ Sword Demon กำลังมีส่วนร่วมในกิจกรรมเกี๊ยวหลังแนวข้าศึก
“เรามาถึงแล้ว” บราเดอร์ Assist อยู่ใกล้จุดหมายมากที่สุด และเป็นคนแรกที่ไปถึงที่พักกลาง โดยส่งข้อความถึงชายทั้งสอง
"ใช้ได้. ขอบคุณสำหรับการทำงานหนักของคุณ บราเดอร์ Assist ในเวลาเดียวกัน คุณสามารถสัมภาษณ์ผู้คนและรวบรวมข้อมูลได้มากขึ้น ดังนั้นคุณสามารถเขียนรายงานการต่อสู้หรืออะไรก็ได้!” กู่เฟยกล่าวว่า
“ฉันจำเป็นต้องทำแบบนั้นด้วยเหรอ” พี่ช่วยตอบกลับ เขาสามารถเห็นได้ว่ามีนักข่าวมากมายจากเว็บไซต์ต่างๆ ออนไลน์ที่นี่ในค่าย ยกย่องผู้เล่นที่เกิดใหม่ ถามคำถามที่ดูเหมือนจะไม่รู้จบ
“ฉันก็กำลังจะมาถึงเหมือนกัน” กู่เฟยส่งข้อความ เขามองเห็นค่ายพักแรมอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว มีคลาสงานมากมายใน Parallel World แต่เห็นได้ชัดว่าฉากของเกมนั้นตั้งขึ้นในยุคอาวุธเย็น ค่ายพักแรมนั้นเรียบง่ายและเบาบางในแง่ของการก่อสร้าง ไม่มีแม้แต่กำแพงให้เห็น และเป็นเพียงเต็นท์กระจุกตัวกันเป็นระเบียบ ทำให้ดูเหมือนพื้นที่ตั้งแคมป์ธรรมดาๆ ในทำนองเดียวกัน จุดเกิดบนไซต์นั้นใหญ่กว่าจุดเกิดที่เจ็ดอาชีพในเมืองมีอยู่มาก
“ฉันเข้าไปแล้ว!” ช่วงเวลาที่ Gu Fei ก้าวเข้าสู่จุดเกิดและส่งข้อความถึงชายทั้งสอง จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีลมกระโชกแรงตรงมาที่เขา Gu Fei ไม่มีเวลาแม้แต่จะมองในขณะที่เขาหลบหลีกอย่างรวดเร็วก่อนที่จะหันศีรษะกลับมาอย่างรวดเร็ว เขาเห็นคนที่แต่งตัวเหมือนทหารถือดาบคมกริบ และการโจมตีครั้งที่สองก็มาถึงเขาแล้ว
เสียงแตรปลุกเริ่มดังขึ้นจากภายในค่าย ทำให้ผู้เล่นที่เกิดใหม่บนพื้นต้องตกตะลึง เมื่อกู่เฟยได้ยินทหารตะโกนเสียงดัง “สายลับได้แทรกซึมเข้าไปในค่ายแล้ว!!”
น้ำตาไหลลงมาที่แก้มของ Gu Fei ปรากฎว่าคนๆ นี้เป็น NPC จริงๆ ผู้เล่นอาจไม่สามารถระบุ Gu Fei เป็นศัตรูได้ แต่ NPC จะไม่มีปัญหาเดียวกัน เนื่องจาก Gu Fei ได้เดินเข้าไปในค่ายอย่างเปิดเผย เขาจึงถูกเจ้าหน้าที่ NPC ลาดตระเวนในพื้นที่เปิดโปงทันที
เดิมทีผู้เล่นรู้สึกตกตะลึง แต่ในไม่ช้าก็รู้สึกตื่นเต้นเมื่อพวกเขาแลกเปลี่ยนคำถามกับอีกฝ่าย “สายลับอะไร? นี่คือภารกิจเหรอ?”
“ใช่ มันต้องเป็นภารกิจ ไปดูกันเลย!!”
“สายลับอยู่ไหน? เราต้องจับสายลับให้ได้!!”
ผู้เล่นเหล่านี้บางคนกำลังรอให้เวลาพักฟื้นเสร็จสิ้นการนับถอยหลังและไม่สามารถออกจากค่ายได้ และคนอื่นๆ เพิ่งเกิดใหม่หลังจากตายและยังไม่ได้กระตุ้นระยะเวลาพักฟื้นที่ระบบกำหนด ในขณะนี้ พวกเขาทั้งหมดมีกำลังใจและกำลังวิ่งไปรอบ ๆ ค่าย มองหาสายลับ
ผู้เล่นหลายคนปรากฏตัวใกล้กับจุดที่ Gu Fei อยู่ทันที ซึ่งกำลังคร่ำครวญถึงชะตากรรมของเขา NPC นี้มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้ค่อนข้างมาก ซึ่งทำให้เขาหลบหนีได้ยาก ผู้เล่นเหล่านี้ต่างก็กระตือรือร้นที่จะรับภารกิจที่พวกเขารีบวิ่งไปอย่างรวดเร็ว กู่เฟยละสายตาจากสิ่งรอบข้าง ปลายดาบของเขาจุ่มลงเล็กน้อย พร้อมที่จะกวาดล้างพวกมันทั้งหมดในการหมุนรอบเดียวของ Twin Incineration เมื่อเขาได้ยินผู้เล่นที่ใกล้ชิดกับเขาที่สุดพูดว่า “เร็วจริงๆ พี่ชาย!! !” ด้วยสิ่งนั้น เขาเห็นคนๆ นี้เปิดใช้งานด้วยฟลีทฟุตของเขา มุดไปด้านหลัง NPC และแทงข้างหลังของเขาอย่างไร้ความปราณี ตะโกนบอกทุกคนว่า “เร็วเข้า เรามารวมทีมกันเพื่อต่อต้านมัน เราปล่อยให้มันหนีไปไม่ได้”
ฝูงชนเห็นพ้องต้องกันขณะที่คาถา ลูกธนู ดาบ และขวานพุ่งลงมาใส่ NPC Gu Fei ไม่มีเวลาเข้าไปแทรกแซงก่อนที่สิ่งนี้จะเกิดขึ้น ในขณะที่เขายืนอยู่ตรงนั้นตัวแข็ง
ลัทธินิยมนิยมเป็นความหายนะของพวกเขาอย่างแท้จริง! Gu Fei ส่ายหัวซ้ำๆ ใครบอกคุณว่าสายลับต้องเป็น NPC?
“D*mn NPC คนนี้ยังแต่งตัวบทนี้ พี่ชาย คุณรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นสายลับ” มีคนหันไปถาม Gu Fei แม้ว่าเขาจะโจมตี NPC ต่อไป
“อะแฮ่ม ระบบแจ้งเตือน” กู่เฟยกล่าว
“อือ เอาไว้ก่อน!” คนนี้ตะโกน
“เหมือนกันกับคุณ!” Gu Fei พยักหน้าขณะที่เขาพูดสิ่งนี้ เมื่อมีผู้เล่นวิ่งเข้ามาหาพวกเขามากขึ้นเรื่อยๆ Gu Fei ไม่กล้าที่จะอยู่รอบ ๆ และเข้าร่วมในปรากฏการณ์นี้ในขณะที่เขารู้สึกผิดถอยออกไปด้านข้าง
ไม่ใช่แค่ผู้เล่นที่มาจับสายลับและผู้คุมก็ไม่ใช่ NPC คนเดียวในค่ายทั้งหมด ในไม่ช้า ผู้คุมค่ายคนอื่น ๆ ก็ได้รับข่าวเกี่ยวกับการพยายามแทรกซึมและรีบเข้ามา Gu Fei ได้ถอยออกจากค่ายอย่างเงียบ ๆ ในเวลานี้ ดังนั้นเมื่อผู้คุมที่เหมือนกันเหล่านี้เข้ามาเรียกร้องให้ดำเนินการ พวกเขาเห็นผู้เล่นจำนวนมากล้อมรอบสหายของพวกเขาและไปช่วยเหลือทันทีโดยไม่มีคำอธิบายอื่น ผู้เล่นที่โจมตีการ์ดจะถูกโจมตีโดยการ์ดอื่นทันที
ผู้เล่นร้องอุทานเสียงดังด้วยความประหลาดใจ “บ้าเอ้ย มีสายลับเยอะจัง! เร็วเข้า ทุกคนมาช่วย!!”
ในตอนแรก ผู้เล่นหลายคนยังคงหวังว่าจะรับภารกิจเดี่ยวและออกอากาศ แต่เมื่อพวกเขาเห็นว่าพวกเขาไม่สามารถถือไว้คนเดียวได้อีกต่อไป พวกเขาจึงเริ่มขอความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว ผู้เล่นหลายคนรีบวิ่งไปที่เสียงร้อง พวกเขาทั้งหมดลงไปหาผู้คุมเพื่อกำจัด 'สายลับ' ในขณะที่ Gu Fei ซ่อนตัวอยู่ในป่าใกล้ ๆ ตะลึงกับสิ่งที่เขาเห็น
“แย่แล้ว ฉันแอบเข้าไปในค่ายไม่ได้! มี NPC ยามอยู่ที่นี่ และฉันเกรงว่าพวกเขาจะเลือกเราและเปิดเผยตัวตนของเรา” มันเป็นช่วงเวลาที่ Gu Fei ได้รับข้อความนี้จาก Sword Demon ชายผู้นั้นจริงจังและระมัดระวังมากเกินไป ใช้ความพยายามสำรวจภูมิประเทศเมื่อไปถึงสถานที่ เขาเห็นทหารยามระหว่างลาดตระเวนในค่าย และทันทีที่เขาเห็นพวกเขาเดินตรวจตรา เขารู้ว่าพวกเขาไม่ใช่ฝ่ายเดียวกับ NPC ที่พวกเขาเห็นในเมือง NPC ทุกคนสามารถตรวจจับศัตรูได้โดยอัตโนมัติ และไม่มีการแต่งหน้าหรือการปกปิดใบหน้าใดๆ ที่จะป้องกันสิ่งนี้ได้ Sword Demon ส่งข้อความถึง Gu Fei แม้ในขณะที่เขาเข้าไปใน Stealth และค้นหาไปรอบๆ เพื่อหาช่องทางที่เป็นไปได้ซึ่งไม่มียาม!
"ใช่ฉันรู้." กู่เฟยกล่าวว่า
“คุณถูกค้นพบ?” ปีศาจดาบถาม
"โอ้ใช่!"
“เป็นยังไงบ้าง”
“วุ่นวายจริงๆ” กู่เฟยกล่าว
"คุณหมายความว่าอย่างไร?" Sword Demon ไม่เข้าใจ
Gu Fei ให้ภาพรวมง่ายๆของสิ่งที่เกิดขึ้นซึ่งทำให้ Sword Demon สูญเสียคำพูด "มันเกิดขึ้นจริงเหรอ?"
"คุณสามารถลองดูได้" Gu Fei กล่าว
“นั่นมันเกินไปหน่อยใช่ไหม” Sword Demon กล่าว
“ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะทำมันโดยเจตนา” Gu Fei ประท้วง
“เช่นนั้นข้าจะตั้งใจทำเพื่อปกป้องเมืองให้สำเร็จ!” Sword Demon ประกาศ
"คุณสามารถทำมันได้!" กู่เฟยกล่าวว่า
Sword Demon เป็นคนที่ตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วเสมอ เมื่อเขาเห็นผู้พิทักษ์อยู่ตรงหน้าเขา เขาไม่แม้แต่จะเข้าไปใน Stealth ด้วยซ้ำและพุ่งเข้าโจมตีทันที! แน่นอนว่าสัญญาณเตือนดังขึ้นในขณะที่ NPC ยามตะโกน “สายลับได้แทรกซึมเข้าไปในค่ายแล้ว!!” เสียงตะโกนของยามเป็นเหมือนอาวุธแผนที่ ไม่สำคัญว่าเสียงตะโกนนี้จะดังแค่ไหน มันเหมือนกับว่าผู้เล่นในค่ายทั้งหมดเคยได้ยิน และปฏิกิริยาของพวกเขาก็เหมือนกับที่กู่เฟยเคยประสบในค่ายอื่น ผู้เล่นทุกคนเริ่มโห่ร้อง “สายลับอะไร? สายลับอะไร? นี่คือภารกิจเหรอ?”
แน่นอนว่า Sword Demon ทำให้แน่ใจว่าไม่มีใครเห็นเขาเริ่มการโจมตี ดังนั้นเมื่อผู้เล่นสังเกตเห็นการต่อสู้ที่เขากำลังทำอยู่ในไม่ช้า เขาก็เตรียมพร้อม เขาตะโกนเสียงดัง “เร็วเข้า แข็งแกร่งจริงๆ ฉันเอาชนะคนเดียวไม่ได้!!”
“เดี๋ยวก่อนเพื่อน!!” ผู้เล่นหลายคนบุกเข้ามาอย่างรวดเร็วขณะที่พวกเขาพุ่งเข้ามา คาถา ลูกศร ดาบและขวาน การโจมตีทั้งหมดเหล่านี้ลงที่ทหารคนเดียว
“สู้กันสักพักแล้วหนีไปโดยที่คนอื่นไม่สังเกตเห็นคุณ ในไม่ช้าจะมียามกลุ่มใหญ่มาถึง ดังนั้นระวังอย่าให้ตัวเองเปิดเผย” กู่เฟยยังให้คำแนะนำเขาตามสิ่งที่เขาเพิ่งประสบมา!
Sword Demon แยกแยะสิ่งที่เขาบอกเป็นนัย แสร้งทำเป็นต่อสู้อีกระยะหนึ่งก่อนที่เขาจะพบเวลาที่เหมาะสมในการเข้าสู่การซ่อนตัว เป็นเรื่องปกติมากที่โจรจะผละออกจากการต่อสู้และเข้าสู่โหมดซ่อนตัวเพื่อพยายามแทงข้างหลัง ดังนั้นไม่มีผู้เล่นคนอื่นเห็นว่ามันแปลก ดังนั้น Sword Demon จึงได้รับโอกาสที่สมบูรณ์แบบในการหลบหนีโดยไม่มีใครตรวจจับ แม้ว่าจะมีผู้เล่นและผู้คุมค่ายจำนวนมากวิ่งเข้ามา ในไม่ช้าผู้เล่นก็ตะโกนว่า "มีสายลับมากมาย" และเริ่มต่อสู้กับผู้คุมทั้งหมด
“นี่มันโง่มาก ฉันสงสัยว่าเมื่อไหร่พวกเขาจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” Sword Demon กล่าวกับ Gu Fei
“ฉันคิดว่าคงไม่นานเกินไป ฉันต้องรีบ” กู่เฟยกล่าว
"เพื่ออะไร?" ปีศาจดาบถาม
“ฉันกำลังมุ่งหน้าไปยังตำแหน่งของ Brother Assist” Gu Fei กล่าว
“แท้จริงแล้ว บางคนแค่ต้องการดูโลกมอดไหม้!” Sword Demon ถอนหายใจอย่างมีอารมณ์