ตอนที่ 767: การต่อสู้
ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
ร่างของ Flying Flame ลงมาจากท้องฟ้าราวกับพายุเฮอริเคน มันใช้กรงเล็บจับบาทหลวงดาเนียลเต็มกำลัง ความเร็วและพลังของมันไม่ใช่สิ่งที่บาทหลวงดาเนียลจะตอบโต้ได้
Flying Flame เป็นสัตว์อัญเชิญที่เร็วที่สุดของ Abel ในตอนนี้ ความสามารถตามธรรมชาติในการทำให้แรงต้านอากาศทั้งหมดเป็นกลางทำให้มันเร็วกว่าสิ่งอื่นใดที่ยังมีชีวิตอยู่ นอกจากนี้ความสามารถในการบินทำให้มันสามารถไปได้ทุกที่ ด้วยวิธีนี้ มันมีความสามารถที่สมบูรณ์แบบในการใช้การปรับปรุง "ความเร็วพิเศษ" ได้อย่างเต็มที่
จากมุมมองของบาทหลวงดาเนียล ทั้งหมดที่เขาเห็นคือเงาดำที่พุ่งมาที่หน้าเขา ปฏิกิริยาแรกของเขาคือการสกัดกั้นด้วย "ผู้พิทักษ์ศิลาดิน" ซึ่งเขาไม่แน่ใจว่าจะป้องกันการโจมตีของมังกรได้หรือไม่ เขาสวมชุดเกราะกระดูกสีขาวด้วย แต่นั่นไม่สำคัญเลยในสถานการณ์นี้
การโจมตีครั้งแรกของ Flying Flame ไม่ได้ฆ่าเขา ถึงกระนั้น การ์ดหินดินเหนียวของเขาก็ถูกบีบจนเป็นเถ้าถ่านทันที ทันทีที่มันเกิดขึ้น เขาเรียกผู้พิทักษ์หินโลหะของเขามาป้องกัน เนื่องจากไม่สามารถเรียกผู้พิทักษ์ศิลาดินและศิลาศิลาพร้อมกันได้ นักบวชดาเนียลจึงเก็บผู้พิทักษ์ศิลาโลหะของเขาไว้ในรายการพอร์ทัลกระดูกเผื่อว่าจะเกิดอันตรายขึ้น
เมื่อผู้พิทักษ์หินโลหะถูกเรียก มันก็ไปโจมตี Flying Flame ทันที แม้ว่า Flying Flame และ Abel จะฉลาดเกินไป พวกเขาทั้งคู่รู้ว่าการโจมตีทางกายภาพไม่ได้ผล ดังนั้น Flying Flame จึงพ่นเปลวไฟอันร้อนแรงใส่มัน เปลวเพลิงที่พ่นออกมานั้นเป็นสีขาวบริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่ไม่สามารถเทียบได้กับเปลวเพลิงที่มนุษย์สร้างขึ้นได้ มันเพียงพอที่จะทำให้ผู้พิทักษ์หินโลหะหยุดเพียงก้าวเดียว
โดยไม่ใช้เวลาแม้แต่วินาทีเดียว การ์ดหินโลหะก็ละลาย มันสูญเสียความสามารถในการเคลื่อนไหว ชิ้นส่วนที่ไม่ละลายกระดิกอย่างรวดเร็ว แต่จากนั้น Flying Flame พ่นครั้งที่สองออกมา ความร้อนเพียงพอที่จะทำให้หัวกลายเป็นกองของเหลวโลหะ และเมื่อหัวถูกทำลาย ส่วนที่เหลือทั้งหมดก็กลายเป็นกองขยะที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น
ใบหน้าของบาทหลวงดาเนียลซีดเซียวเมื่อเห็นสิ่งนี้ ทั้งผู้พิทักษ์ศิลาดินและผู้พิทักษ์ศิลาโลหะถูกสังหาร เขาได้รับความเสียหายอย่างมากจากพลังแห่งเจตจำนงของเขา ร้ายแรงกว่านั้น แต่เขาไม่มีทางตอบโต้ได้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือแกว่งไม้เท้ากระดูกและสร้างกำแพงกระดูกสองสามอันเพื่อหยุด Flying Flame ไม่ให้เข้าใกล้
บาทหลวงดาเนียลกรีดร้องสุดเสียง “ฆ่าอาเบล! ฆ่า Abel มิฉะนั้นเราจะไม่ทำให้มันมีชีวิต! นี่คือสัตว์อัญเชิญทั้งหมดของเขา ตราบใดที่อาเบลตาย เราทุกคนจะมีชีวิตอยู่!”
มันเป็นการโทรที่ถูกต้อง ไม่มีโอกาสจับคู่ Flying Flame กระสุนนัดเดียวคือเล็งไปที่อาเบล
บาทหลวงไซรัสก็ตะโกนเช่นกัน “ใช่ ฆ่าอาเบล!”
แต่มันเป็นไปไม่ได้ มีอัศวินผู้พิทักษ์วิญญาณประจำอยู่สองคนอยู่ข้างๆ นักบวชไซรัส มันไม่มากเกินไปสำหรับเขา แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เขาไม่สามารถขยับออกจากจุดที่เขายืนอยู่ได้ เพื่อตอบสนองต่อคำสั่งของบาทหลวงดาเนียล เขานำการ์ดหินดินเผาของเขากลับมาและสั่งให้การ์ดโลหะหินไปหาอาเบล
อาเบลไม่ตอบสนองต่อการโจมตีของผู้พิทักษ์หินโลหะ มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่เขาสามารถสร้างความเสียหายได้ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถพยายามโจมตีมันได้ ไม่มีการโจมตีทางกายภาพที่ดีพอที่จะสร้างความเสียหาย และระดับเวทมนตร์ในปัจจุบันของเขาก็ต่ำเกินไป ไม่ใช่ว่าเขาสามารถรับความนิยมได้เช่นกัน เลเวลของเขาไม่สูงพอที่จะแทงค์เมื่อโดนโจมตี
เมื่อตัวเลือกอื่นๆ หายไป Abel อาจพยายามหลบหลีกการโจมตีต่อไป นั่นคือสิ่งที่เขากำลังจะทำ ผู้พิทักษ์หินโลหะอาจจะเร็ว แต่เขาได้เปรียบกว่ามากในแง่ของความเร็ว Black Wind ไม่มีปัญหาในการหลบ ซึ่งทำให้ Priest Daniel หงุดหงิดมากขึ้น
ด้วยไม้เท้ากระดูกของเขา นักบวชดาเนียลสามารถสร้างกลุ่มเมฆแห่งคำสาป “แก่ชรา” บนศีรษะของอาเบลได้ ถึงกระนั้น อาเบลก็มีประสบการณ์อย่างมากในการจัดการกับคำสาป ทันทีที่เขาเห็นเมฆสีแดงเข้มปรากฏขึ้นบนหัวของเขา เขาก็เปลี่ยนเป็นวิญญาณดรูอิดอย่างรวดเร็ว ด้วยวิธีนี้ คำสาปสามารถจัดการกับวิญญาณดรูอิดได้ แต่หลังจากเปลี่ยนกลับไปใช้วิญญาณหลัก ผลที่ได้ก็สูญเสียจุดประสงค์ในการทำให้เขาช้าลงไปมาก
ทันทีที่นักบวชไซรัสเริ่มคำสาป เขาต้องเผชิญกับการโจมตีของอัศวินผู้พิทักษ์ทางจิตวิญญาณสองคนในเวลาเดียวกัน ก่อนที่เขาจะป้องกันการโจมตี เขายิงหอกกระดูกอีกอันใส่อาเบล
“ดันต่อไป!” อาเบลร้องออกมาในขณะที่เขาหลบหอกอย่างง่ายดาย เขาไม่พอใจกับสถานการณ์ปัจจุบันมากนัก ไวท์คลาวด์และจอห์นสันสามารถเอาชนะนักบวชระดับสูงได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง แต่ยังไม่มีศัตรูตัวใดของเขาที่พ่ายแพ้
ไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับบาทหลวงดาเนียล เขาสนใจอย่างอื่นมากกว่า
“ให้ตายเถอะ อาเบล! นี่คืออัศวินโครงกระดูกทั้งหมดใช่ไหม?”
เหล่านักบวชระดับสูงต่างตกใจเมื่อได้ยินเรื่องนี้ พวกเขารู้ผลของการเรียนรู้คาถา “คืนชีพของโครงกระดูก” แต่อาเบลดูไม่เหมือนว่าเขาถูกพลังชี่แห่งความตายกัดกร่อนไปทั้งตัว เขาไม่ได้ถูกกัดกร่อนด้วยพลังชี่แห่งความตาย และนั่นเป็นสิ่งที่น่าตกใจที่สุดสำหรับพวกเขาที่ได้รู้
โครงกระดูกอีกด้วย พวกมันมักจะมาจากมนุษย์จริงๆ แต่อาเบลดูไม่เหมือนโครงกระดูก รูปร่างหน้าตาของพวกเขาใกล้เคียงกว่าอัศวินที่มีชีวิตจริงๆ ถ้าบาทหลวงดาเนียลไม่มีประสบการณ์เช่นนี้ เขาคงไม่มีทางบอกได้ว่าอาเบลใช้คาถาแบบเดียวกับนักบวชออร์ค
“คาถาลูกผสม? เขารู้คาถาลูกผสม”
แม้จะอยู่ในสถานการณ์ที่อันตรายเช่นนี้ บาทหลวงดาเนียลก็อดไม่ได้ที่จะกรีดร้อง คาถาลูกผสมเป็นสิ่งที่พ่อมดขั้นสูงและนักบวชขั้นสูงทุกคนใฝ่ฝัน ในบางครั้ง การเปลี่ยนรูปแบบของคาถา อาจทำให้ได้รับคาถาใหม่ที่มีผลแตกต่างไปจากเดิมมาก อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือคาถากำลังจะล้มเหลว ยิ่งไปกว่านั้น มันอาจทำลายพลังแห่งเจตจำนงของผู้ใช้และแม้กระทั่งจิตวิญญาณของเขาเอง
บาทหลวงดาเนียลหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง “คุณตายแล้ว อาเบล! ถ้าออร์คตัวใดตัวหนึ่งออกไปจากเมืองนี้ ทุกคนจะรู้ความลับของคุณ ทุกคนจะรู้เกี่ยวกับวิธีการร่ายคาถาของนักบวชออร์ค ทุกคนจะรู้ว่าคุณมีมังกรเป็นสัตว์อัญเชิญของคุณอย่างไร โลกทั้งใบจะตามล่าคุณ!”
บาทหลวงดาเนียลสามารถให้ได้ยินเสียงของเขาในรัศมีอย่างน้อยสองไมล์โดยเสริมเสียงของเขาด้วยคาถา เขาต้องการให้แน่ใจว่าออร์คทั้งหมดในเมือง Niyan จะเป็นภัยคุกคามต่อความอยู่รอดของ Abel