ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
Abel นั่งอยู่บน White Cloud ขณะที่เขาตรวจสอบกล่องเก็บของส่วนตัวของเขา ครั้งนี้ เขาเตรียมระเบิดซูเปอร์บอลทั้งหมด 20 ลูกเพื่อแก้แค้น ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นจากอัญมณีที่สมบูรณ์แบบที่สังเคราะห์จาก Horadric Cube ซึ่งดีกว่าอัญมณีที่สมบูรณ์แบบที่มีรูปร่างตามธรรมชาติ
เมื่อเขามาถึงใกล้กับ Frost City ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง เมฆขาวก็เตือนเขา เขามองลงมาเห็นเมือง ตั้งอยู่บนยอดเขาขนาดใหญ่ ประกอบด้วยปราสาทหลัก 1 หลัง ปราสาทด้านข้าง 5 หลัง และอาคารขนาดเล็กอีกหลายร้อยหลัง ชื่อ "เมืองน้ำแข็ง" เกิดขึ้นเพราะปราสาททั้งหลังเป็นสีขาวบริสุทธิ์ ใช่ แม้แต่พื้นก็ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ สำหรับอาคารพวกเขาสร้างจากหินสีขาว
ขณะที่อาเบลอยู่บนเมฆขาว เขาสัมผัสได้ถึงธาตุน้ำแข็งที่แข็งแกร่งมากที่นี่ เห็นได้ชัดว่าความเข้มข้นของมานาที่นี่สูงกว่าสถานที่ส่วนใหญ่มาก เขาคาดว่ามันจะเป็นจุดที่ดีในการตั้งวงรวบรวมมานาหากเขาเป็นพ่อมดธาตุน้ำแข็ง
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ อันดับของเขายังไม่สูงพอที่จะทำให้เขาเข้าใจว่าสิ่งต่าง ๆ ทำงานอย่างไรในทวีปกลาง ตัวอย่างเช่น เขายังคงไม่แน่ใจว่าเหตุใดองค์กรพ่อมดจึงถูกจำแนกออกเป็นธาตุน้ำแข็ง ธาตุไฟ และกลุ่มอื่นๆ มันไม่มีเหตุผลสำหรับเขาเมื่อเขาเห็นพ่อมด Blizzard ใช้คาถาไฟ หากประเภทของคาถาที่ใช้ไม่ใช่สิ่งที่จัดอยู่ในประเภทของพ่อมด ก็จะต้องมีรูปแบบบางอย่างที่เขายังไม่สามารถแยกแยะได้ บางทีเขาอาจต้องอดทนมากกว่านี้สักหน่อยจึงจะเข้าใจได้
อาเบลเคาะที่คอของเมฆขาว “บินให้สูงขึ้น เมฆขาว!”
เมฆขาวทำทุกวิถีทางเพื่อบินไปสู่ระดับความสูงที่สูงขึ้น ในฐานะที่เป็นสัตว์วิญญาณที่เก่งเฉพาะในความสามารถในการบิน แม้แต่ Flying Flame ก็เทียบไม่ได้ในแง่ของระยะเวลาการบินหรือระดับความสูงสูงสุด อาเบลบอกให้เมฆขาวขึ้นไปบนที่สูง ดังนั้นมันจึงขึ้นไปสูงสุดที่ 5,000 เมตรจากพื้นดิน จากระยะนี้ Frost City ดูเหมือนจะเป็นเพียงจุดเล็กๆ
Abel จ้องมองอย่างเย็นชาไปยัง Frost City “เพลิดเพลินไปกับความโกรธของฉัน Blizzard Clan”
หลังจากเปิดชิ้นส่วนหินโลกของเขาแล้ว สถิติประเภทต่างๆ ก็เริ่มโผล่ขึ้นมา เมฆขาวก็เปลี่ยนตำแหน่งเช่นกัน มันไม่ง่ายเลยที่จะเล็งด้วยลูกบอลระเบิดแรงสูง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องใช้เวลาพอสมควรในการคำนวณมุมฉากและอื่นๆ ไม่ใช่ว่าอาเบลจะกล้าลงไปด้วย เขาไม่รู้ว่ามีตัวช่วยสร้างที่สามารถขี่บนภูเขาบินได้หรือไม่ ในระดับความสูงสูงสุดโดยเฉลี่ย ยานบินสามารถบินได้สูงประมาณ 2,000 เมตรจากพื้นดิน เขาคิดว่าระยะทาง 5,000 เมตรเป็นเส้นทางที่สมบูรณ์แบบหากเขาต้องการอยู่อย่างปลอดภัย
ยังไงก็ตาม เขาเริ่มทิ้งลูกบอลระเบิดสุดลูกหนึ่ง แทนที่จะนับตัวเลขในครั้งนี้ เขาสามารถคำนวณเวลาการระเบิดได้อย่างแม่นยำมากด้วยความรู้สึกของพ่อมด สิ่งแรกที่เขาทิ้งคือประเภทธาตุไฟซึ่งมีระยะเวลาหกวินาทีก่อนที่จะระเบิด เนื่องจากมันถูกทิ้งลงมาจากระดับความสูง 5,000 เมตรจากพื้นดิน ความเร็วของมันจะต้องอยู่ที่ประมาณ 800 เมตรต่อวินาที ด้วยพลังขว้างปาของเขา มันจะง่ายกว่าที่จะไปถึงความต้องการนั้น
หรืออย่างนั้นเขาก็คิด เขาไม่ได้คำนึงถึงวงกลมใหญ่ป้องกันของ Frost City เมื่อลูกบอลระเบิดพุ่งขึ้นไปบนอากาศเหนือ Frost City มันถูกหยุดโดยกำแพงที่มองไม่เห็นทันที ลูกบอลระเบิดสุดยอดระเบิดหลังจากกระดอนออกไป
บูม
ตามด้วยการระเบิดครั้งใหญ่ วงกลมขนาดใหญ่ของเมืองเริ่มแสดงตัว จากสิ่งกีดขวางที่มองไม่เห็นกลายเป็นชั้นโปร่งแสงคริสตัลที่ปกคลุมทั้งเมือง ผลกระทบของการระเบิดสร้างระลอกคลื่นบนพื้นผิวของวงกลม ซึ่งถูกดูดซับและกระจายไปยังขอบ
วิญญาณของเมืองส่งคำเตือน “คำเตือน! คำเตือน! เรากำลังถูกโจมตี! ถูกโจมตี!"
หลังจากคำนวณพลังของลูกบอลระเบิดแล้ว จิตวิญญาณของเมืองก็มองเห็นได้ว่าการโจมตีมีเป้าหมายไปที่เมืองเยือกแข็งทั้งหมด
เอ็ลเดอร์มาร์ซเรียกผ่านบัตรเซ็นชื่อเอ็ลเดอร์ “ใครน่ะ? เฮ้ จิตวิญญาณของเมือง! บอกฉันว่าการโจมตีมาจากทิศทางใด”
วิญญาณของเมืองตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่สงบ “โปรดรอการวิเคราะห์การตรวจจับครับ ท่านผู้อาวุโส”
เอ็ลเดอร์มาร์ซไม่พอใจที่ได้ยินเช่นนี้ “ให้ตายเถอะ! ทำมันให้เสร็จมิฉะนั้นฉันจะแทนที่คุณด้วยสิ่งที่เร็วกว่า!”
เขาแค่พูดอย่างนั้นจริงๆ เพราะมันไม่มีเหตุผลที่จะแทนที่วิญญาณที่มีหน้าที่ดูแลทั้งเมือง ความโกรธของเขายังคงพลุ่งพล่านในขณะที่เขาเครียดมากที่ต้องรับผิดชอบทุกอย่างนอกเมือง นอกจากนี้ ผู้อาวุโสอีกสองคนอยู่ระหว่างการฝึกอบรมแบบชัตดาวน์ เขาไม่ต้องการให้พวกเขารู้ว่ามีการบุกรุกเกิดขึ้นในขณะนี้ แน่นอนเขาไม่ต้องการรับผิดชอบที่ทำให้ทั้งเมืองแตกแยก
วิญญาณของเมืองตอบว่า “การโจมตีมาจากเบื้องบน ผู้อาวุโส อัญมณีระดับสูงสุดของเราสองชิ้นในคลังเก็บพลังงานถูกหักออก โปรดเติมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
"อะไร? อะไร!" เอ็ลเดอร์มาร์ซกรีดร้องด้วยความโมโห “อัญมณีระดับสูงสุดสองชิ้น? สิ่งที่โจมตีวงกลมคืออะไร”
นั่นคืออัญมณีระดับสูงสุดสองในหกชิ้นหายไปในการโจมตีเพียงครั้งเดียว นอกจากนี้ยังมีอัญมณีระดับกลางจำนวนมากในการจัดเก็บ แต่ส่วนใหญ่มีไว้สำหรับการจัดหาวงรวบรวมมานา
เอ็ลเดอร์มาร์ซกรีดร้องดังกว่าเดิม “เร็วเข้า! โทรหาผู้อาวุโสคนอื่นๆ! ใช้อัญมณีใด ๆ ที่คุณทำได้ในห้องเก็บของ!”
เมื่อเลิกคิดที่จะจบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง เอ็ลเดอร์มาร์ซจึงตัดสินใจเรียกคนอื่นๆ มาช่วย เขาตระหนักว่าสถานการณ์เลวร้ายเกินกว่าที่เขาจะรับมือได้
ในอีกด้านหนึ่ง อาเบลก็ไม่พอใจเช่นกันเมื่อเขาเห็นว่าวงกลมใหญ่ป้องกันได้ขวางการโจมตีครั้งแรกของเขา เขาไม่เคยเห็นวงกลมที่สามารถขับไล่ลูกระเบิดสุดแรงของเขามาก่อน
อาเบลพึมพำกับตัวเอง “ลงไปหนึ่งที ดี. ฉันมีมากขึ้น”
บูม
บูม
ขณะที่ลูกบอลระเบิดยังคงระเบิดกลางอากาศ ระลอกคลื่นคริสตัลเริ่มปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า จริงๆแล้วมันเป็นมุมมองที่ดีทีเดียวที่จะดูว่าพ่อมดที่อาศัยอยู่ใน Frost City สามารถสงบสติอารมณ์ได้มากพอที่จะสนุกกับมันได้หรือไม่ ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดตกตะลึงเมื่อเห็นว่า Blizzard Clan ถูกโจมตี
เสียงของเอ็ลเดอร์มาร์ซดังก้องไปทั่ววงกลมไซเรนของเมือง “ภูเขาบินได้! ม้าบิน! พ่อมดที่มีพาหนะบินได้ จงยกตัวเองขึ้นแบบนี้!"
ไม่ เขาจะไม่คิดถึงการประเมินความแข็งแกร่งของผู้บุกรุกรายนี้ เขาแค่ต้องการให้แน่ใจว่าเมืองยังคงยืนอยู่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถึงกระนั้น เมื่อเขาเห็นว่าอัญมณีระดับสูงสุดที่เก็บไว้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาหายไป หัวใจของเขาเจ็บปวดมากจนทนไม่ได้ที่จะตรวจสอบอัตราที่หายไป
ทีละหน่วย หน่วยบินเริ่มทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า พวกเขามองไม่เห็น White Cloud เพราะมันอยู่ในโหมดล่องหน สิ่งเดียวที่พวกเขาเห็นคือวัตถุรูปร่างคล้ายลูกบอลที่ตกลงมาจากที่สูงสู่ท้องฟ้า – เกินขีดจำกัดของพาหนะ
เอ็ลเดอร์มาร์ซถามอย่างหมดหวัง “คุณ! คุณคือใคร? ตั้งชื่อให้ฉัน!”
ไม่ใช่ว่าอาเบลจะตอบคำถามนั้น ในขณะนี้ ชื่อนับไม่ถ้วนผุดขึ้นมาในหัวของเอ็ลเดอร์มาร์ซ เขานึกถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคน แต่อาเบลไม่ได้อยู่ในหมู่พวกเขา
เอ็ลเดอร์แลงแลนด์กรีดร้องด้วยความโกรธขณะที่เขาปรากฏตัวข้างพ่อมดมาร์ซ “นี่มันบ้าอะไรกัน มาร์ซ”
ความโกรธเป็นที่เข้าใจได้ ทรัพยากรทั้งหมดที่เอ็ลเดอร์แลงแลนด์เตรียมไว้สำหรับการฝึกชัตดาวน์ของเขาสูญเปล่าไปโดยเปล่าประโยชน์
เอ็ลเดอร์มาร์ซชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้า “เมืองน้ำแข็งถูกปิดล้อม!”
เอ็ลเดอร์แลงแลนด์กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง “ฉันไม่สน! อย่านะ ****** ปลุกฉันถ้าวงกลมไม่แตก!”
บันช์ ผู้อาวุโสคนสุดท้ายปรากฏตัวถัดจากเอ็ลเดอร์มาร์ซ “ฉันจะฆ่าคุณที่นี่ มาร์ซ!”
ซึ่งแตกต่างจาก Langland, Elder Bunch ดูไม่แข็งแรง เขามีเลือดที่มุมปาก มีเลือดอยู่บนเสื้อผ้าของเขาด้วย ใบหน้าของเขาก็ซีดมากเช่นกัน
เอ็ลเดอร์มาร์ซพยายามพูดกลับว่า “ผมขอโทษ! ฉันเสียใจ! การโจมตีรุนแรงกว่าเลเวล 2 ดังนั้นฉันต้องเรียกพวกคุณทุกคนมาที่นี่!”
อีกสองคนสงบลงมากหลังจากได้ยินสิ่งนี้ พวกเขาหันศีรษะไปทางท้องฟ้า และในที่สุดพวกเขาก็สังเกตเห็นการระเบิดที่เกิดขึ้นบนท้องฟ้า
เอ็ลเดอร์มาร์ซถามผ่านการ์ดเซ็นชื่อของผู้อาวุโส “ตอนนี้อัญมณีระดับสูงสุดหายไปกี่เม็ดแล้ว”
วิญญาณของเมืองตอบว่า “สามสิบหก ผู้อาวุโส”
เอ็ลเดอร์แลงแลนด์และเอ็ลเดอร์บันช์ไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไร พวกเขามองหน้ากันอย่างว่างเปล่าก่อนที่คนใดคนหนึ่งจะพูดอะไร
พ่อมดแลงแลนด์พูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่เชื่อ “ฉันคิดว่า… บางทีเราควรโทรหาผู้อาวุโสใหญ่”
ไม่ว่าปัญหานี้จะได้รับการแก้ไขหรือไม่ พวกเขาจะถูกลงโทษหากพยายามเข้าถึงผู้อาวุโสใหญ่ พี่มาร์ซโดยเฉพาะ. นี่คือเหตุผลที่พวกเขาทั้งหมดลังเลมากเมื่อได้รับคำแนะนำ โชคดีสำหรับพวกเขา การระเบิดหยุดลงก่อนที่พวกเขาจะรับสาย
เอ็ลเดอร์บันช์พูดว่า “ตรวจสอบเรื่องนี้! ใช้ทุกอย่างตามที่คุณต้องการหากคุณทำได้! ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเรามีชื่อใครก็ตามที่รับผิดชอบเรื่องนี้!”
พ่อมดบันช์ได้รับบาดเจ็บหลายครั้ง ครั้งนี้เกิดจากการขัดสมาธิในส่วนที่สำคัญที่สุดของการทำสมาธิ การฟื้นฟูแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยในระดับปัจจุบันของเขา เพราะยาที่เหมาะสมนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้มา ณ จุดนี้ มันสมเหตุสมผลแล้วที่เขาจะโกรธกว่าเอ็ลเดอร์มาร์ซมาก
ในทางกลับกัน อาเบลยังคงค่อนข้างมืดมนเมื่อเขามองไปที่พื้นจากด้านบน เขาใช้ระเบิดซุปเปอร์บอลไปแล้วทั้งหมดยี่สิบลูก แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำลายวงเวียนใหญ่ที่ป้องกันเมืองได้ เขาไม่เข้าใกล้การแก้แค้นที่เขาวางแผนไว้ แต่เขากลับไม่ใกล้เคียงกับที่เขาจะพูดถึงพ่อมดแห่ง Frost City เลยแม้แต่น้อย มีบางอย่างที่เขาพลาดไป ความสูญเสียที่เขาก่อขึ้นกับ Frost City ทำให้การจัดเก็บอัญมณีระดับบนสุดกลายเป็นเลขหลักเดียว ซึ่งเป็นครั้งแรกที่สิ่งนี้เกิดขึ้นในช่วงสองสามศตวรรษที่ผ่านมา
ถ้าเขาต้องการ เขาสามารถทิ้งลูกบอลระเบิดขนาดใหญ่ลงที่นี่เพื่อสร้างความเสียหายจริง แต่เขาเริ่มคิดว่าลูกบอลระเบิดซุปเปอร์จะไม่ทำอะไรเลย เมื่อเลิกทำการผ่าตัด เขาเรียกเมฆขาวให้พาเขาบินไปยังจุดร้างที่ไม่มีใครพบเห็นเขา หลังจากลงจอด เขาก็นำเมฆขาวออกไปและนำวงกลมอีกวงของ "วงกลมเทเลพอร์ตสองทิศทาง" ของเขาออกมา ด้วยการใส่อัญมณีระดับกลางสี่เม็ดเข้าไปข้างในและเปิดใช้งานด้วยพลังแห่งเจตจำนงของเขา เขาใช้วงกลมเพื่อพาเขากลับไปที่บ้านที่เขาซื้อที่ Ice Crown City
ในไม่ช้าเขาก็กลับเข้าไปในห้องของเขา เขาตรวจดูรอบๆ เพื่อดูว่ามีใครไล่ตามเขาหรือไม่ แต่การโจมตีที่เขาเริ่มขึ้นนั้นไม่มีผลใกล้เคียงกับที่จะเกิดขึ้นด้วยซ้ำ เขาติดตั้งวงเวียนสันโดษเพื่อกลับเข้าสู่โลกแห่งความมืดโดยไม่ทำให้ผิดหวังเกินไป
ในการกลับมาทำภารกิจในโลกมืดอีกครั้ง เขาเลือกที่จะย้ายไปยังจุดที่ต้นโอ๊กอยู่นอกที่พักของ Rogue จากที่นั่น เขาไปหาแกนคริสตัลกระต่ายหอนสีน้ำเงินที่เก็บไว้ในต้นโอ๊ก เขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อนเลยนับตั้งแต่ใช้ “หินแสง” ในการฝึกสมาธิ เพราะเขาต้องการเก็บแกนคริสตัลกระต่ายหอนสีฟ้าให้ได้มากที่สุด ถ้าบังเอิญเจออุปกรณ์คาถาคาถามากกว่านี้ในอนาคต ตั้งแต่ไม่กี่ปีมาแล้วที่เขาไปเยี่ยมต้นโอ๊ก ก็น่าจะเพียงพอสำหรับเขาที่จะสร้างอุปกรณ์ใหม่ที่เหมาะสมกับระดับปัจจุบันของเขา สิ่งที่เขาต้องทำตอนนี้คือการสังเคราะห์แกนคริสตัลสดให้เป็นแกนสีทองเข้มด้วย Horadric Cube ของเขา
และเขาก็ทำเช่นนั้น หลังจากเตรียมวัตถุดิบมูลค่าสี่สิบส่วนแล้ว เขาก็ใช้แกนคริสตัลกระต่ายหอนสีฟ้าจำนวนมากจนแผนการสร้างคาถาคาถาใหม่ล่าช้าออกไปอีกสองสามวัน เมื่อทำเสร็จแล้ว เขาก็นำแกนคริสตัลสีทองดำออกจากโลกมืด เมื่อกลับมายัง Ice Crown City เขาก็ไปทานอาหารที่ห้องอาหารก่อนที่จะใช้เวลาที่เหลือไปกับการเดินเล่นรอบเมือง เขาอยู่ในร่างพรายตลอดเวลา แต่เขาก็ยังระมัดระวังไม่ให้คนจำนวนมากเกินไปรู้ว่าเขาอยู่ใน Ice Crown City