ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
ภายในห้องโถงของปราสาทหลักของ Frost City เอ็ลเดอร์มาร์ซนั่งอยู่ตรงกลาง ข้างใต้เขามีพ่อมดสวมชุดคลุมสีดำ
เจ้าหน้าที่หน่วยสืบราชการลับรายงานเอ็ลเดอร์มาร์ซว่า “เราได้เรียกพ่อมดของเราให้เริ่มการสอบสวนที่สมาคมพ่อมด เอ็ลเดอร์มาร์ซ แต่ไม่มีใครเคยเห็นใครโจมตีทั้งเมืองแบบนี้มาก่อน”
ตอนนี้พ่อมดมาร์ซเหนื่อยมากกว่าโกรธ “คุณ เอ่อ... คุณตรวจสอบกับคนแคระแล้วหรือยัง? คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าอาจเป็นพวกเขา? หรือคนที่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีที่รั่วไหลได้”
คนแคระมีประสบการณ์มากกับการระเบิด งานขุดทั้งหมดที่พวกเขาทำนั้นสร้างแรงจูงใจอย่างมากให้พวกเขาใช้ส่วนผสมพิเศษในการระเบิด
เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองตอบหลังจากหยุดไปเล็กน้อย “ข้าเกรงว่าไม่ ผู้อาวุโส สมาคมพ่อมดไม่พบสิ่งใดที่บ่งชี้ว่าการโจมตีนี้เกี่ยวข้องกับคนแคระ ไม่ทราบว่าคนแคระเริ่มโจมตีศัตรูของพวกเขา”
พ่อมด Marz รู้สึกเหนื่อยอย่างเห็นได้ชัด เห็นได้ชัดว่าคนแคระไม่ใช่ผู้ต้องสงสัย เพราะแม้ว่าพวกเขาจะเข้าถึงเทคโนโลยีการระเบิดได้ แต่สิ่งที่พวกเขามีอยู่นั้นไม่ใกล้เคียงพอที่จะเริ่มการโจมตีด้วยขนาดของสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Frost City นอกจากนี้ พวกเขามีนโยบายที่เข้มงวดมากในการใช้อาวุธที่พวกเขาผลิตขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้าเท่านั้น
เอ็ลเดอร์มาร์ซยังคงถามต่อไปว่า “แล้วคุณเห็นหน้าใหม่กี่หน้าจากแวดวงเทเลพอร์ตอื่นๆ คุณรู้ไหมว่าคนที่อยู่ในเมืองใกล้เคียงของเรา”
“อืม” หน่วยสืบราชการลับพูดหลังจากตรวจสอบสีหน้าของเอ็ลเดอร์มาร์ซ “ตั้งแต่เกิดอะไรขึ้นกับพ่อมดก็อดวินเกี่ยวกับการประพฤติผิดในการจ้างพ่อมดผู้จัดการเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว นโยบายความปลอดภัยก็เข้มงวดมากขึ้น จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ ไม่มีใครกล้าหรืออย่างน้อยก็กล้าเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการใช้แวดวงเทเลพอร์ต”
ข่าวลือมากมายเกี่ยวกับพ่อมดก็อดวินแพร่กระจายไปในหมู่สมาชิกของกลุ่ม Blizzard มันยากพอที่จะเชื่อว่าพ่อมดระดับสิบเจ็ดจำนวนมากสามารถตายเพื่อชายคนเดียวกันได้ แต่ถ้าคิดว่ามือระดับสิบแปดจะถูกฉีกแขน ทุกคนที่เกี่ยวข้องจะกลัวที่จะคิดว่าพวกเขาจะเป็นรายต่อไป
เอ็ลเดอร์มาร์ซเกือบจะกระโดขึ้น “ก็อดวิน! เขาควรจะตายเป็นครั้งที่สองสำหรับสิ่งที่เขาทำ!”
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองรักษาร่างกายให้ต่ำที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่เอ็ลเดอร์มาร์ซพูด โดยพื้นฐานแล้ว หลังจากภารกิจที่ล้มเหลว เอ็ลเดอร์มาร์ซก็นำพ่อมดก็อดวินมาที่ห้องทดลองของเขาด้วยตัวเขาเอง การประหารชีวิตเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แค่รู้เรื่องนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้หัวใจเต้นเร็วจนแทบหายใจไม่ออก
เอ็ลเดอร์มาร์ซพูดอย่างใจเย็นหลังจากจบการคุยโวของเขา “ส่งคำพูดของฉันไปยังสมาชิกคนอื่นๆ: เนื่องจากกลุ่ม Blizzard กำลังถูกโจมตีในขณะนี้ เราจึงต้องการให้มีการสอบสวนทันทีเกี่ยวกับการใช้แวดวงส่งเทเลพอร์ตในบริเวณใกล้เคียงล่าสุด”
น้ำเสียงที่เอ็ลเดอร์มาร์ซพูดนั้นบ่งบอกว่าคำขอเป็นทางการ ในกรณีนี้ ต้องใช้เวลามากในการจัดเรียงตามขั้นตอนที่จำเป็น จะใช้เวลาประมาณสองวันเป็นอย่างต่ำ และนั่นจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสมาคมพ่อมดยอมรับใบสมัครจริงๆ เท่านั้น
เจ้าหน้าที่ข่าวกรองโค้งคำนับก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องโถง “ผมจะไปแล้วครับท่าน”
พ่อมดเอมีร์ตะโกนออกมาจากนอกอาคาร “ผู้อาวุโสมาร์ซ! พี่มาร์ซ! ฉันมีเรื่องสำคัญจะรายงานคุณ!”
“เข้ามาเลย” เอ็ลเดอร์มาร์ซพูด
ทันทีที่พ่อมด Emir ก้าวเข้าไปในอาคาร สิ่งแรกที่เขาเห็นคือใบหน้าเหี่ยวย่นของ Elder Marz ที่ดูง่วงงุนมาก ดูจาก... ดวงตาที่กระหายเลือดของเขาที่มองมา อาจกล่าวได้ว่าการสืบสวนเมื่อเร็วๆ นี้ไม่เป็นไปด้วยดีนัก บอกตามตรง พ่อมดเอเมียร์ไม่เคยวางแผนที่จะรายงานในตอนนี้ แต่ถ้าเขาไม่ทำ สิ่งต่างๆ จะยิ่งแย่ลงหากคนอื่นรู้ว่าพวกเขาเป็นคนเริ่มเรื่องยุ่งกับอาเบล
พ่อมดเอมีร์พูดขณะที่เขาคุกเข่า “ฉันรู้ว่าใครเป็นคนทำ เอ็ลเดอร์มาร์ซ!”
"โอ้?" ดวงตาของเอ็ลเดอร์มาร์ซคมขึ้นทันใด “เจ้ากำลังบอกว่าเจ้ารู้ว่าใครโจมตีเมืองฟรอสต์?”
"ใช่!" พ่อมดเอมีร์หยิบกระดาษแผ่นหนึ่งออกมาเขียนรายการทุกอย่างที่อาเบลทำในทวีปศักดิ์สิทธิ์ “วิธีการครับ ท่าน! เหมือนกับพ่อมดอาเบลที่เพิ่งมาจากอนุทวีปมายังทวีปกลางเมื่อไม่นานมานี้!”
เอ็ลเดอร์มาร์ซเปิดใช้คาถา "เทเลคิเนซิส" โดยไม่เอื้อมมือและคว้ากระดาษหนังในมือของวิซาร์ดเอมีร์ เขารีบอ่านข้อมูลที่เขียนไว้อย่างรวดเร็ว
เอ็ลเดอร์มาร์ซถามด้วยเสียงสงบว่า “คุณเพิ่งสารภาพว่าเป็นกลุ่มของคุณที่สร้างศัตรูจากอาเบล นี่เป็นคนเดียวกับที่ทำร้ายก็อดวิน ใช่ไหม? เขาและพ่อมดคนอื่นๆ ในทีมของคุณด้วย”
หัวใจของ Wizard Emir จมดิ่งลง เขารู้ว่าเอ็ลเดอร์มาร์ซจะน่ากลัวแค่ไหนหากเขาโกรธ แต่นั่นก็ไม่มีอะไรเทียบได้กับตอนที่เขาพูดอย่างสงบเช่นนี้ ความเชี่ยวชาญพิเศษของเอ็ลเดอร์มาร์ซคือการวิจัย และความใจเย็นเป็นสิ่งจำเป็นหากต้องค้นคว้าเป็นเวลานาน สำหรับคนที่นับถือเช่นเดียวกับเขา มีความบ้าคลั่งที่ควบคุมไม่ได้ซ่อนอยู่ภายใต้ท่าทีที่ดูสงบนิ่งของเขา
พ่อมดเอมีร์เร่งลิ้นของเขา “พ่อมดอาเบลไม่ได้อยู่คนเดียว เอ็ลเดอร์มาร์ซ! เขามีสิ่งมีชีวิตอัญเชิญสองตัวในชุดเกราะสูงประมาณสิบเมตร มังกรหนุ่มหนึ่งตัวและอินทรีหิมะธาตุเยือกแข็งหนึ่งตัว! เขามีไหวพริบ นั่นคือสิ่งที่ฉันอยากจะบอกคุณ!”
เอ็ลเดอร์มาร์ซถอนหายใจ “น่าสนใจ ฉันเข้าใจแล้ว พ่อมดขั้นสูงอายุสิบเก้าปีซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนสัตว์อัญเชิญหลายประเภท คุณเพิ่งพูดถึงมังกรหนุ่มใช่ไหม? ช่างไร้เดียงสาและกล้าหาญของเขา แม้ฉันจะไม่ทำอะไรกล้าได้กล้าเสียเท่ากับการเซ็นสัญญากับมังกรหนุ่ม”
พ่อมดเอมีร์ได้แต่คุกเข่าลง “ความผิดเป็นของฉันที่ปล่อยให้เขาหนีไปครั้งก่อน ได้โปรดเถอะครับ ถ้าครั้งนี้ฉันพาพ่อมดมาด้วยอีก ฉันจะจับเขาให้ได้ในการทดลองครั้งหน้า”
“ไม่ ไม่เป็นไร” จู่ๆ เอ็ลเดอร์มาร์ซก็ยิ้มและส่ายหัว “ฉันจะปล่อยให้คนอื่นจัดการกับพ่อมดอาเบล สำหรับคุณ ฉันมีเรื่องจะถามคุณ คุณรู้ไหมว่าครั้งนี้กลุ่ม Blizzard สูญเสียมากแค่ไหน”
พ่อมด Emir รู้สึกมึนหัวมาก โดยไม่แม้แต่จะคิด เขาดึงคาถา “การเคลื่อนไหวทันที” ด้วยมือของเขาทันที
รอยยิ้มบนใบหน้าของเอ็ลเดอร์มาร์ซกว้างขึ้น “คุณกำลังจะวิ่งแล้วใช่ไหม อยู่กับฉัน. มันยากที่จะไม่มีใครมาระบายความคับข้องใจของฉัน คุณรู้ไหม”
ยิ่งเอ็ลเดอร์มาร์ซโกรธมากเท่าไหร่ ใบหน้าของเขาก็ยิ่งดูกว้างขึ้นเท่านั้น เนื่องจากพ่อมด Emir ทั้งทีมของเขาและกลุ่ม Blizzard ต้องทนทุกข์ทรมานมากในครั้งนี้ นอกจากนี้ ตอนนี้ไม่ทราบที่อยู่ของอาเบล จึงไม่มีการบอกได้ว่าการโจมตีครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นเมื่อใด มันยากสำหรับเขาที่จะไม่โกรธในสถานการณ์นี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ สายตาของเขาจับจ้องไปที่พ่อมด Emir ราวกับว่าเขากำลังดูตัวอย่างการทดลองที่มีชีวิตสำหรับอีกหนึ่งโครงการเล่นแร่แปรธาตุของเขา
ไม่ พ่อมด Emir ไม่เคยเปิดใช้รูน “เคลื่อนไหวทันที” ที่เขาวาด วงกลมขนาดใหญ่ที่ป้องกันของ Frost City ได้ปราบปรามเขาก่อนที่ร่างคริสตัลพ่อมดของเขาจะทำอะไรได้ เขาพยายามใช้ม้วนคาถา "เคลื่อนที่ทันที" ของเขาแทน แต่ก็ยังไม่มีประโยชน์อะไรหากเขาไม่สามารถใช้มานาของตัวเองได้
เอ็ลเดอร์มาร์ซอาจฟังดูไม่เคารพพ่อมดเอมีร์ แต่เขาไม่ใช่คนประเภทที่จะประเมินความแข็งแกร่งของพ่อมดอันดับที่สิบเก้าต่ำเกินไป ที่สำคัญกว่านั้น เขามองหาพ่อมดอันดับที่สิบเก้าอย่างต่อเนื่องซึ่งอาจกลายเป็นตัวอย่างที่มีชีวิตสำหรับการวิจัยกายวิภาคของพ่อมดของเขา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการเลื่อนตำแหน่งในอนาคตหรือเพียงเพื่อเพิ่มอายุขัยของเขา เขาคิดเสมอว่ามันจะมีประโยชน์มากหากเขาสามารถตรวจร่างกายของพ่อมดที่ใกล้เคียงกับระดับปัจจุบันของเขา
จากที่พูดมา ทั้งโกรธแค้นกับความล้มเหลวของ Wizard Emir เขาไม่มีเหตุผลให้กลุ่ม Blizzard ยอมแพ้สมาชิกระดับหัวกะทิคนใดคนหนึ่งของเขา คำพูดไม่สามารถบอกได้ว่าเรื่องน่าเศร้าจะเกิดขึ้นกับพ่อมด Emir ได้อย่างไร ถ้าเขารู้ว่าอัญมณีระดับสูงสุดเสียไปกี่เม็ดในวันที่อาเบลบุกโจมตี เขาคงไม่มาที่นี่เพื่อสารภาพบาป
เอ็ลเดอร์มาร์ซหยิบกุญแจมือออกมาจากกระเป๋าพอร์ทัล มันเป็นกุญแจมือแบบพิเศษที่มีลวดลายอักษรรูนอยู่เต็มไปหมด เขาใช้มันเพื่อขังพ่อมด Emir เพื่อไม่ให้ใช้มานาได้เลย โอกาสที่เขาจะหลบหนีก็น้อยลงไปมาก
จู่ๆ เอ็ลเดอร์แลงแลนด์ก็ปรากฏตัวขึ้นกลางห้องโถง “เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน! มาร์ซ เกิดอะไรขึ้น”
ก่อนที่จะได้ยินเสียงตอบกลับ Elder Bunch ก็ปรากฏตัวขึ้น กองกำลังปราบปรามทำให้ผู้เฒ่าทั้งสองตกใจมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นแล้ว พวกเขาจึงหมดความสนใจในการฝึกปิดระบบต่อไป
เอ็ลเดอร์มาร์ซเย้ยหยันขณะที่เขาเตะเอ็ลเดอร์มาร์ซซึ่งตอนนี้อยู่บนพื้น “ประมุขเพิ่งพบเป้าหมายที่ดีสำหรับเรา”
ดวงตาของเอ็ลเดอร์แลงแลนด์เป็นประกาย “พวกเขาพบพวกเขาหรือไม่”
“ชื่อของเขาคืออาเบล พ่อมดอาเบล เขาเป็นพ่อมดขั้นสูงอันดับที่สิบหกจากอนุทวีป ไม่นานมานี้ที่เขามาถึงทวีปกลาง”
เอ็ลเดอร์แลงแลนด์พูดหลังจากเหลือบมองพ่อมดเอเมียร์ “ไม่ควร… ฉัน เขาฟังดูมีพรสวรรค์มากสำหรับฉัน ทำไมเขาถึงต่อต้านเราเมื่อเราควรจะคัดเลือกเขา”
เอ็ลเดอร์มาร์ซอธิบายว่า “เอาล่ะ คุณจะเรียกมันว่าอะไรก็ตาม ไปที่อนุทวีปเพื่อตามล่าพ่อมดอาเบล แต่กลายเป็นว่านักล่าถูกตามล่า นั่นไม่ใช่ครั้งเดียวที่เกิดขึ้นจริง มีความพยายามเกิดขึ้นมากมายตั้งแต่พ่อมดอาเบลมาถึงทวีปกลาง และกลายเป็นว่าพ่อมดขั้นสูงสี่คนเสียชีวิตในเวลาเพียงไม่กี่วัน หนึ่งในพ่อมดอันดับสิบแปดของเราก็ถูกตัดขาเช่นกัน”
ความผิดทั้งหมดถูกส่งไปที่พ่อมด Emir แน่นอนว่ามันไม่สำคัญหรอกว่าพ่อมด Emir จะเป็นคนทำหรือไม่ เนื่องจากเขาเป็นหัวหน้าจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับทีม
เอ็ลเดอร์แลงแลนด์สงสัยเล็กน้อย “พ่อมดอาเบลใช่ไหมที่เป็นคนสร้างการโจมตีด้วยระเบิดทั้งหมด”
การโจมตีด้วยระเบิดนั้นน่ากลัวเกินไป Frost City คงจะอยู่ในสภาพโกลาหลอยู่แล้วหากไม่มีวงล้อมป้องกันจากด้านบน
เอ็ลเดอร์มาร์ซพูดด้วยน้ำเสียงที่เบากว่า “พวกเขาอยู่ในบันทึก สิ่งเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับหนึ่งในเมืองภายใต้การปกครองของ Orc Empires พ่อมดอาเบลเป็นคนประเภทพยาบาท ไม่มีสักครั้งที่เขาพลาดที่จะสวนกลับคนที่ข้ามเขา”
เอ็ลเดอร์แลงแลนด์พูดด้วยน้ำเสียงเศร้าหมองว่า “น่าเสียดายจริงๆ คุณกำลังจะบอกว่าเราจะต้องตามล่าอัจฉริยะคนนี้เพื่อฆ่าเขางั้นเหรอ?”
เอ็ลเดอร์มาร์ซส่ายหัวเช่นกัน “ต้องใช้เวลาพอสมควรก่อนที่เราจะหาตัวช่วยสร้างอาเบลเจอ คำสั่งล่าสุดคือห้ามเปิดเผยข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับวงเวียนการเคลื่อนย้ายของสมาคมพ่อมดสู่โลกภายนอก ฉันมีคนทำเรื่องนั้นแล้ว”
“ให้ฉันจัดการเถอะ มาร์ซ” จู่ๆ เอ็ลเดอร์บันช์ผู้เงียบขรึมก็พูดขึ้น
เอ็ลเดอร์มาร์ซพูดด้วยรอยยิ้ม “โอ้ แน่นอน! ขอบคุณพวง”
ในฐานะอดีตผู้ร่วมงานโดยตรงของ Wizard Union Elder Bunch มีความสัมพันธ์ที่สำคัญมากมายภายในสาขาหลักของ Wizard Union เขายังสนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการระเบิดอีกด้วย แผนการของเขาหลังจากจับตัวช่วยสร้างอาเบลนั้นง่ายมาก เขาจะทุบตีเขาจนกว่าเขาจะพูดถึงทุกสิ่งที่เขารู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีการระเบิด เพราะเมื่อกลุ่ม Blizzard เข้าใจเทคโนโลยีดังกล่าวแล้ว พวกเขาจะไม่มีคู่แข่งในทวีปกลางเหลือให้ต่อสู้กับพวกเขาเรื่องทรัพยากรอีกต่อไป
หลังจากหยิบป้ายชื่อออกมาแล้ว เอ็ลเดอร์บันช์ก็เรียกวิญญาณของเมืองให้เปิดวงติดต่อ
เอ็ลเดอร์บันช์วางสายอย่างรวดเร็วก่อนจะพูดกับอีกสองคนอีกครั้งว่า “ตำแหน่งสุดท้ายที่พ่อมดอาเบลรู้คือที่เมืองเลโน ไม่มีอะไรหลังจากนั้น”
เอ็ลเดอร์แลงแลนด์ฟังดูสับสนเล็กน้อย “เมืองเลโน แต่ทำไมล่ะ? ไม่ไกลจาก Frost City เหรอ?”
หากตำแหน่งที่ทราบครั้งสุดท้ายของ Abel อยู่ใกล้ Frost City ก็สมเหตุสมผลดีว่าเขาคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตี Frost City สิ่งต่าง ๆ มีความซับซ้อนมากขึ้นในทันใด มันไม่สมเหตุสมผลสำหรับเขาที่จะอยู่ที่ Leno City แม้ว่าเขาจะเดินทางบนภูเขาที่บินได้ แต่วิธีการที่กล่าวถึงในบันทึกที่ผ่านมาของเขานั้นคล้ายคลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ Frost City
เอ็ลเดอร์มาร์ซพูดว่า “ฉันไม่สนใจที่จะได้รับหลักฐานเพิ่มเติม เพียงแค่มีค่าหัวบน ตั้งค่าหัวให้กับ Wizard Abel ใครก็ตามที่มีตำแหน่งของเขาจะได้รับรางวัลภารกิจระดับหนึ่ง ให้ทางองค์กรส่งผู้เชี่ยวชาญมา”
เกือบจะดีเกินจริง แค่ตามหาอาเบลก็เพียงพอแล้วสำหรับคนที่จะได้รับรางวัลดีๆ ไม่ใช่แค่กลุ่ม Blizzard เท่านั้นที่จะคลั่งไคล้มัน สมาคมทั้งหมดในฝั่งของพวกเขาก็เต็มใจอย่างเต็มที่ที่จะทำหน้าที่ของตนเพื่อช่วยเหลือ เมื่อถึงจุดนั้น ไม่ใช่แค่องค์กรพ่อมดแต่รวมถึงจักรวรรดิ สหภาพแรงงาน และกองกำลังทุกประเภทที่ค้นหาอาเบลไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ส่วนใดของโลกก็ตาม มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับอาเบลจริงๆ ลืมคนอย่างเขาซึ่งแทบไม่มีรากฐานใด ๆ ในทวีปกลาง แม้แต่พ่อมดที่เกิดในทวีปทางตอนกลางก็ยังรู้สึกกดดันและท้าทายอย่างยิ่งในการหาทางข้ามผ่านการปฏิบัติเช่นนี้
แม้ว่าข้อสรุปของเอ็ลเดอร์มาร์ซค่อนข้างขัดแย้งในตัวมันเอง แต่สัญชาตญาณของเขาถูกกำหนดไว้แล้วเกี่ยวกับการโจมตีของอาเบลในเมืองน้ำแข็ง พ่อมดเอมีร์เพิ่งบอกเขาทุกอย่างที่ควรรู้ ถ้าพ่อมดเอเมียร์ไม่มาหาเขา เขาคงจะทำการวิจัยอย่างเต็มรูปแบบเกี่ยวกับผู้มาใหม่ในเมืองใกล้เคียง
และนั่นเป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้น อาเบลอยู่ในร่างเอลฟ์เพื่อปลอมตัว แต่เป็นการปลอมตัวที่สามารถมองเห็นได้ง่าย ไม่มีบันทึกในอดีตที่อยู่เบื้องหลังตัวตนเอลฟ์ของเขา ดังนั้นโอกาสที่จะถูกสอบสวนอย่างเต็มรูปแบบจึงสูงกว่ามาก พ่อมด Emir ทำผิดพลาดร้ายแรงในเรื่องนี้ การรายงานสิ่งที่เขารู้ให้เอ็ลเดอร์มาร์ซทราบ ไม่เพียงแต่เขาจะฆ่าตัวตายทางอ้อมเท่านั้น เขายังหยุดการสืบสวนซึ่งน่าจะทำให้อาเบลตกเป็นเชลย
ไม่ อาเบลไม่รู้ว่ากลุ่ม Blizzard เริ่มสอบสวนเขาแล้ว มันไม่ใช่ว่าเขาสนใจเช่นกัน เขามียอดพ่อมดอยู่ในกล่องเก็บของส่วนตัวอยู่แล้ว เขายังปกปิดสิ่งของอื่น ๆ ทั้งหมดที่อาจรั่วไหลไปถึงที่อยู่ของเขา ดังนั้นมันจึงไม่น่าจะเป็นไปได้เลยที่จะรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน
นอกจากนี้เขายังสั่งให้วิญญาณบัญชาการรบเปิดใช้งานแบบไม่หยุดพักเพื่อลาดตระเวนรอบๆ พื้นที่ใกล้เคียง เสียงไซเรนจะเปิดขึ้นหากพ่อมดที่อยู่เหนืออันดับสิบเจ็ดอยู่ในระยะ