ตอนที่ 455: แยก
ผู้แปล: Nyoi-Bo Studio บรรณาธิการ: Nyoi-Bo Studio
Anfey เดินเข้าไปในห้องและนั่งลง Suzanna, Anthony และ Alice พุ่งเข้ามาในห้องตามหลังเขา เบื้องหลังพวกเขาเป็นผู้นำทหารรับจ้าง พวกเขาทั้งหมดมีสีหน้าเคร่งขรึมและไม่มีใครเปิดปาก
ทุกคนรู้ว่า Anfey ทรงพลังเพียงใด แต่ชายคนนั้นเกือบจะเอาชนะเขาได้ นั่นทำให้ตกใจไม่เพียง แต่สำหรับ Anfey เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทุกคนในเมืองด้วย หลังจากที่แอนโทนี่จำคาถาแห่งวัยได้ ทุกคนก็ตระหนักว่าไม่มีใครในเมืองนี้มีพลังมากพอที่จะต่อสู้กับเนโครแมนเซอร์คนนั้นได้ ทุกคนรู้ว่าคาถาแก่ชรานั้นน่ากลัวเพียงใด มันเป็นคาถาที่น่ารังเกียจมากและเหตุผลเดียวที่ Anfey รอดชีวิตมาได้ก็เพราะเวทมนตร์แสงในตัวเขา ตามกฎของธรรมชาติ เวทมนตร์แสงสามารถระงับผลของเวทมนตร์แห่งความตายและยกเลิกผลกระทบของมันได้
Edy รู้สึกอึดอัดเมื่อเขาตระหนักว่าทุกคนในห้องกำลังจ้องมองมาที่เขา เขาขยับตัวนั่งแต่ไม่ได้พูดอะไร
“อย่างที่คุณทราบ เนโครแมนเซอร์เพิ่งมาเยือนเมืองนี้” แอนเฟย์พูดอย่างเงียบๆ ผลกระทบของคาถาอายุได้หายไปแล้ว แต่เขารู้สึกเหนื่อยล้า
“ฉันรู้” เอดี้พูด "มันยากที่จะไม่ตระหนักว่า"
"บอกฉันสิ Edy" Anfey กล่าว "ใครคือเนโครแมนเซอร์ที่ทรงพลังที่สุด"
เอดี้ขมวดคิ้วและลดสายตาลง เมื่อเขาถูกจับครั้งแรก เขาคิดว่า Anfey จะสอบปากคำเขาเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเนโครแมนเซอร์อย่างแน่นอน จากนั้นเขาก็คิดว่า Anfey อาจไม่สนใจเขาและเนโครแมนเซอร์กำลังวางแผนอะไรอยู่ คำถามนี้ทำให้เอดี้ประหลาดใจ
"คุณเป็นคนฉลาด" Anfey กล่าว “ถ้าคุณจดจ่อกับการเรียนเวทมนตร์ คุณควรจะมีพลังมากกว่าที่เป็นอยู่ ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงเลือกเป็นเนโครแมนเซอร์ แต่ผมคิดว่าคุณไม่ชอบมัน นั่นคือเหตุผลที่ผมไว้ชีวิตคุณ ฉันคิดว่าการร่วมมือกันเป็นประโยชน์ต่อเราทั้งคู่”
"ทำไมฉันถึงกลายเป็นเนโครแมนเซอร์" เอดี้พูดพร้อมส่ายหัว “ฉันไม่คิดว่าคุณจะเข้าใจ วิธีเดียวที่คนอย่างฉันจะลุกขึ้นมาได้คือเรียนเวทมนตร์”
"ถ้าคุณอยากเรียนเวทมนตร์ ทำไมไม่ไปสถาบัน ทำไมคุณถึงมาเป็นเนโครแมนเซอร์" อลิซถามพลางขมวดคิ้ว
เอดี้ส่ายหัว “คุณตลกมาก เลดี้อลิซ” เขาพูด "คุณไม่ต้องการเงินเพื่อเรียนที่สถาบันหรอกหรือ คุณคิดจริงๆหรือว่าเด็กกำพร้าอย่างฉันจะจ่ายไหวสำหรับการไปโรงเรียน? ฉันแทบจะไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ไม่ต้องพูดถึงการเรียนเวทมนตร์"
“คุณยังไม่ควรหันไปใช้มนต์ดำ” อลิซพูดพร้อมส่ายหัว สำหรับเธอ แนวทางของเนโครแมนเซอร์นั้นขัดต่อกฎแห่งธรรมชาติ เธอดูถูกหมอผีและคิดว่าคนทั้งโลกก็ควรดูถูกพวกเขาเช่นกัน
“คุณไม่เข้าใจ” เอดี้กล่าว “คุณเคยหิวจนกินอะไรไม่ลงไหม คุณเคยลองใช้ชีวิตข้างถนนโดยไม่รู้ว่าจะรอดไหมในคืนนี้”
อลิซตัวแข็ง เอดี้พูดถูก เธอไม่เคยมีประสบการณ์กับเด็กกำพร้าอย่างที่เอดี้เคยประสบมาก่อน
“ฉันสัญญากับคุณ เลดี้อลิซ” เอดี้พูด "การอดอยากไม่ใช่เรื่องดี การเป็นเนโครแมนเซอร์เป็นหนทางเดียวที่ฉันจะอยู่รอดได้"
"ฉันเข้าใจ" Anfey กล่าว "ฉันเห็นใจคุณ เอดี้ แต่ฉันจำเป็นต้องรู้บางอย่าง ใครคือเนโครแมนเซอร์ที่ทรงพลังที่สุด"
“มันไม่ได้เป็นความลับขนาดนั้น” เอดี้พูดพร้อมยักไหล่ "มันคือไมนอสคนแรก"
"ใครอีกไหม?" Anfey ไม่รู้ว่า Minos the First คือใคร แต่ไม่มีทางที่หมอผีที่ทรงพลังที่สุดจะมาที่เมือง White Mountain เพียงลำพัง
"ไมนอสมีนักเรียนสามคน" เอดี้กล่าว "โกลแมน มอร์แกน และเดสวิเดีย พวกเขาคือเนโครแมนเซอร์ที่ทรงพลังที่สุดรองจากไมนอส"
Anfey นั่งตัวตรงบนเก้าอี้และเอนตัวไปทาง Edy "บอกฉันเพิ่มเติมเกี่ยวกับพวกเขา" เขากล่าว
เอดี้พยักหน้า “มอร์แกนเป็นคนที่มีอำนาจมากที่สุดในสามคนนี้ ฉันไม่เคยพบเขาจริงๆ แต่ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นชายหนุ่มรูปงาม ฉันไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย
"โกลแมนเป็นคนที่มีพลังน้อยที่สุดในสามคนนี้ แต่เขาเป็นคนที่อันตรายที่สุดสำหรับคุณ"
"ทำไม?" Anfey ขมวดคิ้วและถาม
"เพราะเขาเป็นเจ้าแห่งเวทย์มนตร์แห่งโรคระบาด" เอดี้กล่าว “ถ้าเขาต้องการ เขาสามารถฆ่าสิ่งมีชีวิตทุกตัวในรัศมี 20 ไมล์ได้โดยไม่ต้องเข้าร่วมการต่อสู้ด้วยตัวของคุณเอง คุณโชคดีแล้วที่เขาทรยศไมนอสเมื่อ 20 ปีที่แล้ว”
“ฉันคิดว่าความลับของเวทมนตร์แห่งโรคระบาดหายไปแล้ว” แอนโธนีกล่าว
“นั่นสิ” เอดี้พูด "แต่ Golman เป็นอัจฉริยะ เขาสามารถค้นพบความลับจากเศษชิ้นส่วนที่เหลืออยู่"
"เนโครแมนเซอร์สามารถใช้เวทมนตร์แห่งโรคระบาดได้กี่คน" แอนโทนี่ถาม
"ทำไม Golman ถึงหักหลัง Minos" อลิซถาม
“เพราะเขาเป็นคนดี” เอดี้ยักไหล่
“คนดี” อลิซพูดซ้ำๆ
เอดี้พยักหน้า "Golman ทรยศต่อ Minos เมื่อ Minos สั่งให้เขาทำลายทุกสิ่งที่เขาทำงานมา เขาไม่ต้องการฆ่า necromancers ทั้งหมดที่เรียนรู้เวทย์มนตร์โรคระบาด ดังนั้นเขาจึงทิ้งต้นฉบับและงานวิจัยของเขาไว้ เขาเป็นคนเดียวที่รู้เรื่องนี้ ความลับ."
“ทำไมเขาถึงเรียนเวทย์มนตร์โรคระบาดตั้งแต่แรกล่ะ?” แอนโทนี่ถาม
“เพราะเขาอยากรู้อยากเห็น” เอดี้กล่าว "เขาเชื่อว่าโลกต้องการความสมดุล เขาไม่ต้องการทำลายสมดุลของเวทมนตร์ที่มีอยู่ในโลก เพราะเขาเชื่อว่านั่นจะนำไปสู่การทำลายล้างทุกสิ่งอย่าง"
ห้องเงียบลง หากเอดี้พูดตามความเป็นจริง โกลแมนไม่ใช่หมอผี แต่เป็นนักวิชาการมากกว่า
"ไมนอสเกลียดกอลแมน" เอดี้พูดต่อ "แต่กอลแมนมีอิทธิพลมากเกินไป ตอนนี้เนโครแมนเซอร์หลายคนเชื่อว่าจะไม่มีอะไรดีเกิดขึ้นจากการทำลายโลก"
“เว้นแต่จะมีการสร้างระบบใหม่เพื่อต่อต้านเนโครแมนเซอร์” แอนเฟย์กล่าว “แต่นั่นเป็นไปไม่ได้ใช่ไหม ถ้าเนโครแมนเซอร์ทำลายโลก พวกเขาก็จะตายเช่นกัน เพราะไม่สามารถสร้างความสมดุลได้ มิโนสจะเป็นเพียงผู้เดียวที่เหลืออยู่”
เอดี้พยักหน้า "โกลแมนไม่เคยพูดอะไรแบบนั้น แต่ทุกคนรู้ว่านั่นคือสิ่งที่เขากำลังบอกเป็นนัย ความเชื่อของเขาเริ่มทำให้เนโครแมนเซอร์แตกหัก เราเตรียมพร้อมสำหรับสงครามนี้มาหลายปี และโกลแมนมีส่วนสำคัญในการเตรียมการ แต่...สภา ไม่ได้ใช้ทางเลือกของ Minos และเลือกแผนป้องกันที่มากกว่าแทน”
“เพราะพวกเขาก็กังวลเหมือนกัน” Anfey กล่าว
“กอลแมนเป็นอัจฉริยะจริงๆ” เอดี้กล่าวพร้อมพยักหน้า "โกลแมนเป็นเพื่อนที่ดีกับมอร์แกน ซึ่งเป็นคนที่ไมนอสเลือกไล่ล่าโกลแมนเช่นกัน มอร์แกนตามหาโกลแมนมากว่า 20 ปี แต่ก็ยังไม่พบ"
“คุณเคยเจอเขาไหม”
"เขาเป็นคนเดียวที่ฉันเคยพบ" เอดี้กล่าว "เขาดูน่าเกลียด แต่วิธีการพูดของเขาอ่อนโยนและให้อภัย หากคุณได้ยินเพียงเสียงของเขา คุณอาจเข้าใจผิดว่าเขาเป็นนักบวช"
Anfey พยักหน้า "น่าสนใจ" เขากล่าว "บอกฉันเพิ่มเติมเกี่ยวกับเดสวิเดีย"
“เดสวิเดียไม่ทรงพลังเท่ามอร์แกน” เอดี้กล่าว "เขาเก็บรายละเอียดต่ำและไม่ค่อยปรากฏตัวในที่สาธารณะ คนส่วนใหญ่ไม่สนใจเขา"
"เขามีลักษณะอย่างไร"
“ฉันได้ยินมาว่าเขามีผิวที่เรียบเนียนมาก” เอดี้กล่าว “ผิวของเขาเรียบเนียนกว่ามนุษย์ทั่วไป และไม่มีขนบนใบหน้า”
"นั่นต้องเป็นเขา" Anfey พูดแล้วแตะโต๊ะ