ตอนที่ 488: ยังไม่เสร็จ
ผู้แปล: Nyoi-Bo Studio บรรณาธิการ: Nyoi-Bo Studio
Anfey ยืนอยู่ตรงที่เขาอยู่และดูพระอาทิตย์ตกดิน เขาอดทนมาตลอด เขาฆ่าลูกชายของ Hotchbini และเขารู้ว่าเธอต้องการแก้แค้น
เขาสัมผัสได้ถึงกลุ่มคนอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังเข้ามาใกล้ กลุ่มนี้ใหญ่กว่ากลุ่มที่แล้ว และ Anfey สามารถบอกได้ว่า Manstuly อยู่ในหมู่พวกเขา
เขายังคงไม่ขยับ เขารักษาความแข็งแกร่งและพลังของเขาไว้เพื่อที่เขาจะได้ถึงจุดสูงสุดเมื่อมันสำคัญ
Anfey รู้ว่าแผนของเขาไม่มีที่ว่างสำหรับความล้มเหลว เขาฆ่าหน่วยสอดแนมและลูกชายของ Hotchbini เพราะเขาต้องการให้ Manstuly ปรากฏตัวเป็นการส่วนตัว เขาเชื่อว่าแมนสตูลี่รู้เรื่องนั้นเช่นกัน การนำผู้คุมและทหารมาหมายความว่า Manstuly ไม่มั่นใจพอที่จะต่อสู้กับ Anfey ตัวต่อตัว
Anfey นึกถึงเรื่องราวของ Jerroick และ Ernest เจอร์โรฟิคเคยเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลกและถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะ อย่างไรก็ตาม เมื่อเออร์เนสต์ท้าทายเขา เขาใช้กลอุบายและเล่ห์เหลี่ยม ก่อนหน้านั้น เออร์เนสต์เคยพูดถึงเจอร์โรฟิคอย่างชื่นชม เออร์เนสต์รู้วิธีการไต่เต้าจากเบื้องล่าง เขาต่อสู้กับคนที่มีกำลังน้อยกว่าเพราะเขาต้องการประสบการณ์ การใส่เจอร์โรฟิคในตอนท้ายเป็นการแสดงความเคารพ
แม้ว่าเจอร์โรฟิคจะชนะการดวลและทำลายชื่อเสียงของเออร์เนสต์ แต่ทักษะของเขาก็เริ่มถดถอยเช่นกัน เออร์เนสต์กล่าวว่าเป็นเพราะเขาสูญเสียศรัทธาในตัวเองและในดาบของเขา
เสียงของศัตรูดังเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ Anfey หันไปและเห็นจุดมืดเล็ก ๆ สองจุดปรากฏบนภูเขาในระยะไกล ต้องขอบคุณ Heart of Nature ประสาทสัมผัสของเขาเฉียบคมกว่ามนุษย์ทุกคน ไม่มีอะไรจะรอดพ้นการตรวจจับของเขาไปได้
จุดมืดคือเอลฟ์สองคนเข้ามาใกล้อย่างเงียบ ๆ พวกเขาทั้งยังเด็กและหน้าตาดี แต่ไม่มีใครสามารถคาดเดาอายุของเอลฟ์จากรูปร่างหน้าตาของเอลฟ์ได้ เอลฟ์เป็นอมตะและแทบไม่เคยเปลี่ยน
เอลฟ์ทั้งสองแต่ละคนสวมจดหมายลูกโซ่สีทองและถือคันธนูยาวสีเขียว พวกเขาว่องไวและรวดเร็วมาก เอลฟ์ตัวผู้ยืนอยู่บนหน้าผาและตัวเมียกำลังหมอบอยู่ในหญ้า ทั้งคู่จ้องมองที่ Anfey และสังเกตเขา
Anfey ยกคิ้วขึ้น เห็นได้ชัดว่านี่เป็นแผนของ Manstuly เขายืดร่างกายของเขาและหยิบขวานที่วางอยู่บนพื้น
เป็นเวลาหลายศตวรรษแล้วที่เทพธิดาแห่งธรรมชาติที่ได้รับเลือกคนสุดท้ายปรากฏตัว ในช่วงเวลานั้น Heart of Nature เป็นเพียงอนุสรณ์สถานของดรูอิดเท่านั้น ผู้ถูกเลือกคนสุดท้ายไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับหัวใจแห่งธรรมชาติเพื่อปกป้องตัวเองและหัวใจแห่งธรรมชาติ ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าผู้ที่ถูกเลือกนั้นมีความสามารถอะไรบ้างและไม่สามารถเตรียมตัวสำหรับพวกเขาได้
เอลฟ์ตนหนึ่งดึงลูกศรสีเขียวอ่อนออกมาและกระแทกมัน ทันทีที่ลูกธนูแตะคันธนู มันก็ยืดตรง เอลฟ์เล็งและปล่อยลูกศร ลูกธนูฉีกกลางอากาศ โหยหวนขณะที่มันบินไปทาง Anfey
ลูกศรนั้นรวดเร็วและทรงพลังมาก แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำร้ายพลังระดับสูงสุด
Anfey ขมวดคิ้ว เอลฟ์หญิงปล่อยธนูพร้อมกับสหายชายของเธอ ลูกธนูที่เธอปล่อยนั้นมองไม่เห็นและไม่ส่งเสียงดังแม้แต่น้อย ความเร็วก็เร็วกว่าลูกศรสีเขียวเช่นกัน หาก Anfey ไม่มี Heart of Nature เขาคงไม่สามารถตรวจจับลูกศรที่มีอยู่ได้
Anfey โบกขวานขนาดใหญ่ของเขาและลูกศรที่มองไม่เห็นก็ชนเข้ากับขวานด้วยเสียงอันดัง Anfey ขมวดคิ้วขณะที่เขาลังเล จากนั้นเขาก็กระโดดขึ้นและออกจากทางลูกศรสีเขียว เขาร่อนลงแล้วพุ่งไปหาเอลฟ์หญิง
เอลฟ์ทั้งสองเห็นได้ชัดว่าดีมาก เอลฟ์ชายเป็นนักธนูที่เก่งมาก และเขามีหน้าที่เพียงคอยคุ้มกันเอลฟ์หญิงเท่านั้น
Anfey เพิ่มความเร็วของเขา ธาตุที่หลวมๆ ถูกดึงดูดเข้าหาเขาและก่อตัวเป็นพายุเล็กๆ รอบๆ ตัวเขา หญ้าที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาถูกพายุแห่งธาตุนี้ทำให้ราบเรียบ และองค์ประกอบต่างๆ ได้บดบังรูปร่างของเขา ทำให้เอลฟ์ไม่สามารถมองเห็นเขาได้อย่างชัดเจน เขารู้ว่า Manstuly เปลี่ยนตัวเองแล้วและกำลังมุ่งหน้าไปตามทาง แต่เขาก็รู้ว่าเขาเร็วกว่า
เมื่อเห็นว่าพวกเขาถูกค้นพบแล้ว เอลฟ์ทั้งสองก็เลิกซ่อนเช่นกัน เอลฟ์หญิงยืนขึ้นบนพื้นหญ้าและดูไม่กังวลว่าจะถูกพบ เธอไม่ใช่แค่นักธนู เธอเชี่ยวชาญด้านเวทมนตร์เช่นกัน เธอดึงสายธนูให้ตึงและปล่อยลำแสงสีเขียว
แสงสีเขียวขยายออกไปในสายลมและกลายเป็นตาข่ายขนาดใหญ่
Anfey ยังคงวิ่งราวกับว่าเขามองไม่เห็นตาข่าย ทันทีที่เขาแตะตาข่าย ตาข่ายก็หายไปในอากาศ เขาไม่ปล่อยให้สิ่งนั้นมารบกวนเขาและคอยลดระยะห่างระหว่างตัวเขากับเอลฟ์ เนื่องจากหัวใจแห่งธรรมชาติ ไม่มีเวทมนตร์แห่งธรรมชาติใดที่สามารถทำร้ายเขาได้
เอลฟ์หญิงขมวดคิ้ว ลูกศรที่ทำจากไพลินปรากฏขึ้นในมือของเธอ และเธอก็ปล่อยมัน Anfey ขมวดคิ้วและโบกขวานของเขา ตีลูกศรสีน้ำเงิน
ขวานกระแทกเข้ากับลูกศรสีน้ำเงินและทำให้มันแตกเป็นเสี่ยงๆ ชิ้นส่วนของลูกศรสีน้ำเงินจัดกลุ่มใหม่และก่อตัวเป็นกำแพงน้ำแข็งขนาดใหญ่ เมื่อเห็นว่า Anfey เคลื่อนที่ช้าลง ลูกศรอีกดอกก็ปรากฏขึ้นในมือของเอลฟ์หญิง และเธอก็ปล่อยลูกศรไปทางเขา ลูกธนูพุ่งเข้าหาเขาและกลายเป็นลำแสงแห่งความมืด
แสงสีดำกระทบผนังน้ำแข็งและดูดซับน้ำแข็ง อย่างไรก็ตาม เอลฟ์หญิงไม่สามารถฉลองความสำเร็จของเธอได้ เพราะเธอสามารถบอกได้ว่า Anfey ได้หายไปก่อนที่ลูกศรจะกระทบน้ำแข็ง
ร่างของ Anfey กระพริบและปรากฏขึ้นอีกครั้ง เอลฟ์หญิงกระโดดถอยหลัง เธอรู้ว่าเธอไม่คู่ควรกับเขาและเธอจำเป็นต้องหนีไป ร่างของเธอสั่นคลอนและภาพลวงตาหลายภาพปรากฏขึ้น ทั้งหมดวิ่งไปคนละทิศละทาง
ถ้า Anfey ไม่มี Heart of Nature เขาคงบอกไม่ได้ว่าใครคือเอลฟ์ตัวจริง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากหัวใจแห่งธรรมชาติ เขาสามารถทำสิ่งที่ไม่สามารถทำได้อย่างอื่น เขาพบเอลฟ์ตัวจริงอย่างง่ายดายและไล่ตามเธอ
เขายกขวานขึ้นฟันเอลฟ์ เอลฟ์กรีดร้องและหายไป แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาช้าลง เขารีบไล่ตามเธออีกครั้งและฟาดเธอด้วยขวานของเขา เธอล้มลงกับพื้นเดินโซเซ
"ฉันบอกคุณแล้ว Manstuly" Anfey กระซิบ "มันยังไม่เสร็จ"
เมื่อ Manstuly และคนของเขามาถึง Anfey ก็หายไปแล้ว เหลือเพียงศพของนักธนูสองคนเท่านั้น