ตอนที่ 489: สงคราม
ผู้แปล: Nyoi-Bo Studio บรรณาธิการ: Nyoi-Bo Studio
“อาจารย์ พวกเราสูญเสียเอลฟ์ไป 31 คน ดรูอิด 5 คน และทหารรับจ้าง 52 คนในตอนพลบค่ำ เมืองทางตอนใต้ดูเฉยๆ—” ดรูอิดรายงาน
"บ้าไปแล้ว!" Manstuly ตะโกนด้วยความโกรธ
ดรูอิดที่เพิ่งเข้ามารายงานแมนสตูลี่ตัวสั่นด้วยความกลัว เขาออกจากห้องทันทีหลังจากที่ Manstuly ขอให้เขาออกไป
ข้างๆ Manstuly Mourtta และ Hotchbini นั่งอยู่ทางซ้ายของเขาในห้อง ขณะที่เอลฟ์ชายสามคนนั่งอยู่ทางขวาของเขา ไม่มีใครดูดีเกินไป
Mourtta ชอบซ่อนความอ่อนแอของเขา ดังนั้นเขาจึงผลัก Hotchbini ภรรยาของเขาต่อหน้าเขาเสมอ อันที่จริงเขาเก่งพอๆ กับ Hotchbini Manstuly นั้นดีพอๆ กับ Mourtta และ Hotchbini แน่นอน เขาเป็นผู้นำของหมาป่าดรูอิด เอลฟ์ชายทั้งสามเป็นฟาโรห์เอลฟ์ พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ทรงพลังและฉลาดอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่รู้วิธีจัดการกับ Anfey เมื่อต้องเผชิญกับการสังหารที่โหดร้ายและนองเลือดของเขา
โลกมหัศจรรย์นี้แตกต่างจากโลกศิวิไลซ์ที่มีเทคโนโลยีสูง ในโลกที่มีเทคโนโลยีสูงและศิวิไลซ์ ความสามารถของแต่ละคนมีจำกัดมาก ใครก็ตามที่ต้องการบรรลุผลสำเร็จจำเป็นต้องใช้ความพยายามร่วมกันของผู้อื่น ในโลกเวทมนตร์ใบนี้ พลังของคนๆ หนึ่ง แม้จะไม่มีขีดจำกัด แต่ก็อาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสังคมอย่างไม่อาจหวนคืนได้ Anfey ใช้เวลาเพียงวันเดียวในการหันกลับไปรอบ ๆ เมือง Blackwater และทำให้ผู้คนในเมือง Blackwater กังวล
พวกเขาคิดว่าจะมีกลุ่มผู้มีอำนาจสูงสุดล้อมรอบ Anfey แต่พวกเขาไม่คิดว่ามันจะได้ผลเนื่องจาก Anfey จะไม่โง่พอที่จะต่อสู้กับอำนาจสูงสุดเหล่านั้นโดยตรง นอกเหนือจากความรวดเร็วแล้ว Anfey ยังสามารถเปิดตัวการขนส่งด่วนได้อีกด้วย พลังสูงสุดเหล่านั้นจะไม่สามารถไล่ตามเขาได้ พวกเขาคิดเกี่ยวกับการวางกับดักสำหรับ Anfey แต่โศกนาฏกรรมในตอนค่ำได้พิสูจน์แล้วว่าไม่ได้ผลเช่นกัน เพื่อพิสูจน์ว่าการวางกับดักสำหรับแอนเฟย์จะได้ผลหรือไม่นั้นทำให้พวกเอลฟ์ต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก
Katyusha เป็น Sunset Archer ที่เก่งที่สุดเป็นอันดับสอง ลูกศรไร้เสียงที่เธอฝึกฝนอยู่เสมอนั้นไม่ได้ผลกับนักดาบ เนื่องจากพวกเขาทุกคนฟิตมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อใดก็ตามที่เธอต่อสู้กับอาร์คเมจ การยิงธนูอย่างเงียบๆ ของเธอทำให้เกิดภัยคุกคามร้ายแรงต่อพวกเขา ลูกศรเวทย์มนตร์ที่เธอนำมาด้วยนั้นสะสมโดยเอลฟ์เมื่อเวลาผ่านไป ลูกศรเวทย์มนตร์ระดับอาวุโสสองสามลูก ด้วยความสำเร็จทางเวทมนตร์ของเธอและจำนวนลูกธนูที่เธอมี ทุกคนคิดว่า Katyusha สามารถฆ่า Anfey ได้อย่างแน่นอนเมื่อเธอจากไป พวกเขาคิดว่าเธอสามารถทำร้าย Anfey ได้แม้ว่าเธอจะฆ่าเขาไม่ได้ก็ตาม ไม่มีใครคิดว่าพลังสูงสุดที่มีความหวังเช่นนี้จะถูก Anfey สังหารได้ในพริบตา มันเป็นการระเบิดครั้งใหญ่สำหรับพวกเขา
“ในที่สุดฉันก็เชื่อว่ามีทายาทของนักบุญ” ฟาโรห์เอลฟ์ที่อยู่ตรงกลางถามเสียงต่ำ "อาจารย์ Manstuly สิ่งที่ฉันไม่เข้าใจคือทำไมคุณยังคงต้องการที่จะโจมตี Suzanna ถ้าคุณรู้อยู่แล้วว่าอาจารย์ของ Anfey เป็นนักบุญลึกลับ และถ้าตำนานเกี่ยวกับ Anfey ถูกค้นพบเมื่อประมาณหนึ่งปีที่แล้ว ก็ไม่ฉลาดนักที่จะสร้าง ศัตรูที่มีศักยภาพเป็นนักบุญ?”
"มาสเตอร์แอนเดอร์สัน จริงๆ แล้ว มันเป็นความคิดของฉันเอง" Mourtta ยิ้มอย่างขมขื่น
“โอเค บอกฉันได้ไหมว่าทำไมคุณถึงทำอย่างนั้น” ฟาโรห์เอลฟ์ถาม
"ฉันไม่คิดว่าจะมีวิสุทธิชนคนใดเลย และอาจารย์ Manstuly ก็เช่นกัน" Mourtta กล่าว
“นั่นคือเหตุผลทั้งหมดของคุณใช่ไหม” ฟาโรห์เอลฟ์ถาม
“ไม่” มูร์ทาส่ายหัว "ในตอนนั้น Anfey ไม่โดดเด่นเท่าตอนนี้ ฉันกังวลเกี่ยวกับแผนการที่ซับซ้อนของเขา เขาประจำการอยู่ที่ Moramatch Town และดูเหมือนจะสนใจใน Country of Mercenaries มาก ฉันคิดว่าเขาจะเป็นตัวปัญหาใน อนาคต."
"นั่นคือเหตุผลที่เราคิดว่าเราไม่สามารถปล่อยให้เขาเติบโตแข็งแกร่งขึ้น" Manstuly กล่าวเสริม "เราต้องทำลายเขา"
“แผนการอันซับซ้อนของเขา?” ฟาโรห์เอลฟ์อีกคนถาม "ฉันไม่ค่อยเข้าใจ"
“คุณรู้เรื่องความขัดแย้งระหว่างกลุ่มทหารรับจ้างของพยัคฆ์ตาเวากับกลุ่มทหารรับจ้างกลอรี่ใช่ไหม” มูร์ต้าถาม
“ใช่” ฟาโรห์เอลฟ์พูด
“ความจริงแล้ว Glory mercenary และพวกเราถูกสร้างมาตั้งแต่ต้น เรารู้ว่า Shanteler และ Davidson จากกลุ่ม Glory mercenary ถูกฆ่าในความขัดแย้ง แต่เราไม่ได้ฆ่าพวกเขา” Mourtta พูดเสียงต่ำ
“แล้วใครเป็นคนฆ่าพวกเขาล่ะ” ฟาโรห์เอลฟ์ถาม
“Anfey ทำ” Mourtta กล่าว
“อันเฟย์?” ฟาโรห์เอลฟ์ส่ายหัว “ฉันไม่คิดอย่างนั้น ฉันอ่านรายงานเกี่ยวกับ Anfey อย่างถี่ถ้วนแล้ว เมื่อคุณมีความขัดแย้งกับกลุ่มทหารรับจ้าง Glory Anfey ค่อนข้างอ่อนแอ แม้ว่า Suzanna จะทำงานให้เขา ชายหนุ่มสองสามคนเหล่านั้นก็ไม่สามารถแสดงท่าทางได้ ภัยคุกคามใด ๆ ต่อ Shenteler และ Davidson Davidson เป็นนักดาบอาวุโส นอกจากนี้ Shanteler และ Davidson ยังมีผู้คุ้มกันหลายคน Anfey และ Suzanna จะฆ่าพวกเขาได้อย่างไร”
“ฉันไม่รู้ว่า Anfey ทำได้อย่างไร” Mourtta ยิ้มอย่างขมขื่น “แต่ฉันแน่ใจว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งของมัน”
"จริงหรือ?" ฟาโรห์เอลฟ์ถาม
“ถ้าคุณสนใจ ฉันจะบอกคุณทุกอย่างที่ฉันรู้” มูร์ตต้าพูดเสียงต่ำ “อันที่จริง ตั้งแต่เริ่มแรก Hotchbini และฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่ก่อนหน้านั้น เรามีความขัดแย้งกับกลุ่มทหารรับจ้าง Glory อยู่แล้ว ต่อมา Shanteler และ Davidson ถูกสังหาร เราต้องต่อสู้กับกลุ่มทหารรับจ้าง Glory ต่อไปแม้ว่า เรารู้ว่ามีบางอย่างที่น่าสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ นอกจากนี้ เราไม่สามารถอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้น Hotchbini อธิบายให้ Shanteler ฟัง แต่น่าเสียดายที่ Shanteler สงสัยเรา ทหารรับจ้าง Glory ที่ขี้โมโหเหล่านั้นไม่อดทนพอที่จะฟังคำอธิบายของเราหลังจากที่ Shanteler ถูกฆ่าตาย ตั้งแต่นั้นมา การต่อสู้ต้องเกิดขึ้น เราต้องพยายามให้ดีที่สุด"
“หลังจากการต่อสู้ ฉันได้ทำการสืบสวนเรื่องนี้เป็นเวลานาน แต่ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับมัน” มูร์ตต้าหยุดชั่วครู่ก่อนจะพูดต่อ "แต่จู่ๆ ก็มีคนดึงความสนใจของฉันไป"
“อันเฟย์?” ฟาโรห์เอลฟ์ถาม
“ใช่” มูร์ทาพยักหน้า "เขาวางกับดักในครอสแวลลีย์และกวาดล้างหน่วยทางอากาศกริฟฟิน"
“คุณสงสัยเขาเพราะเหตุนั้นหรือ” ฟาโรห์เอลฟ์ถาม
"มาสเตอร์แอนเดอร์สัน ไม่มีใครเกิดมามีอำนาจสูงสุด ก่อนอื่นเลย เขาต้องการเวลาที่จะเติบโตและมีวิธีที่จะติดตามการเติบโตอยู่เสมอ ยกตัวอย่างแอนฟีย์ ทุกครั้งที่แอนฟีย์ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่หรือแสดงต่อสาธารณะ พลังของเขา เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก”
“เราเห็นด้วยกับสิ่งที่คุณพูด แต่…” แอนเดอร์สันกล่าว
“มาสเตอร์แอนเดอร์สัน ทนฟังผมด้วยเรื่องยาว” Mourtta ถอนหายใจเล็กน้อย "ฉันตกเป็นเหยื่อของ Anfey ดังนั้นฉันจึงรู้ดีกว่าใครๆ การจัดทัพที่เขามีต่อกลุ่มทหารรับจ้าง Glory และฉันนั้นวางแผนมาอย่างดีและโหดร้ายจนฉันสู้กลับไม่ได้แม้ว่าฉันจะรู้ว่าฉันตกหลุมพราง นี่คือลักษณะเฉพาะ ของ Anfey เมื่อ Anfey ได้รับชื่อเสียงจากการกวาดล้าง Griffin Aerial Unit ฉันรู้สึกว่ามีความคล้ายคลึงกันระหว่าง 2 เหตุการณ์นี้ ฉันแค่อยากจะลองเล่น ฉันจึงกำหนดเป้าหมายไปที่ Anfey และสืบสวนเขา ฉันค้นพบอะไรมากมาย ข้อมูลเกี่ยวกับเขา”
"คุณค้นพบอะไร" แอนเดอร์สันถาม
"ก่อนที่ Shanteler และ Davidson จะถูกสังหาร Anfey และพรรคพวกของเขามาที่ Blackwater City และพักในโรงแรมชื่อ Tuna Hotel Anfey ดูเหมือนจะกระตือรือร้นมากและกลับมาบ้านตอนดึกเสมอ เขายุ่งอยู่กับอะไร เหตุผลหลักที่ทำให้ Glory กลุ่มทหารรับจ้างและพวกเรามีความขัดแย้งกันเพราะน้องชายของ Davidson ถูกฆ่าตายที่บ้านของทหารรับจ้าง Davidson บอกว่าเป็นทหารรับจ้างของฉัน เมื่อฉันทำการสืบสวน ฉันพบว่ามีคนเห็นนักดาบสาวสวยผมดำ ตาสีดำ และเด็กสาวคนหนึ่ง Mage บนถนนวันนั้น ต่อมาฉันพบจิตรกรและคนสองสามคนที่เคยเห็น Suzanna มาก่อน ฉันขอให้จิตรกรคนนั้นวาด Suzanna และแสดงให้คนที่พบเห็น พวกเขาแน่ใจว่าผู้หญิงที่พวกเขาเห็นคือ Suzanna แค่บังเอิญหรือเปล่า” Mourtta กล่าวด้วยเสียงต่ำ
"นอกจากนี้ Anfey ยังเป็นลูกศิษย์ของ Saul โชคของเขาดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก เขาประสบปัญหาสองสามครั้งในอาณาจักร Maho สิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจคือทัศนคติของ Yolanther ที่มีต่อ Anfey เขาไม่เคยลงโทษเขาสำหรับความผิดพลาดของเขา แต่ มักจะให้รางวัลเขาเสมอสำหรับความสำเร็จใดๆ ที่เขาทำ ไม่มีประเด็นสำหรับฉันที่จะพูดถึงว่า Yolanther เป็นคนแบบไหน กุญแจสำคัญคือ: ทำไมเขาถึงชอบ Anfey มาก เป็นไปได้ไหมว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของ Saul? แค่ได้แสดงความสามารถเท่านั้นหรือ?” มูร์ต้าถามเสียงต่ำ
ฟาโรห์เอลฟ์ทั้งสามตกอยู่ในความเงียบ Mourtta ได้ชี้แจงอย่างชัดเจนมาก หากพวกเขายังคงสงสัยในการตัดสินใจของ Mourtta มันก็ไม่ต่างอะไรกับการสงสัยในสติปัญญาของพวกเขาเอง Yolanther มีความทะเยอทะยานที่จะทำให้ทั้งทวีปแพนเห็นพ้องต้องกัน Yolanther คิดว่าคนแบบไหนสำคัญ? ดูเหมือนจะอธิบายตนเอง
"ฉันมีความคิด." ฟาโรห์เอลฟ์ดูตื่นเต้นและภูมิใจมาก
"มันคืออะไร?" ทุกคนสนใจมัน
“Anfey เป็นพันธมิตรกับกลุ่มทหารรับจ้าง Glory แต่เขาเป็นนักฆ่า” ฟาโรห์เอลฟ์พูดด้วยรอยยิ้ม “Anthony ปฏิบัติต่อ Shanteler และ Davidson เหมือนพี่น้องของเขาเอง ถ้าเราบอกเขาว่า Anfey เป็นคนฆ่า Shanteler และ Davidson จริงๆ ฮิฮิฮิ คุณคิดว่า Anthony จะให้อภัย Anfey ไหม”
นี่เป็นความคิดที่ดี Manstuly, Hotchbini และคนอื่นๆ ดูตื่นเต้น มีเพียง Mourtta เท่านั้นที่ส่ายหัวโดยไม่มีความตื่นเต้น "มันไม่ได้ผล"
"ทำไมจะไม่ล่ะ?" ฟาโรห์เอลฟ์ถาม
“แอนโธนีคิดว่าเราไว้ใจได้หรือ นอกจากนี้ เราไม่มีหลักฐานเพียงพอที่จะพิสูจน์ว่าแอนเฟย์เป็นคนฆ่าพวกเขา” มูร์ตตาพูดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น
“เราต้องลองดู” Hotchbini พูดเสียงต่ำ ดวงตาของเธอเป็นสีแดง เธอมีลูกชายสามคนที่ Anfey สังหารจนถึงตอนนี้ เธอพยายามควบคุมอารมณ์ต่อหน้าคนอื่นๆ แต่เธอก็ร้องไห้คนเดียวหลายครั้ง เธอรู้ว่า Mourtta ก็หลั่งน้ำตาเช่นกัน น่าเสียดายที่เส้นทางสู่บัลลังก์นั้นมีขวากหนามอยู่เสมอ ตอนนี้พวกเขาไม่สามารถหันกลับมาได้ แม้แต่จะอยู่ที่เดิมไม่ได้ พวกเขาต้องเดินต่อไปในเส้นทางนั้นไม่ว่าจะต้องเสียเงินสักเท่าไร แม้ว่าตอนนี้จะมีลูกชายไม่กี่คนที่พวกเขาอาจถูกฆ่าตายในสงครามก็ตาม