ตอนที่ 2560 เหตุการณ์ประตูโลหิต
ผู้แปล: Silavin และ Ashish
ตัวตรวจสอบการแปล: PewPewLazerGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
Zhang Ruo Xi เก็บความเงียบของเธอไว้เป็นเวลานานก่อนที่เธอจะรวบรวมความกล้าและเริ่มเผยแพร่ Secret Art ของเธออีกครั้ง
คราวนี้ Zhang Ruo Xi รู้สึกได้อย่างชัดเจน เธอไม่เพียงแค่ดูดซับพลังงานของโลกจากการบ่มเพาะที่นี่ เธอยังดูดซับ Wild Force อีกด้วย แต่น่าแปลกที่พลังงานทั้งสองนั้นมีประโยชน์ต่อเธอโดยเฉพาะอย่างหลัง เธอแทบจะไม่ได้รับเพียงพอและไม่สามารถหยุดดูดซับมันได้ และเธอก็ไม่ต้องการ
[เกิดอะไรขึ้น? เกิดอะไรขึ้นกับร่างกายของฉัน? นี่คือ Wild Force… ใช่ไหม]
จางรัวซีรู้สึกกลัวเล็กน้อยและไม่กล้าที่จะฝึกฝนต่อไป หยุดการไหลเวียนของศาสตร์ลับของเธอและเพียงแค่นั่งอยู่ที่นั่นในความเงียบด้วยใบหน้าที่ดูสับสน
เธอไม่สามารถหาคำอธิบายใด ๆ ได้นอกจากสายเลือดของเธอ [ท่านชายเคยกล่าวไว้ครั้งหนึ่งว่าข้ามีพลังสายเลือดประหลาดที่มีความสามารถมากมายที่ไม่รู้จัก]
เธอค่อนข้างงุนงงกับสิ่งนี้ เนื่องจากเธอไม่ได้ฝึกฝนศาสตร์ลับที่ตระกูลจางสอน แต่เป็นคนที่เธอเข้าใจและคิดค้นขึ้น เธอคว้ามันมาได้ในการพยายามฝึกฝนครั้งแรกของเธอ ราวกับว่ามันถูกจารึกไว้ในส่วนลึกของจิตใจของเธอ
ขณะที่เธอนั่งด้วยความงุนงงก็ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้น สภาพแวดล้อมเงียบสงบเช่นเคย
Zhang Ruo Xi ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงหยิบ Space Spirit Jade ออกมาจาก Space Ring ของเธอ หยางไค่ได้มอบหยกวิญญาณอวกาศให้กับเธอก่อนที่จะเข้ามายังดินแดนแห่งนี้ และเขาขอให้เธอศึกษามันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น โดยบอกเป็นนัยว่ามันน่าจะมีหนทางในการปลดผนึกพลังสายเลือดของเธอ
ในขณะนี้ หลังจากที่ Zhang Ruo Xi นำ Space Spirit Jade ออกมา ร่างกายของเธอก็สั่นและเธอก็เงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางหนึ่ง
เธอรู้สึกแปลกๆ อีกแล้ว!
เธอรู้สึกแผ่วเบาว่า Space Spirit Jade ในมือของเธอกำลังสะท้อนกับบางสิ่งที่อยู่ห่างไกลออกไป และไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม มันกำลังเรียกเธอ เลือดของ Zhang Ruo Xi รู้สึกราวกับว่ามันถูกจุดไฟ ไหลเวียนเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
เธอเคยมีความรู้สึกคล้าย ๆ กันในอดีตและยืนยันได้ว่ามันไม่ได้เป็นเพียงจินตนาการของเธอ
แต่มันก็ยังเป็นความรู้สึกที่หายวับไป และมันก็หายไปอย่างรวดเร็วก่อนที่เธอจะสังเกตมันอย่างระมัดระวังมากขึ้น
เมื่อทิวทัศน์ที่งดงามทุกชนิดฉายผ่าน Space Spirit Jade จางรัวซีก็ถือมันไว้ในมือและเริ่มศึกษามันเป็นเวลานาน แต่ก็ไม่พบเบาะแสใดๆ เธอไม่เข้าใจหน้าที่และความหมายของฉากเหล่านั้น
…
ในป่าหนาทึบในส่วนลึกของดินแดนโบราณ
มันเป็นส่วนลึกที่แท้จริงของ Ancient Wild Lands ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มนุษย์ไม่เคยเหยียบย่ำมาก่อน โดยมีสัตว์อสูรและเผ่าพันธุ์สัตว์ประหลาดเพียงจำนวนนับไม่ถ้วนอาศัยอยู่และแพร่พันธุ์ที่นี่ตั้งแต่เริ่มมีการดำรงอยู่
นี่เป็นเหมือนโลกใบใหม่ แตกต่างจากดินแดนทั้งสี่ของ Star Boundary อย่างสิ้นเชิง
บนภูเขาสูงตระหง่าน วัตถุรูปวงรีเรืองแสงส่องแสงสีแดงราวกับเลือด วัตถุนี้มีสีแดงเหมือนเลือด ราวกับว่ามันถูกสร้างขึ้นจากเลือดสด ๆ แต่มันส่งกลิ่นหอมหวานและน่าหลงใหล
ประตูเลือด!
Monster Race Masters ทุกคนที่อาศัยอยู่ใน Ancient Wild Lands รู้ถึงการมีอยู่ของ Blood Gate แต่ไม่มีใครสามารถเข้าไปได้ และพวกเขาไม่รู้ว่ามีความลับอะไรซ่อนอยู่ในนั้น
อย่างไรก็ตาม ข่าวลือบางอย่างเกี่ยวกับประตูได้แพร่กระจายไปทั่วดินแดนโบราณ ว่ากันว่าประตูโลหิตซ่อนความลับเบื้องหลังเพื่อให้สิ่งมีชีวิตในดินแดนโบราณวิวัฒนาการเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ผู้อาศัยในดินแดนโบราณล้วนสืบทอดสายเลือดของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โบราณในระดับที่แตกต่างกัน แม้แต่สายเลือดของงูที่ดูธรรมดาที่สุดก็สามารถสืบย้อนไปถึงเผ่ามังกรในสมัยโบราณได้
เมื่อสายเลือดดั้งเดิมที่หลับใหลของสิ่งมีชีวิตในดินแดนโบราณได้รับการกระตุ้นและปลุกให้ตื่นขึ้น พวกเขาก็จะมีพลังที่สามารถแข่งขันกับบรรพบุรุษของพวกเขา วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แต่ตั้งแต่สมัยโบราณ จำนวนผู้อยู่อาศัยในดินแดนโบราณที่ประสบความสำเร็จในการค้นพบพลังสายเลือดของพวกเขาและ เปลี่ยนเป็น Divine Spirits สามารถนับนิ้วและนิ้วเท้าได้
ถึงกระนั้น มันก็มีข่าวลือในหมู่เผ่าพันธุ์มากมายของดินแดนโบราณว่า Blood Gate มีพลังลึกลับซึ่งจะเปิดเผยพลังสายเลือดของ Monster Race Master เหล่านั้นอย่างสมบูรณ์ หากพวกเขาสามารถกระตุ้นสายเลือดของพวกเขาได้อย่างเต็มที่ พวกเขาก็จะมีโอกาสที่ดีที่จะหวนนึกถึงความรุ่งโรจน์ของบรรพบุรุษในฐานะวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ที่ตั้งของ Blood Gate กลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์สำหรับทุกเผ่าพันธุ์ใน Ancient Wild Lands เพราะข่าวลือเหล่านี้ สิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่มั่นใจในความแข็งแกร่งหรือโชคของพวกเขาจะรีบวิ่งข้ามประตูโลหิตเพื่อกระตุ้นสายเลือดของพวกเขา แต่ไม่มีใครทำสำเร็จจนถึงทุกวันนี้
ไม่มีใครสามารถเข้าใกล้ Blood Gate ได้ ส่วนใหญ่ที่เข้าไปในระยะสิบกิโลเมตรรอบประตูโลหิตจะต้องตายอย่างอนาถและกลายเป็นแอ่งเลือดและเนื้อ
ครั้งหนึ่งมีราชาสัตว์ประหลาดที่ทรงพลัง ณ จุดสูงสุดของลำดับที่สิบสอง ซึ่งมาถึงช่วงใกล้สิ้นอายุขัยของเขาและตัดสินใจต่อสู้ครั้งสุดท้าย เขาเหลืออายุขัยไม่มากนัก และถ้าเขาไม่สามารถหาวิธีที่จะยืดอายุของเขาได้ เขาก็จะเสียชีวิตในไม่ช้าด้วยวัยชรา ดังนั้นเขาจึงเสี่ยงโชค
Blood Gate คือความหวังสุดท้ายของเขา!
ราชาสัตว์ประหลาดที่จุดสูงสุดของลำดับที่สิบสองนั้นเทียบเท่ากับปรมาจารย์อาณาจักรจักรพรรดิลำดับที่สามของเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีเพียงไม่กี่คนใน Star Boundary ทั้งหมดที่สามารถไปถึงอาณาจักรนี้ได้
ราชาสัตว์ประหลาดใช้พละกำลังและเทคนิคทั้งหมดของเขาโดยปราศจากความยับยั้งชั่งใจ แต่เขาไม่สามารถเข้าใกล้ Blood Gate ได้เกินกว่าสามกิโลเมตร ในที่สุดพระองค์ก็เพียรพยายามอยู่สามวันสามคืนที่นั่นเพียงเพื่อจะพินาศ ละลายลงกองเลือด
ตั้งแต่นั้นมา ไม่มีใครในดินแดนโบราณที่กล้าเข้าใกล้ประตูโลหิต แม้แต่ราชาสัตว์ประหลาดที่อยู่จุดสูงสุดของลำดับที่สิบสองก็ไม่สามารถเข้าสู่ประตูโลหิตและปลุกสายเลือดของพวกเขาได้ แล้วคนอื่น ๆ จะมีความหวังอะไร?
ประตูโลหิตกลายเป็นพื้นที่ต้องห้ามของดินแดนโบราณและไม่มีใครกล้าเข้าใกล้อีกเลย เพราะกลัวความตายที่รอพวกเขาอยู่ที่นั่น
นี่เป็นประเพณีที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่โชคดีที่สิ่งมีชีวิตในดินแดนโบราณล้วนมีอายุยืนยาว ยิ่งไปกว่านั้น ราชาสัตว์ประหลาดจำนวนมากที่ปกครองดินแดนขนาดใหญ่ได้เห็นการตายอย่างน่าสังเวชของราชาสัตว์ประหลาดที่จุดสูงสุดของลำดับที่สิบสองด้วยตาของพวกเขาเอง หลังจากนั้นพวกเขาได้เตือนผู้ใต้บังคับบัญชาให้อยู่ห่างจากประตูโลหิต
ในขณะนี้ ประตูโลหิตบนยอดภูเขาสูงตระหง่านที่ไม่ผ่านการเปลี่ยนแปลงใดๆ มานับไม่ถ้วนจู่ๆ ก็ปล่อยแสงสีแดงเจิดจ้าออกมา แสงสีแดงก่อตัวเป็นเสาขนาดใหญ่ทะลุเมฆ ทำให้เกิดรูขนาดใหญ่ในนั้น
แต่เสาแสงนี้หายไปอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงจุดแสงสีแดงด้านหลังที่ค่อยๆ หายไปในอากาศ
หนึ่งร้อยกิโลเมตรจาก Blood Gate งูหลามสีดำสนิทรัดเหยื่อด้วยลำตัวที่ใหญ่โต จากนั้นอ้าปากอ้ากว้างและกินมันเข้าไป
ในขณะนั้น มันหันไปทางประตูเลือดและเห็นเสาแสงสีแดงที่ส่องผ่านตรงนั้นอย่างชัดเจน
งูหลามดำเบิกตากว้างและจ้องไปยังทิศทางของ Blood Gate ด้วยความตกใจอย่างชัดเจน
ความกลัวของงูเหลือมมีเหตุผลที่ดี เนื่องจากตำนานของ Blood Gate นั้นค่อนข้างน่ากลัว มันยืนอยู่ตรงนั้นมานับไม่ถ้วนโดยไม่ผ่านการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่จู่ๆ มันก็ปล่อยแสงออกมา ดังนั้นใครบ้างจะไม่สั่นสะท้านด้วยความกลัวเมื่อเผชิญกับสิ่งนี้?
แต่เหตุการณ์กะทันหันนี้จบลงอย่างรวดเร็วและไม่ส่งผลกระทบ ดังนั้นงูหลามจึงสงบลงอย่างรวดเร็ว
งูเหลือมรออยู่นานไม่กล้าขยับเขยื้อน และหลังจากแน่ใจว่าประตูโลหิตไม่มีลักษณะพิเศษอื่น ๆ มันก็บิดลำตัวทำให้กระดูกส่งเสียงแตก ร่างยาวห้าเมตรของงูเหลือมตัวใหญ่เริ่มผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
แต่การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นใช้เวลาไม่นาน งูหลามดำกลายเป็นชายวัยกลางคนผิวคล้ำทันทีพร้อมกับจ้องมองที่ทรยศในชุดเสื้อคลุมสีดำ
ปากของชายผู้นั้นยังคงเปิดกว้าง เผยให้เห็นเขี้ยวขนาดใหญ่ของมัน และมันยังคงเคี้ยวเหยื่อของมัน ช่างเป็นภาพที่น่ากลัวทีเดียว!
พร้อมกับเสียงอึกทึก งูเหลือมดำที่กลายเป็นชายวัยกลางคนกลืนเหยื่อของเขาลงไป เป่ามันราวกับว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ตั้งท้องได้สิบเดือน แต่เมื่อเขาลูบท้องอันใหญ่โต มันก็ลดขนาดลงอย่างรวดเร็วจนเหลือขนาดปกติ
“นี่เป็นเหตุการณ์สำคัญ ฉันต้องรีบไปรายงานท่านเซอร์!”
หลังจากที่ชายวัยกลางคนพึมพำกับตัวเองด้วยความลังเลที่ปรากฏบนใบหน้า พลังปราณของมอนสเตอร์ก็เริ่มเพิ่มขึ้นและกลายเป็นลำแสงที่บินออกไปในทิศทางหนึ่ง
ความผันผวนของพลังงานที่ชายคนนั้นปล่อยออกมาถึงลำดับที่สิบเอ็ด ซึ่งเทียบเท่ากับผู้ฝึกฝนขอบเขตแหล่งกำเนิดเต๋าไม่มากก็น้อย
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง รังสีสีดำก็หยุดอยู่นอกประตูหน้าภูเขาลูกใหญ่
สัตว์ประหลาดสองตัวที่ยืนเฝ้าอยู่ที่นั่นตื่นตัวเมื่อหนึ่งในนั้นหยิบค้อนกระดูกออกมาในขณะที่อีกตัวยกหอกกระดูกสองตัวในมือของเขา จ้องเขม็งไปที่ลำแสงสีดำ
"ใครไปที่นั้น?" สัตว์ประหลาดที่มีค้อนกระดูกส่งเสียงตะโกน วางอาวุธไว้ข้างหน้าเขาขณะที่เขาพูดต่อ “นี่คือวังของราชาสัตว์ประหลาดซีเหล่ย หากคุณไม่ระบุตัวตนในทันที เราจะสังหารคุณอย่างไร้ความปราณี”
"อย่างแท้จริง!" สัตว์ประหลาดที่มีหอกกระดูกก็ตะโกนอย่างโอ่อ่า
ลำแสงสีดำหยุดอยู่ใกล้ประตูและแสดงตัว ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากงูเหลือมดำที่กลายเป็นชายวัยกลางคน
“ฉันเป็นหนึ่งในคุณ ฉันเป็นหนึ่งในคุณ พี่น้อง ฉันก็เป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของ Xi Lei และฉันมีเรื่องสำคัญที่จะรายงานให้เขาทราบ โปรดแจ้งให้เขาทราบ!” ชายวัยกลางคนกำหมัดและพูด
สัตว์ประหลาดสองตัวที่ประตูแลกเปลี่ยนสายตา จากนั้นจึงเริ่มปรับขนาดของชายคนนั้นอย่างสงสัย ไม่มีใครตำหนิผู้คุมสองคนนี้เพราะจำเขาไม่ได้เพราะมีมอนสเตอร์จำนวนมากอาศัยอยู่ในบริเวณนี้ และราชาสัตว์ประหลาดซีเหลยมีลูกน้องมากกว่าแสนคนกระจายอยู่ในพื้นที่หลายแสนกิโลเมตร พวกเขาจำใครไม่ได้นอกจากคนที่เห็นเป็นประจำ
นอกจากนี้ ไม่ใช่แค่ใครก็ตามที่สามารถรับชม Monster King Xi Lei ได้ทุกเมื่อที่เขาต้องการ
สัตว์ประหลาดที่มีหอกกระดูกอยู่ในมือเย้ยหยัน “คุณอ้างว่าคุณเป็นหนึ่งในพวกเราใช่ไหม? คุณมีหลักฐานหรือไม่”
ดูเหมือนว่าชายวัยกลางคนจะคาดหวังสิ่งนี้ไว้แล้ว เขารีบหยิบวัตถุชิ้นหนึ่งออกจาก Space Ring ของเขาและมอบให้กับทหารรักษาพระองค์ด้วยความเคารพ
เห็นได้ชัดว่า Monster Race ไม่สามารถสร้าง Space Ring ได้ แต่มนุษย์จำนวนมากมาที่นี่เพื่อแสวงหาความตาย ดังนั้น Monster เหล่านี้จึงเห็นได้ชัดว่าได้ครอบครอง Space Ring จำนวนหนึ่งที่มนุษย์ทิ้งไว้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ครั้งหนึ่งชายวัยกลางคนเคยฆ่าผู้ฝึกฝนมนุษย์และได้ Space Ring มาเป็นของตัวเอง เขามักจะใส่ทรัพย์สินทั้งหมดของเขาลงในนั้น และเขาพบว่ามันค่อนข้างสะดวก
มนุษย์ค่อนข้างเก่งในการใช้สมองของพวกเขา และสามารถสร้างสิ่งดีๆ ได้มากมาย เช่น สิ่งประดิษฐ์และยาเม็ดวิญญาณ น่าเสียดายจริง ๆ ที่ไม่มีใครใน Monster Race สามารถสร้างสิ่งที่สวยงามเช่นนี้ได้
สัตว์ประหลาดที่มีค้อนกระดูกรับวัตถุที่ส่งมาให้เขาและเขาพบว่ามันเป็นสัญลักษณ์ที่ทำจากกระดูกโดยมีการออกแบบเป็นแรดควบม้า รวมถึงมีตัวอักษร 'Lei (雷)' ขนาดใหญ่อยู่ด้วย
นี่คือโทเค็นที่สร้างขึ้นโดย Monster King Xi Lei มันถูกสร้างขึ้นอย่างหยาบๆ แต่ไม่มีใครสามารถเลียนแบบได้ เพราะพวกมันทั้งหมดทำมาจากกระดูกของสัตว์ประหลาดตัวเดียวกัน
สัตว์ประหลาดสองตัวที่ยืนเฝ้าประตูได้เห็นโทเค็นจำนวนมากและพวกเขาสามารถรับรู้ได้ด้วยตาเดียวว่าเป็นของแท้
Monster Race Masters เพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่สามารถรับโทเค็นนี้ได้ ในบรรดามอนสเตอร์กว่าแสนตัว มีเพียงสองพันตัวเท่านั้นที่มีหนึ่งตัว และมันเป็นสัญลักษณ์แสดงสถานะชนิดหนึ่ง
ดังนั้น เมื่อเห็นชายวัยกลางคนนำโทเค็นกระดูกออกมา สีหน้าของสัตว์ประหลาดสองตัวที่ยืนเฝ้าอยู่ที่ประตูก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น คนที่ถือค้อนกระดูกพูดว่า “ถึงแม้คุณจะเป็นหนึ่งในผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา แต่เราก็ยังให้คุณเข้าไปไม่ได้ ท่านรับสั่งว่าอย่ารบกวนเขาในเรื่องเล็กน้อยและเล็กน้อย ถ้าคุณมีอะไรจะบอกเขา แค่บอกเรา แล้วเราจะส่งข้อความของคุณไปให้เขา”
ชายวัยกลางคนกล่าวอย่างกังวลว่า “นี่ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยหรือไม่สำคัญ ฉันต้องคุยกับเซอร์เป็นการส่วนตัว!”
นี่อาจเป็นคุณูปการที่ยิ่งใหญ่สำหรับท่านซีเหล่ย ดังนั้นชายวัยกลางคนจะว่าจ้างชายกลางคนอื่นให้ทำหน้าที่แทนเขาได้อย่างไร