ตอนที่ 2580 ศัตรูตามธรรมชาติของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์
ผู้แปล: Silavin และ Ashish
ตัวตรวจสอบการแปล: PewPewLazerGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
“แขกผู้มีเกียรติ คุณใจดีจริงๆ ยกโทษให้ผู้อาวุโสคนนี้ที่ช่างสงสัยและมองโลกในแง่ร้ายมากเกินไป” ผู้อาวุโสยิ้มเบา ๆ ลูบเคราของเขา
Yang Kai กล่าวเสริมว่า “อันที่จริง ฉันหวังว่า Xiao Xiao จะอยู่กับคุณตั้งแต่แรก ฉันพอใจแล้วที่ได้พบเขา”
อย่างที่เขาพูด เนื่องจากเสี่ยวเสี่ยวพบกลุ่มของเขาแล้ว การอยู่กับคนในตระกูลจึงดีกว่าการอยู่คนเดียวกับหยางไค่ สิ่งมีชีวิตทั้งหลายในโลกไม่ว่าจะเป็นชนิดใดล้วนเป็นสัตว์สังคม หากพวกเขาอยู่ตามลำพัง พวกเขาจะเสียสติไม่ช้าก็เร็ว
ผู้อาวุโสและมู่นาชำเลืองมองกันและกันก่อนที่จะพยักหน้าเบา ๆ ดูเหมือนจะเห็นด้วยกับหยางไค่
มู่นาถามด้วยรอยยิ้ม “แขกผู้มีเกียรติ ฉันสงสัยว่าคุณเคยได้ยินเกี่ยวกับประตูโลหิตหรือไม่”
หยางไค่ขมวดคิ้ว ไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนหัวข้อเป็นเรื่องนี้ แต่เขายังคงตอบด้วยการพยักหน้า “ข้าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้เลยก่อนที่จะมาที่ดินแดนโบราณ แต่บังเอิญข้าเคยได้ยินตำนานเกี่ยวกับ Blood Gate เมื่อสองสามวันก่อน”
ดวงตาที่สวยงามของมู่นาเป็นประกายในขณะที่เธอพูดต่อ “แขกผู้มีเกียรติ ในเมื่อเจ้ารู้เรื่องนี้แล้ว นี่จะช่วยราชินีองค์นี้ไม่ต้องลำบากในการอธิบายเรื่องนี้ให้เจ้าฟัง”
หยางไค่ถามด้วยความประหลาดใจ “ประตูโลหิตเกี่ยวข้องอะไรกับเจ้า”
มู่นาไม่ได้พูดในครั้งนี้ แต่หันไปมองผู้อาวุโสวิญญาณหิน ผู้ซึ่งตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ประตูเลือดเชื่อมโยงกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในดินแดนโบราณ ในดินแดนโบราณมีคำกล่าวว่า: ถ้าใครสามารถเข้าไปใน Blood Gate ได้ เขาหรือเธอสามารถเกิดใหม่ได้ กระตุ้นสายเลือดบรรพบุรุษของเขาหรือเธอและเปลี่ยนเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!”
Xie Wu Wei ก็พูดแบบเดียวกันนี้เมื่อไม่กี่วันก่อนเช่นกัน ดังนั้น Yang Kai ก็ยังจำมันได้
เอ็ลเดอร์กล่าวต่อ “แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะเคยได้ยินข่าวลือนี้ แต่พวกเขาก็ไม่มีทางยืนยันได้ มีเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง”
การแสดงออกของหยางไค่เปลี่ยนไปเล็กน้อยในขณะที่เขาถามว่า “สายเลือดของบรรพบุรุษสามารถถูกกระตุ้นได้จริงหรือ และเขาหรือเธอจะกลายเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์หลังจากเข้าสู่ประตูโลหิตแล้ว?”
ผู้อาวุโสหัวเราะเบา ๆ ก่อนตอบว่า “ไม่จำเป็น มันเป็นเพียงโอกาส นั่นคือทั้งหมด”
หยางไค่สนใจและถามทันทีว่า “ฉันอยากฟังรายละเอียด”
ผู้อาวุโสครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งในขณะที่เขากำลังเรียบเรียงคำพูดของเขาก่อนที่จะพูดในที่สุด “สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ของดินแดนโบราณนั้นสืบเชื้อสายมาจากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์โบราณ ดังนั้นจึงสืบทอดสัดส่วนของสายเลือดโบราณของพวกเขา และเฉพาะผู้ที่ปฏิบัติตามเงื่อนไขนี้เท่านั้นที่จะกลายเป็น วิญญาณศักดิ์สิทธิ์หลังจากเข้าสู่ประตูโลหิต! นอกจากนี้ กระบวนการนี้เป็นอันตรายอย่างมาก อาจกล่าวได้ว่าเก้าในสิบจะต้องตายอย่างแน่นอน”
มู่น่ากล่าวเสริม “แขกเอ๋ย ในเมื่อเจ้ากล้าที่จะเข้าสู่ดินแดนป่าโบราณ การฝึกฝนของเจ้าจะอ่อนแอไม่ได้ ดังนั้นข้าถือว่าเจ้าได้สัมผัสกับแหล่งที่มาของความแข็งแกร่งแล้วใช่หรือไม่?”
หยางไค่พยักหน้ายืนยัน ผู้ฝึกฝนจะได้สัมผัสกับแหล่งที่มาของความแข็งแกร่งในอาณาจักรต้นกำเนิดเต๋าแล้ว และเขาก็เป็นปรมาจารย์อาณาจักรจักรพรรดิแล้ว ดังนั้นเขาจะไม่คุ้นเคยกับมันได้อย่างไร
มู่นากล่าวต่อ “หากใครอยากเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และได้รับเกียรติจากบรรพบุรุษของพวกเขา การเข้าสู่ประตูโลหิตเป็นเพียงก้าวแรก ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ หลังจากเข้าสู่ Blood Gate นั่นคือเวลาที่การทดสอบจริงเริ่มต้นขึ้น สิ่งมีชีวิตส่วนใหญ่ใน Ancient Lands คิดว่าการเข้าสู่ Blood Gate ก็เพียงพอที่จะกลายเป็น Divine Spirit แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่ผิดทางเทคนิค แต่เป็นการตีความความจริงที่ค่อนข้างไร้เดียงสา พวกเขารู้เพียงผลลัพธ์สุดท้ายที่เป็นไปได้ แต่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับกระบวนการที่เกี่ยวข้อง”
“แล้วเป็นการทดสอบแบบไหนล่ะ” หยางไค่ขมวดคิ้วแน่น ฉวยความคิดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว
เอ็ลเดอร์ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทุกดวงมีแหล่งกำเนิดวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง ความเกลียดชังทางสายเลือดเป็นแง่มุมหนึ่งของการฟื้นสถานะของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ แต่ปัจจัยที่สำคัญกว่าคือการได้รับการยอมรับจากแหล่งที่มาของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ หลังจากได้รับการยอมรับและยอมรับแหล่งที่มาของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แล้ว เราจะมีโอกาสกลายเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงได้”
แม้ว่านี่จะเป็นคำอธิบายที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่หยางไค่ก็เข้าใจในทันที
แหล่งที่มาของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นการดำรงอยู่ที่แปลกประหลาดมาก ตัวอย่างเช่น Phoenix True Fire เป็นแหล่งกำเนิด Fire Phoenix หากมีใครสามารถรับ Phoenix True Fire ได้ เขาหรือเธออาจมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็น Fire Phoenix เช่นเดียวกับในกรณีของ Liu Yan แต่ไม่ว่าเธอจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับโชคของเธอ ถ้าเธอไม่ได้รับการยอมรับจาก Phoenix True Fire มันจะเป็นหายนะสำหรับ Liu Yan นี่เป็นแบบทดสอบสำหรับเธอ
กล่าวอีกนัยหนึ่ง ถ้าใครต้องการเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ พลังสายเลือดและแหล่งที่มาวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้
หยางไค่ตกตะลึงและถามอย่างลังเลว่า “คุณหมายความว่ามีแหล่งที่มาของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในประตูโลหิตหรือไม่”
เอ็ลเดอร์และหมู่นาชำเลืองมองกันและกัน รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย พวกเขารู้สึกว่าหยางไค่เฉียบแหลมเกินไป ในขณะที่เขามาถึงข้อสรุปนี้ด้วยเงื่อนงำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผู้อาวุโสเห็นด้วยกับการพยักหน้า “ถูกต้อง มีแหล่งกำเนิดวิญญาณศักดิ์สิทธิ์อยู่ภายในประตูโลหิต หากมีใครมีโอกาสเข้าไปในนั้น เขาหรือเธออาจพยายามผสานเป็นหนึ่งเดียว และถ้าเขาทำสำเร็จ พวกเขาก็จะกลายเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ได้จริงๆ แต่ถ้าเขาหรือเธอทำไม่ได้ พวกเขาก็จะพบกับจุดจบ”
“จะมีแหล่งกำเนิดวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ภายในประตูโลหิตได้อย่างไร” หยางไค่ตกตะลึง
เอ็ลเดอร์ตอบด้วยรอยยิ้มขมขื่น “เพราะประตูโลหิตเป็นเพียงทางเข้า มี Divine Spirit Palace อยู่ภายใน Blood Gate ซึ่งเป็นที่เก็บ Divine Spirit Sources จำนวนมาก อาจกล่าวได้ว่าแหล่งที่มาเกือบทั้งหมดจากวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ในสมัยโบราณถูกเก็บไว้ที่นั่น”
หยางไค่ตกใจอย่างมากอีกครั้ง “เป็นไปได้อย่างไร?”
จู่ๆ เขาก็เดาอย่างมีการศึกษาและถามด้วยความตกใจว่า “เป็นไปได้ไหมว่าที่นี่เป็นเหมือนสุสานหมื่นวิญญาณ ซึ่งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นจะเข้ามาเองเมื่อถึงเวลาแห่งความตายที่กำหนดไว้ล่วงหน้ามาถึง โดยทิ้งพลังแห่งแหล่งที่มาไว้หลังจากการตายของพวกเขา? ”
ถ้าไม่ เป็นไปได้อย่างไรที่มีแหล่งกำเนิดวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ภายในวังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้
“ไม่ใช่อย่างนั้น” มู่ นู พูดพร้อมส่ายหัว “สวรรค์ไม่ลำเอียงในทุกสิ่ง วิญญาณศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งเกินไป และในสมัยโบราณ มนุษย์ไม่สามารถต้านทานพวกมันได้ มีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จำนวนมากเกินไปในยุคแรกๆ ของจักรวาล และแต่ละดวงก็ทรงพลังอย่างเหลือเชื่อ ความแข็งแกร่งมหาศาลดังกล่าวทำให้วิญญาณศักดิ์สิทธิ์โบราณจำนวนมากกลายเป็นคนโหดร้ายและรุนแรงมาก พวกมันต่อสู้กันทุกรอบ ก่อกวนโลกรอบตัวพวกมันและสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ทั้งหมดที่มีอยู่ อย่างไรก็ตาม ทุกสิ่งในจักรวาลล้วนมีความซวยของมัน เช่นเดียวกับหยินและหยางที่สวนทางกันและสร้างความสมดุลให้กันและกัน อยู่มาวันหนึ่ง ปรมาจารย์ผู้ไร้เทียมทานถือกำเนิดขึ้นในหมู่มนุษย์ ผู้ซึ่งมีความสามารถตามธรรมชาติในการยับยั้งวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ อาจกล่าวได้ว่าบุคคลนั้นเป็นศัตรูตามธรรมชาติของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมด อาจารย์ท่านนั้นใช้เวลาหลายปีนับไม่ถ้วนเพื่อจัดการกับ Divine Spirits ที่ออกอาละวาดและนำแหล่งที่มาของพวกมันไปผนึกไว้ใน Divine Spirit Palace จากนั้นปรมาจารย์ผู้ไร้เทียมทานคนนั้นได้ผนึกวังวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และซ่อนมันไว้ในประตูโลหิต ตัดมรดกของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นออก ป้องกันไม่ให้พวกเขาแพร่กระจายการทำลายล้างต่อไป”
“ศัตรูตามธรรมชาติของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!” หยางไค่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าจะมีบุคคลเช่นนี้อยู่ในโลกนี้ คนแบบนั้นต้องเข้มแข็งขนาดไหน?
หนูหม่ากล่าวเสริมอย่างเคร่งขรึมว่า “แม้ว่าอาจารย์ท่านนั้นจะแข็งแกร่งตามตำนาน แต่ความแข็งแกร่งของอาจารย์นั้นไม่เกินอาจารย์ในยุคนั้นมากนัก แต่เนื่องจากความสามารถโดยธรรมชาติของอาจารย์ในการปราบปรามวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาจึงสามารถบรรลุสิ่งที่พวกเขามีได้ ไม่มีวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ใดสามารถต่อต้านได้เมื่อเผชิญหน้ากับอาจารย์ผู้นั้น และชีวิตของพวกเขาทั้งหมดขึ้นอยู่กับอาจารย์ท่านนั้นที่จะควบคุม! ดังนั้นจึงมีแหล่งที่มาของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์มากมายภายใน Divine Spirit Palace บุคคลนั้นถูกเรียกว่า Heaven's Order บังคับใช้ความยุติธรรมในนามของสวรรค์ Heaven's Order ใช้ดาบ Heaven's Order และไม่ว่าอาจารย์จะไปที่ใด วิญญาณศักดิ์สิทธิ์ก็จะถอยกลับไป ทุกคนตัวสั่นเมื่อเอ่ยถึง ‘คำสั่งสวรรค์’”
[คำสั่งจากสวรรค์!]
หยางไค่จดจำมันได้และพยักหน้าเบา ๆ แต่ในไม่ช้า เขาก็ถามอย่างสงสัยอีกครั้ง “คุณรู้เรื่องโบราณเช่นนี้ได้อย่างไร”
มู่นาชำเลืองมองผู้อาวุโสซึ่งหัวเราะเบา ๆ และอธิบายว่า “ถ้าคุณต้องการพูดคุยเกี่ยวกับอายุขัย ฉันเกรงว่าจะไม่มีเผ่าพันธุ์ใดในโลกนี้ที่จะมีอายุยืนยาวกว่าเผ่าวิญญาณหินของฉัน สิ่งเหล่านี้ได้รับการส่งต่อคำต่อคำจากรุ่นสู่รุ่นใน Stone Spirit Clan ของฉัน ซึ่งเป็นเพียงเรื่องของสองชั่วอายุคนเท่านั้น นั่นคือทั้งหมด”
[สองชั่วอายุคนสุดท้าย!?] มุมปากของหยางไค่กระตุกเมื่อเขาตระหนักว่า Stone Spirit Elder เป็นสัตว์ประหลาดที่แก่กว่าที่เขาคิดไว้เดิม อาจมีอายุหลายแสนปีแล้ว ไม่น่าแปลกใจเลยที่เขาดูแก่มาก!
หยางไค่หายใจเข้าลึก ๆ ทำให้หัวใจที่เต้นแรงของเขาสงบลง ก่อนจะถามอย่างสงสัยใคร่รู้ “ท่านผู้อาวุโสและผู้อาวุโส ท่านเรียกข้ามาที่นี่ด้วยเหตุผลใด และบอกเรื่องนี้แก่ข้าโดยเฉพาะ”
ทันใดนั้นผู้อาวุโสก็มองเขาด้วยสีหน้าจริงจังก่อนที่จะพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ผู้อาวุโสท่านนี้ต้องการขอความช่วยเหลือจากแขกผู้มีเกียรติเพื่อดึงแหล่งที่มาของวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ที่บรรพบุรุษของเผ่าวิญญาณหินของฉันทิ้งไว้”
หยางไค่ตกตะลึง “ผู้อาวุโส บรรพบุรุษของเผ่าวิญญาณหินของคุณคือวิญญาณศักดิ์สิทธิ์!?”
ผู้อาวุโสพยักหน้า “ใช่ บรรพบุรุษของ Stone Spirit Clan เป็นที่รู้จักกันในชื่อ Tai Yue ในอดีต เพราะเขาขัดต่อคำสั่งของสวรรค์ เขาจึงถูกฆ่าตาย จากนั้นคำสั่งของสวรรค์ก็รวบรวมพลังต้นกำเนิดของเขาและผนึกไว้ใน Divine Spirit Palace”
ใบหน้าของหยางไค่กระตุก “แต่ทำไมเจ้าถึงคิดว่าข้าสามารถช่วยเจ้าได้? ฉันไม่เข้าใจประเด็นนี้เลย นอกจากนี้ มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นที่ Blood Gate ในตอนนี้ และสี่ผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์สัตว์ประหลาดกำลังจับตาดูมันอย่างใกล้ชิด มันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าสู่ Blood Gate ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้”
มู่นาเห็นด้วย “เรารู้เรื่องนี้โดยธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของ Blood Gate เป็นสัญญาณจากสวรรค์ ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งนี้ เราก็คงไม่คิดแผนนี้ขึ้นมาเช่นกัน”
ผู้อาวุโสเสริมด้วยการถอนหายใจ “แม้ว่ากลุ่มวิญญาณหินจะแข็งแกร่ง มันไม่ง่ายเลยที่เราจะมีชีวิตรอดต่อไป เนื่องจากความแข็งแกร่งและความสามารถพิเศษที่เราใช้ ประมุขเทพผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ของดินแดนโบราณจึงต้องการที่จะปราบเราอยู่เสมอเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขาเอง กาลก่อน ท้าวมหาพรหมทั้งสี่ได้ยื่นคำขาดแก่พวกเราว่า หากพวกพ้องของพวกเราไม่ยอมแพ้ พวกพวกเราจะถูกทำลายล้างทั้งหมด หากกลุ่มของเราต้องการต่อต้าน เราจะทำได้ก็ต่อเมื่อเรามีพลังเท่ากับพวกเขา และ Blood Gate คือโอกาสสุดท้ายของเรา”
หยางไค่ขมวดคิ้ว เขารู้ว่ากลุ่ม Stone Spirit ไม่มีทางเลือกอื่น ดังนั้นพวกเขาจึงพิจารณา Blood Gate โดยต้องการนำแหล่งกำเนิดของ Tai Yue กลับคืนมาเพื่อต่อสู้กับสี่ประมุขศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่
ตอนนี้ Xiao Xiao เป็นสมาชิกของ Stone Spirit Clan ดังนั้นการอยู่รอดของ Stone Spirit Clan จึงสอดคล้องกับความสนใจของเขา หยางไค่ไม่สามารถเพิกเฉยต่อสถานการณ์ของพวกเขาได้
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง หยางไค่ก็เสนอว่า “หากผู้อาวุโสต้องการ ข้าจะพาเจ้าออกจากดินแดนป่าโบราณ แม้ว่าเทวทูตทั้งสี่จะทรงพลัง แต่ตราบใดที่เจ้าออกจากสถานที่นี้ ข้าเกรงว่าเจ้าจะอยู่ไกลเกินเอื้อม”
เอ็ลเดอร์ยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะพูดว่า “เราไม่สามารถจากบ้านเกิดเมืองนอนของเราได้ โปรดยกโทษให้ฉันด้วย”
เขาถูกปฏิเสธ
Mu Na กล่าวว่า “ผู้อาวุโสต้องการให้ Shi Jiu สืบทอดอำนาจของ Tai Yue ถ้าเขาทำสำเร็จ Shi Jiu จะเป็น Tai Yue คนใหม่ เมื่อถึงตอนนั้น เขาจะมีพละกำลังในการปกป้องกลุ่มวิญญาณหินและกลุ่มวิญญาณไม้ Shi Jiu ได้รับการเลี้ยงดูจากคุณ ดังนั้นคุณต้องต้องการสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเขาด้วย ฉันพูดถูกไหม”
[ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าถูกล่อลวง?] หยางไค่อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ยินว่าผู้อาวุโสต้องการให้เสี่ยวเสี่ยวสืบทอดอำนาจของไท่เยว่ หยางไค่จึงถูกล่อลวงเล็กน้อยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากเสี่ยวเสี่ยวสามารถสืบทอดพลังของไท่เยว่ได้ เขาจะเป็นวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ดวงใหม่
แม้จะเคลื่อนไหว แต่หยางไค่ยังคงถามอย่างเคร่งขรึมว่า “ทำไมคุณถึงปล่อยให้เสี่ยวเสี่ยวสืบทอดอำนาจของไท่เยว่? ไม่มีผู้สมัครคนอื่นเลยเหรอ?”
ผู้อาวุโสตอบด้วยรอยยิ้ม “สือจิ่วยังเด็กและอ่อนแอ ถ้าเขาได้รับมรดก โอกาสประสบความสำเร็จก็จะสูงขึ้น”
“อีกนัยหนึ่งคือยังมีความเป็นไปได้ที่จะล้มเหลว?” หยางไค่ขมวดคิ้ว
เอ็ลเดอร์และหมู่นาจมอยู่ในความเงียบ เห็นได้ชัดว่าคำถามนี้ตอบยาก
หยางไค่ถามด้วยท่าทางอดทน “เสี่ยวเสี่ยวรู้เรื่องนี้หรือไม่”
ผู้อาวุโสยืนยันด้วยการพยักหน้า “ฉันได้ปรึกษา Shi Jiu เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว และเขาก็เห็นด้วยเช่นกัน”
หยางไค่พูดอย่างไม่สบอารมณ์ “ถ้าข้าไม่ช่วยเจ้า เจ้าก็ยังจะรีบเข้าไปในประตูโลหิต!?”
"ถูกตัอง!" ผู้อาวุโสตอบตกลง
สีหน้าของหยางไค่เปลี่ยนเป็นมืดมนทันที ในเมื่อพวกเขาได้ตัดสินใจไปแล้ว ทำไมพวกเขาถึงเอาแต่บอกเรื่องนี้กับเขาในตอนนี้? แม้ว่าเขาจะมีความประทับใจที่ดีต่อเผ่าวิญญาณหินและเผ่าวิญญาณไม้ แต่หยางไค่ก็ไม่ได้มีมิตรภาพที่ลึกซึ้งกับพวกเขา หากพวกเขาต้องการขึ้นศาลประหารชีวิต หยางไค่จะสนใจเรื่องนี้น้อยลง แต่ประเด็นก็คือเสี่ยวเสี่ยวมีส่วนเกี่ยวข้อง
หยางไค่แอบคิด [แล้วข้าจะหาโอกาสพาเสี่ยวเสี่ยวหนีไปได้อย่างไร ช่วยตัวเองให้รอดพ้นจากปัญหาที่ต้องลงไปคลุกเคล้าในน้ำโคลนนี้…]