ตอนที่ 2839 เวลาไม่รอเรา
ผู้แปล: Silavin และ Danny
ตัวตรวจสอบการแปล: PewPewLazerGun
บรรณาธิการและพิสูจน์อักษร: Leo of Zion Mountain และ Dhael Ligerkeys
หยางไค่ยิ้มเบา ๆ และพยักหน้าขณะที่เขาเดินผ่านไป
นักรบคนเถื่อนจ้องมองที่ด้านหลังของเขาเป็นเวลานานก่อนที่จะถอนสายตาและหัวเราะเบา ๆ “น่าสนใจ!”
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ชาแมน แต่เขาก็ควบคุมร่างกายของเขาในระดับที่รุนแรง และในฐานะหัวหน้าองครักษ์ของคิงซิตี้ ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าปรมาจารย์ชาแมนระดับสูง เมื่อเทียบกับ Shaman Grandmaster แล้ว สิ่งที่เขาขาดไปคือคาถา Shamanic ที่ใช้เพื่ออวยพรสมาชิกในเผ่าของเขา หากพวกเขาต้องต่อสู้ ไม่มี Shaman Grandmaster คนใดที่นี่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้ อย่างไรก็ตาม Shaman Grandmaster ที่มีรูปร่างผอมบางคนนี้ได้จุดประกายจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขา
ผู้ที่สามารถจุดประกายความปรารถนาที่จะต่อสู้คือคู่ต่อสู้ที่ทรงพลังซึ่งไม่สามารถถูกบดขยี้ได้ฝ่ายเดียว!
สิ่งนี้เห็นได้ชัดเมื่อหยางไค่มองเข้าไปในดวงตาของเขาอย่างสงบ แม้ว่าจะไม่ได้รับการอวยพรจาก Shamanic Spell ในการจ้องมองของเขา แต่มันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของเขาระเบิดออกมา เป็นไปไม่ได้ที่ Shaman Grandmaster คนใดจะทนต่อแรงกดดันแบบนี้ได้ แต่ Yang Kai ก็ทำได้โดยไม่ยาก
[ช่างเป็น Shaman Grandmaster ที่น่าสนใจจริงๆ ร่างกายของเขาดูอ่อนแอและตัวเล็ก แต่ภายในนั้นมีพลังที่เหนือจินตนาการซ่อนอยู่ ชาแมนตูควรจะขอบคุณฉัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันปรากฏตัวทันเวลา เขาคงไม่สามารถหลีกเลี่ยงความอัปยศอดสูในที่สาธารณะได้…]
…
ภายในห้องโถงใหญ่ บุรุษผู้มีออร่าลึกล้ำราวท้องทะเลยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ เอามือไพล่หลัง รอการมาถึงของทุกคนอย่างเงียบๆ
แม้ว่าชาแมนกว่าร้อยคนจะเข้าไปในห้องโถงแล้ว แต่ก็เป็นเวลาก่อนที่ชายคนนี้จะหันกลับมา คิ้วของเขาขมวด ดูเหมือนเป็นกังวลเกี่ยวกับบางสิ่ง
เขาเงยหน้าขึ้นมองฝูงชนและแนะนำตัวเองเสียงดัง “ราชาผู้นี้คือ Shaman Dang Shaman King คนที่หกของ South Barbarian Clan บางคนอาจจะรู้จักฉันแล้ว บางคนอาจจะเคยได้ยินแต่ชื่อฉัน ในขณะที่คนอื่นไม่รู้ว่าฉันเป็นใคร แต่ไม่เป็นไร เพราะตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราคงต้องเจอกันบ่อยๆ”
“สวัสดีครับ ท่านชาแมนคิง!” ทุกคนชูกำปั้นขึ้นเหนือหน้าอกและโค้งคำนับ
หยางไค่ก็อยู่ที่นั่นด้วย ดวงตาของเขากะพริบเล็กน้อย ชาแมนคิงคนที่หก หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ชาแมนคิงของเผ่าอนารยชนใต้ ผู้ชายคนนี้อยู่ในอันดับที่หกในแง่ของความแข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังไม่ทราบว่ามี Shaman Kings กี่คนที่อยู่ภายใต้เขา
หยางไค่รู้แต่เพียงว่าเผ่าอนารยชนใต้ขาดนักบุญชาแมน มี Shaman Saints เพียงสี่คนในเผ่า Barbarian โบราณทั้งหมด ซึ่งแต่ละเผ่าเป็นผู้บังคับบัญชากลุ่มใหญ่ที่สุดสี่กลุ่มตามลำดับ ในบรรดาเผ่าอนารยชนทางใต้ ชาแมนคิงที่ทรงพลังที่สุดคือชาแมนคิงระดับสูง แต่หยางไค่ไม่รู้จักชื่อของเขา
ความรู้ส่วนใหญ่ของเขาเกี่ยวกับ South Barbarian Clan นั้นได้รับการสอนโดยหัวหน้าหมู่บ้าน และในฐานะหมอผีฝึกหัดระดับต่ำ ข้อมูลที่หัวหน้าหมู่บ้านมีนั้นค่อนข้างจำกัดอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันเชื่อว่าทุกคนรู้เหตุผลที่ฉันถูกเรียกตัว เป็นเพราะการรุกรานของ Demon Race ซึ่งได้กำจัดสามเผ่าไปแล้ว!” เสียงของ Shaman Dang ทุ้มและต่ำ แต่ก็ได้ยินชัดเจนถึงหูของทุกคน
เมื่อเขากล่าวว่าทั้งสามกลุ่มถูกกำจัด ใบหน้าของปรมาจารย์ชามานร้อยคนก็เคร่งขรึม
แต่ละเผ่าในสามเผ่านี้ไม่ได้อ่อนแอกว่าเผ่าอนารยชนใต้และอยู่ภายใต้การดูแลของราชาชาแมนระดับสูงอย่างน้อยหนึ่งคน และปรมาจารย์ชาแมนมากถึงสองร้อยคน รวมถึงชาแมนคนอื่นๆ นับพันถึงหมื่นคน แต่พวกเขายังคงถูกกำจัด กล่าวอีกนัยหนึ่ง หากกลุ่มอนารยชนใต้เผชิญหน้ากับศัตรูประเภทนี้ จุดจบของพวกเขาก็จะเหมือนกัน
เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับสามเผ่าที่ถูกทำลายเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวกับเผ่าอนารยชนโบราณทั้งหมดด้วย
“อย่างไรก็ตาม ข่าวนั้นล้าสมัยไปแล้ว!” คำพูดของ Shaman Dang ดูเหมือนจะสร้างแรงกระเพื่อมนับพัน และเมื่อผู้คนมองมาที่เขาด้วยความงุนงง เขาพูดต่อ “ในช่วงไม่กี่วันที่เรารวมตัวกัน กลุ่ม Billowing ก็ถูกกำจัดเช่นกัน!”
"อะไร?"
"จริงหรือ?"
“แม้แต่เผ่า Billowing ก็ถูกทำลาย”
“ว่ากันว่า Shaman King คนแรกของกลุ่ม Billowing มีแนวโน้มมากที่สุดที่จะก้าวไปสู่การเป็น Shaman Saint คนที่ห้าภายในหนึ่งร้อยปี เกิดอะไรขึ้นกับเขา?"
บรรดาปรมาจารย์ชามานต่างอุทานกัน และใบหน้าของพวกเขาก็อัปลักษณ์ อย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่สามารถถูกตำหนิได้ เพราะความแข็งแกร่งโดยรวมของเผ่า Billowing นั้นแข็งแกร่งกว่าเผ่าส่วนใหญ่ของเผ่าอนารยชนโบราณ ซึ่งด้อยกว่าสี่เผ่าชั้นนำเท่านั้น
ข่าวการทำลายล้างของ Billowing Clan มาอย่างกะทันหันเกินไป และเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะตกตะลึง
Shaman Dang พูดต่อด้วยน้ำเสียงทุ้ม “เผ่า Billowing ไม่มีผู้รอดชีวิต ไม่ใช่คนเดียว!”
ห้องโถงเงียบมากจนแม้แต่เข็มก็ได้ยินถ้าตกลงไปที่พื้น ไม่มีผู้รอดชีวิต ซึ่งหมายความว่าทุกคนเสียชีวิต รวมถึง Shaman King ผู้ทรงพลังซึ่งมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเป็น Shaman Saint
สงครามใกล้เข้ามาแล้ว และความมั่นใจของทุกคนก็สั่นคลอนเมื่อได้ยินข่าวนี้ เมื่อพิจารณาว่า Demon Race ได้ทำลาย Billowing Clan พวกเขาจะน่ากลัวแค่ไหน? ใครจะต้านทานพวกเขาได้?
Shaman Dang ดูเหมือนจะเข้าใจความคิดของพวกเขา และกดดันต่อไป “Shaman Saints ทั้งสี่เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว และฉันเชื่อว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเพียงพอที่จะสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับ Demon Race แต่สงครามครั้งนี้เกี่ยวข้องกับเผ่า Barbarian ทั้งหมดของเรา แม้ว่า Shaman Saints จะแข็งแกร่ง แต่เราก็ไม่สามารถวางภาระทั้งหมดให้กับพวกเขาได้ อนารยชนทุกคนต้องทำหน้าที่ของตน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม King City จึงเรียกคนจากเผ่าทั้งหมดมาที่นี่อย่างเร่งด่วน”
ทุกคนรู้สึกโล่งใจเมื่อทราบข่าวว่าสี่ Great Shaman Saints กำลังดำเนินการ Shaman Saints เป็นสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกนี้ และด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา การรุกรานของเผ่าพันธุ์ปีศาจสามารถยับยั้งได้ อย่างไรก็ตาม Shaman Dang พูดถูก นี่เป็นสงครามที่เกี่ยวข้องกับเผ่าคนเถื่อนทั้งหมด ไม่มีใครหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบได้ แม้ว่า Shaman Saints จะทรงพลัง แต่สุดท้ายก็มีเพียงสี่คนเท่านั้น
“ฉันเชื่อว่าคุณอาจต้องการถามฉันว่า Demon Race คืออะไร มาจากไหน และทำไมพวกเขาถึงต้องการทำลายเผ่า Barbarian ของเรา” Shaman Dang กวาดสายตามองผู้ชมและพูดต่อด้วยเสียงทุ้ม “นี่ คิงอยากจะบอกคุณเหมือนกัน แต่เขาไม่รู้เรื่องพวกนี้มากนัก อย่างไรก็ตาม โปรดจำไว้ว่า Demon Race เป็นศัตรูตัวฉกาจของ Barbarian Race และไม่มีทางที่เราจะอยู่ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกันได้ ตราบใดที่ยังมีคนเถื่อนคนเดียวที่ยังคงยืนหยัดและหายใจไม่ออก เผ่าพันธุ์ปีศาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้ปนเปื้อนในดินแดนแห่งนี้!”
กำลังใจของ Shaman Grandmaster ได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากคำพูดของเขา พวกเขาดูตื่นเต้นและพร้อมที่จะต่อสู้จนตัวตาย ราวกับว่าพวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะบินไปที่สนามรบ ย้อมท้องฟ้าสีฟ้าเป็นสีแดงเลือด และใช้ชีวิตของพวกเขาเพื่อผลักดันการรุกรานของ Demon Race
หยางไค่สังเกตพวกเขาอย่างเฉยเมย โดยคิดว่าเผ่าอนารยชนโบราณนั้นมีจิตใจที่เรียบง่าย คำพูดของ Shaman Dang ไม่มีมนต์สะกดแม้แต่น้อย พวกเขาเป็นเพียงคำประกาศง่ายๆ แต่นั่นก็เพียงพอแล้วที่จะสะท้อนถึงปรมาจารย์ชาแมนเหล่านี้ ถ้า Shaman Dang เพิ่มมนต์เสน่ห์ให้กับคำพูดของเขา บางทีมันอาจจะได้ผลมากกว่านี้
“นายท่าน เราจะทำอย่างไรต่อไป”
“ครับท่าน เราจะไปที่สนามรบตอนนี้หรือไม่”
“ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะได้เห็นพลังของ Demon Race”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า ฉันหวังว่า Demon Race จะไม่เปียกกางเกงเมื่อพวกเขาเห็น Shaman คนนี้!”
กลุ่ม Shaman Grandmasters เริ่มตะโกนและไม่ได้ใส่ Demon Race ที่ทำลายสี่ Clans ไปแล้วในสายตาของพวกเขา เมื่อเห็นสิ่งนี้ ชาแมนแดงยิ้มเบา ๆ “พวกคุณทุกคนจะมีโอกาส และฉันหวังว่าคุณจะจำสิ่งที่คุณพูดที่นี่ในวันนี้ อย่างไรก็ตาม…” ทันใดนั้นเขาก็เคร่งขรึมขณะที่เขากด “ยังไม่ถึงเวลา เราต้องรอข่าวจาก Shaman Saints ยิ่งไปกว่านั้น South Barbarian Clan ของเรายังรวมตัวกันไม่ครบ ยังมีกลุ่มชนจำนวนมากกำลังเดินทางมาที่นี่ หากเรามีเวลามากขึ้น กลุ่มอนารยชนใต้ของเราจะดีขึ้นอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เวลาไม่เคยรอเรา งานของคุณตอนนี้เป็นเรื่องง่าย ช่วยฉันจัดระเบียบกลุ่มของเผ่าอนารยชนใต้ พวกเจ้าแต่ละคนจะรับสมัครคนในตระกูลสองถึงสามพันคน ฝึกพวกเขาและทำให้พวกเขาฟังคำสั่งของคุณ”
มีกลุ่มชนหลายแสนคนในกลุ่มอนารยชนใต้ทั้งหมด
Shaman Grandmaster แต่ละคนต้องรับสมัคร Clansman สองถึงสามพันคน ซึ่งเพียงพอที่จะใช้คนใน Clan ทั้งหมด; อย่างไรก็ตาม คนในตระกูลเหล่านี้ล้วนมาจากหมู่บ้านที่แตกต่างกัน ดังนั้นการพยายามรวมพวกเขาทั้งหมดเข้าด้วยกันย่อมนำไปสู่ความขัดแย้งทุกรูปแบบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แน่นอนว่ามันต้องใช้เวลาพอสมควรในการปรับตัวเข้าหากัน และเรื่องแบบนี้ต้องให้ผู้นำซึ่งก็คือ Shaman Grandmaster เป็นคนจัดการ
หยางไค่พยักหน้าเห็นด้วยเบาๆ มันไม่ดีสำหรับองค์กรที่จะเป็นงูไม่มีหัว สองถึงสามพันคนต่อหน่วยดูเหมือนจะเป็นจำนวนที่เหมาะสม เนื่องจากไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป เกือบจะเกินขีดจำกัดที่ Shaman Grandmaster จะควบคุมได้
ตอนนี้มีคนอยู่ภายใต้การนำของเขาประมาณหนึ่งพันคน ดังนั้นตามคำบอกเล่าของชาแมนแดง เขายังคงต้องรับสมัครคนอีกอย่างน้อยหนึ่งพันคน อย่างไรก็ตาม นั่นเป็นงานที่ง่าย เผ่าทั้งหมดจะร่วมมือกันภายใต้คำสั่งของ Shaman King และชาวบ้านที่ไม่มีผู้นำ Shaman ที่ทรงพลังจะต้องเข้าร่วมกองกำลังที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน แต่เรื่องนี้ต้องการความเห็นพ้องต้องกันทั้งสองฝ่าย ตอนนี้มี Shaman Grandmasters จำนวนมากรวมตัวกันอยู่ใน King City ดังนั้นหากเขาต้องการดึงดูดนักรบที่กระจัดกระจายเหล่านั้นให้เข้าร่วมกับเขา เขาจะต้องแสดงความสามารถของเขาก่อน
ไม่มีใครอยากติดตาม Shaman Grandmaster ที่ไร้ความสามารถ
เมื่อพิจารณาทั้งหมดนี้แล้ว หยางไค่ก็คิดแผนขึ้นอย่างรวดเร็ว
ชาแมนแดงไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านี้ เพราะจุดประสงค์หลักของการประชุมครั้งนี้คือการแจ้งให้ทุกคนทราบถึงภารกิจนี้ ดังนั้นหลังจากประกาศ เขาให้คำแนะนำสองสามคำก่อนที่จะไล่พวกเขาไป
ทันใดนั้น Shaman Grandmaster ร้อยคนก็หักศอกและผลักตัวเองออกจากห้องโถง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะรับคนมาอยู่ภายใต้พวกเขา เพราะเมื่อสงครามเริ่มขึ้น การมีผู้ใต้บังคับบัญชาจะปลอดภัยกว่า ดังนั้นในช่วงเวลาวิกฤตนี้ ไม่มีใครเต็มใจที่จะล้าหลังคนอื่นและต้องการใช้วิธีของตนเองเพื่อรักษา พักผ่อนที่นี่ เพื่อที่พวกเขาจะได้เลือกนักรบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับตนเองก่อน
หลังจากที่ทุกคนออกไปแล้ว หยางไค่ก็เดินตรงไปยังทางออก
"คุณชื่ออะไร?" เสียงของ Shaman Dang ดังมาจากด้านหลัง
หยางไค่หันกลับมา “ชามานหนิว!” เขาตอบว่า “ฉันเกิดมาแบบนี้ แต่ฉันมาจากหมู่บ้าน Blue South ของ South Barbarian Clan จริงๆ!”
Shaman Dang พยักหน้า “ไม่สำคัญว่าร่างกายของคุณจะเล็กหรือใหญ่ คุณเป็นปรมาจารย์ชาแมน คราวหน้าถ้าใครสงสัยคุณก็บอกชื่อฉันมาสิ”
หยางไค่ตกตะลึงโดยไม่รู้ว่าเหตุใดชาแมนแดงจึงกังวลกับเรื่องเล็กน้อยนี้ แต่เขายังคงตอบด้วยการพยักหน้าว่า “ขอบคุณมาก ท่านเซอร์”
"ไป!" ชาแมนแดงโบกมือ
จากนั้น หยางไค่ก็เดินออกจากห้องโถง
ครู่ต่อมา หัวหน้าองครักษ์ที่จ้องไปที่หยางไค่ก่อนจะเข้ามาและมองดูชามานแดงอย่างอยากรู้อยากเห็น
หมอแดงถามว่า “จะถามอะไร”
หัวหน้าองครักษ์ถามว่า “ท่านชาย มีอะไรพิเศษเกี่ยวกับชายผู้นั้นหรือ?”
เห็นได้ชัดว่าเขาได้ยินการสนทนาในตอนนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่เข้าใจว่าทำไมเซอร์ชาแมนคิงจึงห้ามหยางไค่โดยเจตนาที่จะพูดคุยกับเขา
ชาแมนแดงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า “พิเศษ! แน่นอนว่าเขาเป็นคนพิเศษมาก! นั่นเป็นปรมาจารย์ชาแมนที่พระเจ้าอนารยชนโปรดปราน”
หัวหน้าองครักษ์ขมวดคิ้ว “ใครก็ตามที่สามารถเป็นชาแมนได้นั้นได้รับความโปรดปรานจากเทพเจ้าคนเถื่อนไม่ใช่หรือ?”
ชามานแดงยิ้มเบา ๆ “เขาแตกต่างออกไป ก่อนฤดูหนาวปีที่แล้ว เขาเป็นแค่คนธรรมดาหรือแย่กว่าคนธรรมดาด้วยซ้ำ”
"อะไร?" หัวหน้าองครักษ์ตกตะลึง “ท่านครับ ท่านแน่ใจหรือ?”
ชายผู้ซึ่งยังคงเป็นคนธรรมดาเมื่อฤดูหนาวที่แล้วได้กลายเป็น Shaman Grandmaster? เป็นไปได้อย่างไร?
Shaman Dang ตอบว่า “ตอนที่ฉันยังเป็น Shaman Grandmaster ครั้งหนึ่งฉันเคยแนะนำชายหนุ่มชื่อ Shaman Li ในการฝึกฝนอยู่พักหนึ่ง และ Shaman Li… เป็นหัวหน้าหมู่บ้านคนก่อนของ Blue South Village”