ตอนที่ 1,039: ผลกระทบ
ผู้แปล: Exodus Tales Editor: Exodus Tales
หุ่นเชิดสงครามตัวน้อย 200 ตัวปลูกต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำ 200 ต้นอย่างง่ายดาย
หลังจากที่เอล์ฟชั้นยอดทั้ง 18 คนเห็นต้นไม้ยืนขึ้น พวกเขาทั้งหมดก็บินไปหาต้นไม้และเต้นรำไปรอบๆ
แสงสีเขียวสว่างวาบในมือของเอลฟ์ชั้นยอดทั้ง 15 คน และอาเบลรู้ว่ามันเป็นพลังตามธรรมชาติ มีผลไม้วิญญาณแห่งน้ำบางส่วนได้รับความเสียหายในระหว่างกระบวนการเคลื่อนย้าย แต่พวกมันทั้งหมดกลับมีชีวิตชีวาขึ้นมาในทันที
ทันทีหลังจากนั้น ธารน้ำแข็งก็ไหลออกมาจากเอลฟ์ชั้นยอดทั้ง 15 คน และเมฆเยือกแข็งก็ปรากฏขึ้นเหนือต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำ
จากนั้นอาเบลก็สัมผัสได้ถึงธาตุไฟที่มาจากเอลฟ์ชั้นยอด เมื่อธาตุไฟและน้ำแข็งสัมผัสกัน ฝนก็เทลงมา
อาเบลถอนหายใจ สิ่งเหล่านั้นได้เข้าใจองค์ประกอบมากมายแล้วเพียงชั่วครู่หลังจากที่มันถือกำเนิดขึ้น
“บางทีฉันอาจจะย้ายสมุนไพรของฉันมาที่นี่เหมือนกัน เหมือนกับสมุนไพรที่อยู่ใต้ต้นไม้แห่งชีวิต เหล่าเอลฟ์ชั้นยอดเกิดมาเพื่อดูแลพืช!” จู่ๆ ความคิดหนึ่งก็พุ่งเข้ามาหาอาเบล
สิ่งที่ยากที่สุดในการปรุงยาคือการรวบรวมสมุนไพรเพื่อเป็นส่วนผสม
เขาต้องการสมุนไพรที่มีค่าเหล่านั้นที่อยู่ใต้ต้นไม้แห่งชีวิตเสมอตั้งแต่เขาเห็นมัน แต่เขาไม่ต้องการให้ใครรู้เกี่ยวกับโลกมืด และเขาแค่ไม่มีเวลาดูแลพวกมัน
ตอนนี้มีเอลฟ์ชั้นยอด ในที่สุดเขาก็มีสวนของตัวเองได้แล้ว
แม้ว่าจะมีกระต่ายหอนสีน้ำเงินจำนวนมากอาศัยอยู่นอก Blood Moor แต่ก็ยังมีที่ดินจำนวนมหาศาลสำหรับพืช
นอกจากนี้ กระต่ายหอนสีน้ำเงินยังถูกควบคุมโดยต้นไม้แห่งชีวิต ดังนั้นพวกมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อพืช ด้วยเอลฟ์ชั้นยอดที่ดูแลพวกเขา พวกเขาควรจะเติบโตได้ดีมาก
มาทำกันเถอะ! อาเบลแบ่งพื้นที่ 50 ช่องแรกใต้ต้นไม้แห่งชีวิต แน่นอนว่ามันเป็นเพียงภาพร่างคร่าว ๆ เนื่องจากการออกแบบขั้นสุดท้ายจะยังคงปรับให้เข้ากับความสามารถของเอลฟ์
จากนั้นเขาก็รวบรวมพืชที่จำเป็นสำหรับยารักษาแสง ยามานา ยาเสริมความงาม และอื่นๆ อีกมากมายจากทั่วโลกมืด มีทั้งหมดหลายร้อยคน
จากนั้นเขาก็บอกต้นโอ๊กว่าอย่าปล่อยให้กระต่ายหอนสีน้ำเงินสร้างความเสียหายแก่ต้นไม้ รวมถึงสิ่งที่พวกเอลฟ์ชั้นยอดต้องทำเพื่อดูแลพวกมัน
นับจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่เป็นการพัฒนาพันธุ์ไม้เหล่านั้นอีกต่อไป
ต้นโอ๊กเป็นต้นไม้แห่งชีวิตที่แท้จริง และได้รับความรู้มาจากต้นไม้แห่งชีวิตของเอลฟ์ การสั่งให้เอลฟ์ชั้นยอดดูแลแผนก็ไม่น่าจะมีปัญหา
หลังจากทำงานหนักมาหลายวัน อาเบลก็กลับมายังทวีปตอนกลางอีกครั้ง เกือบเช้าแล้ว
ทันทีที่ดวงอาทิตย์ขึ้น อาเบลก็ปล่อยให้ดอฟฟ์ออกไปรับคำอธิษฐานจากที่ไกลๆ โดยยืนอยู่บนป้อมเหล็ก
จากนั้นอาเบลก็เดินออกไปและมาถึงอาคารหลัก
“ท่านอาจารย์ สจ๊วตฮาร์ดี้จากพระราชวังมาที่นี่พร้อมกับต้นผลไม้วิญญาณน้ำ 2,000 ต้น!” Steward Myer รออยู่ที่อาคารหลัก และเขาโค้งคำนับทันทีที่เห็น Abel
“พาพวกมันมาให้ฉัน” อาเบลไม่ทันตั้งตัว เขารู้ว่าไม้ผลเหล่านั้นมีค่าและหายากเพียงใด เมื่อคืนเขาหมดหวัง ดังนั้นเขาจึงรวบรวมลำต้น 200 ต้นจากตระกูลขุนนางไม่กี่ตระกูล แต่อย่างใด พระราชวังกลับนำลำต้นมาให้เขา 2,000 ต้นในตอนเช้า
บางทีพวกมันอาจจะเป็นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำที่พระราชวังมีอยู่ในสวนของพวกเขา สิ่งนี้จะส่งผลต่อการจัดหาผลไม้วิญญาณแห่งน้ำของเอลฟ์เป็นเวลาอย่างน้อยสิบปี
ในเมื่อราชวังมอบของขวัญหนักหนาเช่นนี้ให้เขา เขาต้องขอบคุณเป็นการส่วนตัว
ดรูอิดระดับสูงสุดสิบคนกำลังนำต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำออกจากกระเป๋าพอร์ทัลอย่างระมัดระวังโดยใช้พลังธรรมชาติเล็กน้อยที่อยู่เบื้องหลังสจ๊วต ฮาร์ดี
เมื่อถึงเวลาที่อาเบลมาถึง ต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำนับพันต้นก็เรียงรายอยู่บนพื้นดินอย่างเรียบร้อย
“ท่านอาจารย์เบ็นเน็ต ราชินีได้ยินว่าท่านต้องการต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำ ดังนั้นนางจึงสั่งให้ข้ามอบต้นไม้ผลไม้วิญญาณแห่งน้ำทั้งหมดในวังให้เป็นของขวัญแก่ท่าน!” สจ๊วตฮาร์ดีก้าวขึ้นและโค้งคำนับ
เขาเป็นตัวแทนของราชินีลุยซา ดังนั้นเขาจึงต้องมีมารยาทที่ดีเป็นพิเศษ
“สจ๊วตฮาร์ดี โปรดขอบคุณราชินีสำหรับฉัน!” อาเบลยิ้มและโค้งคำนับกลับ
พระราชวังเอาจริงเอาจังกับอาเบลมาก หากเมื่อคืนนี้ราชินีลูอิซาไม่พักผ่อน นางคงส่งต้นไม้ไปให้อาเบลทันที
เมื่อเช้าได้ข่าวก็โกรธที่ไม่มีใครปลุกเธอ ดังนั้นเธอจึงจัดกลุ่มเอลฟ์ทันทีเพื่อขุดต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำทั้งหมดในวัง
เมื่อสถานะของ Abel เพิ่มขึ้น เขายิ่งไม่สามารถเข้าถึงพระราชวังได้มากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งนี้ไม่ดีสำหรับความสัมพันธ์ระยะยาวของพวกเขา ดังนั้น ทันทีที่พวกเขารู้ว่าอาเบลยังขาดบางอย่างที่พวกเขาจะพอใจได้ พวกเขาก็จะทำมันให้ดีที่สุด
ในฐานะนักปรุงยาที่ดีที่สุดในทวีป เขาสามารถได้รับทรัพยากรยาตราบเท่าที่เขาเต็มใจทำงาน
ยกตัวอย่างเช่นอัญมณีแห่งแสง พวกเขาเป็นทรัพยากรพิเศษใน Central Continent ซึ่งเกือบจะเป็นเอกสิทธิ์สำหรับอาชีพแนวหน้า แต่ Abel มีมันจำนวนมากเข้ามาทุกเดือนด้วยยาเพียงเล็กน้อย
หายากที่ Abel จะมีคำขอใดๆ นับประสาอะไรกับผู้ที่สิ้นหวัง แล้วราชินี Luisa จะพลาดโอกาสนี้ในการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นอีกครั้งได้อย่างไร
“สจ๊วตฮาร์ดี้ ฉันมีความสุขมากกับสิ่งนี้ ฉันจะดูแลการเพาะปลูก!” อาเบลยิ้มและพูดว่า
เมื่อดรูอิดระดับสูงสุด 10 คนนำต้นไม้ออกไปเสร็จแล้ว พวกเขาทั้งหมดได้เพิ่มชั้นของพลังธรรมชาติเพื่อปกป้องพวกมัน
“ขอบคุณทุกคน!” อาเบลโค้งคำนับและยิ้มให้พวกดรูอิด จากนั้นเขาก็กล่าวต่อว่า “ฉันได้เตรียมของขวัญเล็กๆ น้อยๆ สำหรับพวกคุณทุกคน โปรดรับมันด้วย!”
จากนั้นเขาก็นำสจ๊วตฮาร์ดีไปที่ช่องเก็บของของเขาและมอบยารักษาเล็กน้อยให้กับดรูอิดแต่ละคน
เมื่อสจ๊วตฮาร์ดีกำลังจะขอบคุณอาเบลและจากไป ผู้ติดตาม 3 คนของอาเบลก็กลับมาพร้อมกับต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำอีกพันต้นที่พวกเขารวบรวมมาจากตระกูลขุนนางใหญ่
แทบไม่มีใครพูดอะไรเกี่ยวกับความเข้าใจ เนื่องจากครอบครัวที่ให้ความช่วยเหลือพวกเขาทั้งหมดต้องการขอบคุณ Abel ที่ช่วย Bay Law City
1
อย่างไรก็ตาม อาเบลไม่ได้วางแผนที่จะใช้ประโยชน์จากพวกเขาเช่นนี้และมอบยาวิเศษให้พวกเขาแต่ละคนตามข้อตกลง
อาเบลไม่คาดคิดว่าจะได้รับต้นไม้จำนวนมากเร็วขนาดนี้ และในตอนแรก เขายังคงวางแผนที่จะใช้ต้นไม้ผลไม้อื่นๆ แทนต้นไม้ผลไม้วิญญาณแห่งน้ำ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะประเมินสถานะของเขาต่ำเกินไปอีกครั้ง ต้นไม้ผลวิญญาณแห่งน้ำ 3,000 ต้นก็มากเกินพอสำหรับเอลฟ์ชั้นยอดเหล่านั้น
นอกจากนี้ เมื่อเอลฟ์ชั้นยอดเพิ่มจำนวนขึ้น พวกเขาสามารถปลูกต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำได้มากขึ้น
ในที่สุดเมื่ออาเบลประกาศว่าเขาไม่ต้องการต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำอีกต่อไป เหล่าขุนนางที่ทราบข่าวช้าก็เริ่มคร่ำครวญว่าพวกเขาพลาดโอกาสอันดีในการติดต่อกับมาสเตอร์เบนเน็ตต์ได้อย่างไร
อาเบลกลับมาที่ Dark World’s Blood Moor อีกครั้งพร้อมกับต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำ 3,000 ต้น และสั่งให้หุ่นเชิดปลูกอีกรอบ
เมื่อเห็นหุ่นเชิดทำงานหนัก อาเบลเอนกายพิงต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำและคว้าผลไม้วิญญาณแห่งน้ำมากัดอย่างไม่ตั้งใจ
ความหวานสดชื่นพุ่งออกมาในปากของเขา มันดีกว่าผลวิญญาณน้ำใดๆ ที่เขาเคยได้รับในอดีต
ในตอนแรก เขาคิดว่าเขาพบต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำพิเศษ แต่เมื่อเขาพบต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำอีกต้นหนึ่งและได้กัดผลไม้วิญญาณแห่งน้ำ เขาก็รู้ว่ามันเป็นต้นเดียวกัน
มันไม่ได้จำกัดเฉพาะต้นไม้ต้นเดียว ต้นไม้ผลไม้จิตวิญญาณแห่งน้ำทั้งหมดกำลังผ่านการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง
อย่างไรก็ตาม ในไม่ช้าเขาก็ตระหนักถึงเหตุผล มันเป็นสภาพแวดล้อมมานาใน Blood Moor เช่นเดียวกับการดูแลเอลฟ์ชั้นยอดเหล่านั้น
นอกจากนี้เขายังสังเกตเห็นว่าไม่มีผลวิญญาณแห่งน้ำที่สุกมากเกินไปแม้แต่ผลเดียว พวกเขาทั้งหมดรักษารูปร่างที่ดีที่สุด
แม้แต่อาเบลก็ออกจากโลกมืดเพียงไม่กี่ชั่วโมง หนึ่งวันผ่านไป และแล้ว 10 วันก็ผ่านไปสำหรับต้นผลไม้วิญญาณน้ำเหล่านั้นตั้งแต่เมื่อคืน ไม่มีผลไม้วิญญาณแห่งน้ำหล่นลงมาแม้แต่ลูกเดียว สิ่งนี้อธิบายทุกอย่าง
ในที่สุด เขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอาหารสำหรับเผ่าพันธุ์แรกของ Dark World อีกต่อไป
เขาก้าวออกจากโลกแห่งความมืดอีกครั้งและเริ่มอ่านหนังสือข้างๆ ดอฟฟ์บนป้อมโลหะ
เขาไม่รู้ แต่ต้นไม้ผลวิญญาณแห่งน้ำทั้ง 3200 ต้นถูกย้ายไปยังโลกมืดโดยเขา สิ่งนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการส่งออกทางสังคมของเอลฟ์
เหล่าขุนนางเคยดื่มน้ำผลไม้วิญญาณแห่งน้ำในทวีปตอนกลางพบว่าตัวเองขาดความพิเศษนี้
องค์กรขนาดใหญ่หลายแห่งที่มีปฏิสัมพันธ์กับ Abel รู้ว่าเขาชอบน้ำผลไม้วิญญาณน้ำมาก จึงมีบางส่วนเก็บไว้
ซึ่งรวมถึงองค์กรพ่อมดที่ทรงพลังเช่น Lightnings, Frosts, Ice Fire Lake และคนแคระ แม้ว่าจะไม่มีใครดื่มน้ำผลไม้วิญญาณแห่งน้ำในองค์กรของพวกเขา แต่พวกเขาก็ต้องการเสบียงที่มั่นคงเนื่องจากคงเป็นเรื่องน่าอายมากหากอาเบลมาเยี่ยมและพวกเขาไม่มีน้ำผลไม้วิญญาณแห่งน้ำเลย
ดังนั้น แม้ว่าพวกเอลฟ์จะลดการผลิตผลไม้วิญญาณแห่งน้ำลง พวกเขาก็ไม่สามารถหยุดส่งให้กับองค์กรเหล่านั้นได้ ไม่มีใครดีที่จะยุ่งด้วย
ในที่สุด ผลไม้วิญญาณแห่งน้ำก็หายไปจากตลาดและเริ่มปรากฏบนระบบรายชื่อของสมาคมพ่อมดเพื่อแลกกับคะแนนเครดิตสำหรับครั้งแรก
เช่นเดียวกับที่ ความหรูหราเล็กๆ น้อยๆ ที่มีพลังธรรมชาติเล็กน้อยนี้ได้รับสถานะเดียวกับทรัพยากรการฝึกอบรมที่แท้จริง และทุกอาชีพที่ต้องการพบปรมาจารย์ Bennett ก็ต้องการบางอย่างในคลังของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม สิ่งพิเศษเกี่ยวกับผลไม้จิตวิญญาณแห่งน้ำก็คือพวกมันจะอยู่ได้เพียงไม่กี่วันเท่านั้น แม้แต่ในวงเวทพิเศษ ก็คงอยู่ได้ไม่เกิน 20 วัน เพิ่มความต้องการของพวกเขา
ดังนั้น รายได้ของเอลฟ์จึงไม่เพียงไม่กระทบกับต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำ 3200 ต้นที่หายไป พวกเขาทำกำไรแทน
อาจมีเพียงอาเบลเท่านั้นที่มีอำนาจเช่นนี้ในทวีปตอนกลาง
เขาไม่คาดคิดมาก่อนว่าความสนใจเพียงเล็กน้อยของเขาจะสามารถเปลี่ยนแปลงเศรษฐกิจทั้งหมดรอบตัวเขาได้
แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าอาเบลทำอะไรกับต้นผลไม้วิญญาณแห่งน้ำ 3200 ต้น แต่ก็ไม่มีใครกล้าถาม แม้แต่พระราชวัง
อาเบลไม่ใช่พ่อมดลึกลับตัวน้อยเหมือนตอนที่มาถึงทวีปกลางเป็นครั้งแรกอีกต่อไป เขากลายเป็นคนที่ไม่มีใครอยากยุ่งด้วยอย่างแท้จริง
ในฐานะนักปรุงยาที่เก่งที่สุด ดราก้อนดรูอิด และปรมาจารย์ของดอฟฟ์และแฟรงเกนสไตน์ เขาเป็นเอลฟ์ที่อยู่ยงคงกระพันอยู่แล้ว
ในเวลาเดียวกัน เขาก็เป็นหน้าตาของกองทัพเอลฟ์ เรือลอยฟ้าที่เขาจัดหาให้ได้รับแรงฉุดลากมากกว่าสิ่งใดจากเอลฟ์ราชวงศ์
ยิ่งไปกว่านั้น เขามีความเกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิดกับเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ต้นไม้แห่งชีวิต และ Sainte Lorraine สถานะของเขาถูกกำหนดขึ้น ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่เขายังคงใช้ชีวิตในเผ่าเอลฟ์โดยมีนายเบนเน็ตต์เป็นนายของเขา