ตอนที่ 130: ความหวาดกลัวของกริฟฟิน
ผู้แปล: Nyoi-Bo Studio บรรณาธิการ: Nyoi-Bo Studio
ชินอนยกขวดขึ้นจรดริมฝีปากด้วยมือที่สั่นเทาและหยิบเบียร์เอลหนึ่งขวด เขาเริ่มเดินเข้าไปในห้อง ข้างในมีเชือกสีเทาห้อยลงมาจากเพดานเหมือนงูที่กำลังจะตาย นี่คือจุดจบที่ Shinon เลือกเอง
ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าหัวใจที่โหยหาความตาย สำหรับคนที่คิดฆ่าตัวตาย ไม่มีสิ่งใดในโลกที่จะหยุดยั้งพวกเขาได้ เอลเป็นอะไรที่จืดชืดและน่าขบขัน แต่ชินอนต้องดื่ม เขาไม่มีความกล้าที่จะเผชิญกับความตาย
ขวดตกลงไปที่พื้น ชินอนไม่สนใจที่จะหยิบมันขึ้นมา เขาเดินโซเซไปทางเชือก เขาปีนขึ้นไปบนโต๊ะและผูกห่วง เขาคล้องห่วงไว้ที่คอแล้วเตะโต๊ะ ร่างกายของเขาเริ่มแกว่งไปในอากาศ เชือกถูกดึงให้ตึง ลำแสงเริ่มส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด
มีบางอย่างพุ่งผ่านอากาศและตัดผ่านเชือก ชินอนล้มลงกับพื้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว การขาดอากาศไม่นานและชินอนยังมีสติอยู่ มือของเขาค้นหาพื้นและพบขวดเบียร์ เขาดื่มขวดจนหมดและโยนมันเข้ากับผนัง มันแตกสลายเหมือนดอกไม้
พระจันทร์โผล่ออกมาจากหลังเมฆสีเทาและทำให้ห้องสว่างไสว ชินอนเห็นเชือกขาดๆ ข้างโต๊ะที่ล้มแล้วถอนหายใจ สาปแช่งเหล่าทวยเทพ พวกเขาปล่อยให้เขาตายไม่ได้เหรอ? เมื่อเขาเห็นจุดที่เชือกขาดและพื้นผิวเรียบของเชือก เขาก็ตระหนักว่าเชือกไม่ได้ขาดเอง มีคนตัดเขาลง
"คุณมีเงินไหม?" เสียงแหบถาม
ชินอนสะดุ้ง เขาหันกลับมาและเบิกตากว้าง จ้องมองไปยังชายที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นข้างหลังเขา ดวงจันทร์สว่างไสว และจากมุมของเขา แสงจันทร์ก็ถูกเงาบังหมด ทั้งหมดที่เขาเห็นคือความมืด
"คุณมีเงินไหม?" คนถามกลับ
ชินอนยิ้ม เขากำลังจะตายและไม่ได้สนใจอะไรในโลก ใครอยากได้อะไรก็จะให้ แม้ว่าคนๆ นั้นอยากจะฆ่าเขา เขาก็จะยอมรับมันด้วยความยินดี
"เงิน?" ชินอนพูดซ้ำในขณะที่เขาค้นหากระเป๋าของเขา เขาพบกระเป๋าสตางค์ว่างเปล่าครึ่งใบ
คดีฟ้องร้องต้องใช้เงิน เขายากจนอยู่แล้ว และเขาได้ขายทุกอย่างที่ทำได้ไปแล้ว กระเป๋าเงินเป็นทุกอย่างที่เขามี
"เอานี่มา" ชินอนโยนกระเป๋าสตางค์ไปที่ร่างนั้นแล้วชี้ไปที่ห้อง "มันเป็นของคุณทั้งหมด."
ร่างนั้นเปิดกระเป๋าสตางค์และพบเหรียญทองแดงสามเหรียญอยู่ข้างใน มือของร่างนั้นเปล่งประกายและหยิบเหรียญขึ้นมาหนึ่งเหรียญ จากนั้นเขาก็โยนกระเป๋าสตางค์และเหรียญที่เหลืออีกสองเหรียญลงบนพื้น "ข้อตกลง" เขากล่าว
"ข้อเสนอ?" ชินอนมองดูร่างนั้นอย่างสับสน เห็นได้ชัดว่าบุคคลนี้ไม่ใช่โจรหรือฆาตกร เขาเป็นคนงี่เง่า ใครจะอยากทำข้อตกลงกับคนอย่างเขา?
“อย่าเพิ่งตายเร็วนักนะ รออีกสองสามวัน เธอจะได้รับข่าวดี” ร่างนั้นหันหลังเดินออกไป
"รอ!" ชินอนโทรมา "คุณคือใคร?"
"คุณสามารถพูดได้ว่าฉันเป็นผู้พิพากษา" บุคคลนั้นกล่าว จากนั้นเขาก็เริ่มลอยและหายไป
Shinon รีบออกไปข้างนอกและมองไปรอบ ๆ แต่เขาอยู่คนเดียวแล้ว อาจเป็นผู้นำความยุติธรรม? มือของชินอนยกขึ้นปิดปาก เขามีความรู้สึก มันเกี่ยวข้องกับความอยุติธรรมที่เขาได้รับ
Anfey ผลักประตูเปิดและเดินเข้าไปในห้อง เขาหยุดอยู่กับที่ด้วยความตกใจ ผู้หญิงที่รับผิดชอบทำความสะอาดห้องของเขาไม่ได้อยู่ที่นั่น กลับเป็นเจ้าหญิงแห่งชานซาที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงของเขา จ้องมองไปที่เทียนไข
“คุณมาทำอะไรที่นี่ สาวๆ อยู่ที่ไหน”
“ฉันส่งพวกเขาไปแล้ว” เจ้าหญิงตรัส เธอยืนขึ้นและเดินไป “ฉันแค่อยากรู้ชื่อของฉัน”
Anfey ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "เมื่อตอนที่ฉันยังเด็ก ฉันเคยได้ยินเพลงจากนักดนตรีคนหนึ่ง มันถูกเรียกว่า Für Alice เป็นเพลงที่ไพเราะและมีความสุข ฉันยังจำมันได้จนถึงทุกวันนี้ ฉันต้องการ ให้ชื่อนั้นแก่เธอ เธอชอบไหม"
"สวยจัง" เจ้าหญิงพูด “อยากให้ฉันมีความสุขไหม”
Anfey ไม่ตอบกลับ การเห็นด้วยอาจนำเธอไป การไม่เห็นด้วยจะไม่เหมาะสม
"บางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นได้อย่างไร?" เจ้าหญิงถาม
“ไม่ คุณถามทำไม”
“เจ้าดูน่าเข้าหามากขึ้นเมื่อเจ้าจากไป ตอนนี้เจ้ารู้สึกแปลกๆ” เจ้าหญิงตรัส เธอมองไปที่เขา "คุณดูเหมือน...เข้มงวด"
"คุณไวต่อการเปลี่ยนแปลง" Anfey กล่าวยิ้ม "เราประสบปัญหาเล็กน้อย มีคนติดตามเรา"
"WHO?"
“พรุ่งนี้เราจะรู้กัน” Anfey มองไปที่เจ้าหญิง “อลิซ ฉันเรียกเธอแบบนี้ได้ใช่ไหม?”
"ฉันชอบชื่อนี้"
"คุณรู้อะไรเกี่ยวกับ Griffins Aerial Unit หรือไม่"
อลิซกระพริบตาด้วยความตกใจ สีหน้าของเธออ่านไม่ออก หลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอก็พูดอย่างเงียบ ๆ ว่า "คุณอยากรู้อะไร ฉันจะบอกคุณทุกอย่าง"
"ฉันได้ยินมาว่าจักรวรรดิชานซาได้ส่งหน่วยทางอากาศของกริฟฟินส์ออกไป ฉันมีภารกิจและนายจ้างของฉันต้องการทราบเกี่ยวกับพวกเขา ถ้าคุณรู้ คุณจะช่วยเราในการเดินทางไปยังเทือกเขาทรานเวิร์ส"
“พวกเขาต้องทำงานให้กับ Maho Empire! Anfey อย่าทำงานให้พวกเขา!” อลิซพูดอย่างเร่งรีบ
“อลิซ ฉันต้องคำนึงถึงชื่อเสียงของกลุ่มด้วย” Anfey พูดช้าๆ “ฉันรู้ว่าคุณเป็นเจ้าหญิงของอาณาจักร Shansa แต่คุณต้องรู้ว่าทุกคนที่นี่ ยกเว้น Suzanna และ Shally เป็นคนของอาณาจักร Maho นี่คือเหตุผลที่ฉันรับงานนี้ ถ้าคุณอยากลืมอดีตของคุณ คุณ จำต้องทิ้งมันไว้เบื้องหลัง มิเช่นนั้น ข้าจะไว้ใจเจ้าไม่ได้”
"Anfey คุณกำลังทำให้ฉันอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก" อลิซกล่าว มีน้ำตาอยู่ในดวงตาของเธอ
“คุณจะบอกเราหรือบอกเราไม่ได้ก็ได้ ทางเลือกนี้อยู่ในมือของคุณ” Anfey กล่าวอย่างใจเย็น “อีกอย่าง ฉันเชื่อว่าคุณไม่ใช่ผู้หญิงที่ชอบน้ำตา คุณน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้ในการโน้มน้าวใจฉัน”
อย่างไรก็ตาม คำพูดของเขาไม่ได้เช็ดน้ำตาของเธอ อลิซลดสายตาลงและน้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม
Anfey ถอนหายใจ เขามองไปที่อลิซอย่างเย็นชา แล้วเดินไปนั่งลงบนเตียงของเขา เขาต้องการเปลี่ยนแผนเดิมของเขา แต่เขามีเงื่อนไข และนั่นคือเขาต้องเชื่อใจอลิซ อลิซบอกว่าเธอต้องการที่จะลืมอดีตของเธอ แต่ดูเหมือนว่าบางสิ่งก็ยากเกินกว่าจะเพิกเฉย เขาสามารถบอกได้ว่าอลิซไม่ต้องการทำอะไรที่อาจเป็นอันตรายต่อจักรวรรดิชานซา เขาสามารถเข้าใจความรู้สึกของเธอ แต่เขาไม่สามารถยอมรับได้ หากเธอไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เขาก็ต้องดำเนินตามแผนเดิมของเขา
อลิซเดินไปอย่างระมัดระวัง เธอยกกระโปรงขึ้นแล้วนั่งลงข้างๆ Anfey มือของเธอลูบไล้แขนและหน้าอกของ Anfey การหายใจของเธอสั้นและประหม่า กลิ่นที่อ่อนโยนและการยั่วยวนของเธอนั้นมากเกินพอที่จะปลุกเร้าผู้ชายทั่วไป
อย่างไรก็ตาม Anfey รู้สึกผ่อนคลายเหมือนน้ำแข็ง เขานอนอยู่ที่นั่นอย่างเงียบ ๆ ราวกับว่าอลิซไม่มีตัวตน
“ถ้าจำเป็นต้องรู้จริงๆ ฉันจะบอก” อลิซพูดพร้อมกับถอนหายใจ "พ่อของฉัน...จักรวรรดิชานซาจะไม่ส่งหน่วยทั้งหมดออกไป มันเป็นการพนันมากเกินไป ผลที่ตามมาก็มากเกินกว่าจะรับมือได้ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 อาจดูทะเยอทะยานด้วยการขยายกองทัพ แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นคนขี้ขลาดมาก ความฝันของเขา คือการมอบอาณาจักรให้กับผู้สืบทอดโดยไม่ทิ้งชื่อตัวเองไว้ แม้โอกาสดี เขาจะไม่เสี่ยงทุกอย่าง”
"แค่นั้นแหละ?"
"กองพันที่ทรงพลังที่สุดของจักรวรรดิมาโฮ กองทหารมรณะคำราม อยู่ที่แนวรบด้านตะวันออก ผู้นำของกองนี้ แบร์รี่ มีชื่อเสียงในด้านความกระหายการต่อสู้ เขาเป็นหนามยอกอกในด้านศัตรูมานานแล้ว เพื่อปกป้องกองทัพของเขาจาก การสูญเสียครั้งสำคัญ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 จะเคลื่อนไหวแบบอนุรักษ์นิยมมากขึ้นอย่างแน่นอน โดยหวังว่า Maho Empire จะทุ่มสุดกำลังเพื่อต่อต้าน Ellisen Empire จากนั้น Shansa Empire ก็สามารถต่อสู้กับกองทัพของ Maho ที่เหลือได้"
“คุณรู้อะไรที่เฉพาะเจาะจงกว่านี้ไหม” Anfey ถาม เขาจำทุกอย่างที่อลิซบอกเขาเพื่อที่จะบอกแบล็กอีเลฟเว่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ข่าวแบบนี้คงทำให้พวกสูงๆ ดีใจกันใหญ่
“ฉันรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 จะส่งฝูงบินของหน่วยกริฟฟินแอเรีย แผนนี้ถูกสร้างไว้แล้วก่อนที่ฉันจะออกจากนครหลวง ฉันไม่รู้ว่าพวกเขาเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า” อลิซพูดเบาๆ "ฝูงบินมีสองภารกิจ ภารกิจแรกคือการหาโอกาสที่จะฆ่าชายและหญิงที่มีอำนาจในการให้บริการของ Maho Empire อีกประการหนึ่งคือการค้นหาตำแหน่งที่แน่นอนของ Roaring Dead Legion เพื่อป้องกันไม่ให้กองทัพของ Shansa ซุ่มโจมตี Baery เชี่ยวชาญในการซุ่มโจมตีและการสู้รบมาก นอกจากนี้ เขายังเป็นคนที่มีอำนาจมาก เขาเป็นผู้ชายแบบที่คุณต้องระวังในระหว่างสงคราม"
“ฝูงบินมีกี่คน”
"ห้าสิบอัศวินกริฟฟินดอร์"
"จุดอ่อนของกริฟฟินคืออะไร ไฟ เย็น แสงสว่าง?"
"กริฟฟินแทบไม่มีภูมิคุ้มกันต่อเวทมนตร์ เวทมนตร์ชนิดเดียวที่สามารถทำร้ายพวกมันได้คือเวทมนตร์ระดับสูง สิ่งที่เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นคือพวกมันไม่มีเสบียงอาหารเพียงพอ ในสงครามที่ผ่านมา สายการผลิตหยุดชะงัก และ พวกขี่ม้าสูญเสียการควบคุมกริฟฟิน พวกกริฟฟินกินม้าทุกตัวในหน่วยทหารม้าและทำให้เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ ตั้งแต่นั้นมา กองทัพได้ระมัดระวังอย่างมากเพื่อให้แน่ใจว่ากริฟฟินได้รับอาหารอย่างเหมาะสม"