บทที่ 274: การคำนวณ
ผู้แปล: Nyoi-Bo Studio บรรณาธิการ: Nyoi-Bo Studio
“นี่เป็นความผิดของท่าน ลอร์ด” Entos กล่าว "หากเกิดปัญหาขึ้น เราควรพยายามหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ การปฏิเสธไม่เพียงแต่จะไม่ช่วยแก้ปัญหาเท่านั้น ยังจะทำให้ปัญหาแย่ลงไปอีก"
น้ำเสียงของ Entos นั้นอ่อนโยน แต่คำพูดของเขาทำให้ Slanbrea รู้สึกหงุดหงิด สำหรับเขา ทัศนคติของ Entos นั้นน่ารำคาญมาก เขาหรี่ตาลงและกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เมื่อซาอูลก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดว่า "คุณมีวิธีแก้ไหม Entos"
"ใช่" Entos กล่าวคำนับ "อย่างที่คุณทราบ อาจารย์ซอล ฉันมักจะชอบพูดคุยหัวข้อเกี่ยวกับมนุษยชาติและการดำรงอยู่ของเรา มันเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจคนธรรมดา แต่คนดื้อรั้นต่างหากที่น่าสนใจ จิตใจของพวกเขาเปลี่ยนและเปลี่ยนแปลง เต็มไปด้วยความขัดแย้งและความโง่เขลา นี่คือจิตใจที่ฉันรัก ดังนั้น…” Entos ยิ้มและหันมองไปยัง Slanbrea
“จะเริ่มจริงจังเมื่อไหร่” ซาอูลขมวดคิ้วและขัดจังหวะเอนทอส เขารู้ว่าชายหนุ่มต้องการใช้โอกาสนี้และทำให้ศาสนจักรแห่งแสงต้องอับอาย แต่คำพูดของเขาอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างเขากับหนึ่งในบุรุษที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก ซาอูลเป็นคนชอบธรรม และเขารู้ว่าอะไรเหมาะสมที่จะพูดในสถานการณ์ใด แม้ว่าเขาจะทำให้สลันเบรียเป็นศัตรู เขาจะไม่ทำให้เขาอับอายเช่นกัน
“คุณพูดถูกเสมอ Mast Saul” Entos กล่าวยิ้มๆ
Slanbrea รู้ว่า Entos คือใครหลังจากได้ยินเขาพูดถึง Saul ว่าเจ้านาย แน่นอน ลูกศิษย์ของซาอูลมีชื่อเสียงอยู่แล้ว เมื่อเขาติดต่อกับชนชั้นสูงของจักรวรรดิเอลลิเซน สลันเบรียเคยได้ยินมาหลายครั้งว่าอาร์คเมจที่แท้จริงไม่ควรมีลูกศิษย์อย่างเอนทอส คำพูดของ Entos ทำให้โกรธ แต่ Slanbrea เลือกที่จะเพิกเฉย เขาไม่มีอำนาจที่จะถอนคาถาลงโทษจากสวรรค์ได้ และทางออกเดียวคือต้องถามพระสันตะปาปา
“จงบอกแผนของเจ้ามาเถิด” ซาอูลกล่าว
"การลงโทษจากสวรรค์เป็นคาถาที่ยาก ท่านลอร์ด อัตราความสำเร็จต่ำพอ แต่เมื่อรวมเข้ากับข้อกำหนดที่เข้มงวด แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ประชากรส่วนใหญ่จะทนต่อคาถานี้ ถ้าคนธรรมดาสามัญ ความแข็งแกร่งของ ทูตสวรรค์จะลดลงอย่างมาก ถ้าพลังของบุคคลมีมากเกินไป บุคคลนั้นอาจเอาชนะทูตสวรรค์ได้ ทูตสวรรค์ในร่างวิญญาณไม่สามารถทำอะไรก็ได้ ผู้ชายที่มีอำนาจเช่นคุณเองจะเป็นอันตรายกับทูตสวรรค์เหล่านี้”
“เข้าประเด็น” ซาอูลตะคอก เขาไม่เคยหมดความอดทนกับนักเรียน แต่ Entos เป็นข้อยกเว้น เขารู้จักเอนทอสดีเกินไป เมื่อเขาอยู่กับคนอื่น Entos จะทำตัวตามอายุ แต่เมื่อเขาอยู่กับ Saul เขาจะทำตัวเหมือนเด็ก ซาอูลรู้ว่าต้องเข้มงวดกับเขา
"ง่ายมาก ร่างของทูตสวรรค์อยู่ในคทาแห่งแสง คุณสามารถขับไล่ทูตสวรรค์ได้หากคุณทำลายคทา"
Slanbrea ขมวดคิ้วกับความคิดเห็นของ Entos น่าจะมีน้อยกว่าห้าคนที่รู้ความลับของคทา และพวกเขาล้วนเป็นผู้นำในศาสนจักร Slanbrea ไม่สามารถเข้าใจได้ว่าใครทำความลับรั่วไหล Slanbrea ปรารถนาให้เขาฆ่า Entos และรักษาความลับนี้ไว้ แต่ Saul อยู่ที่นั่นและมือของเขาถูกมัด
ก่อนที่จักรวรรดิมาโฮและจักรวรรดิเอลลิเซนจะเข้าสู่สงคราม หลายคนคิดว่าซาอูลไม่เหมาะกับนิวโยไฮม์ แม้แต่สมเด็จพระสันตะปาปาก็ยังเลือกที่จะสังเกต Yolanthe ดื้อรั้นเกินไปและปฏิเสธความก้าวหน้าของศาสนจักร Ellisen Empire เปิดกว้างกว่ามากเมื่อเปรียบเทียบ สมเด็จพระสันตะปาปาทรงโปรดปรานจักรวรรดิเอลลิเซนตั้งแต่แรก แต่พระองค์ไม่ทรงเลือกข้าง ในท้ายที่สุด ซาอูลทำให้ทุกคนตกใจด้วยการเอาชนะนิวโยไฮม์ นี่แสดงให้เห็นว่าเขาเติบโตขึ้นมากเพียงใด แม้ว่าซาอูลจะไม่สนใจเรื่องการเมืองและตำแหน่งของเขาก็ตาม
นานาประเทศได้สงบศึกเนื่องจากการกลับมาของเนโครแมนเซอร์ ประเทศต่าง ๆ รู้สึกว่าจำเป็นต้องรวมตัวกันเพื่อต่อต้านภัยคุกคามร่วมกัน ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อป้องกัน Yolanthe ขยายอำนาจออกไปอีก
“นั่นน่าจะง่าย” ซาอูลพูดอย่างแผ่วเบา
หากคำพูดของ Entos สร้างความตกใจ คำพูดของ Saul ก็ทำให้ Slanbrea ไม่พอใจ คทาแห่งแสงเป็นกลอุบายศักดิ์สิทธิ์ในศาสนจักรแห่งแสง และการทำลายสิ่งที่ศาสนาถือว่าศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีผู้ศรัทธามากที่สุดในโลกหมายความว่าอย่างไร สงคราม การล้างแค้น ความตายนับไม่ถ้วน ซาอูลเต็มใจรับผิดชอบที่จะคร่าชีวิตผู้คนหลายแสนคนจริงหรือ?
“มันง่าย” เสียงพูดเมื่อร่างหนึ่งก้าวเข้าไปในสำนักหักบัญชี เออร์เนสต์ปรากฏตัวผ่านแสง ร่างกายของเขาปกคลุมไปด้วยแสงราวกับสวมชุดเกราะแห่งแสง เขาเดินช้าๆ อย่างมั่นใจ แต่ก็อยู่ต่อหน้าสลันเบรียภายในไม่กี่วินาที
“นี่คืออุบายอันศักดิ์สิทธิ์ของศาสนจักร” สลันเบรียกล่าว ถอยหลังหนึ่งก้าว "ฉันจะไม่ให้คุณ"
“คุณอยู่ได้” เออร์เนสต์พูด "ฉันไม่รังเกียจ"
สลันเบรียสูดหายใจลึก เขารู้ว่าเออร์เนสต์ใช้เวลาส่วนใหญ่กับซาอูลเมื่อเร็วๆ นี้ และเขาเป็นคนเดียวที่กล้าพูดกับสลันเบรียด้วยวิธีนี้ สลันเบรียรู้อยู่เสมอว่าไม่มีทางให้เหตุผลกับสัตว์เดรัจฉานได้ หากเออร์เนสต์ต้องการทำอะไรสักอย่าง ความตายเท่านั้นที่จะหยุดเขาได้ สลันเบรียจ้องไปที่เซาโล และพูดในที่สุดว่า "ข้าหวังว่าท่านสงบลงได้ ท่านซาอูล" เขาไม่ต้องการปลุกเร้าซาอูลอีกต่อไป
“ดูสิว่าใครพูด” Entos พูดอย่างเย้ยหยัน “ไม่ใช่สถานการณ์ที่เราควรจะสงบสติอารมณ์ คุณเป็นคนผิดที่นี่ คนของเราคนหนึ่งโกรธมาก”
Slanbrea รู้สึกว่าร่างกายของเขาเริ่มเย็นลง และหันไปมอง Bruzuryano หากคำพูดสูญเสียพลังไป สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือต่อสู้ อย่างไรก็ตาม คำสาปที่เนโครแมนเซอร์วางไว้บนเขายังคงรบกวนเขาอยู่ วิธีเดียวที่เขาจะชนะได้คือต้องขอความช่วยเหลือจากบรูซูร์ยาโน
Bruzuryano ได้เปลี่ยนกลับเป็นร่างมนุษย์ของเขาแล้ว เขาเงยหน้าขึ้นเมื่อรู้สึกถึงการจ้องมองของสลันเบรีย จากนั้นลดสายตาลงอีกครั้งและส่ายหัวเล็กน้อย ทุกคนเห็นแก่ตัว และ Bruzuryano ก็ไม่มีข้อยกเว้น เขาให้ Anfey ยืม Heart of Nature ไม่เพียงเพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีกับ Saul แต่เพราะเขาต้องการความสัมพันธ์ด้วย ทุกคนชอบความลับ และแม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่คนเดียวที่รู้ความจริง แต่อย่างน้อยพวกเขาก็สามารถแบ่งปันความลับได้ เขาเป็นผู้นำทางศาสนาเช่นกัน แต่สาวกของเทพธิดาแห่งธรรมชาติมักจะเฉยเมยมากกว่าและจะไม่แสวงหาเกียรติยศเหมือนอย่างที่สาวกของศาสนจักรแห่งแสงทำ ทั้งสองศาสนาเป็นตัวอย่างของความเฉยเมยและความก้าวร้าวในวิถีชีวิตของพวกเขา ผู้ติดตามส่วนใหญ่ของเทพธิดาแห่งธรรมชาติอาศัยอยู่ในอาณาจักรมาโฮ มากกว่าผู้ติดตามของศาสนจักร ถ้า Bruzuryano ช่วย Slanbrea จริง ๆ ตอนนี้ เขาจะทำให้ Saul เป็นศัตรู และเขารู้ว่า Yolanthe และ Saul จะไม่ลังเลที่จะฆ่าผู้ติดตามเทพธิดาแห่งธรรมชาติทั้งหมด
แน่นอนว่า Slanbrea เป็นฝ่ายผิด เขาได้วางแผนที่จะหลอกล่อพวกเนโครแมนเซอร์โดยใช้ลูกศิษย์ของซาอูลเพื่อทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงมากขึ้นและได้รับเกียรติจากคริสตจักรของเขา เขาไม่รอช้าที่จะเอาชนะเนโครแมนเซอร์เพื่อดำเนินแผนใหม่ เขาทำให้ทุกคนอยู่ในความมืดเช่นกัน Slanbrea ต้องการเก็บความลับไว้กับตัวเอง และไม่ปฏิบัติต่อ Bruzuryano ด้วยความเคารพอย่างเหมาะสม
“ก็ได้” สลันเบรียถ่มน้ำลาย จู่ๆ เขาก็นึกถึงสิ่งที่ครูของเขาเคยบอกเขาว่าเขามุ่งความสนใจไปที่การสร้างแผนการมากเกินไปเพื่อให้ตัวเองได้รับเกียรติยศ และวันหนึ่งมันจะทำลายเขา เขาเรียนรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ไม่มีไหวพริบ พระคาร์ดินัลที่สามารถใช้คาถาต้องห้ามสูงสุดโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากมงกุฎของพระสันตปาปาย่อมถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อพระสันตปาปาและอำนาจของพระองค์ ในท้ายที่สุด ครูของ Slanbrea ถูกใส่ร้ายในข้อหาก่ออาชญากรรมที่เขาไม่ได้ก่อและถูกจองจำ
ใครจะรู้ว่าคำพูดของเขาจะกลายเป็นจริงในวันหนึ่ง? ถ้าเขาไม่คิดคำนวณ บางทีทุกคนอาจจะเดินหนีจากสถานการณ์โดยไม่ได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้มันสายเกินไป มีเพียงสองวิธีเท่านั้นที่จะยุติผลกระทบของการลงโทษจากสวรรค์ อันหนึ่งเพื่อทำลายคทา อีกอันคือขอพรจากพระสันตะปาปา เห็นได้ชัดว่า Ernest และ Saul เลือกเส้นทางที่เร็วกว่า สำหรับพวกเขาแล้ว การขอพรจากสมเด็จพระสันตะปาปาเป็นงานหนักเกินไป
สลันเบรียก็โบกคทาในมือทันที หากเขาเผชิญหน้ากับศัตรูรายอื่น ทางเลือกที่ดีที่สุดคือซ่อนคทาไว้ในวงแหวนมิติของเขาและปกป้องเกียรติยศของศาสนจักร อย่างไรก็ตาม เขารู้ว่านั่นไม่ใช่แผนการที่ดี เนื่องจากคู่ต่อสู้ของเขาคือซาอูล เขารู้จักโครงสร้างของวงแหวนมิติดีเกินกว่าแผนนั้นจะได้ผล ตราบใดที่เขายังมีชีวิตอยู่ ซาอูลจะรู้วิธีเปิดมิติที่แยกจากกันซึ่งจะนำไปสู่วงแหวนมิติของเขา
ซาอูลก้าวไปข้างหน้าและปกป้อง Niya ด้วยร่างกายของเขาขณะที่ลูกบอลแสงปรากฏขึ้น "ทำไม?" เขาถามสลันเบรียพร้อมกับถอนหายใจ สลันเบรียไม่ตอบ ไม้เท้าเวทมนตร์ของซาอูลยังอยู่ในมือของเขา และในขณะที่เขาโบกไม้เท้าของเขา ใบมีดลมนับสิบเล่มก็พุ่งเข้าหาลูกบอลแห่งแสง เขารู้ว่าสลันเบรียอยู่ในสถานะใด เวทย์แสงสามารถเอาชนะเวทย์มรณะได้ แต่เนโครแมนเซอร์ที่ทรงพลังพอก็สามารถเอาชนะเวทย์แสงได้เช่นกัน แม้ว่าเขาจะเผชิญหน้ากับแสงสว่างในช่วงนายก ซาอูลรู้ว่าเขายังสามารถชนะได้ ท้ายที่สุดแล้ว เวทมนตร์ธาตุมีพลังมากกว่าเวทมนตร์แสง Slanbrea ไม่สามารถคุกคามพวกเขาได้
ซูซานน่าเริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะไปถึงการต่อสู้ Ernest ได้หยุดเธอเอาไว้แล้ว ดาบสองเล่มปะทะกันเสียงดัง และลูกบอลแสงก็ห่อหุ้มทั้งสองไว้ ทั้งคู่ถอยหลังไปสองสามก้าว แต่ Ernest ก็ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและพุ่งไปหา Suzanna อีกครั้ง ภารกิจเดียวของเขาคือทำให้ซูซานนาอยู่ห่างจากการต่อสู้