ตอนที่ 365: ตัวแทนของเอลฟ์
ผู้แปล: Nyoi-Bo Studio บรรณาธิการ: Nyoi-Bo Studio
“ท่านอาจารย์ ข้าไม่รู้ว่าท่านทำให้หลายคนไม่พอใจ” อลิซถอนหายใจ
"ไม่มากนัก" Anfey กล่าวพร้อมกับส่ายหัว "พูดให้เจาะจง ฉันมีศัตรูแค่สองคนคือ Philip และ Marquis Djoser ฉันทำตัวไม่ค่อยเปิดเผย"
ทุกคนรู้สึกอึดอัด Anfey ที่พวกเขารู้จักนั้นก้าวร้าวมาก เขาไม่ได้ทำอะไรกับโปรไฟล์ต่ำ
อลิซยิ้ม "Philip และ Marquis Djoser ไม่ใช่บุคคลสองคน พูดตามตรง คุณได้รุกรานสองกลุ่มและสองอำนาจ"
“ท่านอาจารย์ ปล่อยให้เย่กับข้าจัดการเถอะ เราจะหาโอกาสลอบสังหารมาร์ควิสโจเซอร์ได้” จู่ๆ ออร์ซีก็พูดด้วยน้ำเสียงเกลียดชัง เขาพูดต่อ “อย่าลืมนักเล่นแร่แปรธาตุเจค็อบ มันคงจะยากมากที่จะฆ่ามาร์ควิส โจเซอร์ต่อหน้าเขา”
“อาจารย์ คุณสามารถขอให้อาจารย์ Ernest ล่อ Jacob ออกมาได้” Ozzic กล่าว มันคงไม่มีปัญหาหากมีความผิดพลาดในแผน ตราบใดที่พวกเขาสามารถพูดคุยและปรับปรุงได้เหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ ก็คงจะดี
“แล้วพวกอัศวินแห่งแสงและกลุ่มนักบวชล่ะ เราจะเบี่ยงเบนความสนใจพวกเขาด้วยได้ไหม?” บลาวี่กล่าว เขารู้สึกทึ่งกับแผนนี้ ศัตรูของ Anfey คือศัตรูของเขา หากพวกเขาสามารถสังหาร Marquis Djoser ได้ คงจะเป็นเรื่องดีสำหรับทุกคน
“ไม่ต้องซับซ้อนขนาดนั้น ฉันทำเองได้” เย่พูดอย่างเงียบๆ “พวกเขาไม่เคยเห็นฉันมาก่อน และถึงมี พวกเขาก็จะจำคนอย่างฉันไม่ได้”
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าพวกเขาจำคุณได้หรือไม่ คุณแน่ใจหรือว่าคุณสามารถฆ่าเขาคนเดียวได้” ออร์ซี่ถาม
"แม้ว่าฉันจะล้มเหลว พวกเขาก็จะไม่รู้ว่าฉันเป็นใครและไม่สามารถทำให้เจ้านายลำบากได้" เย่กล่าว
“คุณทำให้มันฟังดูง่ายเกินไป นอกจากเราแล้ว ก็คงมีแต่คนของพวกเขาใน Moramatch หากมีการลอบสังหาร ทุกคนจะรู้ว่าเราทำ” คริสเตียนพูดพร้อมส่ายหัว
"กุญแจสำคัญคือพวกเขามีหลักฐานหรือไม่ ฉันสัญญากับคุณได้ว่าฉันจะไม่ถูกจับได้ทั้งเป็น" เย่พูดด้วยรอยยิ้ม
“ต่อให้คุณฆ่าเขา คุณก็ไม่สามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัย” คริสเตียนกล่าว
เย่เงียบไปครู่หนึ่ง "นี่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ฉันรู้วิธีทำ" เย่กล่าว
ทุกคนเงียบ เห็นได้ชัดว่าเย่เป็นคนแรกที่เต็มใจเสี่ยงชีวิตเพื่อภารกิจนี้ พวกเขาไม่สามารถสนับสนุนหรือยับยั้งเขาได้ พวกเขารอการตัดสินใจครั้งสุดท้ายของ Anfey
“คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ Marquis Djoser มากนัก ในฐานะสุนัขแก่ การเห่าของเขาแย่กว่าการกัดมาก” Anfey กล่าวอย่างสบายๆ
“เราไม่กังวลเกี่ยวกับเขา แต่เขามีนักเล่นแร่แปรธาตุอยู่กับเขา ถ้า Marquis Djoser ขอให้ Jacob ทำอะไรสักอย่าง เราไม่สามารถคาดเดาผลลัพธ์ได้ อีกทั้ง Master Ernest ก็ปกป้องเราไม่ได้ตลอดเวลา” Orsie พูดด้วยท่าทางกังวล
“ไม่ต้องกังวล อาจารย์เจค็อบจะไม่ปล่อยให้เราลำบากเช่นนี้” บลาวียิ้ม
"ทำไม?" Ozzic และคนอื่นๆ ดูตกใจ
Anfey มองไปที่ Blavi เมื่อไม่มีใครสนใจเขา เขาพูดด้วยเสียงแผ่วเบา "เพราะศาสตราจารย์ของเราคือซาอูล และลุงเออร์เนสต์ก็อยู่ข้างเรา นอกจากนี้ ลุงของคริสเตียนคือแบรี่ คุณคิดว่าเจค็อบจะช่วยมาร์ควิสโจเซอร์โดยไม่สนว่าใครจะอยู่ฝ่ายเรา"
บลาวีตระหนักว่าเขาพูดบางสิ่งที่เขาไม่ควรพูด เขามีรอยยิ้มที่น่าอึดอัดใจและมองลงมา Ozzic และคนอื่นๆ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเข้าใจสิ่งที่ Anfey พูด ไม่ว่าเจคอบและมาร์ควิสโจเซอร์จะมีความสัมพันธ์แบบใด และไม่ว่าเจคอบจะมั่นใจแค่ไหน เขาต้องบ้าไปแล้วที่เป็นศัตรูของมหาอำนาจอีกสามคน
“เราไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับ Marquis Djoser เราควรคิดว่าเราควรโจมตีจากทิศทางใดเมื่อกองทหาร Shield of Light รวมตัวกัน Christian จะเป็นผู้บังคับบัญชากองทหาร Shield of Light เฟอร์นันโดเป็นคนนอกและไม่คุ้นเคยกับ ประเทศทหารรับจ้าง เขาจะถามความคิดเห็นของเราอย่างแน่นอน เราไม่สามารถทำผิดพลาดได้ "Anfey กล่าวช้าๆ
"เราทุกคนติดอยู่ที่นี่และไม่รู้สถานการณ์ภายนอก Moramtach เราควรทำอย่างไรหากทำผิดพลาด" โอซิช กล่าว
“อันที่จริง มันค่อนข้างง่าย ระหว่างเมืองแบล็ควอเตอร์กับเมืองไวท์เมาน์เทน อันไหนจะง่ายกว่าสำหรับเนโครแมนเซอร์ที่จะเอาชนะ” Anfey ถาม
Ozzic และคนอื่นๆ มองหน้ากันแล้วพูดพร้อมกันว่า "White Mountain City"
“เมืองภูเขาสีขาว?” Anfey ตกใจมาก คำตอบนี้แตกต่างจากที่เขาคาดไว้ “เท่าที่ฉันรู้ อาจารย์นักดาบแอนโทนี่พำนักอยู่ในเมืองไวท์เมาน์เทน แม้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างกลอรี่จะประสบความสูญเสียครั้งใหญ่ในสงครามกลางเมือง ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาก็ไม่อาจละเลยได้ นอกจากนี้ อาร์คเมจไมค์แห่งอาณาจักรเอลลิเซนก็อยู่ในไวท์ Mountain City ก็เช่นกัน ด้วยความช่วยเหลือจากทหารรับจ้างของกลุ่มทหารรับจ้าง Storm พวกเขาตอบโต้เนโครแมนเซอร์ไม่ได้หรือ เมือง Blackwater มีเพียงกลุ่มทหารรับจ้าง Tiger of Tawau: ความสามารถในการต่อสู้ของพวกเขาจะดีกว่าเมือง White Mountain หรือไม่
“ท่านอาจารย์ เมืองแบล็ควอเตอร์มีกำลังเสริม” ออซซิคกล่าว
"โอ้ บอกฉันเพิ่มเติม" Anfey กล่าว
“แม้ว่ากลุ่มทหารรับจ้าง Tiger of Tawau จะชนะสงครามกลางเมืองในเมือง Blackwater แต่ผู้บัญชาการของกลุ่มทหารรับจ้าง Glory ยังคงเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดที่มีชื่อเสียง” Ossic กล่าว "Hotchbini กลัวว่า Anthony จะแก้แค้นเธอจึงได้ขอความช่วยเหลือจากเอลฟ์ ฉันได้ยินว่าเอลฟ์กลุ่มใหญ่เดินทางมายัง Blackwater City รวมทั้งดรูอิดที่ทรงพลังกว่าสามร้อยคน"
“แอนโธนีเก็บตัวเงียบตั้งแต่เกิดสงครามกลางเมือง” ออร์ซีกล่าว “เนื่องจากความสามารถในการต่อสู้ของเอลฟ์นั้นดีกว่าที่เขาคิด เขาและไมค์จึงสามารถกวาดล้างเมืองแบล็ควอเตอร์ทั้งหมดได้ โชคดีที่พวกเขาไม่ได้ต่อสู้จริงๆ มิฉะนั้นทั้งสองฝ่ายจะต้องสูญเสียครั้งใหญ่ ด้วยสงครามแห่งความตายนี้ ประเทศของ ทหารรับจ้างจะประสบปัญหาอย่างมาก”
"ดรูอิดจะช่วย Hotchbini ได้อย่างไร Hotchbini มีอิทธิพลมากขนาดนั้น?" Anfey ถามอย่างสับสน เขารู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างเอลฟ์กับดรูอิดบ้างเล็กน้อย เท่าที่เขารู้ ทั้งสองฝ่ายเป็นพันธมิตรกันในสงคราม แต่เอลฟ์ไม่มีสิทธิ์สั่งดรูอิดให้ทำอะไร เป็นเรื่องใหญ่ที่มีดรูอิดมากกว่า 300 คนเข้าร่วม เอลฟ์ไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากดรูอิดจำนวนมากได้อย่างแน่นอน พวกเขามักจะได้รับการสนับสนุนจากดรูอิดบางคนเท่านั้น
“อิทธิพลของ Hotchbini ไม่ใหญ่โต แต่พี่เขยของเธอมีชื่อเสียงมาก” Ozzic กล่าว
“ใครคือพี่เขยของเธอ” Anfey ถาม
"ราชาหมาป่า Manstuly-ผู้เก็บเกี่ยว" Ozzic คิดอยู่ครู่หนึ่ง "น้องสาวของ Hotchbini ดูเหมือนจะเป็นฟาโรห์เอลฟ์ที่มีพลังมหาศาล"
"แม้แต่เอลฟ์ฟาโรห์ก็ไม่ควรช่วยกลุ่มทหารรับจ้างพยัคฆ์แห่งทาเวา" อลิซดูเหมือนเธอคิดลึก "เอลฟ์สามารถใช้ Mourtta เพื่อหลอมรวมแทนที่จะถูกปฏิเสธจากสังคมมนุษย์ กล่าวอีกนัยหนึ่ง Mourtta อาจเป็นตัวแทนที่พวกเขาสามารถใช้และช่วยให้เขาแข็งแกร่งขึ้น"
Anfey หยุดก่อนที่จะค่อยๆเอนหลังลงบนเก้าอี้ การคาดเดาของอลิซนั้นไม่ถูกต้องนัก แต่ก็ค่อนข้างแม่นยำ เขาเข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงไม่คิดว่า Manstuly เป็นมิตร แม้ว่าเขาจะไม่ได้เป็นศัตรูก็ตาม เมื่อ Anfey เห็นเขาครั้งแรกใน Sacred City ตอนนี้ Anfey ดูเหมือนจะเข้าใจแล้วว่าต้องมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับ Hotchbini Bruzuryano ดีกับ Anfey มาก เขาไม่ได้หมายถึงเพียงให้ความสนใจกับคนรุ่นใหม่ เขาใจดีกับเอลฟ์เหมือนกัน กล่าวอีกนัยหนึ่ง Bruzuryano คิดว่า Anfey เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากเขามีภูมิหลังที่ซับซ้อน มีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้มีอำนาจสูงสุดและกษัตริย์ และมีศักยภาพที่คาดเดาไม่ได้ Mourtta ไม่ได้เปรียบเทียบกับ Anfey
แน่นอน มีความเป็นไปได้อีกอย่าง: กลุ่มที่กำลังมองหาตัวแทนอื่นเพื่อช่วยเหลือและสนับสนุนคิดว่า Mourtta อาจเป็นผู้สมัครที่ดี และพวกเขาก็เริ่มปฏิเสธกลุ่มอื่น Bruzuryano ให้เอลฟ์สองสามตัวแก่ Anfey ดังนั้นเขาจึงต้องมีบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับเอลฟ์ ไม่ชัดเจนว่าดรูอิดและเอลฟ์จะเข้าข้างฝ่ายไหน
ทุกคนรู้สึกแปลก ๆ เมื่อเห็น Anfey จมอยู่ในความคิด "Anfey? Christian เรียกอย่างเงียบ ๆ
"ใช่." Anfey เงยหน้าขึ้น “หมายความว่าเราควรไปช่วย White Mountain City ก่อนไหม”
"ใช่." Ozzic พยักหน้า
“ฉันคิดว่าสถานการณ์ของพวกเขาก็เหมือนกับของเรา พวกเขารวมกันเพื่อต่อสู้กับวิญญาณแห่งความตาย มันเป็นหน้าที่ของกองทัพ Shield of Light ที่จะช่วย White Mountain City งานของเราคือค้นหาทหารรับจ้างเหล่านั้นและรับสมัครพวกเขา” อลิซกล่าว
"มาทำตามขั้นตอนเล็ก ๆ กันเถอะ" Anfey กล่าว ถ้าพวกเขาคิดได้ Marino ก็คงคิดเหมือนกัน เวลาของ Marino ไม่ดีนักเมื่อสงครามแห่งความตายเกิดขึ้นเพราะเขายังคงอยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ในอาณาจักร Maho เขาไม่สามารถเสียโอกาสครั้งที่สองได้ ทุกคนต้องการเพิ่มพลัง รวมถึงมาริโนด้วย ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหาพันธมิตรที่พวกเขาสามารถไว้วางใจและทำงานร่วมกันได้ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องหลีกเลี่ยงความขัดแย้งให้มากที่สุด สิ่งที่ Marino ทำจะส่งผลต่อแผนการของ Yolanthe เขาไม่สามารถแทรกแซงแผนการของ Yolanthe ได้
“Anfey เราแค่ปล่อย Marquis Djoser ไปหรือเปล่า” โอซิชถาม
“ไม่ปล่อยเขาไป เราแค่ปล่อยให้เขายุ่งไปอีกสองสามวัน” Anfey กล่าว
“ฉันเห็นด้วยกับ Anfey เราไม่ควรทำให้ความสัมพันธ์กับเขาแย่ลงกว่าที่ควรจะเป็น” อลิซกล่าว "เฟร์นานโดน่าจะอยู่ที่นี่เร็วๆ นี้ ผมหวังว่าเขาจะไม่ใช่คนที่น่ารังเกียจ ไม่อย่างนั้นเราจะมีปัญหากันมากเกินไป"
“ท่านอาจารย์อลิซ ท่านกำลังพูดถึงปัญหาอะไรหรือ?” ออร์ซี่ถามด้วยความประหลาดใจ
“ฉันไม่แน่ใจ ฉันคิดว่าเราควรเตรียมพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์ อย่างน้อยเราต้องสามารถถอยกลับไปที่เมืองใต้ดินได้ทุกเมื่อ” อลิซกล่าว
“อลิซ พวกคนแคระจะสร้างปัญหาให้เราหรือเปล่า” ทันใดนั้น Anfey ก็ถาม
“ไม่ครับอาจารย์ ทำไมคุณถามแบบนี้” อลิซถาม
“ส่งอาวุธให้พวกเขา คิดว่าหน้าไม้ดีสำหรับพวกเขา” Anfey พูดเสียงต่ำ "พวกเขาอาจช่วยได้เมื่อจำเป็น"
"ตกลง" อลิซพูด
"เรียกมันว่าวัน" Anfey พูดถูหน้าผาก “พวกคุณเข้านอนเร็ว จำไว้ว่าคุณต้องควบคุมตัวเองสักหน่อย อย่าสร้างความขัดแย้ง เราจะคุยกันต่อไปหลังจากที่ฉันเจอเฟอร์นันโด”