ตอนที่ 376: สมเหตุสมผล
ผู้แปล: Nyoi-Bo Studio บรรณาธิการ: Nyoi-Bo Studio
พื้นที่ดังกล่าวเต็มไปด้วยซอมบี้และถูกควบคุมโดยเนโครแมนเซอร์ ไม่ว่าจะทำตามแผนของดรูอิดหรือแผนดั้งเดิมของเฟอร์นันโด ความระมัดระวังยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด Anfey ระวังตัวมากในขณะที่เขาติดตามดรูอิดซึ่งระมัดระวังตัวมากกว่าเขา
ทหารรับจ้างล้าหลังเพราะพวกเขามีกลุ่มใหญ่ และเป็นการยากสำหรับพวกเขาที่จะแอบดูซอมบี้ในแบบที่ดรูอิดและแอนฟีย์ทำได้ ทหารรับจ้างจะพยายามฆ่าซอมบี้ทุกตัวที่เจอเว้นแต่พวกเขาจะเจอซอมบี้กลุ่มใหญ่ อย่างไรก็ตาม พวกมันก็ไม่สามารถรบกวนพวกดรูอิดได้เช่นกัน เมื่อพวกเขาฆ่าซอมบี้เสร็จ พวกดรูอิดก็จะอยู่ไกลเกินไป
โชคดีที่พวกเขามี Long และ Ling ซึ่งเชี่ยวชาญในการติดตามมาก ทหารรับจ้างคงทำให้พวกดรูอิดตกใจหรือเจอซอมบี้กลุ่มใหญ่
เย่มักจะเป็นคนเงียบๆ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขากำลังพูดคุยและหัวเราะกับพวกดรูอิด โดยปกติแล้ว Anfey มีหน้าที่เบี่ยงเบนความสนใจของคู่ต่อสู้ แต่เขาหมกมุ่นอยู่กับความคิดมากเกินไป เขาต้องการรู้ว่า Manstuly ต้องการอะไรและ Shadow Empire หมายถึงอะไร ยิ่งไปกว่านั้น เขาเป็นห่วงซูซานน่ามาก เขาต้องสงบสติอารมณ์เพื่อดูว่าพวกดรูอิดต้องการอะไร
ที่ไหนสักแห่งในเทือกเขาทรานเวิร์ส ซูซานนากระโดดลงมาจากต้นไม้พร้อมกับยูนิคอร์นและเริ่มมุ่งหน้าไปทางเหนือ เมื่อเทียบกับเมื่อไม่กี่วันก่อน เธอผอมลงอย่างเห็นได้ชัด เธอหิวโหยและเหนื่อยล้า แต่สายตาของเธอก็แน่วแน่ การขมวดคิ้วของเธอไม่ได้บ่งบอกถึงความทุกข์ แต่เป็นความคิด
Anfey จะทำอย่างไรถ้าเขาอยู่ในรองเท้าของเธอ? เธอรู้ดีกว่าใครว่าเขาแสดงอย่างไร เขาก้าวร้าวมากและเธอรู้ว่าเขาจะไม่หนีจากปัญหาในแบบที่เธอทำ เขาจะพยายามหาโอกาสที่จะใช้ประโยชน์สูงสุดจากสถานการณ์ของเขา แม้ว่าเขาจะไม่มีโอกาสใด ๆ เขาจะสร้างมันขึ้นมาเอง ซูซานนารู้ว่าเธอต้องหาทางออกจากสถานการณ์นี้
เธอรู้ดีกว่าใครว่าเธอต้องต่อสู้กับศัตรูแบบไหน เมื่อใดก็ตามที่เธอคิดว่าเธอหนีไปได้และพักผ่อนได้แล้ว ยูนิคอร์นก็จะเตือนเธออีกครั้ง
การวิ่งไม่ใช่ทางออก ซูซานนารู้ถึงความสามารถและตัวเธอเอง และรู้ว่าเธอสามารถหาทางป้องกันตัวเองได้หากเธอพยายามมากพอ ในความเป็นจริงเธอเป็นผู้หญิงที่เก่งมาก ย้อนกลับไปในอาณาเขตของกรูซ เธอเป็นสาวรับใช้ของสาธารณชน อย่างไรก็ตาม ตัวตนที่แท้จริงของเธอคือองครักษ์ของดาเรียสพ่อของเธอ เธอภักดีต่อเขามากและไม่เคยสงสัยคำสั่งของเขาเลย ในสถานที่แบบนั้น เธอไม่มีที่ที่จะใช้ความสามารถของเธอ หลังจากหลบหนีเธอได้พบกับ Anfey เธอรับรู้ถึงพลังของเขาและเต็มใจให้เขาเป็นผู้นำเธอ ในตอนนั้นเธอสามารถพึ่งพา Anfey และเพื่อน ๆ เพื่อขอความช่วยเหลือได้
ตอนนี้เธอพึ่งใครไม่ได้นอกจากดาบและจิตใจของเธอ
ยูนิคอร์นส่งเสียงหอนและกระดิกอยู่ในอ้อมแขนของซูซานนา ซูซานน่าเรียกพลังการต่อสู้และเพิ่มความเร็วของเธอ เธอตบยูนิคอร์นและยูนิคอร์นก็เงียบลง โดยปกติแล้วยูนิคอร์นนั้นซุกซนมาก มันแทบจะไม่เคยทำตามคำสั่งของใครเลย แม้แต่ของ Anfey แม้ว่าตอนนี้ มันเชื่อฟังและปกป้องซูซานนาเป็นอย่างดี มันจะไม่หลงทางไปจากเธอและจะฟังเธอทุกคำ
เดินอย่างแมนๆ ในห้องของเขา ขมวดคิ้ว มีดรูอิดอีกสิบกว่าคนอยู่ในห้อง และเห็นได้ชัดว่าพวกมันทั้งหมดหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่การหายใจก็มีเสียงดังมากเกินไป ดรูอิดอาวุโสยืนอยู่กลางห้อง ตัวสั่น
“นี่คือจดหมายฉบับใหม่ล่าสุดจาก Hotchbini” Manstuly กล่าวพร้อมกับโบกกระดาษในมือ “พวกเขาทำสำเร็จ Hotchbini ใช้ชื่อของ Suzanna เพื่อเข้าใกล้ Anfey จนถึงตอนนี้ เขาเชื่อพวกเขา ตอนนี้พวกเขาอยู่ห่างจาก Shield of Light Legion แล้ว”
ดรูอิดมองหน้ากันแต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
“โทนี่ ฉันไว้ใจนายมาตลอด แต่บอกฉันที นายทำอะไรลงไป” เดินเข้าไปหาดรูอิดกลางห้องอย่างกล้าหาญและถามอย่างเงียบๆ "เชิญซูซานน่ามาที่นี่? เธอคิดออกหรือยังว่ากำลังทำอะไรอยู่?"
"ฉัน…"
ก่อนที่ดรูอิดจะพูดจบ Manstuly ก็ต่อยหน้าชายคนนั้น ร่างของดรูอิดสะดุดล้มลงกับพื้น เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากและไอ แต่ไม่นานเขาก็ตะเกียกตะกายขึ้นมาอีกครั้ง
"ยกตัวอย่าง Hotchbini" Manstuly พูดอย่างเย็นชา "เธอเป็นเอลฟ์และไม่นานมานี้เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอุบาย ตอนนี้เธอใช้สถานการณ์ของเธอให้เป็นประโยชน์ เธอเห็นสิ่งที่ผู้ชายทำต่อกันใน Country of Mercenaries เธอสังเกตและเธอเรียนรู้และปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น ถ้าเธอสามารถใช้ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนเป็นอาวุธเพื่อสร้างความไว้วางใจ ทำไมเธอทำไม่ได้ ฉันสนับสนุนให้คุณออกไปสำรวจ เพราะฉันคิดว่ามันจะช่วยให้คุณเรียนรู้ ฉันเข้าใจแล้วว่าฉันคิดผิด คนโง่เขลาจะเป็นคนโง่เขลาเสมอ ฉันประเมินคุณสูงเกินไป พวกคุณทุกคน"
น้ำเสียงของแมนสตูลี่สงบ แต่ดรูอิดในห้องเหงื่อออกและตัวสั่นด้วยความกลัว พวกเขารู้ว่าเมื่อ Manstuly สงบลง เขาคือคนที่โกรธที่สุด
แมนสตูลี่ถอนหายใจและหันไปหาดรูอิดอีกคน “บาร์เดสัน” เขากล่าว “คุณจะทำอะไรถ้าฉันมอบภารกิจนี้ให้คุณ”
ดรูอิดชื่อบาร์เดสันยืดตัวตรงและพูดอย่างเร่งรีบว่า "ฉันจะตามหาซูซานนาและบอกเธอว่าโมราแมตช์ล้มลง ฉันจะบอกว่าแอนเฟย์บาดเจ็บสาหัสเพื่อดึงเธอเข้าหามัน ซูซานนาเป็นเป้าหมายที่ง่ายกว่าอันเฟย์"
"มีอะไรอีกไหม"
“ฉันจะพยายามก่อความวุ่นวายใน Violet City เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของผู้คนที่ Anfey และ Suzanna ทิ้งไว้ที่นั่น” Bardeson กล่าว “ถ้าอย่างนั้นฉันจะพาน้องสาวของเธอไปและบังคับให้ซูซานนายอมทำตาม”
“ไม่ใช่แผนการที่ดีที่สุด” แมนสตูลี่พูดพร้อมส่ายหัว "กองพัน Shield of Light ได้มาถึง Moramatch แล้ว หากเนโครแมนเซอร์สามารถทำลายกองทหารนั้นได้ พวกเขาก็พร้อมที่จะทำลายอาณาจักร Maho ทั้งหมด สำหรับ Violet City ...Baery ประจำการอยู่ที่นั่น กลยุทธ์นั้นใช้ไม่ได้ผล"
บาร์เดสันหน้าซีดและอ้าปากแต่ไม่สามารถพูดอะไรได้
“อย่างไรก็ตาม” แมนสตูลี่พูดต่อ “คุณใช้หัวคิด ซึ่งก็ดี แผนนั้นแม้ว่าจะมีข้อบกพร่อง แต่ก็ยังดีกว่าเชิญซูซานนามาที่นี่ คุณว่าไหม โทนี่”
โทนี่ก้มหน้าลงและไม่พูดอะไร
“ตอนนี้ Hotchbini ต้องหัวเราะแน่” Manstuly กล่าว เขาตบไหล่โทนี่และพูดว่า "ฉันไว้ใจคุณและดูแลคุณมาหลายปีแล้ว คุณตอบแทนฉันอย่างไร คุณทำให้ฉันอาย หลอกฉัน คุณทำได้อย่างไร โทนี่"
โทนี่ส่ายหัวอย่างสิ้นหวัง
“ฉันจะให้โอกาสคุณอธิบายตัวเอง” Manstuly กล่าว
“นี่ไม่ใช่ความผิดของฉัน นายท่าน!” โทนี่พูดอย่างเร่งรีบ "มันเป็นความผิดของ Mauso! เขาไม่ได้แค่โกหกฉัน ท่านลอร์ด เขายังหลอกคุณด้วย! เขาสัญญาว่าจะให้ยืมมือ แต่เขายืนอยู่ตรงนั้นและเฝ้าดู Suzanna หนีไป ฉันไปหาเขาในภายหลัง แต่หาไม่พบเลย นายท่าน ท่านต้องเชื่อข้าพเจ้า!"
ดรูอิดคนอื่นๆ ต่างก็อ้าปากค้างกับคำพูดของโทนี่ พวกเขาทุกคนรู้ว่า Manstuly และ Mauso บรรลุข้อตกลงแล้ว และ Mauso ได้ทรยศต่อความไว้วางใจของ Manstuly พวกเขารู้ด้วยว่าไม่ควรพูดเรื่องนี้ต่อหน้า Manstuly
ทุกคนรู้ว่า Manstuly โหดร้ายและเจ้าเล่ห์ แต่เขาก็ภูมิใจมากเช่นกัน เขายังคงอยู่ในอำนาจเนื่องจากการสนับสนุนของเอลฟ์ และเขาเชื่อเสมอว่าเขาสามารถหลอกใครบางคนได้ แต่ไม่ใช่ในทางกลับกัน
ตอนนี้ ทุกคนรู้ว่า Mauso หลอก Manstuly Manstuly ไม่โกรธคนของเขา เขาโกรธที่เมาโซ
“คุณบอกว่าเป็นความผิดของฉันที่เกิดเรื่องนี้ขึ้นเหรอ”
“ไม่ นายท่าน ข้า…”
ก่อนที่โทนี่จะพูดจบ Manstuly ก็กระแทกมือของเขาผ่านหน้าอกของชายคนนั้น โทนี่อ้าปากค้างด้วยความเจ็บปวดและพยายามดิ้นรนอยู่สองสามวินาทีก่อนที่จะล้มลง Manstuly เช็ดเลือดบนเสื้อของเขาและชำเลืองมองดรูอิดคนอื่นๆ ที่กำลังสั่นอย่างควบคุมไม่ได้