ตอนที่ 397: ใส่ร้าย
ผู้แปล: Nyoi-Bo Studio บรรณาธิการ: Nyoi-Bo Studio
“อาจารย์ Anfey ท่านควรรับผิดชอบที่ตกหลุมพรางของเนโครแมนเซอร์” อัศวินแห่งแสงกล่าวโดยเน้นย้ำทุกคำก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง เขามองหาคนที่จะสนับสนุนเขา น่าเสียดายที่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจสิ่งที่เขาพูด ยกเว้นอัศวินแห่งแสงและนักบวชสองสามคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะเข้าร่วมการประชุมนี้ ส่วนที่เหลือพูดคุยกันเป็นกลุ่มอย่างเงียบ ๆ หรือไม่ก็หลับตาพักผ่อน
หลังการต่อสู้ บลาวีและกลุ่มนักเวทย์ของเขาได้ตรวจสอบรอบสนามรบอย่างละเอียดด้วย Eyes of Sky พวกเขาพบวิญญาณแห่งความตายระดับอาวุโสในหมู่วิญญาณแห่งความตาย พวกเขาพบเดธไนท์ประมาณ 500 ตัวและวิญญาณอีกกว่า 300 ตัว อย่างไรก็ตาม มีวิญญาณแห่งความตายจำนวนมาก มันยากที่จะประเมินจำนวน
วิญญาณแห่งความตายเหล่านี้น่ารำคาญเป็นพิเศษ ความสามารถในการโจมตีและการป้องกันของพวกเขาไม่ดีเท่าอัศวินแห่งความตาย แต่พวกเขาสามารถบินและปล่อยเวทมนตร์ที่อาจส่งผลต่อการทำงานของมนุษย์ได้ พวกเขาโจมตีผู้ที่มีจิตตานุภาพหรือกระแสจิตน้อยในลักษณะที่จะทำให้พวกเขามีภาพลวงตาอย่างต่อเนื่องหรือเป็นบ้า
อสุรกายเป็นสายพันธุ์ที่หายากในหมู่วิญญาณแห่งความตายเนื่องจากพวกมันถูกสร้างขึ้นมาคล้ายกับหุ่นเชิด เมื่อเนโครแมนเซอร์สามารถบังคับวิญญาณที่ไม่กระจายตัวให้รวมเข้ากับผงคริสตัลเวทมนตร์ชุดดำได้ ปีศาจก็ถือกำเนิดขึ้น อสุรกายมีการป้องกันที่แข็งแกร่งและความสามารถในการฟื้นฟูเกือบจะผิดปกติ เนื่องจากพวกมันเป็นเพียงผงคริสตัลเวทมนตร์ในอากาศ ดาบและขวานแทบจะไม่สามารถทำร้ายพวกเขาได้ เวทมนตร์ระดับต่ำไม่มีผลกับพวกเขา
ตามทฤษฎีแล้ว หากมีผลึกเวทมนตร์ชุดความมืดเพียงพอ เนโครแมนเซอร์สามารถสร้างวิญญาณได้มากเท่าที่ต้องการ แต่มันก็เป็นแค่ทฤษฎี ผลึกเวทย์มนตร์ชุดความมืดนั้นหายากและมีคุณภาพหลากหลาย ดังนั้นจึงไม่มีเนโครแมนเซอร์คนใดที่จะสร้างอสุรกายของพวกเขาด้วยผลึกเวทย์มนตร์ได้
นักบวชแห่งแสงพยายามไกล่เกลี่ย "อันที่จริง เราไม่สามารถโทษอาจารย์ Anfey ได้ทุกอย่างสำหรับสถานการณ์ที่เราเป็นอยู่" อย่างไรก็ตามเขาไม่ต้องการช่วย Anfey จริงๆ "ไม่สามารถตำหนิ Anfey ทุกอย่างได้" เขาหมายความว่า Anfey ต้องรับผิดชอบส่วนใหญ่ “นอกจากนี้ คงไม่ช่วยอะไรหากเราเอาแต่โทษกันตอนนี้ เราควรเก็บไว้พิจารณาว่าเราควรทำอย่างไรต่อไป หากเราอยู่ที่นี่ เราคงตาย ที่จะทำลายการปิดล้อมของพวกเขา…”
“โทษกัน?” ทันใดนั้นเย่ก็หัวเราะ "ใครตำหนิใคร ดูเหมือนว่าพวกคุณเท่านั้นที่กล่าวโทษอาจารย์ Anfey ใช่ไหม"
“คุณ…” นักบวชแห่งแสงผู้นั้นไม่มีวันกลับมา
“ทำลายการปิดล้อม? ฉันไปนอนดีกว่าเสียเวลาอยู่กับคุณที่นี่” Ozzic พูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด
อัศวินแห่งแสงและนักบวชมองหน้ากัน พวกเขาถูกล้อมอยู่ในเมือง Zagreen และขวัญกำลังใจของพวกเขาตกต่ำที่สุด ซึ่งเป็นเวลาที่ดีที่สุดในการทำลายชื่อเสียงของ Anfey ในหมู่ทหารรับจ้าง หากพวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับ Anfey ได้ในขณะนั้น พวกเขาจะไม่มีโอกาสอีกในอนาคต
“ท่านอาจารย์ทอมป์สัน ท่านคิดว่าอย่างไร” จู่ๆ อัศวินแห่งแสงก็ถามในขณะที่ทุกคนเงียบ Thompson เพิ่งเข้าร่วม Anfey's League กับกลุ่มทหารรับจ้างของเขา อัศวินแห่งแสงและนักบวชคิดว่าทอมป์สันมีสายสัมพันธ์ที่เปราะบางกับแอนฟีย์ พวกเขาต้องการให้ทอมป์สันอยู่เคียงข้าง มิฉะนั้น พวกเขาจะแพ้การต่อสู้ครั้งนี้กับแอนฟีย์โดยสิ้นเชิง
ทอมป์สันดูเหมือนจะไม่ได้ยินว่าเขาถูกเรียกออกมา เขายังคงพูดบางอย่างกับ Orsie อย่างเงียบ ๆ และยิ้ม อัศวินแห่งแสงและนักบวชไม่เข้าใจว่าเขาหัวเราะได้อย่างไรในเวลานี้
“ท่านอาจารย์ทอมป์สัน ท่านคิดว่าอย่างไร” อัศวินแห่งแสงกล่าวอีกครั้งพร้อมเปล่งเสียงของเขา
ทอมป์สันยังคงพูดคุยและหัวเราะกับออร์ซี่
อันที่จริง ไม่ต้องใช้สติปัญญามากในการดูว่าทอมป์สันทำสิ่งนี้โดยเจตนา เป็นไปไม่ได้ที่ทอมป์สันจะไม่ได้ยินในระดับเสียงนี้ อัศวินแห่งแสงถูกบังคับให้ดำเนินการต่อเพื่อรับการตอบสนองจากทอมป์สัน เขาคงจะอยู่ในสถานการณ์ที่น่าอึดอัดกว่านี้ถ้าเขาถอยออกไปตอนนี้ “อาจารย์ทอมป์สัน!” เขาดูโกรธมาก
"ฮะ? อะไรนะ?" ทอมป์สัน "ในที่สุด" ก็ได้ยินเขา
“คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับสถานการณ์ปัจจุบันของเรา” อัศวินแห่งแสงกล่าวพร้อมกับกัดฟัน เขารู้ว่าเขาเลือกคนผิด แต่เขาก็ต้องดำเนินการต่อไป เขาจำเป็นต้องแก้ตัวในบางจุดเพื่อที่เขาจะได้ไม่รู้สึกเคอะเขินเกินไป
“ฉันไม่มีคำแนะนำใดๆ ฉันจะติดตามนายไม่ว่าเขาจะไปที่ใด” ทอมป์สันพูดอย่างใจเย็น เขาดูเหมือนนึกอะไรบางอย่างออกและพยายามอธิบายว่า "ฉันควรชี้แจง: เมื่อฉันพูดว่า 'อาจารย์' ฉันไม่ได้หมายถึงคุณ"
ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะ อัศวินแห่งแสงคนนั้นหน้าแดงและรู้สึกเหมือนจะระเบิดด้วยความโกรธ แต่เขาก็ไม่ทำเช่นนั้น เพราะเขาไม่มีเหตุผลที่จะทำเช่นนั้นจริงๆ อัศวินแห่งแสงไม่ต้องการปล่อยมันไป
Anfey กำลังเล่นกับยูนิคอร์นตัวน้อย เขาไม่คิดว่าอัศวินแห่งแสงและนักบวชเพียงไม่กี่คนจะทำลายชื่อเสียงของเขาได้ ทหารรับจ้างเคารพผู้มีอำนาจ ถ้าเป็นไปได้พวกเขาอยากติดตามผู้มีอำนาจ คำพูดที่ไม่ดีนับล้านเกี่ยวกับ Anfey จะไม่มีอิทธิพลเท่ากับ Suzanna ในการเคลื่อนไหว
“อาจารย์แอนเฟย์?” Priest of Light คนนั้นกังวลและโกรธเมื่อเห็น Anfey ฟุ้งซ่าน
"คุณต้องการให้ฉันทำอะไร?" Anfey ตอบด้วยรอยยิ้ม
“เมื่อคุณสั่งให้เราโจมตี มันทำให้เราพลาดเวลาที่ดีที่สุดในการล่าถอย คุณไม่คิดที่จะพูดอะไรหน่อยเหรอ?” นักบวชแห่งแสงกล่าว
"ล่าถอยครับท่าน!" ชินเบลล่าไม่อยากแม้แต่จะเรียกชื่อเขาด้วยซ้ำ “คุณคิดว่าเดธไนท์และอสุรกายเหล่านั้นมีไว้เพื่ออะไร ถ้าฉันจำไม่ผิด พวกเขายังไม่ปรากฏตัวในการต่อสู้”
“ถ้าเดธไนท์และอสุรกายเหล่านั้นเข้าร่วมการต่อสู้ เราอาจถูกวิญญาณแห่งความตายรุมล้อมรอบตัวเรา เราไม่มีกำแพงกั้นระหว่างเรา วิญญาณแห่งความตายเหล่านั้นสามารถบดขยี้รูปแบบที่เรามีได้อย่างง่ายดาย” หูของทอมป์สันดูเหมือนจะกลับมาทำงานอีกครั้ง "ถ้าเราฟังคุณ เราคงเป็นวิญญาณแห่งความตายไปแล้ว"
“เราทำอะไรไม่ได้ เรารอตายอยู่ตรงนี้หรือ” Priest of Light คนนั้นต้องโต้แย้งจากมุมมองที่แตกต่างออกไป
"ทำไมเราถึงรอไม่ได้" Anfey พูดอย่างใจเย็น “อาร์คไนท์เฟอร์นันโดมองหาโอกาสที่จะต่อสู้กับวิญญาณแห่งความตาย ถึงเวลาแล้ว ไม่ใช่เรื่องดีใช่ไหม”
“แต่อาร์คไนท์เฟอร์นันโดไม่รู้สถานการณ์ของเรา” นักบวชแห่งแสงตะโกน
เขาฟังดูเหมือนคนธรรมดา อัศวินแห่งแสงอีกสามคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะนั่งในที่ประชุมต่างก็ยิ้มอย่างขมขื่น
"เราแบ่งแต่ละวันออกเป็น 6 ช่วงเวลา แต่ละช่วงเวลาเราได้ส่งกลุ่มอัศวินชั้นยอดออกไปเพื่อติดต่อกับอาร์คไนท์ เฟอร์นันโด หากอาร์คไนท์ไม่ได้รับข้อมูลใดๆ จากเรา เขาสามารถคาดเดาตำแหน่งของเราและความสามารถในการต่อสู้ของศัตรูด้วย ช่องว่างของเวลา "Anfey อธิบายอย่างอดทนเหมือนครู “ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวล พวกเขาจะมาช่วยโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
"นี่เป็นเรื่องตลก เนื่องจากเราถูกล้อม เราจึงไม่ได้ส่งใครไปติดต่ออาร์คไนท์ เฟอร์นานโด อาร์คไนท์ เฟอร์นันโดรู้ได้อย่างไรว่าเราอยู่ที่ไหนและจำนวนเนโครแมนเซอร์ที่เราต้องจัดการ" นักบวชแห่งแสงกล่าว
อัศวินแห่งแสงสองสามคนก้มหัวลงอย่างงุ่มง่าม พวกเขาไม่เห็นด้วยกับเพื่อนของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงต้องแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินที่เขาพูด
“เอาเป็นว่า เราส่งอัศวินของเราไปหาอาร์คไนท์เฟอร์นันโดในเที่ยงนี้ ตอนเที่ยง เราอยู่ห่างจากซากรีน 30 ไมล์และจะถึงสตอร์เมนเบิร์กในอีกสามวัน อาร์คไนท์เฟอร์นันโดจะได้รับการแจ้งเตือนหากอัศวินรอบต่อไปไม่มา” ไปหาเขาทันเวลาถ้าอัศวินรอบต่อไปหายไปเขาคงรู้ว่ามีอะไรผิดปกติ หาเราง่าย เราน่าจะอยู่ห่างจากอัศวินรอบสุดท้ายที่ไปถึงแค่ครึ่งวัน สตอร์เมนเบิร์ก ในแง่ของจำนวนวิญญาณแห่งความตาย เรามีทหารรับจ้างประมาณ 4,000 คน อัศวินแห่งแสงและนักบวชประมาณ 1,000 คน หากเรามีปัญหาใด ๆ เขาจะรู้ว่าเราได้พบกับกองกำลังหลักของวิญญาณแห่งความตาย” Anfey ดูสงบและดี แต่คำพูดของเขาไม่ใช่ "ฉันอธิบายชัดเจนหรือไม่ ไม่ใช่ทุกคนที่โง่เหมือนคุณ Archknight Fernando เป็นนายพลที่ดี คุณไม่สามารถประเมินสติปัญญาและความสามารถในการตัดสินของ Archknight Fernando ด้วยสติปัญญาของคุณเอง"
อาจเป็นไปได้ว่านักบวชคนนั้นอุทิศชีวิตให้กับพระเจ้า ดังนั้นเขาจึงต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้ว่า Anfey หมายถึงอะไร Anfey ไม่ได้ดุเขาโดยตรง หรือบางทีเขาอาจเข้าใจว่า Anfey หมายถึงอะไร แต่ไม่สามารถเข้าใจได้ เขาตัวสั่นด้วยความโกรธ
“ถ้าคุณยังกังวลและคิดว่า Archknight Fernando ก็โง่เหมือนคุณ คุณสามารถขอความช่วยเหลือด้วยตัวเอง” Anfey กล่าว
“ขอความช่วยเหลือ? ก็ไม่ต่างอะไรจากการฆ่าตัวตาย” อัศวินแห่งแสงกล่าวพร้อมยิ้มอย่างขมขื่น "อาร์คไนท์เฟอร์นันโดจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 วันจึงจะมาที่นี่ เราจะอยู่ต่ออีก 8 วันได้ไหม" นอกจากเวลาที่อัศวินต้องการส่งข้อความแล้ว ยังต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองวันในการจัดกองทหารของเขาใหม่และอีกไม่กี่วันก็จะมาถึง อัศวินแห่งแสงไม่ผิด
Anfey พูดด้วยเสียงต่ำ "ถ้าวิญญาณแห่งความตายโจมตี Zagreen City คุณคิดว่าเราจะทนได้นานแค่ไหน"
“ฉันไม่รู้ว่าเราจะทนได้นานแค่ไหน แต่ฉันรู้ว่าเราจะตายในไม่ช้าเมื่อกลุ่มนักบวชใช้เวทมนตร์หมด” อัศวินแห่งแสงตอบ เขาไม่ได้ตั้งใจจะเพิกเฉยต่อความสามารถในการต่อสู้ของกลุ่มนักเวทย์ แต่เขาต้องยอมรับว่านักบวชนั้นแข็งแกร่งกว่ามากในแง่ของการต่อสู้กับวิญญาณแห่งความตาย
“พวกเขารวบรวมวิญญาณแห่งความตาย อัศวินแห่งความตาย และอสุรกายจำนวนนับไม่ถ้วนเพื่อกวาดล้างเราหรือไม่ เรามีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น” Anfey กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“อืม…” บาทหลวงพูด
“คุณไม่คิดว่าพวกเขาทำเกินไปเหรอ” Anfey ถาม
“คุณกำลังจะบอกว่า…” บาทหลวงพูด
“ฉันไม่ได้พูดอะไร แค่อยู่ที่นี่” ไม่ว่าคนอื่นจะคิดอย่างไร Anfey ก็สงบสติอารมณ์ตั้งแต่เขามี Warner และ Book of Life เขาได้เห็นพลังของหนังสือแห่งชีวิตใน Moramatch แน่นอน ถ้าคนอื่นรู้เรื่องหนังสือแห่งชีวิต ความขัดแย้งกับคริสตจักรก็จะแตกออก เขายังไม่พร้อม เขาจะไม่ใช้วอร์เนอร์เว้นแต่จะมีความจำเป็นจริงๆ