ตอนที่ 89: ประเทศของทหารรับจ้าง
ผู้แปล: Nyoi-Bo Studio บรรณาธิการ: Nyoi-Bo Studio
Country of Mercenaries เป็นประเทศเดียวที่ไม่มีทหารใน Pan Continent อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการป้องกันของมันไม่สามารถละเลยได้ เมื่อจักรวรรดิเอลลิเซนถึงจุดสูงสุด จักรวรรดิเอลลิเซนต้องการครอบครองดินแดนบางส่วนในประเทศทหารรับจ้าง การทดสอบของจักรวรรดิเอลลิเซนโจมตีประเทศทหารรับจ้าง ทหารในจักรวรรดิเอลลิเซนมีประวัติที่ยอดเยี่ยมในสนามรบกับทหารรับจ้าง ทหารรับจ้างไม่กล้าเผชิญหน้ากับพวกเขาในสนามรบ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ถูกจัดระเบียบหรือไม่มีกองกำลังทหารที่เป็นเอกภาพ ในเดือนแรก จักรวรรดิเอลลิเซนได้ยึดครองพื้นที่หนึ่งในสามของดินแดนทหารรับจ้าง
ทหารใน Ellisen Empire รู้สึกตื่นเต้น พวกเขาเขียนคำสาบานต่อกษัตริย์โดยสาบานว่าจะยึดครองดินแดนทหารรับจ้างทั้งหมดภายในสามเดือน อย่างไรก็ตาม พวกเขาพบว่าพวกเขาถูกล้อมรอบด้วย "War Marsh" ก่อนที่คำสาบานจะไปถึงโต๊ะของราชาแห่งอาณาจักรเอลลิสันเสียด้วยซ้ำ
ทหารรับจ้างมีอยู่ทั่วไปในประเทศทหารรับจ้าง บางคนเป็นชาวพื้นเมืองในขณะที่บางคนเป็นผู้อพยพ พวกเขาเป็นพลเรือนในประเทศและกลายเป็นทหารรับจ้างตามต้องการ บางครั้งหากไปเคาะประตูที่ Country of Mercenaries ก็จะพบว่ามีนักดาบหรือนักปราชญ์ไม่กี่คนในครอบครัว ก็ไม่น่าแปลกใจอะไร
สามารถจัดกลุ่มทหารรับจ้างได้หลายวิธี อาจเป็นได้ทั้งเพื่อนที่มีความสนใจเหมือนกัน ครอบครัว เพื่อนบ้าน แม้กระทั่งหมู่บ้านในฐานะกลุ่มทหารรับจ้างขนาดใหญ่ ไม่ว่าทหารรับจ้างจะถูกจัดระเบียบอย่างไร สำนึกในศีลธรรม ความภักดี และความรับผิดชอบของพวกเขาดีกว่าทหารมาก
แม้ว่าทหารรับจ้างที่มีขนาดแตกต่างกันจะต่อสู้ด้วยตัวเอง แต่พวกเขาก็ยังสร้างปัญหาใหญ่ให้กับกองทหารของจักรวรรดิเอลลิเซ่น การส่งกำลังบำรุง เรนเจอร์ขนาดเล็ก และหน่วยสอดแนมใน Ellisen Empire ประสบกับการโจมตีอย่างต่อเนื่อง กล่าวอีกนัยหนึ่ง นอกเสียจากว่าทหารในอาณาจักรเอลลิเซนจะอยู่ด้วยกันในค่ายของพวกเขา ทหารกลุ่มใดก็ตามที่ถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มหลายกลุ่ม มากกว่าสิบคนหรือแม้แต่หลายร้อยคน พวกเขาล้วนถูกโจมตีร้ายแรงจากทหารรับจ้าง เมื่อกำลังหลักมาช่วยก็เห็นแต่ศพทหารของตน เมื่อพวกเขาทำการสืบสวนในหมู่บ้าน พวกเขาไม่พบอะไรเลย พลเรือนหรือผู้ที่ดูเหมือนจะเป็นพลเรือนเหล่านั้นเป็นศัตรูกับทหารในอาณาจักรเอลลิเซนและปฏิเสธที่จะให้ความร่วมมือ
โลจิสติกส์ได้รับความเดือดร้อนมากที่สุด เพื่อยึดดินแดนในดินแดนทหารรับจ้างอย่างรวดเร็ว กองทหารในอาณาจักรเอลลิเซนมักจะเหลือทหารเพียงร้อยหรือสองสามพันนายไว้เป็นยามหลังจากที่พวกเขาเข้ายึดครองพื้นที่ ในขณะที่กองกำลังหลักจะยังคงรุกคืบต่อไป ทหารรับจ้างต่อสู้กลับและทำลายกองกำลังของทหารรักษาพระองค์ทีละคน กองทหารของจักรวรรดิเอลลิเซนพบว่าพวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกศัตรูรายล้อม
ทหารใน Ellisen Empire ไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างพลเรือนผู้รักสงบและนักฆ่าที่สังหารคนรอบข้างได้ พวกเขาไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ คำว่า "ฆ่า" เป็นข้อห้าม ในการต่อสู้ของมนุษย์กับเผ่าพันธุ์อื่น ผู้ฆ่าสัตว์กลายเป็นวีรบุรุษของมนุษย์เสมอ แต่มนุษย์ทุกคนอาจปฏิเสธผู้ฆ่าสัตว์ในสงครามกลางเมือง แน่นอน มันยังคงเป็นไปได้ที่จะสังหารประเทศแห่งทหารรับจ้าง ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของชนชั้นสูงใน Ellisen Empire
ก่อนอื่น Country of Mercenaries เป็นประเทศที่มีประวัติศาสตร์การต่อสู้ ความตายจะไม่ทำให้พวกเขาหวาดกลัวเนื่องจากพวกเขามีประวัติการต่อสู้กับมัจจุราช การสังหารจะทำให้ทหารรับจ้างหลงระเริงกับการแก้แค้นอย่างฟุ่มเฟือย กองทหารของจักรวรรดิเอลลิเซนจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการสู้รบเพียงลำพัง เนื่องจากประเทศอื่นๆ ในแพนทวีปอาจรวมตัวกันเพื่อต่อสู้กับจักรวรรดิเอลลิเซน การส่งมอบโลหะ คริสตัลเวทมนตร์ และเสบียงทางการทหารอื่นๆ จะถูกขัดขวาง จากนั้นจะเป็นการยากที่จะหาเสบียงจากประเทศอื่น ในขณะที่สินค้าท้องถิ่นในอาณาจักรเอลลิเซนจะมีน้อยลง พวกเขายังจะประสบกับความโดดเดี่ยวทางการเมืองและเศรษฐกิจและการโจมตีอีกด้วย หาก Country of Mercenaries พยายามเรียกร้องให้ประเทศอื่นร่วมกันต่อสู้กับ Ellisen Empire ในนามของความยุติธรรม จักรวรรดิ Ellisen ก็จะเสียเปรียบทางทหาร
ความเป็นไปได้ที่หายนะเหล่านี้ทำให้ชนชั้นสูงในอาณาจักรเอลลิเซนตัดสินใจในที่สุดหลังจากพิจารณาอย่างยาวนานเพื่อเรียกคืนกองทัพของพวกเขา แผนรุกของพวกเขาที่จะก้าวไปข้างหน้าในสามสาขาล้มเหลว กองทัพในสามสาขานั้นรวมตัวกันและล่าถอยไปยัง Ellisen Empire ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
ทหารสองคนเสียชีวิตที่นี่และทหารสิบกว่านายเสียชีวิตที่นั่น ดูเหมือนจะไม่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม มันเกิดขึ้นบ่อยครั้งจนเมื่อจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น บวกกับทหารองครักษ์ที่หายไป ชนชั้นสูงในอาณาจักรเอลลิเซนพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดสูงถึง 40,000 คน
สงครามจบลงด้วยการสูญเสียผู้รุกราน จักรวรรดิเอลลิเซน ตั้งแต่นั้นมา ประเทศอื่น ๆ มักจะพิจารณากลยุทธ์ทางทหารของประเทศทหารรับจ้างโดยให้ทุกคนมีส่วนร่วมในสงคราม Country of Mercenaries และ Tumen Commercial Union เป็นสองรัฐบาลพิเศษทางใต้และทางเหนือของ Pan Continent ตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบกับสหภาพการค้าทูเมน ประเทศทหารรับจ้างมีเอกราชเต็มที่ ขณะที่สหภาพการค้าทูเมนขึ้นอยู่กับจักรวรรดิมาโฮ สหภาพการค้าทูเมนสามารถพัฒนาได้ถึงระดับนี้เนื่องจากนโยบายเปิดของจักรวรรดิมาโฮ หากราชาแห่งอาณาจักรมาโฮโหดร้ายและละโมบ สหภาพการค้าทูเมนคงไม่อยู่ในตำแหน่งที่ดีเช่นนี้
เมืองแบล็ควอเตอร์เป็นหนึ่งในสองเมืองที่สำคัญที่สุดในประเทศทหารรับจ้าง นอกจากนี้ยังเป็นหนึ่งในศูนย์กระจายคริสตัลเวทมนตร์ที่ใหญ่ที่สุดใน Pan Continent ในโลกเวทมนตร์ ความต้องการและการสึกหรอของคริสตัลเวทมนตร์นั้นสูงมาก ใครก็ตามที่ควบคุมคริสตัลเวทมนตร์ได้จะเป็นผู้ควบคุมเส้นเลือดแห่ง Pan Continent อาณาจักรเอลลิเซนเคยมีอำนาจมาก แต่ก็เสื่อมถอยในเวลาต่อมา จักรวรรดิเอลลิเซนถูกยึดครองโดยจักรวรรดิมาโฮ นโยบายปฏิเสธนักธุรกิจจากอาณาจักรเอลลิเซนเข้าสู่ประเทศทหารรับจ้างมีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ หลังจากการรุกรานของจักรวรรดิเอลลิเซน นโยบายนี้ดำเนินมาเป็นเวลากว่าร้อยปี ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของจักรวรรดิเอลลิเซนอย่างมาก จักรวรรดิเอลลิเซ่นต้องซื้อคริสตัลเวทมนตร์ในราคาสูงจากประเทศที่มีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับมัน ไม่สามารถคำนวณการสูญเสียในรอบร้อยปีที่ผ่านมาได้ นี่เป็นตัวอย่างคลาสสิกของกรรมใน Pan Continent
หนึ่งร้อยปีต่อมา การล้างแค้นไม่ได้หยุดลงจนกระทั่งเจ้าหญิงผู้งดงามแห่งอาณาจักร Ellisen ได้แต่งงานกับผู้บัญชาการกองทหารจากกลุ่มทหารรับจ้างระดับสูงใน Country of Mercenaries ความแตกต่างระหว่างอายุของพวกเขามีมาก ไม่ว่าการแต่งงานจะเป็นผลมาจากความกังวลทางการเมืองก็เป็นไปไม่ได้ที่จะตรวจสอบย้อนกลับ
ลูกชายสองคนของผู้บัญชาการกรมทหารคนนั้นเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และหลานชายวัย 2 ขวบเสียชีวิตด้วยโรคร้ายในอีกหนึ่งปีต่อมา ลูกชายของเจ้าหญิงแสนสวยคนนั้นได้รับตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหาร ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวนี้จะบังเอิญหรือวางแผนไว้ก็เป็นเพียงตำนาน อย่างไรก็ตาม มันไม่คุ้มที่จะตรวจสอบ เนื่องจากผู้คนรู้ว่าอาณาจักรเอลลิเซนกำลังดีดตัวขึ้นเพื่อกู้คืนความแข็งแกร่งในอดีต
กษัตริย์องค์อื่นๆ ใน Pan Continent ได้เรียนรู้จาก Ellisen Empire เกี่ยวกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นจาก Country of Mercenaries พวกเขาพยายามรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับ Country of Mercenaries ขณะที่คอยจับตาดูมัน พวกเขาสามารถทนต่อการมีทรัพยากรหลักอยู่ภายใต้การควบคุมของประเทศที่ไม่มีระเบียบ แต่ไม่สามารถยอมให้มีรัฐบาลเผด็จการที่มีอำนาจได้ เพราะจะกลายเป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อทุกประเทศ
ชนชั้นสูงในประเทศทหารรับจ้างดูเหมือนจะเข้าใจหลักการนี้ กลุ่มทหารรับจ้างระดับสูงสี่กลุ่มมีอำนาจผลัดกัน ทุกวาระเพียงหนึ่งปี ไม่ว่ากลุ่มทหารรับจ้างใดจะพัฒนาอย่างรวดเร็ว กลุ่มทหารรับจ้างอื่น ๆ จะทำงานร่วมกันเพื่อลดพลังลง มีความขัดแย้งภายในมากมายในหมู่ทหารรับจ้าง พวกเขารู้ว่าต้องมีความแตกแยกภายในเพื่อลดอำนาจเพื่อไม่ให้ตกเป็นเป้าของประเทศอื่น
Anfey ได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้จาก Christian และ Suzanna มีคำกล่าวว่า "ต้องดูจึงจะเชื่อ" เมื่อ Anfey เข้าสู่ Blackwater City เขาสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงในเมือง Blackwater มากกว่าใน Maho Empire และ Tumen Commercial Union
กำแพงเมืองในเมืองแบล็ควอเตอร์นั้นต่ำมาก ประเทศทหารรับจ้างเป็นประเทศที่ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกในการป้องกัน แต่มีระบบป้องกันที่แข็งแกร่ง กำแพงเมืองไม่เคยช่วยอะไร คนเดินเท้าบนถนนหลายคนสวมสัญลักษณ์นักดาบและผู้วิเศษ อัตรานักดาบและนักเวทย์ในเมืองแบล็ควอเตอร์นั้นสูงกว่าในมาโฮเอ็มไพร์มาก ดูเหมือนว่าอาคารบนถนนจะเก่ามาก พวกเขาไม่สูงและยิ่งใหญ่เท่าของจักรวรรดิมาโฮ หรือหรูหราเท่าของสหภาพการค้าทูเมน
ผู้แสวงหาความสุขข้างถนนคนหนึ่งพลิกกระโปรงของผู้หญิงและบีบบั้นท้ายของเธออย่างแรง ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนเธอจะสนุกกับมัน บาร์ดังมากจนคลื่นเสียงดังไปถึงบาร์ ซึ่งดูเหมือนว่ามันจะทำให้ผู้คนบนถนนหูหนวกได้ สิ่งเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นใน Maho Empire หรือ Tumen Commercial Union Maho Empire และ Tumen Commercial Union ดูเหมือนจะมีอารยธรรมในขณะที่ที่นี่ยังคงดุร้าย ทั้งสามเมืองนี้มักจะสร้างความประทับใจให้กับผู้คนที่แตกต่างกันไป
Anfey พบผู้คนบนถนนดูเหมือนจะไม่สนใจคนอื่น ทุกครั้งที่พวกเขาพบคนแปลกหน้าบนถนน Christian และคนอื่นๆ ในกองทหารของ Anfey จะเฝ้ามองอย่างสงสัยอยู่พักหนึ่ง แต่ผู้คนในเมือง Blackwater ก็ปฏิบัติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
มีอิสระค่อนข้างมากในเมือง Blackwater สหภาพทหารรับจ้างจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัว เว้นแต่ว่าจะทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยสำหรับผู้อื่น ไม่มีใครจะตัดสินว่าคนๆ หนึ่งกำลังขี่รถม้าของทาสเอลฟ์หญิง หรือแม้กระทั่งฆ่าทาสเอลฟ์หญิงข้างถนน เนื่องจากคนๆ นั้นเพิ่งทำลายทรัพย์สินของตัวเอง อย่างไรก็ตามเขาต้องจ่ายค่าทำความสะอาด แน่นอนว่าคนๆ นั้นจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการแก้แค้นจากพวกเอลฟ์ผู้หยิ่งยโส
"ทาสเอลฟ์หญิง" ฟังดูเหมือนเป็นสถานะที่ต่ำต้อย คงจะผิดหากคิดเช่นนั้น ทาสเอลฟ์หญิงหมายความว่าพวกเขาเพิ่งเข้าสู่สังคมมนุษย์ สถานะของพวกเขาจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา บางคนจะมีสถานะทางสังคมที่สูงขึ้น ในขณะที่บางคนจะมีสถานะทางสังคมที่ต่ำกว่า ภรรยาของผู้บัญชาการภูมิภาคคนปัจจุบันของทหารรับจ้าง Tiger of Tawau เคยเป็นทาสเอลฟ์ แต่เธอได้เลิกทาสและกลายเป็นสมาชิกที่มีอิทธิพลของชนชั้นสูง เธอมีลูกเก้าคนกับสามี ลูกของเธอทุกคนโดดเด่น
“แอนเฟย์ ถ้าคนในเมืองแบล็ควอเตอร์รู้เรื่องหมายค้นที่ฟิลลิปส่งมา ความปลอดภัยของเราจะมีปัญหาไหม” บลาวีกระซิบขณะมองดูผู้คนบนถนน
“ไม่ ทหารรับจ้างไม่ใช่นักฆ่า ฟิลลิปเป็นเพียงนักดาบระดับปรมาจารย์ เขาไม่มีอิทธิพลขนาดนั้น” ซูซานน่าตอบเสียงเรียบ
"หาที่พักก่อน เราควรเช่าหรือซื้อบ้านในภายหลัง" Anfey พูดพร้อมมองไปที่ป้ายโรงแรม