ผู้แปล: xiiannie
บรรณาธิการ: adeadaxe
Lu Mingshu ยืนมึนงงอยู่ที่ประตูจนกระทั่ง Hui Niang เข้ามากอดเธอ “ มิสอย่าอารมณ์เสีย…”
อย่างไรก็ตาม Lu Mingshu ไม่ได้อารมณ์เสีย พ่อของเธอ—สำหรับเธอ—เป็นเพียงเงาในจินตนาการของเธอ เขาเป็นคนที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่มีความรักต่อเขา งานรวมญาติที่เธอหวังไว้พังทลาย แต่เมื่อเธอเห็นว่าแม่ของเธอถูกพ่อรังแก อารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในใจเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยรู้สึกมาก่อน
“ฮุ่ยเนียง” Lu Mingshu เปิดปากของเธอและพูดว่า
“หืม?”
“พวกเขามีสิทธิ์อะไรมาดูถูกปู่กับแม่แบบนั้น”
Hui Niang จ้องที่เธออย่างว่างเปล่า
Lu Mingshu เงยหน้าขึ้นมอง Hui Niang ด้วยใบหน้าที่จริงจังของเธอ “เป็นเพราะว่าเธอหน้าตาดีและแต่งตัวดีเหรอ?”
“ไม่แน่นอน…”
“แล้วเป็นเพราะเธอมีเงินมากขึ้นหรือเปล่า”
“…” ฮุ่ยเนียงถอนหายใจ “พวกเขาไม่เพียงแต่ร่ำรวยเท่านั้น แต่ยังมีอำนาจอีกด้วย คุณไม่ทราบว่าการเป็นผู้นำนิกายของนิกายหมายถึงอะไร พวกเขาเป็นผู้ฝึกวรยุทธ์! นั่นเป็นโลกที่แตกต่างสำหรับเรา! ยกตัวอย่าง Dongyue ของเรา: หน่วยงานที่ทรงพลังที่สุดที่นี่ไม่ใช่ราชาแห่ง Dongyue แต่เป็น Heavenly Sea Pavilion แม้แต่ผู้สืบทอดตำแหน่งกษัตริย์แห่งตงเยว่ยังต้องได้รับการอนุมัติจากพวกเขา”
“เหลือเชื่อมาก…” หลู่หมิงชูกระซิบ
"อย่างแท้จริง. แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่านิกายใดที่ปรมาจารย์เป็นผู้นำนิกาย แม้ว่ามันจะเทียบไม่ได้กับ Heavenly Sea Pavilion แต่ก็ยังไม่ใช่สถานที่ที่คนธรรมดาสามัญอย่างเราจะโกรธได้”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูด พวกเขาได้ยินเสียงตะโกนของหลู ชิงอี้ จากห้องนั่งเล่น “พ่อ! พ่อ!"
หัวใจของ Hui Niang เต้นเร็วขึ้นในขณะที่เธอรีบวิ่งเข้าไปในห้องนั่งเล่น
เมื่อ Hui Niang เข้าไปในห้องรับแขก เธอตกใจอย่างมาก Sir Lu ทรุดตัวลงบนโต๊ะหมดสติ คราบเลือดเปื้อนเสื้อคลุมของเขา
Lu Qingyi เสียสติไปแล้วและไม่รู้จะทำอย่างไร
Hui Niang รีบเข้ามาเพื่อทำให้เธอสงบลง “นายหญิง โปรดใจเย็นๆ หาหมอก่อน”
Lu Qingyi มีปฏิกิริยาทันทีหลังจากที่เธอได้ยินคำเตือนของ Hui Niang “หมอ … ใช่ พา Ah Sheng ไปหาหมอ!”
แพทย์มาถึงในเวลาไม่นานและไปจับชีพจรของ Sir Lu “ยกโทษให้ความรู้ทางการแพทย์ที่ตื้นเขินของฉัน ฉันหมดหนทางที่จะช่วยเขาแล้ว” คุณหมอยืนขึ้นเพื่อออกไปหลังจากนั้นสักครู่
Lu Qingyi เริ่มร้องไห้เสียงดังหลังจากได้ยินข่าว
ชิงเฟิงเป็นเมืองเล็กๆ ที่มีประชากรเพียงหนึ่งพันครัวเรือน และนี่คือแพทย์ในชิงเฟิง ถ้าเขาบอกว่าไม่มีทางรักษา ก็ไม่มีใครที่จะช่วยได้
หมอเพิ่งเดินข้ามธรณีประตู จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีแรงดึงที่เสื้อผ้า เขามองลงไปและเห็นลูกสาวตัวน้อยของครอบครัว Lu กำลังดึงเสื้อของเขา
เมื่อเห็นเด็กซึ่งอายุไล่เลี่ยกับหลานสาว หมอก็ใจอ่อนลง “เด็กน้อย ไม่ใช่ว่าข้าไม่ต้องการช่วยปู่ของเจ้า แต่ข้าไม่มีพลัง!”
Lu Mingshu เงยหน้าขึ้นและจ้องมองที่เขา “คุณหมอ อย่างน้อยคุณก็สั่งสมุนไพรให้ปู่ของฉันหรือใช้เข็มฉีดยากับคุณไม่ได้เหรอ? คุณปู่พูดเสมอว่าคุณจะฟังโชคชะตาได้ก็ต่อเมื่อคุณทำเรื่องของมนุษย์เสร็จแล้ว”
หมอได้ยินดังนั้นก็ตกใจ
“เราทราบว่าคุณปู่ป่วยหนัก เราจะไม่โทษคุณถ้าเขาไม่ฟื้น”
คุณหมอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
เมื่อ Lu Qingyi ได้ยินการสนทนาของพวกเขา เธอก็ผงกหัวอย่างโกรธจัด เธออยากจะกราบหน้าหมอด้วยซ้ำ “ถูกต้อง คุณหมอหู คุณเป็นผู้อาวุโสที่คอยเฝ้าดูพวกเราเติบโต โปรดแบ่งปันจิตใจอันดีงามของคุณกับเรา”
หมอถอนหายใจ แล้วถอยเท้าที่เลยธรณีประตูมา “ก็ได้ ฉันจะลองดู”
เขาทั้งสั่งยาและใช้เข็มทองคำของเขา Lu Qingyi ขอบคุณเขาอย่างต่อเนื่องก่อนที่จะสั่งให้ Ah Sheng คนรับใช้ของเธอไปพบแพทย์ที่บ้าน
ทั้ง Lu Qingyi และ Lu Mingshu เฝ้าดูตลอดทั้งคืนก่อนที่ Sir Lu จะตื่นขึ้นในที่สุด
หลู ชิงอี้ เริ่มร้องไห้ด้วยความดีใจ ขณะที่เธอนั่งลงเมื่อเห็นเขาตื่นขึ้น
เมื่อ Sir Lu เห็นสภาพที่เธอเป็น เขารู้สึกไม่พอใจทันทีที่ไม่สามารถทำตามความคาดหวังของเธอได้ “คุณ… คุณ…” ริมฝีปากของเขาสั่นเมื่อเขาเปิดปาก แต่เขาไม่รู้จะพูดอะไร
Lu Qingyi ตกใจ “พ่ออย่าโกรธเลย มันเป็นความผิดของฉันทั้งหมด…”
Sir Lu หลับตาลงเมื่อได้ยินสิ่งนี้ และสงบลงหลังจากนั้นครู่หนึ่ง
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ลืมตาขึ้นและโบกมือหลู่หมิงชู เขาลูบหัวของเธอเบา ๆ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้า
ฉันต้องตำหนิ ฉันมีลูกสาวคนเดียว แต่ฉันตามใจเธอตั้งแต่เธอยังเด็ก ฉันเลี้ยงดูหลู่ชิงอี้ให้อ่อนแอและไร้ความสามารถ ตอนนี้ลูกเขยของฉันทิ้งลูกสาวของฉันไปและหลานสาวของฉันยังเด็กอยู่ ลูกสาวและหลานสาวของฉันจะพึ่งพาใครได้หากฉันต้องจากพวกเขาไป
น้ำตาไหลอาบแก้มของ Sir Lu ขณะที่เขาคิด
“คุณปู่ อย่าร้องไห้” Lu Mingshu พูดพร้อมกับยกศีรษะขึ้นขณะที่เธอจับมือของเขา “ฉันได้ยินจาก Hui Niang ว่าเหตุผลที่พวกเขารังแกคุณได้ก็เพราะพวกเขาเป็นผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ ฉันต้องการฝึกศิลปะการต่อสู้ด้วย—เพื่อที่ฉันจะได้รังแกพวกเขาในลักษณะเดียวกับที่พวกเขารังแกเราในครั้งต่อไป”
Sir Lu ตกตะลึงกับคำพูดของเธอ เขาวางมือบนหัวของเธอและพยายามจะพูดว่า “อย่า… บอกคนอื่นว่า… สิ่งนี้…”
หลังจากนั้น เขาก็โทรหาหลู ชิงอี้ โดยชี้ไปที่ตู้เล็กๆ ข้างเตียงของเขา โดยคาดหวังว่าเธอจะได้รับโฉนดบ้านจากตู้นั้น จากนั้นเขาก็ทิ้งคำพูดไว้ให้เธอ “เมื่อฉันไป คุณต้อง… จ้างอาเซิง… เพื่อก่อตั้งครอบครัว เพิ่มขึ้นอย่างระมัดระวัง…”
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะพูดจบ ตาของเขาก็ปิดลงและหยุดหายใจ
"พ่อ! พ่อ!" หลู ชิงอี้ ตะโกน เมื่อไม่ได้รับคำตอบ เธอก็เริ่มร้องไห้
เมื่อ Hui Niang ได้ยิน Lu Qingyi ร้องไห้ เธอรีบไปดูว่าเขายังหายใจอยู่หรือไม่ หลังจากทำเช่นนั้น เธอก็เริ่มร้องไห้เคียงข้างหลูชิงอี้ “นายจากพวกเราไปแล้ว…”
——
พวกเขาเฝ้าโลงศพของเขาเป็นเวลาสามวันโดยสวมเสื้อผ้าไว้ทุกข์ เมื่อจัดการงานศพของ Sir Lu เสร็จสิ้น Lu Qingyi ก็ล้มป่วยลงเนื่องจากความเศร้าโศกที่มากเกินไปของเธอ
เดิมทีพวกเขาคิดว่าเป็นโรคเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะไม่ดีขึ้นในเดือนพฤษภาคม แม้ว่าเธอจะทำสัญญาในเดือนกุมภาพันธ์ก็ตาม กลับมีแต่จะแย่ลงเรื่อยๆ
เมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าเธอมีร่างกายที่อ่อนแอโดยธรรมชาติ หลู ชิงอี้โชคดีที่มีชีวิตอยู่ได้ผ่านการให้กำเนิด การล้มป่วยเป็นเวลาสองสามเดือนทำให้ร่างกายของเธอผอมมากจนเสื้อผ้าของเธอใหญ่เกินไปสำหรับเธอ
Sir Lu รู้ว่าลูกสาวของเขามีร่างกายที่อ่อนแอและเธอไม่สามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้เพียงลำพัง ดังนั้น เขาต้องการให้เธอจ้างอาเซิงมาเป็นลูกเขยของเธอ เพื่อที่จะได้รับการสนับสนุน ในฐานะคนงานระดับสูงของครอบครัว Ah Sheng ถูกขายให้กับครอบครัวเพราะครอบครัวของเขามีลูกมากเกินไป เนื่องจากเขาไม่มีเวลาเลือกลูกเขยที่ดี นายเก่าจึงเลือกอาเซิงก่อนที่เขาจะเสียชีวิต อา เซิงอาจจะเป็นคนรับใช้ แต่อย่างน้อยเขาก็รู้จักคนในครัวเรือนอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ
เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าเมื่อเขาจากไป หลู ชิงอี้ จะกลายเป็นคนครึ่งตายด้วยความเจ็บป่วย? ประกอบกับหัวใจที่ยังยึดติดกับการหย่าร้างของเธอ เธอไม่มีแม้แต่ความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป นับประสาอะไรกับการหาลูกเขย
เท่านั้น
หมอหูหมดใบสั่งยาใหม่เมื่อเดือนพ.ค. เมื่อรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ดูไม่ดีสำหรับเธอ หลูชิงอี้จึงโทรหาฮุ่ยเนียงและบอกเธอว่าแผนของเธอคืออะไร
Hui Niang ตกตะลึงเมื่อได้ยินพวกเขา “กรุณาคิดให้ดีก่อนนะครับคุณผู้หญิง!” Lu Qingyi ได้เสนอให้พวกเขามองหา Fu Ze อย่างไรก็ตาม เมื่อนางครึ่งตายแล้ว พวกเขาจะเดินทางอย่างไร? แม้ว่าเธอจะเดินทางได้ แต่ก็มีโอกาสที่เธอจะไม่สามารถรั้งไว้ได้!
น้ำตาของ Lu Qingyi ลดลงอย่างรวดเร็ว “สภาพของฉันดูไม่ค่อยดี Mingshu จะทำอย่างไรถ้าฉันจากโลกนี้ไป? เธออายุเพียงเจ็ดขวบ! ตระกูล Lu ของเราไม่เพียงแต่มีประวัติที่ไม่สามารถให้กำเนิดลูกหลายคนได้ แต่เรายังไม่มีสมาชิกในกลุ่มด้วย Ah Ze อาจจะโหดเหี้ยมสำหรับฉัน แต่เขาก็ยังเป็นพ่อของเธอ ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ได้ดำเนินมาถึงสถานะนี้แล้ว ฉันจะฝากลูกของฉันไว้กับใครได้อีกนอกจากเขา”
“เหตุผลที่คุณล้มป่วยก็เพราะว่าคุณอารมณ์เสียมากเกินไป หากเรารักษาอาการป่วยของคุณอย่างระมัดระวัง คุณก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวได้ นอกจากนี้ เมื่อมีแม่เลี้ยงก็ย่อมมีพ่อเลี้ยงด้วย Fu Ze เนรคุณอย่างไร เขาจะแต่งงานใหม่อย่างแน่นอน การมอบความไว้วางใจให้กับเขาไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป!”
“อย่าปลอบใจฉันเลย ฉันรู้ว่าสถานการณ์ความเจ็บป่วยทำให้ฉันต้องเผชิญ” Lu Qingyi ส่ายหัวและไม่สนใจคำแนะนำของ Hui Niang “โทรหาอาเซิงที่นี่”
Lu Qingyi อ่อนแอมาทั้งชีวิต แต่ตอนนี้เธอตกอยู่ในสถานะครึ่งตาย เธอกลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างคาดไม่ถึง เธอให้ Ah Sheng หาคนกลาง จากนั้นขายบ้านและที่นาของพวกเขาด้วยเงิน ทิ้งเงินส่วนใหญ่ไว้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เธอมอบสิ่งที่เหลืออยู่ให้ Hui Niang และคนอื่นๆ เพื่อเป็นค่าชดเชย
Hui Niang แนะนำให้เธอต่อต้าน แต่เธอไม่สามารถเปลี่ยนแผนได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงฟังเธอและจ้างรถม้า อย่างไรก็ตาม เธอไม่เต็มใจที่จะจากไป เมื่อเธอส่ง Xiao Huan กลับบ้าน เธอก็พา Lu Qingyi และ Lu Mingshu ไป Chuan[1] กับ Ah Sheng
จากนั้น Lu Mingshu ก็รู้ว่าพ่อผู้ให้กำเนิดของเธออยู่ที่วัง Nine Jade ใน Xichuan