แปลโดยอีฟ
เรียบเรียงโดย คาร่า
ข่าวที่ว่าตระกูลเซียวพบเซียว หยวนมู่ได้ทำให้วงการบนของเมืองหลวงต้องตกตะลึง ทุกคนเสียสติตั้งแต่ตอนที่สัมภาษณ์ส่วนตัวครั้งแรกของเขาได้รับการเผยแพร่ พายุหมุนวนรอบตัวตระกูลซ่ง ทำให้พวกเขาเป็นศูนย์กลางของทั้งหมด
"นาย. เซียว คุณประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยได้อย่างไร นอกจากพรสวรรค์และการทำงานหนักแล้ว คุณได้รับการสนับสนุนทางอารมณ์ด้วยหรือไม่” Zhou Nan ยกโทรศัพท์ขึ้น เขาลดเสียงลงและอ่านคำตอบ: “ใช่”
“คำถามของผู้สัมภาษณ์นั้นยาวมาก และเขาตอบเพียงคำเดียว แม้แต่ในภาษาอังกฤษก็เป็นเพียงคำเดียว” Zhou Nan หัวเราะในขณะที่เขามองไปที่คนอื่นๆ เขาพูดกับเซียวเซิงหลินว่า “ดูเหมือนเซียวหยวนมู่จะยังพูดไม่มากนักแม้แต่ในอเมริกา”
Xiao Shenglin ยิ้มก่อนที่จะมองไปที่ Song Xuanhe อย่างเป็นกังวล
ซ่งซวนเหอเอนหลังพิงโซฟา อ่านนิตยสารแฟชั่น ราวกับว่าเขาไม่สนใจสิ่งที่พวกเขาคุยกันเลย
“ถ้าอย่างนั้น คุณจะบอกเราหน่อยได้ไหมว่าการสนับสนุนทางอารมณ์นี้มาจากไหน? จากที่ฉันรู้—ขอโทษนะถ้าฉันพูดอะไรที่ไม่เหมาะสม แต่เราได้ยินมาว่าคุณถูกเลี้ยงดูมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในประเทศจีนก่อนที่ตระกูลเซียวจะพบคุณ การสนับสนุนนั้นมาจากผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของคุณหรือเปล่า”
“Xiao Yuanmu: ผู้อำนวยการเป็นเหมือนครอบครัวของฉัน” Zhou Nan ล้อเล่น “ดูนั่นสิ เขาก้าวหน้าด้วยความยาวของประโยค โอ้ แต่คุณเพียงแค่รอ มันปรับปรุงอย่างมากในภายหลังในการสัมภาษณ์นี้ ฉันจะอ่านออกเสียงให้คุณฟัง”
"นาย. เซียว คุณกำลังหมายความว่ามีใครบางคนที่ไม่สนับสนุนครอบครัวของคุณหรือไม่”
“เซียว หยวนมู่ตอบว่า 'ใช่' มาถึงส่วนสำคัญแล้ว” Zhou Nan นั่งตัวตรง เขากระแอมเสียงในขณะที่อ่านรายงานการสัมภาษณ์สองภาษา “นักข่าวถามว่า: คุณช่วยเล่าเรื่องพวกเขาให้เราฟังหน่อยได้ไหม? แม้ว่าจะเป็นเพียงสถานะปัจจุบันของความสัมพันธ์ของคุณกับพวกเขาก็ตาม”
“Xiao Yuanmu ตอบว่า: ฉันมีแฟนแล้ว เราอยู่ด้วยกันมาเกือบสองปีแล้ว แม้ว่าตอนนี้เราจะอยู่ในความสัมพันธ์ระยะไกล แต่เราทำได้ดีมาก เราเชื่อใจและรักกัน เขาสนับสนุนงานของฉันมาก ฮือออ 5555555555555555555555555555555555555 นิตยสารจัดทำขึ้นหรือไม่”
Zhou Nan นอนแผ่อยู่บนพื้น หัวเราะในขณะที่เขาถือโทรศัพท์ไว้ในมือข้างหนึ่ง ขณะที่เขาหัวเราะ เขายังคงพยายามพูดในระหว่างที่หายใจไม่ออก “ส่วนความเชื่อใจและความรักระหว่างกันนี่มันอะไรกัน? ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ฉันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะในขณะที่อ่านสิ่งนี้ ฮ่าฮ่า….”
ซ่งซวนเหอเหลือบมองเขาอย่างแห้งๆ เขากลอกตาแล้วมองออกไป
Zhou Nan คลานขึ้นไปบนโซฟาที่ Song Xuanhe นั่งอยู่ เขาถามด้วยรอยยิ้ม “ซ่งเอ๋อ คุณไม่ได้บอกว่าคุณสองคนเลิกกันแล้วเหรอ”
“ฉี่ออก” ซ่งซวนเหอเบือนหน้าหนี
“ดูเหมือนคุณสองคนไม่ได้เลิกกัน” โจวหนานนั่งข้างเขา บังคับให้เขาเปลี่ยนไป “และที่นี่ฉันเฝ้าดูคำพูดของฉันเพื่อหลีกเลี่ยงการทำร้ายหัวใจที่แตกสลายของคุณ ปรากฎว่าคุณหลอกลวงเรามาตลอด”
“ขึ้นอยู่กับคุณว่าคุณจะเชื่อฉันหรือไม่” ซ่งซวนเหอเตะเขา จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่งและจัดเสื้อของเขาที่ร่นขึ้นเล็กน้อย มีเสียงกระวนกระวายในเสียงของเขาราวกับว่าเขาหลับใหล และใครบางคนเพิ่งปลุกเขา “ถ้าอ่านจบแล้วไปซะ พ่ออยากนอน”
“พ่อที่รัก บอกผมที เกิดอะไรขึ้นระหว่างคุณกับเซียว หยวนมู่” Zhou Nan กอดขาของ Song Xuanhe กระพริบตาดอกท้อ เขาทำเสียงให้สูงขึ้น “พ่อครับ บอกผมที~”
ซ่งซวนเหอไม่รั้งรอในขณะที่เขาเตะโจวหนานลงจากโซฟาในครั้งนี้ เขาพูดโดยไม่แสดงสีหน้าว่า “Scram พ่อไม่มีลูกชายน้องสาวอย่างคุณ”
“แต่จริงๆแล้ว ซ่งเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นกับคุณกับเซียว หยวนมู่?” Zhou Nan ไปนั่งกับ Xiao Shenglin สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง “Xiao Yuanmu สร้างข่าวมากขึ้นในตอนนี้ว่าเขาเป็นสมาชิกตระกูล Xiao เมื่อเทียบกับตอนที่เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ก่อตั้ง RE เท่านั้น ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาต้องการให้ทุกคนรู้ว่าคุณเป็นแฟนของเขา คุณจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้”
Xiao Shenglin ก็พูดขึ้นว่า“ Xuanhe คุณเลิกกับ Mr. Xiao จริงๆเหรอ”
"ใช่." ซ่งซวนเหอเสยผมของเขาอย่างตื่นเต้น จากนั้นเขากล่าวเสริมว่า “อืม ฉันคิดว่าเราเลิกกันแล้ว เขาไม่เห็นด้วย”
"ห่า?" โจวหนานเลิกคิ้ว “คุณสองคนควรจะตกลงกันได้แล้วไม่ใช่เหรอ?”
“มันไม่เหมือนกับว่าเราแต่งงานกัน ไม่ใช่การเลิกกันเมื่อคน ๆ หนึ่งตัดสินใจว่าต้องการจะเลิกกันเหรอ?” ซ่งซวนเหอกลอกตา “อะไรนะ เราควรเซ็นสัญญากันดีไหม”
“พูดตามตรง ใช่” โจวหนานพูด “แม้ว่าตอนนี้คุณจะพูดว่าคุณสองคนเลิกกันแล้ว ใครจะเชื่อคุณ ลืมเกี่ยวกับคนอื่นคุณคิดว่า Old Mr. Song และ Song Guochao จะเชื่อหรือไม่”
Xiao Shenglin พยักหน้า “โจวน่านพูดถูก บทสัมภาษณ์ของนิตยสารเล่มนั้นผูกมัดคุณกับเซียว หยวนมู่ไว้ด้วยกัน ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรตอนนี้ไม่มีใครเชื่อคุณ”
“แต่อีกครั้ง ไม่สำคัญว่าคนอื่นจะเชื่อคุณหรือไม่” โจวหนานหัวเราะ “อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไม่มีใครกล้าทำให้คุณขุ่นเคือง”
“Tsk นี่มันชะตากรรมแบบไหนกันนะ?” Zhou Nan มองไปที่ Xiao Shenglin “Lin zi เกี่ยวข้องกับ Xiao Yuanmu ฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะไม่มีใครรู้ว่าคุณสองคนเป็นญาติที่พลัดพรากกันมานานจริงๆ ทั้งๆ ที่เจอกันบ่อยขนาดนี้”
Xiao Shenglin มีรอยยิ้มจาง ๆ ดูเหมือนมีบางอย่างแวบผ่านตาของเขา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
Zhou Nan ยังรู้ว่าอีกฝ่ายยังคงกังวลเกี่ยวกับ Xiao Ranyun และพ่อของเธอซึ่งถูกเรียกตัวกลับไปที่ที่พักหลักของตระกูล Xiao เขาพูดปลอบใจอีกฝ่ายว่า “เซียวรันหยุนฉลาดมาก นอกจากนี้ ตอนนี้เซียวหยวนมู่ก็อยู่ที่นั่นด้วย จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ ไม่ต้องกังวล."
Xiao Shenglin ส่ายหัวและพูดอย่างเงียบ ๆ ว่า “ตระกูล Xiao ซับซ้อนกว่าที่คุณคิด”
“ไม่มีตระกูลใหญ่และมีอิทธิพลใดที่เรียบง่าย” โจวหนานกล่าว “แม้ว่าตระกูลเซียวจะซับซ้อน แต่ก็ไม่เหมือนกับว่าเป็นเขตสงคราม นอกจากนี้ ไม่ใช่ว่าเซียวหยวนหมู่ไม่รู้จักเซียวรันหยุน แม้ว่าเขาจะไม่เห็นเธอเป็นน้องสาว แต่เขาจะปกป้องเธอเพราะซ่งเอ๋อ”
“ฉันไม่รู้ว่าเซียวหยวนมู่จะสามารถมีฐานที่มั่นคงภายในตระกูลเซียวได้หรือไม่” มีคำใบ้ของการคัดค้านและคร่ำครวญในน้ำเสียงของ Xiao Shenglin “ตระกูลเซียวเป็นทั้งตระกูลดั้งเดิมและสร้างสรรค์ที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมาในชีวิต พวกเขาไม่เพียงแค่ปฏิบัติตามธรรมเนียมจีนเท่านั้น ตระกูลเซียวอพยพมาเมื่อหลายปีก่อน ไม่เพียงแต่พวกเขายังมีระบบผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาที่เหนือกว่าแบบตะวันออกโบราณ แต่พวกเขายังมีความคิดอิสระแบบตะวันตกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม สำหรับคนรับใช้ที่รับใช้ตระกูลเซียวมาหลายชั่วอายุคน อิสรภาพเป็นเพียงสิ่งที่เจ้านายของพวกเขาสามารถครอบครองได้ นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างในการจัดอันดับระหว่างสาขาหลักและตระกูลสาขา มีปัญหาซับซ้อนมากมายเกี่ยวกับค่านิยมและความคิดของพวกเขา ทั้งหมดที่ฉันพูดได้ก็คือ Xiao Yuanmu เข้าสู่ตระกูล Xiao เทียบเท่ากับการเข้าสู่เขตสงครามไม่มากก็น้อย”
Song Xuanhe นึกถึง Xiao Baicong ซึ่ง Xiao Ranyun เคยพูดถึงในอดีต เขาขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจและถามว่า “เกี่ยวข้องกับเซียวไป๋จงหรือไม่”
Xiao Shenglin ตกใจกับความคมชัดของ Song Xuanhe เขาพยักหน้า. “อย่างที่ฉันเพิ่งพูดไป ตระกูลเซียวปฏิบัติตามกฎเดิม ดังนั้น เด็กทุกคนที่เกิดมาในตระกูลเซียวจะมีคนรับใช้—ฉันเดาว่ามันเหมาะสมกว่าที่จะเรียกพวกเขาว่าผู้ใต้บังคับบัญชาตอนนี้—มอบหมายให้พวกเขาตั้งแต่แรกเกิด จำนวนและคุณภาพของผู้ใต้บังคับบัญชานั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับบุคคลที่พวกเขาต้องการ จากนี้คุณจะเห็นว่าไม่มีความแตกต่างมากนักระหว่างตระกูลเซียวและตระกูลผู้มีอิทธิพลโบราณจากอดีตในบางประการ”
โจวน่านไอ “ฉันจำได้ว่า Xiao Ranyun มักจะมีผู้ช่วยส่วนตัว ครูสอนพิเศษ และบอดี้การ์ดสองคนกับเธอ….Xiao Ranyun เป็นสมาชิกของตระกูลสาขา นั่นหมายความว่าเสี่ยวไป่จงต้องมีคนอีกมากมายอยู่รอบตัวเขา”
“อย่างน้อยสามสิบ” เซียวเซิงหลินพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “อาจจะมากกว่าห้าสิบ”
Zhou Nan เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ แม้แต่ซ่งซวนเหอก็พบว่าสิ่งนี้ยากที่จะเชื่อ
Xiao Shenglin รู้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไรเพียงแค่มองไปที่การแสดงออกของพวกเขา เขากล่าวว่า “เสี่ยวไป่จงเป็นลูกคนเดียวของสาขาหลักจนถึงตอนนี้ ตามกฎแล้ว หลังจากที่เขาเกิด คนสิบสองคนจะได้รับเลือกให้เริ่มฝึกฝนเพื่อเป็นผู้ช่วยที่เขาไว้ใจได้ เพื่อที่พวกเขาจะได้ช่วยเหลือเขาในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ในอนาคต ขึ้นอยู่กับทิศทางที่เขาตัดสินใจในภายหลัง เมื่อเขาโตขึ้น จำนวนผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาก็จะเพิ่มขึ้นเช่นกัน ควรมีร่างใหม่เมื่อเขาอายุหกสิบหก ฉันจำได้ว่าเมื่อเขาอายุสิบหก พวกเขาเลือกผู้ช่วยส่วนตัวสองคนและเพื่อนร่วมชั้นสองคนให้เขาเข้าเรียน ผู้ใต้บังคับบัญชาที่ถูกเกณฑ์ไปสนับสนุนเขาและช่วยขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็มีจำนวนยี่สิบแปดคนแล้วในเวลานั้นเช่นกัน สิบห้าคนได้เข้าสู่บริษัทภายใต้กลุ่มเสี่ยวแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มต้นที่จุดต่ำสุด แต่หลังจากประสบการณ์หลายปี ตอนนี้ความสามารถของพวกเขาก็ไม่มีอะไรให้มองข้าม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือผู้คนที่อยู่เคียงข้างเสี่ยวไป่จงนั้นภักดีต่อเขาอย่างแน่วแน่ นอกจากนี้ พวกเขาแบ่งปันความสนใจร่วมกัน รูปลักษณ์ของเซียว หยวนมู่เป็นภัยคุกคามต่อคนเหล่านี้”
“ดังนั้น เซียวหยวนมู่ไม่เพียงเผชิญหน้ากับเซียวไป่จง แต่ยังรวมถึงผู้ใต้บังคับบัญชากว่าสามสิบคนของเขาด้วย นอกจากนี้ยังมีสมาชิกตระกูลสาขาที่สนับสนุน Xiao Baicong ในฐานะผู้สืบทอดตระกูล Xiao คุณคิดอย่างไร? นี่มันไม่เหมือนกับการเดินเข้าไปในเขตสงครามเหรอ?”
Zhou Nan เงียบไปนานก่อนที่จะพูดว่า “F*ck”
“นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคสมัยใหม่จริงหรือ?” Zhou Nan ครุ่นคิดถึงคำพูดของ Xiao Shenglin มันยังรู้สึกไม่จริง “อเมริกาซึ่งให้คุณค่ากับมนุษยธรรม เสรีภาพ และความเท่าเทียม จะยอมทนต่อการจัดอันดับทางสังคมที่บังคับโดยตระกูลเซียวเช่นนี้หรือไม่”
“มีความแตกต่างในระดับสังคมทุกแห่งในโลก” เซียวเซิงหลินกล่าว “นอกจากนี้ กลุ่มการเงินหลักทั้งแปดยังดึงดูดใจคุณด้วยซ้ำ คุณคิดว่าคนเหล่านั้นที่พึ่งพาตระกูลเซียวมาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อไปยังที่ที่พวกเขาอยู่ตอนนี้จะยอมปล่อยต้นไม้ใหญ่อย่างตระกูลเซียวไปหรือไม่? พวกเขาไม่ใช่แค่ผู้ใต้บังคับบัญชาของ Xiao Baicong เท่านั้น แต่ยังมีความสนใจร่วมกันอีกด้วย หากเสี่ยวไป่จงเข้าครอบครองตระกูลเซียว ผู้ใต้บังคับบัญชาของเขาจะถูกแยกออกไปเพื่อรับตำแหน่งระดับผู้บริหารของบริษัทต่างๆ ของกลุ่มเสี่ยว ไม่มีใครคิดว่าพวกเขาเป็นคนรับใช้ของตระกูลเซียว พวกเขารู้เพียงว่าพวกเขาเป็นผู้นำของอุตสาหกรรมทุกประเภท นอกจากคนจากแปดตระกูลหลักแล้ว 'คนรับใช้' เหล่านั้นจะอยู่เหนือทุกคน รวมถึงพวกเราด้วย”
หลังจากย่อยคำพูดของ Xiao Shenglin แล้ว Song Xuanhe ก็นึกถึงความยากลำบากและความเกลียดชังมากมายที่ Xiao Yuanmu เคยประสบในตระกูล Xiao ในหนังสือเล่มนี้ คำอธิบายที่เป็นลายลักษณ์อักษรของผู้เขียนเกี่ยวกับตระกูล Xiao นั้นครอบคลุมน้อยกว่าคำพูดของ Xiao Shenglin ในตอนนี้ หรือมากกว่านั้น ผู้เขียนเพียงแค่ปัดเศษรายละเอียดที่ซับซ้อนของความสัมพันธ์ของตระกูลเซียว ผู้เขียนกลับมุ่งเน้นไปที่การเขียนเกี่ยวกับการต่อสู้ของเซียว หยวนมู่ในโลกธุรกิจ
ย้อนกลับไปตอนที่เขาอ่านหนังสือ เขาคิดว่าคนในบริษัทของกลุ่มเสี่ยวที่ต่อสู้กับเซียว หยวนมู่กำลังทำอะไรไปไกลเกินไป ท้ายที่สุดแล้ว หัวหน้าตระกูลเซียวดูเหมือนจะไม่ส่งผลกระทบต่อตำแหน่งของพวกเขา นอกจากนี้ยังเห็นได้ชัดว่า Xiao Yuanmu มีความสามารถมากกว่า Xiao Baicong เขารู้สึกว่าพวกเขาสนับสนุนเสี่ยวไป่จงอย่างมืดบอด ซึ่งดูไม่ทะเยอทะยานเป็นพิเศษ ผิดปกติเกินไป
แต่ตอนนี้เขาตระหนักว่าคนเหล่านั้นอาจเป็นคนของเสี่ยวไป่จง หากเป็นเช่นนั้น เซียวไป่จงซึ่งเป็นสมาชิกตระกูลเซียวคนแรกที่เซียว หยวนมู่เต็มใจจะเปิดใจให้เขา แท้จริงแล้วช่างไร้เดียงสาและไร้ความทะเยอทะยานอย่างที่ดูเหมือนจริงหรือ?
อีฟ: RIP SXH จะไม่มีใครเชื่อคุณในตอนนี้ มูมู่เป็นจอมวางแผน แม้ว่าฉันแน่ใจว่าแรงจูงใจที่เห็นแก่ตัวบางอย่างอาจเป็นตัวผลักดันการตัดสินใจของเขา แต่ฉันก็คิดว่ามันเป็นประโยชน์ต่อ SXH เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะมูมู่กังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์การบังคับใช้ยา